สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
คุณก็ไม่มีอะไรจะเสีย การไปแสวงหาโอกาส เปิดโลก และทำความฝันในขณะที่ยังมีแรงมันเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดแล้ว อย่างน้อยก็เป็นความสำเร็จที่คุณจะภูมิใจกับมันและมีความสุขที่ได้ทำมัน
เงิน ฐานะ อะไรใดๆนานา มันก็แค่เปลือกที่คนตีกรอบไว้ เลือกทางเดินในแบบของตัวเองแล้วลองเผชิญกับมันดูค่ะ พ่อแม่ยังไม่แก่คุณก็ยังมีเวลาไปไกลๆได้สบายใจค่ะ ลุยยยย
เงิน ฐานะ อะไรใดๆนานา มันก็แค่เปลือกที่คนตีกรอบไว้ เลือกทางเดินในแบบของตัวเองแล้วลองเผชิญกับมันดูค่ะ พ่อแม่ยังไม่แก่คุณก็ยังมีเวลาไปไกลๆได้สบายใจค่ะ ลุยยยย
ความคิดเห็นที่ 10
เราได้ทุนเรียนที่จีนตอน 28 ย่าง 29 ค่ะ ยอมรับว่าตอนที่ตัดสินใจจะไปเรียนต่อนั้นโลเลพอสมควรค่ะ เพราะงานที่ทำก็มั่นคง เพื่อนร่วมงานดี แต่พอไปทำงาน เราเริ่มรู้สึกเบื่อ เริ่มถามตัวเองซ้ำๆว่า ทำไมไม่ลองไปหาอะไรใหม่ๆ ตอนนั้นตัดสินใจเรียนต่อโทที่จีน เพราะได้ทุนเรียนฟรี แถมมีเงินเดือนให้ใช้
ตอนที่เรียนอยู่ที่จีนคือสนุกมาก ได้เรียน ได้ใช้ชีวิตกับเพื่อนๆต่างชาติ เพื่อนคนจีน ได้ไปเที่ยวเมืองต่างๆ คือมีความสุขมาก บอกกับตัวเองว่าเราโคตรโชคดีที่ตัดสินใจถูกแล้ว
โชคดีที่เรียนจบก่อนโควิดระบาด กลับไทย ได้งานทันที งานดี เงินดีกว่าที่เดิมเยอะเลยค่ะ
ถ้ามีโอกาส อยากให้ลองค่ะ
ตอนที่เรียนอยู่ที่จีนคือสนุกมาก ได้เรียน ได้ใช้ชีวิตกับเพื่อนๆต่างชาติ เพื่อนคนจีน ได้ไปเที่ยวเมืองต่างๆ คือมีความสุขมาก บอกกับตัวเองว่าเราโคตรโชคดีที่ตัดสินใจถูกแล้ว
โชคดีที่เรียนจบก่อนโควิดระบาด กลับไทย ได้งานทันที งานดี เงินดีกว่าที่เดิมเยอะเลยค่ะ
ถ้ามีโอกาส อยากให้ลองค่ะ
ความคิดเห็นที่ 3
ไปค่ะ เราเป็นคนชอบเรียน ถ้าได้ตอนนี้ก็ไปนะ (34)
คนที่มาพูด "แก่ขนาดนี้แล้วยังจะเรียน จะเรียนตายรึไง"
คือ ชีวิตเรา เราไม่ได้ชวนไปเรียนด้วยและไม่ได้รบกวนเงิน
เขาไม่ควรเดือดร้อนกับเรา
เราก็เรียนต่อปโท. ใบที่สองตอน30ค่ะ พ่อแม่เราไม่คงค่อยเห็นด้วยนะ เพราะเราลาออกจากงานมาเรียน แต่พูดอะไรไม่ได้มากเพราะเงินค่าเรียน ค่ากินใช้ เป็นของเราเอง เราเรียนเพราะต้องการเรียน และเปลี่ยนสายงานด้วย
อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะค่ะ แต่ต้องรู้ศักยภาพตัวเองว่าเรียนไหวนะ และควรมีเงินเก็บเผื่อฉุกเฉินด้วย แต่ถ้าเรียนเพราะไม่รู้จะทำอะไร ให้ทบทวนดูอีกรอบ
คนที่มาพูด "แก่ขนาดนี้แล้วยังจะเรียน จะเรียนตายรึไง"
คือ ชีวิตเรา เราไม่ได้ชวนไปเรียนด้วยและไม่ได้รบกวนเงิน
เขาไม่ควรเดือดร้อนกับเรา
เราก็เรียนต่อปโท. ใบที่สองตอน30ค่ะ พ่อแม่เราไม่คงค่อยเห็นด้วยนะ เพราะเราลาออกจากงานมาเรียน แต่พูดอะไรไม่ได้มากเพราะเงินค่าเรียน ค่ากินใช้ เป็นของเราเอง เราเรียนเพราะต้องการเรียน และเปลี่ยนสายงานด้วย
อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะค่ะ แต่ต้องรู้ศักยภาพตัวเองว่าเรียนไหวนะ และควรมีเงินเก็บเผื่อฉุกเฉินด้วย แต่ถ้าเรียนเพราะไม่รู้จะทำอะไร ให้ทบทวนดูอีกรอบ
แสดงความคิดเห็น
ถ้าได้ทุนเรียนต่อในวัย30 ทุกคนยังอยากจะไปไหมครับ
“บ้านผมเป็นครอบครัวชาวจีน ลูกชายคนเดียว มีแต่พี่สาว ผมถูกฝังหัวมาตลอดว่า ควรหาเงินให้ได้เยอะ ๆ การเรียนไม่สำคัญเท่าไหร่ มีพอเป็นวิชาติดตัวเป็นพอ แต่ผมเองก็ดันทุรังจบ ป.ตรีมาได้ในขณะที่เพื่อนร่วมโรงเรียนบางคนเขาจบกันแค่ ม.6ก็ออกไปหาเงินกันแล้ว และก็มีหลายคนที่ประสบความสำเร็จ ผมเองค่อนข้างใช้ชีวิตแบบรอบคอบที่สุด อยากสร้างโอกาส ความมั่นคงในแบบที่เราคิด แต่ก็ยังไม่เคยหาเงินได้มากมายอะไรให้คนที่บ้านได้ จนบางทีก็เหมือนจะเป็นคนที่ล้มเหลวคนนึง คิดมาตลอดว่าเหมือนทำให้ที่บ้านผิดหวัง”
และตั้งแต่ จบตรีผมก็เคยคิดบ้างว่าอยากต่อ โท แต่คิดว่าที่บ้านยังไงก็ค้านแน่ๆ เพราะคนวัย 29-30 ในมุมมองของชาวจีนคือต้องมีอะไรที่มั่นคงพอแล้ว / ผมก็เลยตัดความคิดเรื่องเรียนต่อออกไป
จนเมื่อไม่นานมานี้ มีคนเสนอทุนให้ไปต่อที่จีน เป็นพี่ที่รู้จัก ทุนแบบเรียนฟรีเลย ถ้าสถานการณ์เรื่องโรคดีขึ้น อยากให้เข้าไปคุย (เปอร์เซ็นต์สูงอยู่) พี่เขาถามผมอยากไปไหม ผมก็อยากไปสิ อยากไปมาก ต่อโทที่จีน เรื่องหางานไม่กลัวอยู่แล้ว แต่พอมานั่งคิดในมุมตัวเอง ว่าที่บ้านจะว่ายังไง “แก่ขนาดนี้แล้วจะเรียนทำไม” “จบตรีมาก็ยังหาเงินไม่ได้ จะหมดเงินกับป.โทยังไง” “จะเรียนจนตายหรือยังไง เมื่อไหร่จะสร้างตัว” คำพวกนี้มาแน่ๆ ผมมั่นใจ
… ถ้าถามผม ผมอยากไปมาก ผมอยากมีวุฒิที่การันตีความมั่นคงในวันหน้า อยากได้งานในระดับที่สูงขึ้น อยากได้งาน อยากเป็นอาจารย์มหาลัย อยากเจอคนเยอะขึ้น มากขึ้น โอกาสที่ลากหลายขึ้น ผมอยากรู้ว่า ผมคิดช้าไปหรือเปล่า โอกาสมันมาในวันที่สายไปหรือเปล่า ถ้าผมเลือกจะไป มันจะสายไปหรือเปล่า
อยากขอความเห็นจากหลายๆคนครับ
…
ขอบคุณที่ทนอ่านครับ ขอบคุณครับ