สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าสำหรับตัวเราเอง เราขอยกให้บัตร ttb reserve และบัตร SCB Private จับมือเป็น Top 2 ของทั้งหมดที่เรายกมานี้ค่ะ
เพราะบัตร 2 ใบนี้มีจุดเด่นที่แตกต่างกันเหมาะกับ Lifestyle ที่แตกต่างกัน
อย่าง ttb reserve เราว่าค่อนข้างมีจุดเด่นในเรื่องได้รับคะแนนฟรีๆ และการใช้จ่ายผ่านบัตร เพราะมีคะแนนให้ฟรีทุกปีสูงสุด 180,000 คะแนน
แลกเป็นเงินคืนก็คุ้มแล้ว ไม่ต้องไปรอรับคะแนนจากการใช้จ่าย กว่าจะได้ช้าเกินแกง รวมไปถึงเรทการได้คะแนนจากการใช้จ่ายผ่านบัตร
ยิ่งถ้านอนอยู่บ้านช้อปฯ ผ่านออนไลน์ทุก ๆ 5 บาท จะได้ 1 คะแนน ดูฉลาดเลือกดีค่ะ และที่ชอบมากคือมีการคุ้มครองการซื้อของผ่านเว็บไซต์ด้วย มันเหมาะมาก ๆ สำหรับดิฉันซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กผู้เอาแต่ใจของคุณพ่อเจ้าของบ่อน้ำมัน (มโนอีกหนึ่ง)
ทำอะไรคุณพ่อก็ตามใจ ไม่บ่นไม่ว่า ช้อปปิ้งอยู่บ้านค่ะช่วงนี้โควิดมันน่ากลัว เอ๊ะ หรือให้ Hi-end Brand ทั้งหลายยก Shop
มาแนะนำ Collection ใหม่ที่บ้านดีนะ อยากเห็นของจริง ๆ
ยังไม่หมดแค่นั้นค่ะ พส. และถ้าคุณเป็นลูกคนโตของเจ้าพ่อบ่อน้ำมัน ผู้ซึ่งต้องคอยตามคุณพ่อไปคุยงานกับคู่ค้าทางธุรกิจที่ต่างประเทศบ่อยๆ
ก็ไม่ต้องน้อยใจค่ะเพราะเราคิดว่าบัตร SCB Private เหมาะกับ Lifestyle แบบนั้นมาก ๆ ที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ
จะได้รับสิทธิพิเศษจากส่วนนั้นเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการใช้ห้องรับรองที่สนามบินที่ได้ทั้ง Priority Pass พร้อมผู้ติดตาม 1 ท่าน
และ Thai Royal Silk / Royal Orchid รวมไปถึงของทาง King Power Lounge พร้อมผู้ติดตาม 2 ท่าน นอกจากนั้น ยังได้รับประกันภัยอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง 35 ล้านบาท อีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่เดินทางบ่อย ๆ จริง ๆ
นี่ก็คือข้อมูลเบื้องต้นของบัตรแต่ละใบที่เราเห็นว่ากระแสค่อนข้างแรงในช่วงนี้ เลยอยากจะทำข้อมูลเปรียบเทียบให้ดูว่า เผื่อไว้ถ้าวันนึง เกิดมีลูกอภิมหาเศรษฐีบ่อน้ำมันมาขอแต่งงาน จะได้เกียมตัวรับมือได้ถูก
หรือจริงๆ แล้ว ความจริงที่ช้านไม่เคยบอกใคร
https://www.facebook.com/watch/?v=308675633829794
พ่อคะ บอกหนูมาเถอะว่า เจ้าคุณปู่ อยากเห็นหน้าหลานสาวคนนี้ใจจะขาดแล้ว
เพราะหนูคือ หลานของคนที่รวยระดับ millionaire หนูจะได้ตั้งตัวทัน
เอาละ ขอสรุป ในสรุป ที่ต้องสรุป
คือกระทู้นี้ แม้จะดูเพ้อฝัน จนเหมาะอยู่ในห้อง ถนนนักเขียนก็ตาม แต่เราว่ายังพอมีสาระอยู่บ้างนะ
ถ้าใครกำลังหาข้อมูลเปรียบเทียบบัตรเครดิตให้กับเจ้านายสักใบ ต้องเลือกแบบไหน ใช้แบบไหนถึงจะคุ้ม
ถึงจะดูว่าเราหาข้อมูลเพื่อเจ้านายอันเป็นที่รักของเรา (รับบทเลขาคิมอีกหนึ่ง) หรือถ้าเพื่อน ๆ คนไหนสนใจบัตรตัวไหน
ก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมเอานะคะ เพราะเราอาจจะตกหล่นข้อมูลไปบ้าง ถ้ามีอะไรผิดพลาด เราเองก็ขออภัยด้วยค่ะ
ส่วนตัวขออนุญาตกลับเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริงก่อนนะคะ
เพราะบัตร 2 ใบนี้มีจุดเด่นที่แตกต่างกันเหมาะกับ Lifestyle ที่แตกต่างกัน
อย่าง ttb reserve เราว่าค่อนข้างมีจุดเด่นในเรื่องได้รับคะแนนฟรีๆ และการใช้จ่ายผ่านบัตร เพราะมีคะแนนให้ฟรีทุกปีสูงสุด 180,000 คะแนน
แลกเป็นเงินคืนก็คุ้มแล้ว ไม่ต้องไปรอรับคะแนนจากการใช้จ่าย กว่าจะได้ช้าเกินแกง รวมไปถึงเรทการได้คะแนนจากการใช้จ่ายผ่านบัตร
ยิ่งถ้านอนอยู่บ้านช้อปฯ ผ่านออนไลน์ทุก ๆ 5 บาท จะได้ 1 คะแนน ดูฉลาดเลือกดีค่ะ และที่ชอบมากคือมีการคุ้มครองการซื้อของผ่านเว็บไซต์ด้วย มันเหมาะมาก ๆ สำหรับดิฉันซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กผู้เอาแต่ใจของคุณพ่อเจ้าของบ่อน้ำมัน (มโนอีกหนึ่ง)
ทำอะไรคุณพ่อก็ตามใจ ไม่บ่นไม่ว่า ช้อปปิ้งอยู่บ้านค่ะช่วงนี้โควิดมันน่ากลัว เอ๊ะ หรือให้ Hi-end Brand ทั้งหลายยก Shop
มาแนะนำ Collection ใหม่ที่บ้านดีนะ อยากเห็นของจริง ๆ
ยังไม่หมดแค่นั้นค่ะ พส. และถ้าคุณเป็นลูกคนโตของเจ้าพ่อบ่อน้ำมัน ผู้ซึ่งต้องคอยตามคุณพ่อไปคุยงานกับคู่ค้าทางธุรกิจที่ต่างประเทศบ่อยๆ
ก็ไม่ต้องน้อยใจค่ะเพราะเราคิดว่าบัตร SCB Private เหมาะกับ Lifestyle แบบนั้นมาก ๆ ที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ
จะได้รับสิทธิพิเศษจากส่วนนั้นเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการใช้ห้องรับรองที่สนามบินที่ได้ทั้ง Priority Pass พร้อมผู้ติดตาม 1 ท่าน
และ Thai Royal Silk / Royal Orchid รวมไปถึงของทาง King Power Lounge พร้อมผู้ติดตาม 2 ท่าน นอกจากนั้น ยังได้รับประกันภัยอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง 35 ล้านบาท อีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่เดินทางบ่อย ๆ จริง ๆ
นี่ก็คือข้อมูลเบื้องต้นของบัตรแต่ละใบที่เราเห็นว่ากระแสค่อนข้างแรงในช่วงนี้ เลยอยากจะทำข้อมูลเปรียบเทียบให้ดูว่า เผื่อไว้ถ้าวันนึง เกิดมีลูกอภิมหาเศรษฐีบ่อน้ำมันมาขอแต่งงาน จะได้เกียมตัวรับมือได้ถูก
หรือจริงๆ แล้ว ความจริงที่ช้านไม่เคยบอกใคร
https://www.facebook.com/watch/?v=308675633829794
พ่อคะ บอกหนูมาเถอะว่า เจ้าคุณปู่ อยากเห็นหน้าหลานสาวคนนี้ใจจะขาดแล้ว
เพราะหนูคือ หลานของคนที่รวยระดับ millionaire หนูจะได้ตั้งตัวทัน
เอาละ ขอสรุป ในสรุป ที่ต้องสรุป
คือกระทู้นี้ แม้จะดูเพ้อฝัน จนเหมาะอยู่ในห้อง ถนนนักเขียนก็ตาม แต่เราว่ายังพอมีสาระอยู่บ้างนะ
ถ้าใครกำลังหาข้อมูลเปรียบเทียบบัตรเครดิตให้กับเจ้านายสักใบ ต้องเลือกแบบไหน ใช้แบบไหนถึงจะคุ้ม
ถึงจะดูว่าเราหาข้อมูลเพื่อเจ้านายอันเป็นที่รักของเรา (รับบทเลขาคิมอีกหนึ่ง) หรือถ้าเพื่อน ๆ คนไหนสนใจบัตรตัวไหน
ก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมเอานะคะ เพราะเราอาจจะตกหล่นข้อมูลไปบ้าง ถ้ามีอะไรผิดพลาด เราเองก็ขออภัยด้วยค่ะ
ส่วนตัวขออนุญาตกลับเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริงก่อนนะคะ
แสดงความคิดเห็น
ฝันที่แม่เคยฝัน ที่ไม่กล้าฝัน รีวิวเปรียบเทียบบัตรเครดิตระดับบน Millionaire Baby!
คำเตือน กระทู้นี้ สาระพอมีอยู่บ้าง ในเรื่องของการเปรียบเทียบข้อมูล
แต่ความเพ้อฝันนั้น อยู่ในระดับ นามปากกา JK Rolling
ช่วงนี้เห็นข่าวกระแสบัตรเครดิตระดับบนสุด VVIP สำหรับ millionaire ที่เค้าใช้กัน ขอย้ำระดับบนคือมีเงินฝาก
และประกันหรือพวกกองทุนอย่างน้อย 30ล้านขึ้นไป! เลยอยากจะมาสวมบทเป็นเศรษฐีนีลูกสาวเจ้าพ่อบ่อน้ำมัน 1 วันค่ะ
มาทำกระทู้เปรียบเทียบในการตัดสินใจเลือกใช้บัตรเครดิตที่มีวงเงินฉ่ำๆสักใบว่า “ถ้าฉันมีสิทธิ์เลือกใช้”
ฉันจะเลือกบัตรใบไหนดี และแต่ละใบมีข้อดี แตกต่างกันอย่างไรบ้าง อร้ายยยยยความรวยมันช่างหอมว่ามากจริง ๆ นะคุณ
รีวิวคนรวย 1
พส ทั้งหลาย พร้อมกัน หรือยังคะ ดังนั้นทุกคน กระชับกระเป๋า Himalaya Birkin ในฝันของพวกเรา ให้พร้อมและไปเริ่มกันเลยค่ะ
มากันที่ใบแรก SCB Private เพื่อนรักนักท่องเที่ยวระดับ VVIP แบบเรามาก ๆ ทุก Lounge เกือบทุกสายการบิน เราเข้าถึงหมด
เอาจริง ๆ เห็นหน้าเรา ก็เข้า Lounge ได้แล้วปะคะ จำเป็นต้องขอดูบัตรเหรอถามจริง !
1. SCB Private
· เงินฝากหรือมูลค่าทรัพย์สินเริ่มต้นที่ 50 ล้านบาท วงเงินอนุมัติสูงสุดได้อยู่ที่ 2-5 เท่าของรายได้
· ไม่มีค่าธรรมเนียมปีแรก และค่าธรรมเนียมรายปี
· มีค่าธรรมเนียมในการแปลงสกุลเงิน
· ได้รับคะแนนเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตร 25 บาท = 2 คะแนน (แก้ไขข้อมูลที่อัพเดต ตามที่คุณพี่ คห.3 แนะนำนะคะ)
· สามารถใช้ 10,000 คะแนนเพื่อแลกเครดิตคืนได้ 1,000 บาท
· ส่วนลด (ร้านค้า,ห้าง,ร้านอาหาร) จะได้ส่วนลด 10% - 35% ที่ห้องอาหารชั้นนำ และส่วนลด 20% ที่ King Power
· การใช้คะแนนแลกรับไมล์ สามารถแลกได้ 2.5 คะแนน = 1 ไมล์
· ห้องรับรองที่สนามบิน จะได้รับ Priority Pass (พร้อมผู้ติดตาม 1 ท่าน) , Thai Royal Silk / Royal Orchid 2 ครั้ง , King Power Lounge
(พร้อมผู้ติดตาม 2 ท่าน)
· ดอกเบี้ยต่อปีจะอยู่ที่ 16%
· สิทธิพิเศษอื่นๆที่จะได้รับคือ ได้รับคะแนนสะสมพิเศษตามยอดใช้จ่ายสะสมภายในประเทศ / บัตร / รอบบัญชี และใช้ 8,000 คะแนน
แลก บัตรกำนัล King Power มูลค่า 1,000 บาท,ห้องสัมมนาพิเศษ SCB investment centre, SCB lounge และ ประกันภัยอุบัติเหตุ
ระหว่างเดินทาง 35 ล้านบาท
ใบที่ 2 Citi Ultima ที่เหมาะเป็นเพื่อนรักนักเดินทาง และพร้อมจะผจญภัยมากค่า พส. จุดเด่นของนางอยู่ที่มาพร้อมประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง
สูงถึง 35 ล้านบาท พร้อม Lounge และ Priority Pass ทั่วโลก แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่สำหรับผู้ถือบัตรเท่านั้นนะคะ
2. Citi Ultima
· เงินฝากหรือมูลค่าทรัพย์สินเริ่มที่ 50 ล้านบาท
· ค่าธรรมเนียมปีแรกและค่าธรรมเนียมรายปีจะอยู่ที่ 31,030 บาท ไม่สามารถเวฟได้
· มีค่าธรรมเนียมในการแปลงสกุลเงิน
· การได้รับคะแนนเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตร 25 บาท = 3 คะแนน ใช้จ่ายสกุลเงินต่างประเทศ 25 บาท = 3 คะแนน เทียบเท่า 8.30 บาท = 1 คะแนน
· ไม่สามารถแลกคะแนนเป็นเครดิตคืนได้
· ส่วนลด (ร้านค้า,ห้าง,ร้านอาหาร) รับเครดิตเงินคืนมูลค่าสูงสุด 500 บาท / เดือน ที่ร้านสตาร์บัคส์
· การใช้คะแนนแลกรับไมล์ สามารถแลกได้ 2 คะแนน = 1 ไมล์
· ห้องรับรองที่สนามบิน จะได้รับ Priority Pass™ ทั่วโลก ไม่จำกัดจำนวนครั้ง (ไม่รวมผู้ติดตาม)
· ดอกเบี้ยต่อปีจะอยู่ที่ 16%
· มีคะแนนพิเศษ จะได้รับ 52,000 คะแนน (ได้เฉพาะตอนสมัครบัตร) และรับ 100,000 คะแนน เมื่อใช้จ่ายครบ 5 ล้านบาทต่อปี
· สิทธิพิเศษอื่นๆที่จะได้รับคือ ประกันภัยอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง 35 ล้านบาท
ใบที่ 3 เพื่อนรักที่ตอบโจทย์วิถีคนเมือง กิน เที่ยว ช้อป หรือจะดูหนัง เพราะเค้าคือ Krungsri Exclusive ส่วนลดตั๋วหนัง 50% กว่าร้อยสิทธิ์ต่อเดือน
โรงภาพยนตร์ เอ็มบาสซี ดิโพลแมทสกรีน หรือ โรงภาพยนตร์ VIP กว่าร้อยสิทธิ์ต่อเดือนเช่นกัน รวมทั้งโรงภาพยนต์ระบบปกติ ในเครือเมเจอร์อีกกว่า 400 สิทธิ์ ยังค่ะ ยังไม่พอ ที่จอดรถสำรองพิเศษ ณ เซ็นทรัล ชิดลม สำหรับ พส. นักช้อป ตอบโจทย์สาวเมืองกรุงมั๊ยละคะ
3. Krungsri Exclusive
· เงินฝากหรือมูลค่าทรัพย์สินเริ่มที่ 5 ล้านบาทขึ้นไป (แก้ไขตามที่คุณพี่ คห.3 นะคะ)
· ไม่มีค่าธรรมเนียมปีแรก และค่าธรรมเนียมรายปี
· มีค่าธรรมเนียมในการแปลงสกุลเงิน
· การได้รับคะแนนเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตร 25 บาท = 1 คะแนน
· สามารถใช้ 10,000 คะแนนเพื่อแลกเครดิตคืนได้ 1,000 บาท และใช้ 10,000 คะแนนได้ 1,000 บาท เป็นหน่วยลงทุน
· ส่วนลด(ร้านค้า,ห้าง,ร้านอาหาร) ส่วนลดห้องอาหาร The Dining Room ที่ Grand Hyatt Erawan *20% ที่ห้างสรรพสินค้าตามโปรโมชั่น
· การใช้คะแนนแลกรับไมล์ สามารถแลกได้ 2 คะแนน = 1 ไมล์
· ห้องรับรองที่สนามบิน จะได้รับสิทธิ Krungsri Exclusive Royal Silk Lounge 2 ครั้ง , Dragon Pass 6 ครั้ง ,
Royal First Lounge 2 ครั้ง / ปีปฏิทิน
· ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 16% ต่อปี
· สิทธิพิเศษอื่นๆที่จะได้รับคือ ส่วนลดสูงสุด 50% เมื่อซื้อบัตรชมภาพยนตร์ พร้อมบริการเลานจ์ที่โรงภาพยนตร์
เอ็มบาสซี ดิโพลแมทสกรีน (จำกัด 150 สิทธิ์/เดือน) โรงภาพยนตร์ VIP (จำกัด 150 สิทธิ์/เดือน) และโรงภาพยนต์ระบบปกติ
ในเครือเมเจอร์ตามที่กำหนด (จำกัด 400 สิทธิ์/เดือน) , ที่จอดรถสำรองพิเศษ ณ เซ็นทรัล ชิดลม, โรงแรม โนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต,
เดอะ พรอมานาด และเจ อเวนู เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ , Krungsri exclusive lounge , ประกันภัยอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง 20 ล้านบาท
*** แก้ไขข้อมูลในส่วนของ คะแนนของบัตร กับข้อมูลวงเงินของ Krungsri ตามที่พี่ๆแนะนำนะคะ***