ก่อนอื่น เราขอแนะนำก่อนว่าเราเป็นนักข่าวบันเทิง เป็นหลัก
และเป็นพีอาร์/เออาร์/เออี ให้กับบางกลุ่มศิลปินเป็นงานๆ ไป หรือเรียกว่างานฝิ่น
โดยตอนนี้กำลังศึกษาปริญญาโทอยู่ค่ะ
คำถามในกระทู้นี้จุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาเรื่องการบริหารจัดการบุคลากรสายบันเทิง 
คือจะเอาไปพัฒนาเป็น Proposal งานวิจัยจริงๆ ต่อค่ะ
จริงๆ จะมีหมวดนักแสดง และนางงามและชุดข้อมูลการบริหารก็จะแตกต่างออกไป
เผื่อมีใครสงสัยถามวงการบันเทิงทำไมกระทู้นี้เน้นกลุ่มนี้นะคะ

สำหรับกระทู้นี้ขออนุญาตแท็กในสายนักร้อง และค่ายที่มีลักษณะการบริหารที่คล้ายๆ กันนะคะ
อย่าง GMM กับ นาดาว ที่มีทั้งศิลปินและนักร้อง หรือ BNK48 ที่เป็นศิลปินเน้นร้องเพลงและมีคอนเท้นต์บันเทิงเสริม
เราอยากได้ความเห็นว่าปัจจุบันแล้วแฟนคลับกลุ่มศิลปิน ถ้าต้องเจอกับการบริหารศิลปินตัวเอง
โดยมีช้อยส์ 2 แบบสมมติว่าตาม 2 กลุ่มแล้วกระแสดังพอๆ กัน
ท้ายที่สุด ถ้าคุณเป็นแฟนคลับที่ตามกลุ่มศิลปินเหลือแค่วงเดียว คุณชอบแบบไหนมากกว่าในระยะยาว
เมื่อดูทั้งข้อดีและข้อเสียรวมๆ กัน บางอันอ่านแล้วอาจจะดูกระทบวงไหน ขออภัยด้วยนะคะ

ทีมผู้บริหาร
เส้นสายพอมีบ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นสายธุรกิจเป็นหลัก ในวงการบันเทิงเป็นพวก Youtuber
ระบบการทำงานแบบองค์กร มีโหวตมีการอิงความเห็นโดยรวม
 
ทีมงาน
จุดแข็ง กิจกรรมต่อเนื่อง หลากหลาย คอนเท้นต์เยอะ ขายของได้
จุดอ่อน แต่ไม่มีกระแสเลย เน้นรู้กันเองในหมู่แฟนคลับ
ความสัมพันธ์ภายในส่วนใหญ่คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า TurnOver rate สูง
บางคนเข้ามาเพื่อสร้างโปรไฟล์หรือใช้ประโยชน์จากภาพรวมศิลปิน
 
ทีมพีอาร์
เส้นสายสื่อปานกลาง ค่อนไปทางออนไลน์ เน้นเดินสาย ออกรายการรัวๆ
เน้นการกระจายลงสื่อหลายแบบ เช่นวิทยุ เพจหนัง ที่เฉพาะกลุ่ม กระจายหมด
ไม่ค่อยสานสัมพันธ์สื่อเก่า การประสานหน้างานไม่ค่อยดี และแยกเพจ แฟนคลับออกจากสื่อไปเลย
ระบบส่งข่าวแย่ ส่งเนื้อแก้มาบ่อยมาก เกิดเหตุการณ์ลงข่าวแล้วข่าวหายบ่อยๆ
สั่งลบข่าวหรือรูปออกมาแล้วดูไม่ดี เช่นศิลปินตนเองไม่มองกล้อง หรือไม่ได้อยู่เซนเตอร์ มักขอให้ใช้รูปของพีอาร์ (แต่ส่งช้า)
สถานการณ์หน้างานอีเว้นต์สื่อที่ไปร่วมงานมักเป็นสื่อหลักในงานใหญ่ จำนวนไม่เยอะ งานเล็กถึงจะได้เห็นสื่อเพจบ้าง
แต่เอางานอีเว้นต์อยู่ และไม่วุ่นวาย
 
ทีมเออาร์และเออี 
ปิดดีลไม่ค่อยได้ในงานใหญ่ๆ แต่ก็มีเรื่อยๆ เน้นผลประโยชน์ของศิลปินเป็นหลัก
บางทีเข้ามาส่วนในการตัดสินใจเพื่อให้ศิลปินตัวเองได้ซีนมากกว่าผลประโยชน์ลูกค้า
ลูกค้าเก่าไม่ค่อยได้รับความสำคัญไม่ว่าจะใหญ่ขนาดไหน ถ้าผลประโยชน์ไม่ได้
ดูแลศิลปินหลวมๆ ให้อิสระเยอะ ประสานแฟนคลับเมื่อมีกิจกรรมเท่านั้น
 
ของเล่น ของขวัญ ของสะสม 
จุดแข็ง ของมีมาเรื่อยๆ คุณภาพค่อนข้างดี ตก QC น้อยมาก
จุดอ่อน หลายอย่างที่ออกมาก็ดูไม่น่าสะสม เรื่องบางอันก็ออกมาเพื่อโกยตังค์โดยเฉพาะไม่เน้นสวยงาม
 
การปฏิสัมพันธ์แฟนคลับ 
ค่อนข้างเร็ว มีความเป็นทางการสูงมาก ไม่ค่อยเล่นด้วย
แต่จะมีทีมแยกสำหรับปฏิสัมพันธ์กับแฟนคลับเมื่อมีกิจกรรมเท่านั้น
 
จุดมุ่งหมายในอนาคต
ไม่แน่นอน เปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอศิลปินตามตลาด
เช่นช่วงกระแสเพลงมา ก็เน้นเพลง ช่วงงานแสดงเข้าก็เน้นการแสดง

ท่าทีของศิลปินต่ออนาคต
มีทั้งที่มีความสุขและไม่มีความสุข ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่พัฒนาตัวเอง
มีกลุ่มอยู่แล้วรู้สึกไม่ใช่อยากออกเมื่อมีโอกาส
มักตอบว่าเป็นเรื่องของอนาคต ไม่ได้ให้ความชัดเจนเมื่อถูกถาม

ทีมผู้บริหาร
มีเส้นสายในวงการทั้งจากคนบันเทิง และทางธุรกิจเข้าขั้นดีมากๆ 
ระบบการทำงานห่วยเน้นครอบครัวมากกว่าหาคนคุณภาพ

ทีมงาน
จุดแข็ง กิจกรรมค่อนข้างต่อเนื่อง มีปฏิสัมพันธ์กับแฟนคลับตลอด ฉวยหากระแสเก่ง
จุดอ่อน บางประเด็นฉาบฉวยส่อดราม่าได้ง่าย แต่เป็นสไตล์การหากระแส
ความสัมพันธ์ภายในค่อนข้างดีจากความเป็นครอบครัว ทีมงานซัพพอร์ทกันเองสูง
แต่บางทีก็เข้าขั้นสปอย หรือเน้นพวกตัวเองที่อยู่ด้วยกันมา

ทีมพีอาร์
มีเส้นสายสื่อเก่าแน่น เน้นส่งข่าวโปรโมท และเดินสายเฉพาะมีกิจกรรมใหญ่ๆ นานๆ ออกรายการ
แต่ออนไลน์ไม่ค่อยดี และเปิดพื้นที่ให้สื่อเพจ (รวมแฟนคลับด้วย) ร่วมงานหมด แต่ก็คัดที่ลงข่าวให้จริงๆ
ระบบส่งข่าวดี หน้าข่าวแน่น ไม่ต้องตามสื่อก็ลงให้เกิน 80%
สถานการณ์หน้างานอีเว้นต์จากการทำงานจำนวนผู้ร่วมงานจะดูอลัง
แต่หลายงานคือดูวุ่นวายมาก และบางทีคุมไม่อยู่

ทีมเออาร์และเออี 
ปิดดีลเก่ง ดูแลศิลปินใกล้ชิด ประสานแฟนคลับตลอด แต่เรื่องหลุดก็เยอะอยู่
ให้ความสำคัญกับลูกค้าเก่าค่อนข้างดี เน้นตามใจลูกค้า แต่ปิดราคาเคี่ยวในระดับที่ปิดได้ตลอด

ของเล่น ของขวัญ ของสะสม
จุดแข็งไอเดียดี มีอะไรที่น่าสะสมมากๆ และบางทีตามกระแส ชช ญญ หรือตามเทรนด์ในออนไลน์ด้วย
จุดอ่อน QC แย่มาก เน้นรีบโกย อันไหนเกินต้านก็ขออภัย

การปฏิสัมพันธ์แฟนคลับ 
ค่อนข้างช้า แต่ไม่ค่อยโป๊ะ สม่ำเสมอ ส่วนใหญ่โดนด่าเพราะช้า หรือบางทีขับเคลื่อนด้วยการโดนด่า

จุดมุ่งหมายอนาคต
ยึดหลักดั้งเดิมของตัวเอง เช่นเป็นไอดอลก็คือเน้นไอดอล เป็นนักแสดงก็คือเน้นนักแสดง ที่เหลือคือพาร์ทเสริม 

ท่าทีของศิลปินต่ออนาคต
สายสัมพันธ์ค่อนข้างดี และมีการแสดงออกต่อสังกัดในเชิงบวกตลอด
อยู่ต่ออย่างน้อย 1 - 2 ปีเมื่อถูกถามอนาคต

ท้ายที่สุดนี้ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นด้วยนะคะ หากมีคำผิดหรือเนื้อหาส่วนไหนทำให้เกิดความตะขิดตะขวงใจ

ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ