สวัสดีค่ะ เราขอแชร์ประสบการณ์การรับน้องที่เกิดขึ้นกับเรา มันกลายเป็นบาดแผลลึกฝังใจเรามาจนถึงทุกวันนี้ ขอเล่าตั้งแต่ต้นเลยนะคะ ยาวหน่อย แต่อยากให้ได้อ่าน
เราได้เข้าศึกษาในมาหลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพค่ะ วันแรกที่ไปมอบตัวนั้น หลังจากมอบตัวเสร็จก็จะมีรุ่นพี่ ปี2มายืนรอรับตามเอกต่าง และนัดหมายน้องๆมาร่วมรับน้อง โดยเรียกน้องมาก่อนช่วงหมายรับน้องของมหาลัยจริงๆ2เดือน โดยให้เหตผลว่า ต้องมาซ้อมเต้น ซ้อมร้องเพลงก่อน และทำความรู้จักเพื่อนๆก่อนเรียน จะได้รักกันไว้
ถึงกำหนดวันนัด เราก็มาตามนัดพี่ๆ เขาให้เข้ารวมกันในห้องเล็กๆ ภายในห้องไม่มีไรมากนั่งอัดกันฟังพวกพี่เขาพูดชี้แจง ออกไปแนะนำตัวทีละคน และลุกไปเต้นตามที่พี่ๆเขาบอก เราทนนั่งอยู่ในห้องนั้นทั้งวัน กิจกรรมไม่มีไรเลยนอกจากเต้นกับฟังรุ่นพี่ด่าๆๆ เจอกันวันแรกก็ด่าแล้ว เราเริ่มไม่ไหวอยากกลับมากๆ แต่ต้องทน
ถึงเวลาเลิก พี่ๆเขาก็นัดแนะกับน้องๆอีกพรุ่งนี้ให้มาเวลาไหนประมาณไหน และเจอกันที่ไหน แต่ด้วยความที่เรามาไม่ได้เลยกะจะไปขอพี่ๆเขาว่ามาไม่ได้ พี่ๆเขาก็โอเค แต่บอกว่าอาทิตย์หน้าต้องมานะ พลาดไม่ได้เดี่ยวตามเพื่อนไม่ทัน
ถึงวันที่เราต้องมาตามนัดแล้ว พอมากิจกรรมในห้องสี่เหลี่ยมก็เหมือนเดิม นั่งแออัดกันในห้องลุกขึ้นมาแนะนำตัวและก็เต้นเกือบทุกชั่วโมง ที่รับไม่ได้คือ ต้องให้ผญ.ลุกขึ้นไปเต้นยั่วพี่ๆผช. ใครเต้นไม่เซ็กซี่พอก็จะโดนดุโดนว่า ฝั่งผช.ก็ให้ลุกเต้นแบบเดี่ยวกันโดยต้องเต้นกับพี่ผญ.
พอจบวัน ก่อนแยกย้ายรุ่นพี่ก็นัดและบอกทุกคนว่าต้องมาซ้อมรับน้องแบบนี้ทุกวันจนจะเปิดภาคเรียน ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้นมันตั้ง 2เดือน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าทำแบบนั้น เราคงมาไม่ได้แน่ เพราะเราต้องทำงาน เลยยกมือขอพี่ประธานรุ่น แต่คำตอบที่ได้มาคือ "ก็ลาออกสิ" เราแบบ เห้ย! ไม่ได้อะ ทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ เลยบอกพี่เขาว่า หนูต้องทำงาน รุ่นพี่ตอบกลับอีกว่า "เนี้ยเพื่อนมันก็ทำงาน แต่มันก็ลาออกกันหมดอะ" หลังจากพี่เขาพูดจบเพื่อนแต่ละคนก็แบบ เออ ใช้ๆ กูลาออก อีกคน กูก็ลาออก
เราไม่มีอะไรจะพูด เราไม่ได้เถียงต่อ แค่คิดในใจว่า ดูเพื่อนแต่ละคนสิ มันลาออกมันก็ไม่ตาย มันมีบ้านให้นอน มีแม่ให้ขอเงิน ต่างจากเรา เป็นเด็กต่างจังหวัด ไม่มีใครให้ขอเงิน ถ้าลาออกไม่ทำงาน บ้านก็จะไม่มีอยู่ ข้าวก็ไม่มีให้กิน (ปล. ในเอกเรา เราเป็นเด็กตจว.คนเดียว ซึ่งแน่นอนถ้าไม่ทำงานไม่มีเงินค่าที่พักค่ากิน ต่างจากเพื่อนที่เป็นเด็กในกทม.อยู่แล้ว เขามีบ้านให้อยู่ มีครอบครัวให้ขอตังค์ เราไม่ได้ขอตังค์ครอบครัวใช้เลยต้องหาเอง ถ้าลาออกก็ตายอย่างเดียว)
เราตัดสินใจไม่ไปเลย เพราะต้องทำงาน จนมาเดือนสุดท้ายก่อนเปิดภาคเรียน เราตัดสินใจลาออกจากงานเพราะยังไงก็ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว เราไปร่วมกิจกรรมซ้อมรับน้อง ซึ่งช่วงนั้นก็ยังไม่ถึงการรับน้องจริงๆ ทางเอกเราแอบรับน้องกันเอง ซึ่งทางมหาลัยก็ออกมาบอกแล้วว่าไม่ให้มีการซ้อมรับน้องใดๆก่อนถึงกำหนดการที่มหาลัยกำหนดให้ โดยให้อาจารย์แต่ละเอกดูแล และคอยห้ามนักศึกของตัวเอง ถ้าพบเห็นก็ให้นำรายชื่อนักศึกษายื้นต่อคณะ และจะมีบทลงโทษต่างๆ แต่ทางเอกเราก็ยังแอบทำ ยิ่งไปกว่านั้น อาจารย์ในเอกแต่ละคนรู้เห็นเป็นใจ คอยหาสถานที่รับน้องให้ ที่อยู่นอกมหาลัย
เราไปรับน้อง แน่นอนว่าต้องโดนว่าอยู่แล้วว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว เพื่อนมารับน้องเป็นเดือนแต่เราพึ่งมา เห็นแก่ตัว โดนว่ามากมาย และโดนพี่ปฏิบัติตัวด้วยแบบแย่มาก ไม่ใช่แค่พี่เขาทั้งเพื่อนๆพวกนั้นด้วย และแน่นอนไม่ใช่เราคนเดียวที่โดน เรามีเพื่อนอีก 4 คนที่มาพร้อมเรา ก็โดนปฏิบัติแบบเดียวกัน พวกเรา5คนจับมือกัน กัดฟันมาตลอดจนช่วงรับน้องจบ (ปล.ขอไม่บอกว่าช่วงรับน้องโดนไรมาบ้าง แต่บอกได้แค่ว่าก็หนักอยู่เหมือนกัน มหาลัยเรานี้ขึ้นชื่อเรื่องโซตัสมากและยิ่งเอกเราด้วยแล้ว ทุกปี)
ถึงแม้ว่าจะผ่านช่วงรับน้องมาแล้วนั้นแต่รุ่นพี่ก็ยังเรียกรวมทุกวันหลังเลิกเรียน บางวันมีเรียนแค่ช่วงเช้า ก็ต้องรอจน4โมงเพื่อรอรวมตัว เราไม่เข้าใจว่าจะรวมทำไม ไม่เห็นมีไรสำคัญ เรียกให้ไปนั่งรวมกัน แล้วก็ด่า ประเด็นเดิมๆแบบนี้ตลอดเรื่องการเอาเปรียบพวก-อย่างโน้น อย่างนี้ รักเพื่อนใหม่ ใครไม่เอารุ่นไม่ต้องสนใจมัน อย่าไปยุ่งไปพูดคุยอะไรกับมัน (มีเพื่อนไม่เอารุ่นอยู่2คน แต่อยู่ไม่ถึงเดือนก็ลาออกไป)แล้วสุดท้ายก็ลงที่พวกเรา5คน ว๊ากเรื่องระเบียบ โน้นนี้นั้น
ลุกเต้นลุกร้องเพลง รุ่นพี่ปีโตจะแวะวียนมาดูบ้างเกือบทุกวัน ก็ต้องลุกไปเต้น ร้องเพลงทีละคน แบบนี้ทุกวัน แต่ละท่าให้เต้นก็18+มาก บางท่ามันมากกว่านั้นเราไม่ใช่คนเรียบร้อย หรืออินโนเซ้นอะไรหรอก แค่เรารู้สึกอายที่จะต้องทำอะไรแบบนั้นต่อหน้าคนจำนวนมาก หรือ พอมีใครบ้างคนในกลุ่มเรา5คนเต้นแบบสุดแรง ก็จะมาโดนแขวะทีหลัง ว่าอ่อยเก่งหรืออะไรที่มากกว่านั้น อย่างโน้นนี้นั้น ไม่เว้นแต่ผช. ผช.ในคณะเรา-มากจริงๆ
เราก็ไม่เข้าใจว่าเขาเติบโตมายังไง หรือโดนปลูกฝังอะไรไว้ หาความเป็นสุภาพบุรุษไม่เจอเลย ซึ่งหน้าแปลก ที่ 20 30 คนเป็นเหมือนกันหมด นิสัยแบบแย่มาก เราได้แต่คิดในใจว่าเอกนี้มันรวมคนประเภทนี้เข้าด้วยกันจริงๆนะ
กว่าจะเลิกก็มืดแล้ว บางที2ทุ่มเลย ซึ่งหอเรามันอยู่ไกลมาก อยู่คนละซีกโลกเลย เราขึ้นรถเมย์กลับบ้านใช้เวลาประมาน2ชม. ถ้ารถติดอาจถึง3ชม. ถ้าขึ้นbtsก็จะประหยัดเวลาหน่อย แต่มันก็ต้องนั่งสุดสายเลยแพงมากๆ เราเลยนั่งรถเมย์กลับ แต่ถึงขนาดนั่งรถกลับ ก็ยังใช้เงินเยอะมาก ไปกลับ160 ถ้าขึ้นบีทีเอส 200เลย ซึ่งเราทำงาน ได้ค่าแรงวันละ ไม่ถึง 500 ยังไม่รวมค่าอาหารที่ต้องกิน ค่าห้องที่ต้องจ่าย รวมๆแล่วแทบจะไม่พอเลย ชีวิตในกรุงเทพแย่มาก เราเป็นเด็กต่างจังหวัดที่พึ่งจบม.6ใหม่ๆ อายุ17 ได้รับวุฒิแค่ไม่กี่วันก็ขึ้นมาอยู่กรุงเทพตัวคนเดียวแล้ว
เรากัดฟันสู้อยู่คนเดียวเพราะไม่อยากให้ที่บ้านเป็นห่วง เลยหาเงินหางานเอง ไม่ได้ขอตังค์ที่บ้านใช้เลย ถึงขอไปก็ไม่ทีให้ เพราะทางครอบครัวเราก็แทบจะไม่ทีเงินอยู่แล้ว และเราก็เป็นคนอยากมาเรียนที่นี้เอง อยากเข้ามาอยู่ในเมืองกรุง แต่พอมาอยู่เอง โครตจะผิดหวังทั้งสังคม ทั้งสิ่งแวดล้อมต่างๆ
กลับเข้าเรื่องกันต่อเนอะ
เราใช้เวลาไปกลับมหาลัย รวมๆ 4-5 ชม. ถ้ายิ่งรถติดใช้เวลา 6-7 เลยก็ว่าได้ อันนี้ไม่ได้โม้ หรือแต่อย่างใด
พอรุ่นพี่ปล่อยให้กลับบ้านมันก็มืดแล้ว พอ2ทุ่มปุ๊บรถก็ไม่ค่อยมีเลย รอนานมาก สายที่เราขึ้น ต้องรอเป็นชม.เลย กว่าจะได้ขึ้นก็ 3ทุ่มพอดี โชคดีหน่อยที่พอดึกรถมันไม่ติดแล้ว แต่ก็ยังใช้เวลานานอยู่ดี กว่าเราจะถึงก็ปาไป4ทุ่มกว่าๆ ซึ่งก็ยังไม่ถึงบ้านอยู่ดี ต้องต่อ2แถวเข้า แต่4ทุ่มกว่าๆเกือบ5ทุ่มแน่นอนว่ารถไท้ทีแล้ว ต้องต่อแท็กซี่เข้าไปอีก ก็ปาไป45บาท
ชีวิตคนกรุงเทพนี้ยากลำบากมาก เราอยู่บ้านนอก ไม่เคยต้องใช้เงินมากมายขนาดนี้ภายในวันเดียว เราเริ่มคิดผิดมากๆที่อยากมาอยู่เมืองกรุง
ถ้าจะถามว่าทำไมเราไม่ย้ายหอไปอยู่ใกล้มอ คือเราพยายามหาแล้ว แต่มันยังไม่มี ใกล้มอเกินไปมันก็แพงมาก จะหาเพื่อนร่วมห้อง เพื่อนเราก็เป็นคนที่นี้ซึ่งเขามีบ้านกันอยู่ แล้วถ้าจะถามว่าทำไมไม่หาห้องใกล้มอ ตั้งแต่แรก ก็คือเรามาอยู่กรุงเทพ ตั้งแต่ยังสอบไม่ติด เราไล่สอบทุกมหาลัยในกรุงเพ เพื่อที่จะอยากเรียนที่นี้ เพราะฉนั้น เราเลยไม่รู้ว่าเราจะได้เรียนที่ไหน แต่พอสอบติดเราก็พยายามจะย้ายอยู่หรอก แต่มันก็ใช้เงินมากอยู่ดี
พอเราเริ่มมีปัญหากับการเดินทาง คือไม่สามารถกลับดึกได้จริงๆ เราได้แค่เรียนเสร็จ แล้วก็กลับ ไม่สามารถที่จะไปรวมกลุ่มกับรุ่นพี่และเพื่อนได้ อันที่จริง เราไม่รู้ว่าจะไปรวมทำไม ทำไมต้องไปเรียกรวมทุกๆวัน ไปนั่งอุดอู้ฟังพวกรุ่นพี่เขาตะคอกด่าเรา และส่วนมากคนที่โดนด่าคือพวกเราอยู่แล้ว ประเด็นคือ พวกเรามันเป็นคนเห็นแก่ตัว เอาเปรียบเพื่อน ซึ้งเพื่อนๆในคณะเราต่างก็เห็นพวกเราเป็นแบบนั้นกันหมด ไม่มีใครเลยที่จะมาซุงซิงกับเราจริงๆ มิหนำซ้ำทั้งโดนแขวะโดนว่าอย่างโน้นนี้สารพัด
เราเริ่มขอรุ่นพี่ว่าจะไม่มารวมรุ่นแล้วนะ ไม่สามารถมาได้แล้ว เราชี้เหตุผลไปสารพัด ซึ่งไม่มีใครเข้าใจ อันนี้เราไม่รู้ว่า ไม่เข้าใจหรือ พยายามทำตัวไม่เข้าใจกันแน่
พอเราบอกว่าไม่มาแล้ว พี่ประธานรุ่นก็บอกว่า จะเอาเปรียบเพื่อนนะ จะเห็นแก่ตัวไม่ได้ ยังไงก็ต้องมา เราก็ยังอธิบายคำเดิม จนอาจพี่เขาจะรำคาญ หรืออะไร แกเลยบอกบัดๆไปว่า งั้นก็วันเว้นวันก็ได้ ดีกว่าไม่มาเลย เดี่ยวเพื่อนไม่เห็นหน้า จะเอาเปรียบกัน
อันนี้เราก็ไม่เข้าใจอีกว่าไม่เห็นหน้ายังไง ซึ่งเรามาเรียนทุกคาบกับเพื่อนอยู่แล้ว แต่เราก็โอเคค่ะพี่ และก็พยายามไปรวมรุ่นทุกวัน วันไหน ที่พี่เขาไม่ปล่อยสักที ถ้ามันเกิน6โมง เราก็จะขอกลับก่อน ซึ่งก็มักจะโดนว่าจากเพื่อนๆอีกว่า กลับก่อนอีกละ พวกกูยังไม่เคยขอกลับเลย
อันนี้คือเรามาคิดดูก็อยากร้องไห้นะ ตลอดเวลาที่ต้องืนมานั่งในห้องาเหลี่ยมเล็กๆนี้เราไม่ได้สนุกหรือมีความสุขเลน ถ้าต่างจากคนอื่น ที่เขาสามารถ หัวเราะและสนุกสนานไปกับพี่ๆเขาได้
พวกเขามักชวนกันไปเที่ยว หรือดื่มกันเป็นปกติอยู่แล้วจนสนิทกันมากๆอันนี้เรารู้ เมื่อเทียบกับเรา ซึ่งไม่ทีความสนิทอะไรเลยกับพวกรุ่นพี่เขา เวลารวมรุ่นเราเลยไม่สนุกด้วย ไม่ได้เฮฮา หรือครึกครื่นอะไรเลย พอถึงรอบที่เร่ต้องออกไปเต้น เราเลยไม่ได้เต็มที่กับมันด้วย
หลังๆเราเริ่มไม่ได้ไป และก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ไปแล้ว วันนั้นเรามีเรียนช่วงบ่าย ซึ่งเป็นวิชาเลือก ที่สามารถลงแยกกับคนอื่นได้ คนในคณะเรามีลงเรียนไม่ถึง10คน ส่วนที่เหลือ ก็ไม่มีเรียนวันในวันนั้น ซึ่งรุ่นพี่ก็นัดรวมกันในช่วงบ่าย และเราก็มีเรียน เราตัดสินใจจะเรียนต่อไปออกไปรวม เพื่อนในคณะที่เรียนวิชานี้ด้วย เขาเดินมาสะกิดเราให้ไปรวม แล้วจากนั้น พวกเขาก็เดินออกไปจากห้องเลย ส่วนเราบอกแค่อ่อๆ โอเคๆ
ซึ่งไม่ได้บอกว่าจะไปหรือไม่ไป เรานั่งเรียนต่อ ในกลุ่มไลน์ ที่มีการรวมรุ่นพี่ไว้ ก็มีการตามๆ ทั้งแท็กหาให้มา บอกว่าให้เวลาอีก 30นาที ใครมาช้า จะมีการทำโทษ หรือไม่ทา เพื่อนทั้งหมดจะโดนทำโทษ
เราเข้าไปอ่านในกลุ่มไลน์ ก็เมิน แล้วนั่งเรียนต่อ แต่ไม่นาน ทุกคนในกลุ่ม ก็ทั้งแท็กเราและเพื่อนอีก4คนที่ไม่ยอมไปในกลุ่มรัวๆ พร้อมส่งข้อความบอก ไม่มาหรอ พวกกูจะโดนทำโทษนะ อย่าเห็นแก่ตัว บราๆๆๆๆๆ
ผ่านไปสักพัก รุ่นพี่ก็ส่งรูปมาในกลุ่ม พร้อมบอกว่า -พวกที่ไม่มา ดูไว้นะ เพื่อนโดนอะไร -พวกเห็นแก่ตัว
-พวกเปรื่อย -พวกตัวถ่วง
ปล.พวกเราได้ฉายา 5ตัวถ่วง เนื่องจาก ช่วงที่มีกิจกรรมรับน้องของมอ เวลาร้องเพลงหรือเต้นพร้อมกัน พวกเราจะทำช้าสุดหรือ ปรบมือไม่ค่อยพร้อมพวกเขาเท้าไหร่ เพราะเราไม่ได้ซ้อมมา
รีวิว โดนรับน้องแย่ๆ
เราได้เข้าศึกษาในมาหลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพค่ะ วันแรกที่ไปมอบตัวนั้น หลังจากมอบตัวเสร็จก็จะมีรุ่นพี่ ปี2มายืนรอรับตามเอกต่าง และนัดหมายน้องๆมาร่วมรับน้อง โดยเรียกน้องมาก่อนช่วงหมายรับน้องของมหาลัยจริงๆ2เดือน โดยให้เหตผลว่า ต้องมาซ้อมเต้น ซ้อมร้องเพลงก่อน และทำความรู้จักเพื่อนๆก่อนเรียน จะได้รักกันไว้
ถึงกำหนดวันนัด เราก็มาตามนัดพี่ๆ เขาให้เข้ารวมกันในห้องเล็กๆ ภายในห้องไม่มีไรมากนั่งอัดกันฟังพวกพี่เขาพูดชี้แจง ออกไปแนะนำตัวทีละคน และลุกไปเต้นตามที่พี่ๆเขาบอก เราทนนั่งอยู่ในห้องนั้นทั้งวัน กิจกรรมไม่มีไรเลยนอกจากเต้นกับฟังรุ่นพี่ด่าๆๆ เจอกันวันแรกก็ด่าแล้ว เราเริ่มไม่ไหวอยากกลับมากๆ แต่ต้องทน
ถึงเวลาเลิก พี่ๆเขาก็นัดแนะกับน้องๆอีกพรุ่งนี้ให้มาเวลาไหนประมาณไหน และเจอกันที่ไหน แต่ด้วยความที่เรามาไม่ได้เลยกะจะไปขอพี่ๆเขาว่ามาไม่ได้ พี่ๆเขาก็โอเค แต่บอกว่าอาทิตย์หน้าต้องมานะ พลาดไม่ได้เดี่ยวตามเพื่อนไม่ทัน
ถึงวันที่เราต้องมาตามนัดแล้ว พอมากิจกรรมในห้องสี่เหลี่ยมก็เหมือนเดิม นั่งแออัดกันในห้องลุกขึ้นมาแนะนำตัวและก็เต้นเกือบทุกชั่วโมง ที่รับไม่ได้คือ ต้องให้ผญ.ลุกขึ้นไปเต้นยั่วพี่ๆผช. ใครเต้นไม่เซ็กซี่พอก็จะโดนดุโดนว่า ฝั่งผช.ก็ให้ลุกเต้นแบบเดี่ยวกันโดยต้องเต้นกับพี่ผญ.
พอจบวัน ก่อนแยกย้ายรุ่นพี่ก็นัดและบอกทุกคนว่าต้องมาซ้อมรับน้องแบบนี้ทุกวันจนจะเปิดภาคเรียน ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้นมันตั้ง 2เดือน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าทำแบบนั้น เราคงมาไม่ได้แน่ เพราะเราต้องทำงาน เลยยกมือขอพี่ประธานรุ่น แต่คำตอบที่ได้มาคือ "ก็ลาออกสิ" เราแบบ เห้ย! ไม่ได้อะ ทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ เลยบอกพี่เขาว่า หนูต้องทำงาน รุ่นพี่ตอบกลับอีกว่า "เนี้ยเพื่อนมันก็ทำงาน แต่มันก็ลาออกกันหมดอะ" หลังจากพี่เขาพูดจบเพื่อนแต่ละคนก็แบบ เออ ใช้ๆ กูลาออก อีกคน กูก็ลาออก
เราไม่มีอะไรจะพูด เราไม่ได้เถียงต่อ แค่คิดในใจว่า ดูเพื่อนแต่ละคนสิ มันลาออกมันก็ไม่ตาย มันมีบ้านให้นอน มีแม่ให้ขอเงิน ต่างจากเรา เป็นเด็กต่างจังหวัด ไม่มีใครให้ขอเงิน ถ้าลาออกไม่ทำงาน บ้านก็จะไม่มีอยู่ ข้าวก็ไม่มีให้กิน (ปล. ในเอกเรา เราเป็นเด็กตจว.คนเดียว ซึ่งแน่นอนถ้าไม่ทำงานไม่มีเงินค่าที่พักค่ากิน ต่างจากเพื่อนที่เป็นเด็กในกทม.อยู่แล้ว เขามีบ้านให้อยู่ มีครอบครัวให้ขอตังค์ เราไม่ได้ขอตังค์ครอบครัวใช้เลยต้องหาเอง ถ้าลาออกก็ตายอย่างเดียว)
เราตัดสินใจไม่ไปเลย เพราะต้องทำงาน จนมาเดือนสุดท้ายก่อนเปิดภาคเรียน เราตัดสินใจลาออกจากงานเพราะยังไงก็ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว เราไปร่วมกิจกรรมซ้อมรับน้อง ซึ่งช่วงนั้นก็ยังไม่ถึงการรับน้องจริงๆ ทางเอกเราแอบรับน้องกันเอง ซึ่งทางมหาลัยก็ออกมาบอกแล้วว่าไม่ให้มีการซ้อมรับน้องใดๆก่อนถึงกำหนดการที่มหาลัยกำหนดให้ โดยให้อาจารย์แต่ละเอกดูแล และคอยห้ามนักศึกของตัวเอง ถ้าพบเห็นก็ให้นำรายชื่อนักศึกษายื้นต่อคณะ และจะมีบทลงโทษต่างๆ แต่ทางเอกเราก็ยังแอบทำ ยิ่งไปกว่านั้น อาจารย์ในเอกแต่ละคนรู้เห็นเป็นใจ คอยหาสถานที่รับน้องให้ ที่อยู่นอกมหาลัย
เราไปรับน้อง แน่นอนว่าต้องโดนว่าอยู่แล้วว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว เพื่อนมารับน้องเป็นเดือนแต่เราพึ่งมา เห็นแก่ตัว โดนว่ามากมาย และโดนพี่ปฏิบัติตัวด้วยแบบแย่มาก ไม่ใช่แค่พี่เขาทั้งเพื่อนๆพวกนั้นด้วย และแน่นอนไม่ใช่เราคนเดียวที่โดน เรามีเพื่อนอีก 4 คนที่มาพร้อมเรา ก็โดนปฏิบัติแบบเดียวกัน พวกเรา5คนจับมือกัน กัดฟันมาตลอดจนช่วงรับน้องจบ (ปล.ขอไม่บอกว่าช่วงรับน้องโดนไรมาบ้าง แต่บอกได้แค่ว่าก็หนักอยู่เหมือนกัน มหาลัยเรานี้ขึ้นชื่อเรื่องโซตัสมากและยิ่งเอกเราด้วยแล้ว ทุกปี)
ถึงแม้ว่าจะผ่านช่วงรับน้องมาแล้วนั้นแต่รุ่นพี่ก็ยังเรียกรวมทุกวันหลังเลิกเรียน บางวันมีเรียนแค่ช่วงเช้า ก็ต้องรอจน4โมงเพื่อรอรวมตัว เราไม่เข้าใจว่าจะรวมทำไม ไม่เห็นมีไรสำคัญ เรียกให้ไปนั่งรวมกัน แล้วก็ด่า ประเด็นเดิมๆแบบนี้ตลอดเรื่องการเอาเปรียบพวก-อย่างโน้น อย่างนี้ รักเพื่อนใหม่ ใครไม่เอารุ่นไม่ต้องสนใจมัน อย่าไปยุ่งไปพูดคุยอะไรกับมัน (มีเพื่อนไม่เอารุ่นอยู่2คน แต่อยู่ไม่ถึงเดือนก็ลาออกไป)แล้วสุดท้ายก็ลงที่พวกเรา5คน ว๊ากเรื่องระเบียบ โน้นนี้นั้น
ลุกเต้นลุกร้องเพลง รุ่นพี่ปีโตจะแวะวียนมาดูบ้างเกือบทุกวัน ก็ต้องลุกไปเต้น ร้องเพลงทีละคน แบบนี้ทุกวัน แต่ละท่าให้เต้นก็18+มาก บางท่ามันมากกว่านั้นเราไม่ใช่คนเรียบร้อย หรืออินโนเซ้นอะไรหรอก แค่เรารู้สึกอายที่จะต้องทำอะไรแบบนั้นต่อหน้าคนจำนวนมาก หรือ พอมีใครบ้างคนในกลุ่มเรา5คนเต้นแบบสุดแรง ก็จะมาโดนแขวะทีหลัง ว่าอ่อยเก่งหรืออะไรที่มากกว่านั้น อย่างโน้นนี้นั้น ไม่เว้นแต่ผช. ผช.ในคณะเรา-มากจริงๆ
เราก็ไม่เข้าใจว่าเขาเติบโตมายังไง หรือโดนปลูกฝังอะไรไว้ หาความเป็นสุภาพบุรุษไม่เจอเลย ซึ่งหน้าแปลก ที่ 20 30 คนเป็นเหมือนกันหมด นิสัยแบบแย่มาก เราได้แต่คิดในใจว่าเอกนี้มันรวมคนประเภทนี้เข้าด้วยกันจริงๆนะ
กว่าจะเลิกก็มืดแล้ว บางที2ทุ่มเลย ซึ่งหอเรามันอยู่ไกลมาก อยู่คนละซีกโลกเลย เราขึ้นรถเมย์กลับบ้านใช้เวลาประมาน2ชม. ถ้ารถติดอาจถึง3ชม. ถ้าขึ้นbtsก็จะประหยัดเวลาหน่อย แต่มันก็ต้องนั่งสุดสายเลยแพงมากๆ เราเลยนั่งรถเมย์กลับ แต่ถึงขนาดนั่งรถกลับ ก็ยังใช้เงินเยอะมาก ไปกลับ160 ถ้าขึ้นบีทีเอส 200เลย ซึ่งเราทำงาน ได้ค่าแรงวันละ ไม่ถึง 500 ยังไม่รวมค่าอาหารที่ต้องกิน ค่าห้องที่ต้องจ่าย รวมๆแล่วแทบจะไม่พอเลย ชีวิตในกรุงเทพแย่มาก เราเป็นเด็กต่างจังหวัดที่พึ่งจบม.6ใหม่ๆ อายุ17 ได้รับวุฒิแค่ไม่กี่วันก็ขึ้นมาอยู่กรุงเทพตัวคนเดียวแล้ว
เรากัดฟันสู้อยู่คนเดียวเพราะไม่อยากให้ที่บ้านเป็นห่วง เลยหาเงินหางานเอง ไม่ได้ขอตังค์ที่บ้านใช้เลย ถึงขอไปก็ไม่ทีให้ เพราะทางครอบครัวเราก็แทบจะไม่ทีเงินอยู่แล้ว และเราก็เป็นคนอยากมาเรียนที่นี้เอง อยากเข้ามาอยู่ในเมืองกรุง แต่พอมาอยู่เอง โครตจะผิดหวังทั้งสังคม ทั้งสิ่งแวดล้อมต่างๆ
กลับเข้าเรื่องกันต่อเนอะ
เราใช้เวลาไปกลับมหาลัย รวมๆ 4-5 ชม. ถ้ายิ่งรถติดใช้เวลา 6-7 เลยก็ว่าได้ อันนี้ไม่ได้โม้ หรือแต่อย่างใด
พอรุ่นพี่ปล่อยให้กลับบ้านมันก็มืดแล้ว พอ2ทุ่มปุ๊บรถก็ไม่ค่อยมีเลย รอนานมาก สายที่เราขึ้น ต้องรอเป็นชม.เลย กว่าจะได้ขึ้นก็ 3ทุ่มพอดี โชคดีหน่อยที่พอดึกรถมันไม่ติดแล้ว แต่ก็ยังใช้เวลานานอยู่ดี กว่าเราจะถึงก็ปาไป4ทุ่มกว่าๆ ซึ่งก็ยังไม่ถึงบ้านอยู่ดี ต้องต่อ2แถวเข้า แต่4ทุ่มกว่าๆเกือบ5ทุ่มแน่นอนว่ารถไท้ทีแล้ว ต้องต่อแท็กซี่เข้าไปอีก ก็ปาไป45บาท
ชีวิตคนกรุงเทพนี้ยากลำบากมาก เราอยู่บ้านนอก ไม่เคยต้องใช้เงินมากมายขนาดนี้ภายในวันเดียว เราเริ่มคิดผิดมากๆที่อยากมาอยู่เมืองกรุง
ถ้าจะถามว่าทำไมเราไม่ย้ายหอไปอยู่ใกล้มอ คือเราพยายามหาแล้ว แต่มันยังไม่มี ใกล้มอเกินไปมันก็แพงมาก จะหาเพื่อนร่วมห้อง เพื่อนเราก็เป็นคนที่นี้ซึ่งเขามีบ้านกันอยู่ แล้วถ้าจะถามว่าทำไมไม่หาห้องใกล้มอ ตั้งแต่แรก ก็คือเรามาอยู่กรุงเทพ ตั้งแต่ยังสอบไม่ติด เราไล่สอบทุกมหาลัยในกรุงเพ เพื่อที่จะอยากเรียนที่นี้ เพราะฉนั้น เราเลยไม่รู้ว่าเราจะได้เรียนที่ไหน แต่พอสอบติดเราก็พยายามจะย้ายอยู่หรอก แต่มันก็ใช้เงินมากอยู่ดี
พอเราเริ่มมีปัญหากับการเดินทาง คือไม่สามารถกลับดึกได้จริงๆ เราได้แค่เรียนเสร็จ แล้วก็กลับ ไม่สามารถที่จะไปรวมกลุ่มกับรุ่นพี่และเพื่อนได้ อันที่จริง เราไม่รู้ว่าจะไปรวมทำไม ทำไมต้องไปเรียกรวมทุกๆวัน ไปนั่งอุดอู้ฟังพวกรุ่นพี่เขาตะคอกด่าเรา และส่วนมากคนที่โดนด่าคือพวกเราอยู่แล้ว ประเด็นคือ พวกเรามันเป็นคนเห็นแก่ตัว เอาเปรียบเพื่อน ซึ้งเพื่อนๆในคณะเราต่างก็เห็นพวกเราเป็นแบบนั้นกันหมด ไม่มีใครเลยที่จะมาซุงซิงกับเราจริงๆ มิหนำซ้ำทั้งโดนแขวะโดนว่าอย่างโน้นนี้สารพัด
เราเริ่มขอรุ่นพี่ว่าจะไม่มารวมรุ่นแล้วนะ ไม่สามารถมาได้แล้ว เราชี้เหตุผลไปสารพัด ซึ่งไม่มีใครเข้าใจ อันนี้เราไม่รู้ว่า ไม่เข้าใจหรือ พยายามทำตัวไม่เข้าใจกันแน่
พอเราบอกว่าไม่มาแล้ว พี่ประธานรุ่นก็บอกว่า จะเอาเปรียบเพื่อนนะ จะเห็นแก่ตัวไม่ได้ ยังไงก็ต้องมา เราก็ยังอธิบายคำเดิม จนอาจพี่เขาจะรำคาญ หรืออะไร แกเลยบอกบัดๆไปว่า งั้นก็วันเว้นวันก็ได้ ดีกว่าไม่มาเลย เดี่ยวเพื่อนไม่เห็นหน้า จะเอาเปรียบกัน
อันนี้เราก็ไม่เข้าใจอีกว่าไม่เห็นหน้ายังไง ซึ่งเรามาเรียนทุกคาบกับเพื่อนอยู่แล้ว แต่เราก็โอเคค่ะพี่ และก็พยายามไปรวมรุ่นทุกวัน วันไหน ที่พี่เขาไม่ปล่อยสักที ถ้ามันเกิน6โมง เราก็จะขอกลับก่อน ซึ่งก็มักจะโดนว่าจากเพื่อนๆอีกว่า กลับก่อนอีกละ พวกกูยังไม่เคยขอกลับเลย
อันนี้คือเรามาคิดดูก็อยากร้องไห้นะ ตลอดเวลาที่ต้องืนมานั่งในห้องาเหลี่ยมเล็กๆนี้เราไม่ได้สนุกหรือมีความสุขเลน ถ้าต่างจากคนอื่น ที่เขาสามารถ หัวเราะและสนุกสนานไปกับพี่ๆเขาได้
พวกเขามักชวนกันไปเที่ยว หรือดื่มกันเป็นปกติอยู่แล้วจนสนิทกันมากๆอันนี้เรารู้ เมื่อเทียบกับเรา ซึ่งไม่ทีความสนิทอะไรเลยกับพวกรุ่นพี่เขา เวลารวมรุ่นเราเลยไม่สนุกด้วย ไม่ได้เฮฮา หรือครึกครื่นอะไรเลย พอถึงรอบที่เร่ต้องออกไปเต้น เราเลยไม่ได้เต็มที่กับมันด้วย
หลังๆเราเริ่มไม่ได้ไป และก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ไปแล้ว วันนั้นเรามีเรียนช่วงบ่าย ซึ่งเป็นวิชาเลือก ที่สามารถลงแยกกับคนอื่นได้ คนในคณะเรามีลงเรียนไม่ถึง10คน ส่วนที่เหลือ ก็ไม่มีเรียนวันในวันนั้น ซึ่งรุ่นพี่ก็นัดรวมกันในช่วงบ่าย และเราก็มีเรียน เราตัดสินใจจะเรียนต่อไปออกไปรวม เพื่อนในคณะที่เรียนวิชานี้ด้วย เขาเดินมาสะกิดเราให้ไปรวม แล้วจากนั้น พวกเขาก็เดินออกไปจากห้องเลย ส่วนเราบอกแค่อ่อๆ โอเคๆ
ซึ่งไม่ได้บอกว่าจะไปหรือไม่ไป เรานั่งเรียนต่อ ในกลุ่มไลน์ ที่มีการรวมรุ่นพี่ไว้ ก็มีการตามๆ ทั้งแท็กหาให้มา บอกว่าให้เวลาอีก 30นาที ใครมาช้า จะมีการทำโทษ หรือไม่ทา เพื่อนทั้งหมดจะโดนทำโทษ
เราเข้าไปอ่านในกลุ่มไลน์ ก็เมิน แล้วนั่งเรียนต่อ แต่ไม่นาน ทุกคนในกลุ่ม ก็ทั้งแท็กเราและเพื่อนอีก4คนที่ไม่ยอมไปในกลุ่มรัวๆ พร้อมส่งข้อความบอก ไม่มาหรอ พวกกูจะโดนทำโทษนะ อย่าเห็นแก่ตัว บราๆๆๆๆๆ
ผ่านไปสักพัก รุ่นพี่ก็ส่งรูปมาในกลุ่ม พร้อมบอกว่า -พวกที่ไม่มา ดูไว้นะ เพื่อนโดนอะไร -พวกเห็นแก่ตัว
-พวกเปรื่อย -พวกตัวถ่วง
ปล.พวกเราได้ฉายา 5ตัวถ่วง เนื่องจาก ช่วงที่มีกิจกรรมรับน้องของมอ เวลาร้องเพลงหรือเต้นพร้อมกัน พวกเราจะทำช้าสุดหรือ ปรบมือไม่ค่อยพร้อมพวกเขาเท้าไหร่ เพราะเราไม่ได้ซ้อมมา