[CR] TCT : ใจจะอยู่ “ปากนาย” แต่กายอยากอยู่ “เปียงซ้อ”

สวัสดีครับ วันนี้ผมขออนุญาตเล่าเรื่องราวและแบ่งบันบันทึกการเดินทางของผมและผองเพื่อนครับ(Tactical Camp Thailand) ในการขี่มอเตอร์ไซค์สองล้อคู่ใจกับอุปกรณ์แคมป์คู่ชีพของพวกเราครับ
.
ทริปตั้งต้นด้วยการที่ผมอยากไป “น่าน” เลยชักชวน “โก๋เป๋ง” ไปเป็นเพื่อน เฮียก็โคตรใจง่าย ตอบรับในทันที หักคอเพื่อนตู่ ได้อีกคน รวมเป็น 3 คน 3 ลำ สำหรับทริปนี้ เราวางแผนกว้างๆว่าจะไปจาก ขอนแก่น เข้าหล่มสัก ขึ้นด่านซ้าย ไปทางนาแห้ว เข้าน้ำปาด ไปขึ้นแพที่ปากนาย และ ไปจบที่บ่อเกลือ โดยที่ไม่มีแผนชัดเจนว่าต้องนอนที่ไหนหรืออย่างไร ... การเดินทางของเราจึงต้องเริ่มต้นขึ้น
.

.
ณ วันนัดหมาย เรานัดหมายเจอกันที่บ้านของเพื่อนตู่ ที่ จ.ขอนแก่น จากบ้านของผมไปบ้านของตู่ ผมต้องบิดไปหลายร้อยกิโลเมตร ด้วยความที่มันเป็นหน้าฝน ผมก็ขี่รถตากฝนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก พอถึงจุดที่แดดดีๆผมก็นึกในใจว่าเราน่าจะตากรองเท้าไปด้วยนะรองเท้าจะได้แห้ง ใช่ครับ ... ก็มันเห่อมากๆ เพราะพึ่งซื้อมือสองสภาพสุดสวยมาและมาพึ่งจะใช้ครังแรก ก็ต้องทะนุถนอมเป็นธรรมดา!!
.
รองเท้าใหม่โคตรเท่ห์ จะให้เหม็นได้ไง ยอมใส่รองเท้าแตะขี่เลยครับงานนี้!!

 .
หลังจากขยี้หนีฝนไปราว 50-60 กม. หันมาอีกที่ ... ก็เหลือแค่นี้ อีกข้าง มันหายไปแล้วรองเท้าใหม่ของผม ... ได้แต่ช้ำใจครับกับความสะเพร่าของตัวเอง ... เลยขี่ตากฝน ทั้งแบบนั้นต่อเลย ให้ฝนมันชำระล้างความเศร้าให้หมดไป 

.
ผมมาถึงจุดนัดหมายที่ ขอนแก่น ... ผมติดต่อหา “โก๋เป๋ง” ทันทีว่ามาถึงแล้ว ... โก๋เป๋งตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่สู้ดีนักว่า “เฮ้ยม่อน โดนด่าชุดใหญ่ สถาณการณ์ไม่ดีเลยว่ะ ทริปอาจจะล่มนะเว้ย!!!”
.

“สถาณการณ์ไม่ดีเลยว่ะ ทริปอาจจะล่มนะเว้ย!!!”
“สถาณการณ์ไม่ดีเลยว่ะ ทริปอาจจะล่มนะเว้ย!!!”
“สถาณการณ์ไม่ดีเลยว่ะ ทริปอาจจะล่มนะเว้ย!!!”

.
นี่มันอะไรกันครับเนี่ย!!! เก็บของตื่นเต้นอยู่ตั้งสามวัน ขี่ตากฝนมาเป็นร้อยกิโล รองเท้าใหม่ Forma สุดคูลที่หายไปตั้งแต่ยังไม่เริ่มทริป .... ทริปจะล่ม!!! นี่มันอะไรกันครับเนี่ย!!! นี่มันอะไรกันครับเนี่ย!!!
.
.
.
ผมบอกตู่และโก๋เป่งไปว่า “ทริปน่านล่ม แต่ผมไม่ล่มแน่นอนเพราะออกมาแล้วจัดของแล้ว คนเดียวก็จะไป” ไปไหนค่อยว่ากัน ถ้าล่มจริง จะไปกางเต้นท์ที่เขาค้อ ภูลมโล หรือแถวๆนั้น ... สรุปก็ได้ออกทริปครับครบ 3 คนหลังจากจัดการปัญหากันอยู่หลายชั่วโมง มันต้องงี้ดิว่ะ ให้สมกับที่เสียรองเท้าไปหน่อย ... โดยโก๋เป๋งจะออกตามหลังมา
.
ไป ๆๆ โก ๆๆๆ

.
.
.
.
.
.
ขี่ไปรอ โก๋เป๋งที่ น้ำหนาว

.
.
  
เฮียมาแว้ว!!!

ครบองค์ สาลำ F850GS F800GS และ Street twin 900

.
จากน้ำหนาวจุดต่อไปก็หล่มสัก ด่านซ้าย นาแห้ว ไปน้ำปาด ... ขี่กันนิ่งๆ เรื่อยๆ เรียบร้อยครับ ... เกมส์!!

.
หยอกๆ เปล่าเกมส์ครับ รถเราจดทะเบียนถูกต้อง ท่อไม่ดัง ต่อทะเบียนเรียบร้อย ใบขับขี่มีครบ ... พี่ๆเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาขอประชาสัมพันธ์เรื่องการขับขี่จักรยานยนต์ให้ปลอดภัยครับ ซึ่งแน่นอนว่าพวกเราตั้งใจฟังเป็นอย่างดี ขอบคุณพี่ๆเจ้าหน้าที่ สภ.หล่มสักครับ สำหรับข้อมูลดีๆและความห่วงใยที่มอบให้ผู้ใช้รถใช้ถนน
.
วิวระหว่างทาง

.
เส้นนี้เป็นที่ตั้งของอุทยานหลายอุทยานครับเช่น อช.ภูสวนทราย และ อช.ภูสอยดาว (ที่สายเดินป่ารู้จักและคุ้นเคยกันดี ท่านใดที่ยังไม่เคยมาแนะนำให้มาเดินขึ้นดูครับ ผมรับรองได้เลยว่า ... เมื่อยแน่นอน 5555+)

.

.
คณะเราออกจากขอนแก่นเช้ามืด กว่าจะถึงทางเข้าจุดข้ามแพก็เล่นเอาซะบ่ายแก่เลย

ถึงแล้วครับ จุดข้ามแพไปหมู่บ้านประมงปากนาย จากฝั่ง อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ไป บ้านปากนาย อ.นาหมื่น จ.น่าน … จุดข้ามแพที่ไม่มีแพ ไม่มีใครมีแต่น้ำท่ายเขื่อนสิริกิตติ์ที่แห้งขอด กับคนหาปลาสามสี่คนที่เห็นอยู่ลิบๆ!!
 
 .

.
แต่มีป้ายแสดงไว้ดังนี้ครับ แน่นอนว่าเราโทรไปตามเบอร์เล่านี้ และได้ความว่า แพหยุดวิ่งมาหลายวันแล้วเพราะน้ำลงและพึ่งมีฝนตกหนักทำให้น้ำเชี่ยว จนต้องหยุด ... อ่า นี่ล่ะครับการเดินทาง เราโทรไปหลายๆเบอร์ในนี้ บอกว่าเราเป็นมอเตอร์ไซค์ใช้จุดเทียบไม่มากเราขึ้นได้ ... โทรไปหลายรอบจนคุณลุงในเบอร์ที่ 1 บอกว่า เดี๋ยวจะออกดูน้ำให้ก่อนว่าไปได้หรือไม่

.
ในระหว่างรอลุงก็วางแผนไว้ว่า ถ้าลุงบอกว่าข้ามไม่ได้ก็จะนอนที่นี่เลย กางเตนท์แคมป์ปิ้งแถวๆริมเขื่อนนี้ และ พรุ่งนี้ค่อยขี่กลับทางเก่า อ้อมกลับเข้าน่านทางถนน ระหว่างนั้นก็เดินชมนกชมไม้ไป เสพบรรยากาศไปพลางๆ

.
เราได้พูดคุยกับคุณลุงท่านนึงสั้นๆ แกให้ข้อมูลแก่เราว่า เรือหยุดวิ่งหลายวันแล้ว แต่แนะนำให้โทรไปตามเบอร์เหล่านั้นอีกที ...
.
ภาพความหมานของคุณลุงในวันนี้

.
.
.
.
.

.
ในที่สุด “สัญญาณ” ที่เรารอคอยก็มาถึง คุณลุงแจ้งเราว่า น้ำไม่เชี่ยวมาก การข้ามแพ “น่าจะเป็นไปได้” สำหรับมอเตอร์ไซค์ของพวกเรา ... และ แกกำลังมานำแพมาให้คณะผมรอ ณ จุดนี้ก่อน ... สำเร็จครับ เราจะได้ข้ามฝั่งตามที่ตั้งใจ สิ่งที่เราต้องทำคือ “รอ” … รอคอยด้วยการมองดูสิ่งที่เคลื่อนผ่านที่อยู่ตรงหน้าไปที่ผ่านไปอย่างช้าๆ ฝูงวัวที่เลาะเลมหญ้าอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ แว่วเวียงกรุ้งกริ้งจากกระดิ่งทองเหลืองที่ห้อยคอพวกมัน ... เรือชาวบ้านที่ออกหาปลา ยิ่งตกเย็นยิ่งแล่นกันขวักไขว่ บ้างก็เป็นเรือเครื่อง บ้างก็เป็นเรือพาย ยิ่งเย็นเรือก็ยิ่งแล่นมากๆขึ้น บ้างก็กลับมาขึ้นตรงฝั่งที่ผมอยู่ ถือข่ายเอาปลาใส่กระสอบเตรียมกลับบ้าน เรือหลายๆลำก็ขับเรือไปทางห้วเขื่อนซึ่งเราก็เดาได้ว่าบ้านของพวกเขาไปทางนั้น … วิถีคนทำงาน เช้ามืดออกมาทำงาน เย็นก็กลับบ้านหาครอบครัวหาที่พักพิงเอนกายเพื่อให้พร้อมสู้กับวันใหม่
.

 .

.
ตะวันที่กำลังลาลับ กับเวลาๆที่ค่อยเคลื่อนผ่าน เรานั่งคุยกันไปสัพเพเหระ แบบไร้เรื่องราว ณ ตอนนั้น เสียงเครื่องยนต์ดังหึ่งๆไปทั่วคุ้งน้ำซึ่งมันเดาได้ไม่ยากว่าสิ่งที่เรารอคอยนั้นมาแล้ว ... ในที่สุดแพก็มา!!
.
พอเรือเข้าเทียบทำให้เราเห็นภาพว่าทำไมลุงแกถึงบอกว่ามันข้ามไม่ได้ ... ด้วยความที่น้ำน้อยทำให้จุดเทียบสำหรับไต่ขึ้นเรือเหลือน้อยมาก สำหรับรถใหญ่คงยากมาก แต่สำหรับมอเตอร์ไซค์เรายังเอาไม้หนุนขึ้นฝั่งเดียวได้ และลุงแกบอกว่าถ้าน้ำเชี่ยวเหมือนเมื่อวานจากยากกว่านี้มากเพราะเครื่องต้องสู้แรงน้ำตลอดระหว่างเทียบ

.
ขึ้นเรือยากไม่ใช่ปัญหา .. ล้มได้ไม่ว่ากัน ขอแค่ว่า ถ้าล้มแล้วอย่าตกน้ำเป็นพอ เสียวอยู่

.

.

.

คณะเราขึ้นเรือเสร็จตอนทุ่มนึงครับ ... เราตกลงกันว่าจะค้างที่จุดปลายทางที่แพจอดนี้เลย เราคงไม่เดินทางต่อในคืนนี้ หนึ่งเลยคือล้าเกินกว่าที่จะเดินทางต่อ สองโก๋เป๋งมีอาการเจ็บข้อเท้าที่พึ่งผ่าตัดใส่เหล็กมา ... ดังนั้นเราจึงจะหาจุดกางเต็นท์เหมาะๆที่นี่เลย
 .
หลังจากขึ้นเรือมาได่ก็ได้พูดคุยกับคนพื้นที่เพื่อขอกางเต๊นท์ 1 คืน

.
การเจรจาสอบถามเรื่องสถานที่กางเต้นท์ไม่ติดขัดแต่ประการใด .... เราจึงเริ่มจัดแจงที่หลับที่นอนของเราในคืนนี้

เฮียผม  ข้อเท้าบวมฉึ่งเลย โดนประคบเย็นหลายยก และต้องกินยาแก้ปวดช่วย!!!

.
ร้านค้าหนึ่งเดียวของที่นี่ ... ปากนายมินิมาร์ท ... คุณน้าเจ้าของช่วยเหลือเราในหลายๆเรื่อง เช่นให้ข้อมูลอนุญาติให้ใช้ห้องน้ำ(ถ้าฉุกเฉิน) และให้ยืมเตาถ่าน น้าแกบอกว่าให้ยืมไม่ต้องซื้อหรอก ขี่มอเตอร์ไซค์มาซื้อไปก็เอาไปไม่ได้ ... กราบขอบพระคุณอีกครั้งครับ

.
เราได้ข้าวของเครื่องใช้จากที่นี่หลายอย่าง ถ่านย่าง ตะแกรง รองเท้าแตะ ... อ้า นอกจากผมจะทำรองเท้าบูทหายแล้งผมยังลืมหยิบรองเท้าแตะออกมาจากบ้านเพื่อนตู่ด้วย เออ ดีๆ เลยต้องถอยใหม่หนึ่งคู่จากที่นี่ ช้างดาวแท้จากปากนาย!!!
.
วิถีแคมปิ้ง ... อาบน้ำกลางแจ้ง ซื้อน้ำถังขาวขุ่นมาอาบ ให้ชื่นใจ

.

กว่าจะได้กินข้าวกันก็เกือบสี่ทุ่มครับ ... เมนูค่ำนี้ พอครัวประจำทริป โก๋เป๋ง เสนอเนื้อฉ่ำตะแกรงร้อน

.
นั่งเสวนากันได้ไม่นานผมกับตู่ก็แยกย้ายกันพักผ่อน .. คงเหลือแต่โก๋เป๋งที่นั่งปวดขาอยู่เพียงลำพัง!!!
.
.
.
ชื่อสินค้า:   ปากนาย เปียงซ้อ น่าน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่