ขับรถ EV ล่องใต้ [Southern USA]กว่า 1,000 km เพื่อไปดูจรวด Star Ship ของ SpaceX ณ เมืองโบกาชิก้า รัฐเท็กซัส
สวัสดีครับ ผมชื่อบริงครับ ผมเป็นคนชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับเทคโนโลยีมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นเรื่องคอมพิวเตอร์, ยานยนต์ไฟฟ้า, การท่องอวกาศ, และเทคโนโลยีล้ำสมัยทุกชนิดครับ
เกริ่นนำ
ตอนเด็กในนั้น ผมมีความฝันมากมายไม่ว่าจะเป็นวิศวกรสร้างหุ่นยนต์หรือคนขับเครื่องบินอวกาศ เวลาว่างนั้นผมชอบวาดภาพยานอวกาศแปะฝาบ้านเอาไว้เต็มไปหมด ฮ่าๆ แต่พอผมโตมานั้น ผมก็พบว่าความจริงนั้นมันยากกว่าที่คิดเอาไว้มากๆ สิ่งที่ผมใฝ่ฝันบางเรื่องนั้นมันไกลเกินความสามารถของผมจริงๆ ครับ ผมไม่ใช่เด็กเรียนเก่งเลย เรียกว่าเด็กติดเกมส์ สายเนิร์ดที่เรียนไม่เก่งเลยดีกว่า ภาษาอังกฤษ(ก่อนผมมาอเมริกา)นั้นได้เกรด 1-2 เท่านั้น พูดได้แบบเอาตัวรอดไปวันๆ (เพิ่งมาพูดคล่องตอนออกต่างประเทศ) ส่วนเรื่องวิทยาศาสตร์นั้นบ๊วยติดหลังห้องเลยครับ ผมได้เกรด 1-2 วิทยาศาตร์ตั้งแต่ม.1 ยัน ม. 3 ครับ ตอนม.ปลาย เพื่อนๆ ได้ไปเรียนต่อกัน ผมโดนส่งไปเรียนอินเดีย (เรียนไม่จบด้วย) กลับมาก็มาเรียนเทียบวุติ(GED) เพื่อเข้ามหาลัยต่อ ตอนเรียนจบ ป.ตรี นี่จำเกรดเฉลี่ยได้เลยคับ 2.5 เท่านั้นคือเรียนให้ผ่านๆ ไปวันๆ จริงๆครับ เพราะพื้นฐานผมไม่ดีตั้งแต่เด็ก(ไม่ตั้งใจเรียน) พอโตมาจะไปตามความฝันที่เคยตั้งไว้คงยาก ทำให้ความฝันผมเปลี่ยนไปเยอะมากๆ จากที่เคยอยากเป็นนักบินอวกาศหรือวิศวกรสร้างหุ่นยนต์(ปล. ผมได้รับแรงบรรดาลใจมาจากเรื่อง Mega Man) ก็เหลือเป็นอยากไปดูเค้าปล่อยจรวดขึ้นฟ้าซักครั้งในชีวิต ผมก็เลยวางแผนที่เข้าใกล้เทคโนโลยีเหล่านี้ทุกครั้งที่ผมมีโอกาสแหละครับ
ส่วนความฝันอีกเรื่องนึงในชีวิตคือ ขับรถยนต์ไฟฟ้า ผมได้ความฝันนี้มาจากอีลอน มัคส์ที่เปิดตัว Tesla Roadster และ Tesla Model S พอผมเห็นคนสร้างรถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นกำลังใจช่วยให้เค้าสามารถนำพาธุรกิจ Tesla ผ่านพ้นวิกฤตไปได้ด้วยดีมาตลอดครับ
ผมจำได้ว่าผมอ่านหนังสือเกี่ยวกับอีลอน มัคส์ก่อนผมมาอเมริกาได้ประมาณ 3 เดือน(ช่วงปี 2015) ตอนนั้น ผมคิดว่าผมจะมาเรียน MBA ซักใบแล้วกลับบ้าน แต่พอได้อ่านเรื่องราวของอีลอน มัคส์แล้ว ผมก็เปลี่ยนเข็มทิศโดยบอกพ่อว่าผมจะเรียนสาย AI (Artificial Intelligent) และลองทำในสิ่งที่ผมรักดู(มีอีลอนเป็นไอดอลไปเลย) และอีกเรื่องคือ ผมตั้งปนิธานให้ได้ว่าชาตินี้ ผมต้องไปดูการปล่อยจรวด SpaceX และขับรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ครับ 555+
แต่ด้วยทรัพย์ในตัวที่มีนั้น ผมทำได้เพียงถอยรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง Chevrolet Bolt EV มาขับไปพลางๆ ก่อนนะครับ ฮ่าๆ
แต่ถ้าขับอย่างเดียวก็ไม่ได้สร้างประโยชน์ใดๆ ให้กับผู้อื่นที่อยากศึกษารถยนต์ไฟฟ้าว่าถ้าเดินทางไกลจะลำบากไหม? ผมเลยอาสาเป็นหนูทดลองโดยการขับรถยนต์ไฟฟ้า Chevrolet Bolt EV คันนี้ไปยังฐานปล่อยจรวด Star Ship ของ SpaceX ณ เมืองโบกาชิก้า รัฐเท็กซัส
[COMMENT 1] Pre Trip : เตรียมตัว + เตรียมรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับการเดินทาง
(หัวข้อนี้จะเน้นเรื่องการเตรียมรถยนต์ไฟฟ้าก่อนออกเดินทางไกลๆ เอาไว้นะครับ ถ้าใครสนใจเรื่องทริปอย่างเดียวก็ข้ามหัวข้อนี้ไปได้เลยครับ)
[COMMENT 2] Day1 วันเริ่มต้นการเดินทาง ; 24-5-64 : Dallas > Walmart, Bellmead > Round Rock Outlet > Ramen Tatsu-ya, Austin > GVEC, Seguin > Best Western, Northwest Corpus Christi
(หัวข้อนี้จะเน้นรีวิวการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าแบบจริงจังระหว่างเดินทางนะครับ ถ้าใครสนใจเรื่องทริปอย่างเดียวก็ข้ามหัวข้อนี้ไปได้เลยครับ)
[COMMENT 5] Day2 ขับไม้เดียว(272 km)ถึงโรงแรมที่ SPI + นั่งเรือดูโลมา ; 25-5-64 : โรงแรม Best Western, Northwest Corpus Christi > โรงแรม Holiday Inn Express, South Padre Island > เดินเล่นตามชายหาด > นั่งเรือดูโลมา > ข้าวเย็น Tequila Sunset
[COMMENT 8] Day3 ไปเหยียบฐานปล่อยจรวด SpaceX ณ เมือง Boca Chica ; 26-5-64 : โรงแรม Holiday Inn > SpaceX Launch Test site, Boca Chica > ขับรถบนชายหาด > ข้าวเที่ยง Brownsville > ดูพระอาทิตย์ตกดิน > ข้าวเย็น Wingstop > โรงแรม Holiday Inn
ขากลับ
[COMMENT 9] Day4 เดินทางกลับ + แวะเมือง Northwest Corpus Christi ; 27-5-64 : โรงแรม Holiday Inn Express, South Padre Island > โรงแรม Best Western, Northwest Corpus Christi > Lunch : Thai Restaurant > เดินทางถ่ายรูปท่าเรือ
[COMMENT 10] Day5 : 28-5-64 เดินทางกลับ + แวะเดิน River Walk ณ เมือง San Antonio : Best Western, Northwest Corpus Christi > River Walk, San Antonio > Lunch : Joe’s > Courtyard by Marriott, San Marcos
[COMMENT 11] Day6 : 29-5-64 เดินทางกลับ + โฉบไปถ่ายรูป Gigafactory Texas : Courtyard by Marriott, San Marcos > San Marcos Outlet > Tesla Gigafactory texas > Walmart, Bellmead > Home @ Dallas
หมายเหตุ : ใครอยากเจาะลึกเรื่องราวของวันไหนก็สามารถเลือกวันต่างๆ ตาม comment สารบัญด้านบนนี้ได้เลยนะครับ
ถ้าดูจากกำหนดการณ์ด้านบนแล้ว, ทุกท่านคงจะสงสัยใช่ไหมครับว่า ทำไมทริประยะทางเพียง 1,100 km (เที่ยวเดียว) จาก 11 ชั่วโมงลากยาวเป็น 2 วัน?
ใช่ครับ จริงๆ แล้วถ้าเราเอารถยนต์น้ำมันมาขับด้วยระยะทางเท่านี้ พวกเราจะไปถึงที่พักที่เกาะ SPI (South Padre Island) ภายในระยะเวลาเพียง 11 ชั่วโมง แต่ผมเอารถยนต์ไฟฟ้ามาขับและสถานที่ที่ผมไปนั้นดัน บางเส้นทางไม่มี DC Fast charging หรือสถานีอัดประจุไฟเร็วให้ ทำให้พวกเราต้องแวะจอดพักที่โรงแรมเพื่อชาร์จไฟผ่าน AC Charger ขนาด 11 kW ประมาณ 1 คืน(ทั้งไปและกลับ)ครับ เอาล่ะครับมาพูดถึงปัญหาของการเดินทางทริปนี้กันเลยดีกว่าครับ
รถยนต์ไฟฟ้า Chevrolet Bolt
รถยนต์ไฟฟ้าของผมนั้นเป็น Chevrolet Bolt EV ปี 2017 มีแบตเตอรี่ประมาณ 60 kWh แต่โดน recall ไปเพื่อจำกัด SoC ให้เหลือเพียง 95% เท่านั้น เนื่องจากรถรุ่นนี้มีปัญหาเรื่องแบตอาจจะเกิดไฟไหม้ถ้าชาร์จเต็ม 100% ครับ รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ทั่วไปนั้นไม่โดนเหมือนรถผมครับ
ทำให้ระยะทางการวิ่งต่อการชาร์จ 1 ครั้งจะอยู่แถวๆ 160 ไมล์หรือ 256 km(นี่เป็น highway mile นะครับ ถ้าขับในเมือง Range ของรถผมจะอยู่แถวๆ 190 ไมล์หรือ 304 km) ทำให้ผมไม่สามารถขับตรงยาวไปที่ฐานปล่อยจรวด SpaceX ได้เนื่องจากเส้นทางหลังจากเมือง San Antonio ลงไปแล้วนั้นไม่มีสถานี DC Fast Charging หรือสถานีชาร์จเร็วอีกแล้วครับ ทำให้ผมต้องชะลอการเดินทางออกไปจาก 11 ชั่วโมงเป็น 2 วันครับ
ระหว่างทางที่ขับไปนั้นบางช่วง พวกเราจำเป็นต้องปิดแอร์ขับเป็นระยะทาง 60 km เพื่อให้รถมี Range ในการขับให้ไปถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยนะครับ (เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังในกระทู้นี้อย่างละเอียดครับ)
เรียกได้ว่าใครก็ตามที่ได้อ่านกระทู้นี้ก็จะได้เรียนรู้เส้นทาง Road Trip ที่ผมใช้ขับไปยังฐานปล่อยจรวด SpaceX ที่เมือง Boca Chica และข้อมูลการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าขับทางไกลจากผู้ใช้งานจริงไปพร้อมๆ กันเลยนะครับ
เอาล่ะครับ ถ้าพร้อมผจญภัยกับทริป 1,355 ไมล์หรือ 2,168 km ด้วยรถยนต์ไฟฟ้า 100% กันแล้วก็มาลุยกันไปพร้อมๆ กันเลยครับ
ปล. ผมกำลังปั่นทั้งกระทู้, วิดีโอ, และคัดเลือกรูปภาพอยู่นะครับ กระทู้นี้จะมีการ update ทุก 2-3 วันครับ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ขับรถ EV ล่องใต้ [Southern USA]กว่า 1,000 km เพื่อไปดูจรวด Star Ship ของ SpaceX ณ เมืองโบกาชิก้า รัฐเท็กซัส
สวัสดีครับ ผมชื่อบริงครับ ผมเป็นคนชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับเทคโนโลยีมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นเรื่องคอมพิวเตอร์, ยานยนต์ไฟฟ้า, การท่องอวกาศ, และเทคโนโลยีล้ำสมัยทุกชนิดครับ
เกริ่นนำ
ตอนเด็กในนั้น ผมมีความฝันมากมายไม่ว่าจะเป็นวิศวกรสร้างหุ่นยนต์หรือคนขับเครื่องบินอวกาศ เวลาว่างนั้นผมชอบวาดภาพยานอวกาศแปะฝาบ้านเอาไว้เต็มไปหมด ฮ่าๆ แต่พอผมโตมานั้น ผมก็พบว่าความจริงนั้นมันยากกว่าที่คิดเอาไว้มากๆ สิ่งที่ผมใฝ่ฝันบางเรื่องนั้นมันไกลเกินความสามารถของผมจริงๆ ครับ ผมไม่ใช่เด็กเรียนเก่งเลย เรียกว่าเด็กติดเกมส์ สายเนิร์ดที่เรียนไม่เก่งเลยดีกว่า ภาษาอังกฤษ(ก่อนผมมาอเมริกา)นั้นได้เกรด 1-2 เท่านั้น พูดได้แบบเอาตัวรอดไปวันๆ (เพิ่งมาพูดคล่องตอนออกต่างประเทศ) ส่วนเรื่องวิทยาศาสตร์นั้นบ๊วยติดหลังห้องเลยครับ ผมได้เกรด 1-2 วิทยาศาตร์ตั้งแต่ม.1 ยัน ม. 3 ครับ ตอนม.ปลาย เพื่อนๆ ได้ไปเรียนต่อกัน ผมโดนส่งไปเรียนอินเดีย (เรียนไม่จบด้วย) กลับมาก็มาเรียนเทียบวุติ(GED) เพื่อเข้ามหาลัยต่อ ตอนเรียนจบ ป.ตรี นี่จำเกรดเฉลี่ยได้เลยคับ 2.5 เท่านั้นคือเรียนให้ผ่านๆ ไปวันๆ จริงๆครับ เพราะพื้นฐานผมไม่ดีตั้งแต่เด็ก(ไม่ตั้งใจเรียน) พอโตมาจะไปตามความฝันที่เคยตั้งไว้คงยาก ทำให้ความฝันผมเปลี่ยนไปเยอะมากๆ จากที่เคยอยากเป็นนักบินอวกาศหรือวิศวกรสร้างหุ่นยนต์(ปล. ผมได้รับแรงบรรดาลใจมาจากเรื่อง Mega Man) ก็เหลือเป็นอยากไปดูเค้าปล่อยจรวดขึ้นฟ้าซักครั้งในชีวิต ผมก็เลยวางแผนที่เข้าใกล้เทคโนโลยีเหล่านี้ทุกครั้งที่ผมมีโอกาสแหละครับ
ส่วนความฝันอีกเรื่องนึงในชีวิตคือ ขับรถยนต์ไฟฟ้า ผมได้ความฝันนี้มาจากอีลอน มัคส์ที่เปิดตัว Tesla Roadster และ Tesla Model S พอผมเห็นคนสร้างรถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นกำลังใจช่วยให้เค้าสามารถนำพาธุรกิจ Tesla ผ่านพ้นวิกฤตไปได้ด้วยดีมาตลอดครับ
ผมจำได้ว่าผมอ่านหนังสือเกี่ยวกับอีลอน มัคส์ก่อนผมมาอเมริกาได้ประมาณ 3 เดือน(ช่วงปี 2015) ตอนนั้น ผมคิดว่าผมจะมาเรียน MBA ซักใบแล้วกลับบ้าน แต่พอได้อ่านเรื่องราวของอีลอน มัคส์แล้ว ผมก็เปลี่ยนเข็มทิศโดยบอกพ่อว่าผมจะเรียนสาย AI (Artificial Intelligent) และลองทำในสิ่งที่ผมรักดู(มีอีลอนเป็นไอดอลไปเลย) และอีกเรื่องคือ ผมตั้งปนิธานให้ได้ว่าชาตินี้ ผมต้องไปดูการปล่อยจรวด SpaceX และขับรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ครับ 555+
แต่ด้วยทรัพย์ในตัวที่มีนั้น ผมทำได้เพียงถอยรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง Chevrolet Bolt EV มาขับไปพลางๆ ก่อนนะครับ ฮ่าๆ
แต่ถ้าขับอย่างเดียวก็ไม่ได้สร้างประโยชน์ใดๆ ให้กับผู้อื่นที่อยากศึกษารถยนต์ไฟฟ้าว่าถ้าเดินทางไกลจะลำบากไหม? ผมเลยอาสาเป็นหนูทดลองโดยการขับรถยนต์ไฟฟ้า Chevrolet Bolt EV คันนี้ไปยังฐานปล่อยจรวด Star Ship ของ SpaceX ณ เมืองโบกาชิก้า รัฐเท็กซัส
[COMMENT 1] Pre Trip : เตรียมตัว + เตรียมรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับการเดินทาง
(หัวข้อนี้จะเน้นเรื่องการเตรียมรถยนต์ไฟฟ้าก่อนออกเดินทางไกลๆ เอาไว้นะครับ ถ้าใครสนใจเรื่องทริปอย่างเดียวก็ข้ามหัวข้อนี้ไปได้เลยครับ)
[COMMENT 2] Day1 วันเริ่มต้นการเดินทาง ; 24-5-64 : Dallas > Walmart, Bellmead > Round Rock Outlet > Ramen Tatsu-ya, Austin > GVEC, Seguin > Best Western, Northwest Corpus Christi
(หัวข้อนี้จะเน้นรีวิวการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าแบบจริงจังระหว่างเดินทางนะครับ ถ้าใครสนใจเรื่องทริปอย่างเดียวก็ข้ามหัวข้อนี้ไปได้เลยครับ)
[COMMENT 5] Day2 ขับไม้เดียว(272 km)ถึงโรงแรมที่ SPI + นั่งเรือดูโลมา ; 25-5-64 : โรงแรม Best Western, Northwest Corpus Christi > โรงแรม Holiday Inn Express, South Padre Island > เดินเล่นตามชายหาด > นั่งเรือดูโลมา > ข้าวเย็น Tequila Sunset
[COMMENT 8] Day3 ไปเหยียบฐานปล่อยจรวด SpaceX ณ เมือง Boca Chica ; 26-5-64 : โรงแรม Holiday Inn > SpaceX Launch Test site, Boca Chica > ขับรถบนชายหาด > ข้าวเที่ยง Brownsville > ดูพระอาทิตย์ตกดิน > ข้าวเย็น Wingstop > โรงแรม Holiday Inn
ขากลับ
[COMMENT 9] Day4 เดินทางกลับ + แวะเมือง Northwest Corpus Christi ; 27-5-64 : โรงแรม Holiday Inn Express, South Padre Island > โรงแรม Best Western, Northwest Corpus Christi > Lunch : Thai Restaurant > เดินทางถ่ายรูปท่าเรือ
[COMMENT 10] Day5 : 28-5-64 เดินทางกลับ + แวะเดิน River Walk ณ เมือง San Antonio : Best Western, Northwest Corpus Christi > River Walk, San Antonio > Lunch : Joe’s > Courtyard by Marriott, San Marcos
[COMMENT 11] Day6 : 29-5-64 เดินทางกลับ + โฉบไปถ่ายรูป Gigafactory Texas : Courtyard by Marriott, San Marcos > San Marcos Outlet > Tesla Gigafactory texas > Walmart, Bellmead > Home @ Dallas
หมายเหตุ : ใครอยากเจาะลึกเรื่องราวของวันไหนก็สามารถเลือกวันต่างๆ ตาม comment สารบัญด้านบนนี้ได้เลยนะครับ
ถ้าดูจากกำหนดการณ์ด้านบนแล้ว, ทุกท่านคงจะสงสัยใช่ไหมครับว่า ทำไมทริประยะทางเพียง 1,100 km (เที่ยวเดียว) จาก 11 ชั่วโมงลากยาวเป็น 2 วัน?
ใช่ครับ จริงๆ แล้วถ้าเราเอารถยนต์น้ำมันมาขับด้วยระยะทางเท่านี้ พวกเราจะไปถึงที่พักที่เกาะ SPI (South Padre Island) ภายในระยะเวลาเพียง 11 ชั่วโมง แต่ผมเอารถยนต์ไฟฟ้ามาขับและสถานที่ที่ผมไปนั้นดัน บางเส้นทางไม่มี DC Fast charging หรือสถานีอัดประจุไฟเร็วให้ ทำให้พวกเราต้องแวะจอดพักที่โรงแรมเพื่อชาร์จไฟผ่าน AC Charger ขนาด 11 kW ประมาณ 1 คืน(ทั้งไปและกลับ)ครับ เอาล่ะครับมาพูดถึงปัญหาของการเดินทางทริปนี้กันเลยดีกว่าครับ
รถยนต์ไฟฟ้า Chevrolet Bolt
รถยนต์ไฟฟ้าของผมนั้นเป็น Chevrolet Bolt EV ปี 2017 มีแบตเตอรี่ประมาณ 60 kWh แต่โดน recall ไปเพื่อจำกัด SoC ให้เหลือเพียง 95% เท่านั้น เนื่องจากรถรุ่นนี้มีปัญหาเรื่องแบตอาจจะเกิดไฟไหม้ถ้าชาร์จเต็ม 100% ครับ รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ทั่วไปนั้นไม่โดนเหมือนรถผมครับ
ทำให้ระยะทางการวิ่งต่อการชาร์จ 1 ครั้งจะอยู่แถวๆ 160 ไมล์หรือ 256 km(นี่เป็น highway mile นะครับ ถ้าขับในเมือง Range ของรถผมจะอยู่แถวๆ 190 ไมล์หรือ 304 km) ทำให้ผมไม่สามารถขับตรงยาวไปที่ฐานปล่อยจรวด SpaceX ได้เนื่องจากเส้นทางหลังจากเมือง San Antonio ลงไปแล้วนั้นไม่มีสถานี DC Fast Charging หรือสถานีชาร์จเร็วอีกแล้วครับ ทำให้ผมต้องชะลอการเดินทางออกไปจาก 11 ชั่วโมงเป็น 2 วันครับ
ระหว่างทางที่ขับไปนั้นบางช่วง พวกเราจำเป็นต้องปิดแอร์ขับเป็นระยะทาง 60 km เพื่อให้รถมี Range ในการขับให้ไปถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยนะครับ (เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังในกระทู้นี้อย่างละเอียดครับ)
เรียกได้ว่าใครก็ตามที่ได้อ่านกระทู้นี้ก็จะได้เรียนรู้เส้นทาง Road Trip ที่ผมใช้ขับไปยังฐานปล่อยจรวด SpaceX ที่เมือง Boca Chica และข้อมูลการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าขับทางไกลจากผู้ใช้งานจริงไปพร้อมๆ กันเลยนะครับ
เอาล่ะครับ ถ้าพร้อมผจญภัยกับทริป 1,355 ไมล์หรือ 2,168 km ด้วยรถยนต์ไฟฟ้า 100% กันแล้วก็มาลุยกันไปพร้อมๆ กันเลยครับ
ปล. ผมกำลังปั่นทั้งกระทู้, วิดีโอ, และคัดเลือกรูปภาพอยู่นะครับ กระทู้นี้จะมีการ update ทุก 2-3 วันครับ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ด้วยครับ