สวัสดีค่ะ อยากขอคำแนะนำนิดนึง พอดีนี่เป็นรถคันแรกของเรา เป็นซิตี้คาร์แบรนด์หนึ่ง ที่บ้านอยากให้ได้เซฟตี้เยอะๆ เลยเลือกซื้อรุ่นท็อปที่มันไม่ใช่รุ่นฮิตๆที่ขายดีมา
ซึ่งปีนี้ 2021 เค้าไม่ได้ผลิตรุ่นท็อปออกมา ที่ขายตอนนี้จะเป็นผลิตปีที่แล้วหมด ซึ่งเราก็ไม่ใช่คนในก็ไม่รู้ นึกว่ามันเป็นรถผลิตปีนี้

พอคุยกับเซลล์หลายๆคนตอนต่อราคา เลยรู้ว่าปีนี้ เฉพาะรุ่นท็อปเค้าไม่ออกโมเดลใหม่มานะ เราเลยตะหงิดๆ เพราะเซลล์ใกล้บ้านที่เราตั้งใจจะซื้อด้วยบอกชัดเจนว่าเป็น 2021 
เราเลยถามเค้าไปในไลน์อีกรอบว่า ที่บอกว่าเป็น 2021 หมายถึง โมเดลรุ่นก่อนที่ผลิตปีนี้เหรอ ละเค้าก็บอกว่าใช่ครับ 
แล้วเรื่องก็ดำเนินไปตามขั้นตอน จนจองรถวางเงินไปละ 5000 เค้าก็เขียนในใบจองด้วยนะว่า ผลิตปี 2021 เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร แบบไม่ได้คิดมากอ่ะ
ละเราก็โอเคเพราะเราอยากได้ออปชั่นที่ในรุ่นรองท็อปไม่มี ยังไงถ้าผลิตปีนี้ เป็นรถใหม่ ไม่มีพวกไมเนอร์เชนจ์แบบรองท็อปเราก็โอเค และตกลงตัดสินใจจอง

เรื่องมาแดงตอนที่ เราไปคุยเรื่องนี้กับพี่ที่ทำงาน พี่เค้าก็สงสัยว่า ถ้าผลิตปีนี้ทำไมไม่ผลิตโมเดลใหม่ไปเลย เค้าสงสัยว่าน่าจะเป็นรถค้างสต็อกมากกว่า
เราคิดตามแล้วก็เออ จริงหว่ะ ใจเลยเริ่มไม่ค่อยดี ไลน์ไปถามเซลล์ว่าวันรับรถจะเช็คยังไงว่า รถผลิตปีไหน 

เซลล์ก็รีบโทรมาหาเรา เพิ่งเช็คสต็อกรถในกรุงเทพ ปรากฏว่ารถเพิ่งผลิตล่าสุดเลย ตุลา2020 ครับ แล้วก็พูดเรื่องผ่านมาตรฐาน มีตัวชี้วัดก่อนส่งมอบ ไรงี้เก็บในสต็อกอย่างดี บลาๆๆ บอกว่าลูกค้าสบายใจได้
 
ตอนนั้นในใจเราโกรธมาก คือระยะเวลาก็ไม่ได้เก่าอะไรขนาดนั้น เรารับได้ แต่ว่า เรารุ้สึกโมโหที่ไม่บอกความจริงเราตั้งแต่ต้น ละเค้าจะไม่รู้จริงๆเหรอว่ามันไม่มีผลิตปีนี้ เค้าเป็นเซลล์ขายยี่ห้อนี้นะ จะมาอ้างว่าเพิ่งรุ้พร้อมเรา เรารับไม่ได้อ่ะ ต่อให้มันเป็นความจริงเราก็ไม่โอเคอยู่ดี ในแง่ความรู้สึกเค้าไม่มีความจริงใจต่อลูกค้าเลย แม้แต่ข้อมูลข้อเท็จจริงก็บิดเบือนแล้ว ซึ่งมันส่งผลต่อการตัดสินใจในการซื้อของเรานะ ถ้าเรารุ้ว่าเป็นรถเก่าผลิตปีที่แล้ว เราอาจจะเปลี่ยนไปดูแบรนด์อื่นเลยก็ได้ ที่เป็นรถใหม่ ที่มีเซฟตี้พอๆกัน

แต่ว่าเราเป็นคนขี้เกรงใจ ตอนนั้นที่คุยกะเซลล์เราไม่ได้ว่าอะไรเค้า ก็บอกว่าโอเคๆ แล้วก็วางสายไปคุยกับที่บ้านก่อน เพราะตอนนั้นเรากลัวเราเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ละด่าเค้าออกไป

ซึ่งหลังจากปรึกษาที่บ้านแล้วเสียงก็แตกออกเป็นสองทาง

หนึ่ง ทางพี่ชาย ไม่ยอม บอกว่าเขามาทำอย่างนี้ไม่ถูก ถ้ายังจะเอารถคันนี้ให้ขอส่วนลดเพิ่ม  หรือเปลี่ยนแบรนด์ เปลี่ยนรุ่นไปเลย เอาเงินจองคืน

ส่วนทางพ่อแม่ บอกว่าถ้าเอารถคันนี้ ก็ไม่ต้องไปต่อราคาอะไรเพิ่มแล้ว เพราะส่วนลดที่ได้ก็เยอะระดับนึงแล้ว คีพความสัมพันธ์กับเซลล์ไว้ดีกว่า อนาคตก็คงต้องซ่อมศูนย์นี้ อย่าไปทำอะไรให้แตกหักหรือร้าวฉานเพิ่มเลย ปล่อยๆไป เราก็จะได้รีบมีรถใช้(แต่เราไม่ได้รีบขนาดนั้นนะ) เพราะศุนย์ทางนี้ก็ไม่ได้ใหญ่อะไร มาจิ้นไม่เยอะ(จากที่เซลล์บอก) ละเซลล์ก็บอกว่าถ้าลูกค้ายังเอาคันนี้ ยังไงก็ลดเพิ่มไม่ได้แล้ว 

ตอนนี้เราโทรไประงับไฟแนนซ์ไม่ให้ดำเนินการต่อแล้ว มีแค่เงินจอง 5000 ที่ต้องทำเรื่องขอคืนถ้าไม่เอาแล้ว ซึ่งถ้าทำเรื่องจริงก็น่าจะได้คืน เพราะรถไม่ตรงกับเงื่อนไขในใบจองเพราะมีเขียนชัดเจนว่าผลิต 2021 

แต่ใจเราก็คือเหนื่อยแล้ว เอาคันนี้ไปแหละ แต่ใจมันรุ้สึกไม่ค่อยโอเคกับเซลล์ อยากได้ส่วนลดเพิ่มมาปลอบขวัญอีกหน่อย คือไม่ได้ก็ไม่ได้อะไรอ่ะ แต่มันหงุดหงิด แต่ถ้าคิดในมุมมองที่พ่อแม่บอกก็ใช่ แต่เซลล์เขาจะมีผลกับตอนรถเราเข้าศุนย์ขนาดนั้นเลยเหรอ คีพความสัมพันธ์กับเซลล์ไว้ เซลล์ได้กำไรบ้าง แต่ก็อยากให้บทเรียนเค้าเหมือนกันว่า จะมาทำแบบนี้กับลูกค้า แล้วจะหยวนๆเหรอ พี่ที่ทำงานแนะนำว่าถ้าสุดท้ายเค้าไม่ให้ให้โทรไปร้องเรียนที่ศุนย์ใหญ่เลย เพราะหลักฐานทางเราชัดเจน

จริงๆที่อื่นให้ใบเสนอราคาดีกว่านี้อีกนิดหน่อย แต่เราก็ไม่ได้ให้ที่นี่ดูเพราะว่าที่นี่ใกล้บ้านสุด กลัวเค้าไม่ไหว อยากซื้อใกล้บ้าน(ความต้องการพ่อแม่)

เพื่อนๆพี่ๆคิดว่าทำยังไงกันบ้างคะ แตกหักกับเซลล์ ขอส่วนลดเพิ่มเลยดีไหม ซึ่งถ้าขอเพิ่มจริงๆเราก็ว่าเพิ่มได้ แต่ก็หลักพัน ประมาณ 3000-5000ไรงี้
ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ คือเราใหม่จริงๆ ที่บ้านก็ไม่มีประสบการณ์ซื้อรถป้ายแดงเลย