เราอายุ 30 ปีค่ะ คบกับแฟนคนแรกและคนเดียวตั้งแต่สมัยเรียน จนมาวันนี้สิบกว่าปีแล้ว เรารู้สึกอะไรหลายๆอย่างที่ตอนนี้ตีกันในหัวมากๆ และมีความรู้สึกว่าอยากหยุดความสัมพันธ์ไว้เท่านี้ เพราะเรารู้สึกไม่มั่นใจและไม่มั่นคงจากเค้า เช่น
- ภาวะความเป็นผู้นำ หลายครั้งที่เราเป็นฝ่ายให้คำแนะนำ เวลาเขาจะทำอะไร จะซื้อ จะตัดสินใจอะไร เราต้องคอยบอกคอยเตือนเสมอ ตัวเราก็หวังดีกับเขานะคะ จนบางครั้งผลการตัดสินใจของเค้ามันดูผิดพลาด ทั้งที่เราบอกเราเตือน ไม่ฟัง จนปัญหาเกิดขึ้น แบบนี้มันดูกลายเป็นว่าเราล้ำเส้น หรือควบคุมมากไปไหม
- เรื่องหน้าที่การงาน ความมั่นคง ตัวเราก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขาค่ะ ทำงานบริษัทเหมือนกัน แต่บริษัทเรายังพอโอเค เงินเดือนยังมีให้ แต่บริษัทแฟนตอนนี้ไม่มีงานเลย และแฟนก็ไม่คิดกระตือรือร้นจะดูที่ใหม่ หรือรับจ็อบอะไรเสริม หรือพยายามขวนขวายบ้าง ส่งลิงก์สมัครงานไปให้ดูก็ไม่สนใจ เราเลยรู้สึกว่าเขาไม่พยายามเลย เหมือนอยู่ไปให้ผ่านแต่ละวันไป
- ฐานะทางการเงิน ตัวเราเองเงินเดือนมากกว่าแฟนประมาณเกือบครึ่ง และพยายามเก็บเงินร่วมกัน เพื่อที่จะได้ทำพิธีสู่ขอกันให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่หลังๆมาการเงินเขาติดขัด เงินเดือนลดลง บวกกับไม่มีงานในช่วงโควิดนี้ แฟนเลยเริ่มมายืมเงินเราบ่อยครั้ง จ่ายค่าส่วนกลางบ้าง ค่ารถมอไซค์บ้าง เราก็เห็นใจนะคะให้ยืมไปไม่ติดอะไร แต่มันกลายเป็นความคิดว่า ของอย่างอื่นที่ไม่จำเป็นเขาซื้อได้ พยายามหาทางซื้อมาจนได้ แต่เรื่องจำเป็นในชีวิตความเป็นอยู่กลับจัดการไม่ได้ คบกันมาเป็นสิบกว่าปี เคยนั่งมอไซค์ยังไงเราก็ยังนั่งอยู่แบบนั้น ซึ่งเราก็ไม่ติดอะไรเพราะก็นั่งมาได้จนขนาดนี้แล้ว แต่มันมีฟีลลิ่งแบบเหนื่อย อยากนั่งรถบ้าง ได้คุยกันได้ไปเที่ยวบ้าง แบบนี้เราดูเห็นแก่เรื่องเงินมากไปไหม ? เรามีรถคันนึงซึ่งบางทีเราก็ขับของเราไปเองและให้เขาลองขับมาส่งบ้าง แต่เค้าก็ต้องแทกซี่กลับ หรือไม่งั้นก็คือกลับมอไซค์กับเค้านั่นแหละค่ะ หรือต่างคนต่างกลับ
- การเข้าหาผู้ใหญ่ แฟนเราไม่เคยมีความคิดที่อยากจะมาทำความรู้จักที่บ้านเราเลย ถ้าเราไม่เกริ่นไม่ถามว่ายังไงดี มามั้ย แฟนก็ไม่กล้า บอกกลัวทำตัวไม่ถูก (แม่เราเคยรู้ว่าคบกันตอนเรียนเลยไม่โอเคกับแฟนตั้งสมัยนั้น ซึ่งตอนนี้แม่เราก็เปิดรับมากขึ้นแล้ว เพราะเราโตขึ้นแล้วเลยไม่ติดอะไร) คือถ้าเราไม่พูดอะไร ก็ดูเหมือนเขาไม่พยายามทำให้เห็นเลยว่าเขาอยากใช้ชีวิตกับเรา อยากมาทำให้มันถูกต้อง
- ความต่างเรื่องความคิดการใช้ชีวิต เคยรู้สึกไหมคะว่าบางทีกับคนใกล้ตัวที่เห็นที่คบกันมานาน แต่จะให้มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยจริงๆ คงไม่เอา ตอนนี้เรามีความคิดแบบนี้จริง ๆ เพราะหลายอย่าง เช่น ความสะอาด ความเป็นระเบียบ ถ้าเวลาเราไปหาเค้าที่คอนโด เราจะต้องไปคอยเก็บทำความสะอาดต่างๆให้ อาจจะเป็นเพราะเราถูกปลูกฝังและคุ้นชินเรื่องพวกนี้มาแต่เด็ก เห็นครงไหนไม่โอเคเราก็ทำให้เลย ไม่บ่น เพราะมันก็คงดีกับเค้าเหมือนกัน แต่ตัวเค้าก็ไม่ค่อยปรับปรุงเรื่องนี้เลย ไปทีไรเหมือนเดิมตลอด เราดูเยอะเกินไปไหมคะ ? หรือมันคือเรื่องปกติของผู้ชายที่อาจจะไม่ได้ทุกกระเบียดนิ้วแบบผู้หญิงเหมือนเรา
- ความต่างเรื่องความคิด บางเรื่องเราจะคิดไปข้างหน้าและวางแผน เช่น ถ้ามีลูกเราจะต้องเลี้ยงยังไงค่าใช้จ่ายเท่าไหร่บ้าง แต่เค้าเหมือนจะคิดถอยกลับไป หรือไม่แสดงให้เห็นว่าต้องพร้อม ต้องเตรียมตัว วางแผนให้มากกว่านี้ อารมณ์เหมือนมีเท่านี้ ประมาณนี้เพียงพอแล้ว เค้าเคยถามเราว่าถ้าให้มาอยู่กับเค้าที่คอนโดพอจะอยู่ได้ไหม เหมือนว่าเค้ามีแล้วนะ แต่มีเท่านี้ ซึ่งเราบอกไปตรงๆเลยว่าเราอยู่ไม่ได้ เพราะห้องเดินกันสองคนก็ชนกันแล้ว และเราชินกับการอยู่บ้านเป็นหลัง ซึ่งเค้าก็เงียบไป
การทำหน้าที่แฟนเค้าดีมากๆค่ะ ดูแลเป็นห่วงเป็นใยตลอดเสมอมาและไม่เคยเปลี่ยน
จากที่พิมพ์มา เราดูมีความคิดที่เห็นแก่ตัวหรือซีเรียสมากไปไหม ? คือเรายอมรับเลยว่าหากเราต้องแต่งงานลงหลักกับใครสักคน คนนั้นน่าจะเป็นที่พึ่ง เป็นผู้นำ ให้ความช่วยเหลือกันและกันให้ชีวิตคู่มันไปได้อย่างมั่นคง เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมาเราไม่เคยถูกใครดูเเลเลย ดูแลและคอยแต่จัดการให้แต่คนอื่นมาโดยตลอด มันเกี่ยวกันไหมคะว่าเราเหนื่อย และคิดจะรักสบาย หรือคาดหวังอะไรจากแฟนมากเกินไป
คบกันมาสิบกว่าปี ยังอยู่ที่เดิมและคิดไม่ตกหากต้องใช้ชีวิตร่วมกัน
- ภาวะความเป็นผู้นำ หลายครั้งที่เราเป็นฝ่ายให้คำแนะนำ เวลาเขาจะทำอะไร จะซื้อ จะตัดสินใจอะไร เราต้องคอยบอกคอยเตือนเสมอ ตัวเราก็หวังดีกับเขานะคะ จนบางครั้งผลการตัดสินใจของเค้ามันดูผิดพลาด ทั้งที่เราบอกเราเตือน ไม่ฟัง จนปัญหาเกิดขึ้น แบบนี้มันดูกลายเป็นว่าเราล้ำเส้น หรือควบคุมมากไปไหม
- เรื่องหน้าที่การงาน ความมั่นคง ตัวเราก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขาค่ะ ทำงานบริษัทเหมือนกัน แต่บริษัทเรายังพอโอเค เงินเดือนยังมีให้ แต่บริษัทแฟนตอนนี้ไม่มีงานเลย และแฟนก็ไม่คิดกระตือรือร้นจะดูที่ใหม่ หรือรับจ็อบอะไรเสริม หรือพยายามขวนขวายบ้าง ส่งลิงก์สมัครงานไปให้ดูก็ไม่สนใจ เราเลยรู้สึกว่าเขาไม่พยายามเลย เหมือนอยู่ไปให้ผ่านแต่ละวันไป
- ฐานะทางการเงิน ตัวเราเองเงินเดือนมากกว่าแฟนประมาณเกือบครึ่ง และพยายามเก็บเงินร่วมกัน เพื่อที่จะได้ทำพิธีสู่ขอกันให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่หลังๆมาการเงินเขาติดขัด เงินเดือนลดลง บวกกับไม่มีงานในช่วงโควิดนี้ แฟนเลยเริ่มมายืมเงินเราบ่อยครั้ง จ่ายค่าส่วนกลางบ้าง ค่ารถมอไซค์บ้าง เราก็เห็นใจนะคะให้ยืมไปไม่ติดอะไร แต่มันกลายเป็นความคิดว่า ของอย่างอื่นที่ไม่จำเป็นเขาซื้อได้ พยายามหาทางซื้อมาจนได้ แต่เรื่องจำเป็นในชีวิตความเป็นอยู่กลับจัดการไม่ได้ คบกันมาเป็นสิบกว่าปี เคยนั่งมอไซค์ยังไงเราก็ยังนั่งอยู่แบบนั้น ซึ่งเราก็ไม่ติดอะไรเพราะก็นั่งมาได้จนขนาดนี้แล้ว แต่มันมีฟีลลิ่งแบบเหนื่อย อยากนั่งรถบ้าง ได้คุยกันได้ไปเที่ยวบ้าง แบบนี้เราดูเห็นแก่เรื่องเงินมากไปไหม ? เรามีรถคันนึงซึ่งบางทีเราก็ขับของเราไปเองและให้เขาลองขับมาส่งบ้าง แต่เค้าก็ต้องแทกซี่กลับ หรือไม่งั้นก็คือกลับมอไซค์กับเค้านั่นแหละค่ะ หรือต่างคนต่างกลับ
- การเข้าหาผู้ใหญ่ แฟนเราไม่เคยมีความคิดที่อยากจะมาทำความรู้จักที่บ้านเราเลย ถ้าเราไม่เกริ่นไม่ถามว่ายังไงดี มามั้ย แฟนก็ไม่กล้า บอกกลัวทำตัวไม่ถูก (แม่เราเคยรู้ว่าคบกันตอนเรียนเลยไม่โอเคกับแฟนตั้งสมัยนั้น ซึ่งตอนนี้แม่เราก็เปิดรับมากขึ้นแล้ว เพราะเราโตขึ้นแล้วเลยไม่ติดอะไร) คือถ้าเราไม่พูดอะไร ก็ดูเหมือนเขาไม่พยายามทำให้เห็นเลยว่าเขาอยากใช้ชีวิตกับเรา อยากมาทำให้มันถูกต้อง
- ความต่างเรื่องความคิดการใช้ชีวิต เคยรู้สึกไหมคะว่าบางทีกับคนใกล้ตัวที่เห็นที่คบกันมานาน แต่จะให้มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยจริงๆ คงไม่เอา ตอนนี้เรามีความคิดแบบนี้จริง ๆ เพราะหลายอย่าง เช่น ความสะอาด ความเป็นระเบียบ ถ้าเวลาเราไปหาเค้าที่คอนโด เราจะต้องไปคอยเก็บทำความสะอาดต่างๆให้ อาจจะเป็นเพราะเราถูกปลูกฝังและคุ้นชินเรื่องพวกนี้มาแต่เด็ก เห็นครงไหนไม่โอเคเราก็ทำให้เลย ไม่บ่น เพราะมันก็คงดีกับเค้าเหมือนกัน แต่ตัวเค้าก็ไม่ค่อยปรับปรุงเรื่องนี้เลย ไปทีไรเหมือนเดิมตลอด เราดูเยอะเกินไปไหมคะ ? หรือมันคือเรื่องปกติของผู้ชายที่อาจจะไม่ได้ทุกกระเบียดนิ้วแบบผู้หญิงเหมือนเรา
- ความต่างเรื่องความคิด บางเรื่องเราจะคิดไปข้างหน้าและวางแผน เช่น ถ้ามีลูกเราจะต้องเลี้ยงยังไงค่าใช้จ่ายเท่าไหร่บ้าง แต่เค้าเหมือนจะคิดถอยกลับไป หรือไม่แสดงให้เห็นว่าต้องพร้อม ต้องเตรียมตัว วางแผนให้มากกว่านี้ อารมณ์เหมือนมีเท่านี้ ประมาณนี้เพียงพอแล้ว เค้าเคยถามเราว่าถ้าให้มาอยู่กับเค้าที่คอนโดพอจะอยู่ได้ไหม เหมือนว่าเค้ามีแล้วนะ แต่มีเท่านี้ ซึ่งเราบอกไปตรงๆเลยว่าเราอยู่ไม่ได้ เพราะห้องเดินกันสองคนก็ชนกันแล้ว และเราชินกับการอยู่บ้านเป็นหลัง ซึ่งเค้าก็เงียบไป
การทำหน้าที่แฟนเค้าดีมากๆค่ะ ดูแลเป็นห่วงเป็นใยตลอดเสมอมาและไม่เคยเปลี่ยน
จากที่พิมพ์มา เราดูมีความคิดที่เห็นแก่ตัวหรือซีเรียสมากไปไหม ? คือเรายอมรับเลยว่าหากเราต้องแต่งงานลงหลักกับใครสักคน คนนั้นน่าจะเป็นที่พึ่ง เป็นผู้นำ ให้ความช่วยเหลือกันและกันให้ชีวิตคู่มันไปได้อย่างมั่นคง เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมาเราไม่เคยถูกใครดูเเลเลย ดูแลและคอยแต่จัดการให้แต่คนอื่นมาโดยตลอด มันเกี่ยวกันไหมคะว่าเราเหนื่อย และคิดจะรักสบาย หรือคาดหวังอะไรจากแฟนมากเกินไป