เราเป็นพนักงานเอกชน รายรับเดือนนึง ประมาณ 30-40k
เราอาศัยอยู่กับแม่ เมื่อปีที่แล้วเราได้สร้างหนี้ก่อนใหญ่
ตัดสินใจผ่อนบ้านผ่อนรถ และเราก็จ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมดในบ้าน
พูดตรงๆว่าเงินเดือนก็เหลือไม่พอจะให้แม่มากมายอะไร
ก็ให้ติดไว้ใช้แค่เดือนละ 3,000
เราซื้อกับข้าวเข้าบ้าน แม่อยากกินอะไรซื้อให้ อยากได้ของใช้อะไรซื้อให้
ตอนนี้แม่ไม่ได้ทำงานอะไรแล้ว แกอายุ58 ร่างกายก็ไม่ได้แข็งแรงเท่าไหร่
เรายอมรับว่างานบ้านส่วนใหญ่แม่เป็นคนทำเพราะแกอยู่บ้านตลอด
เรารู้ว่าสิ่งที่เราให้แกไม่ได้มากมายอะไรเลย เพราะภาระค่าใช้จ่ายเราเยอะ
ทีนี้ ด้วยความที่แม่คงคิดว่าอยากมีเงินใช้เป็นของตัวเอง
แกก็พยายามหาอะไรทำ แต่ว่าทุกอย่างที่แกทำมันมักจะยืนระยะไม่ได้และเป็นเราที่เจ็บตัว
เริ่มจากขายผัดไทในหมู่บ้าน เราก็ลงทุนของ วัตถุดิบให้ มันก็ใช่ว่าจะขายดี
และเป็นเราเองที่ไม่สู้ทุนยืนระยะให้แก เช่นขายได้ 2 อาทิตย์ ขาดทุนเข้าเนื้อเราเราก็หว่านล้อมให้แกเลิกขาย
หลังจากนั้นแกก็มาคุยว่าอยากทำน้ำพริกขายให้เราลงทุนให้ ทำเพจเฟสให้ เราก็บ่ายเบี่ยงเพราะค่าใช้จ่ายก็ตึงมือ
เราก็ยอมรับว่าแกอยากหาอะไรทำตลอดแต่เราไม่ค่อยสนับสนุนแก
หลังจากนั้นแกก็เริ่มไปหางานหาธุรกิจ ในเฟส ที่โม้ว่าได้เดือนเป็นแสนมั่งไรมั่ง ส่วนใหญ่เป็นเครือข่าย เรารู้สึกเป็นห่วงมาก
เพราะเราจะมีจี้ถามบ้างว่าจะไปทำกับที่ไหน แบรนด์อะไร เราก็จะเอาชื่อมาหาในกระทู้พันทิป ส่วนใหญ่ก็หลอกลวง
ดีหน่อยที่แกไม่ได้มีเงินคล่องอะไรมาก เวลาทำอะไรหรือเริ่มต้นแกเลยต้องมาคุยเพื่อให้เราช่วยลงทุนก่อน
เราคิดในใจว่าถ้าแกมีตังก้อนใหญ่คงทุ่มไปเยอะแล้ว
เวลาเราอยู่ในบ้านได้ยินแกเปิดลำโพงมือถือฟังประชุมกรุ๊ปไลน์ ของเครือข่ายธุรกิจต่างๆ เสียงดังทุกๆวัน เรารู้สึกกังวล
ไม่อยากให้แกไปยุ่งเกี่ยว เหมือนแกพยายามให้เราฟังแล้วคล้อยตาม
เราขอย้อนไปเมื่อตอนสมัยเราเด็กและวัยรุ่น แกก็ทำขายตรงมาหลายแบรนด์ แกจะพาเราไปประชุมที่ต่างๆ
ไปทำกิจกรรมให้เราซึมซับ แกชอบงานสร้างฝัน แกก็ประคองตัวรวมกับงานประจำกัดฟันส่งเราเรียนมาได้
แต่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จในงานขายตรงเครือข่ายพวกนั้น เราไม่ได้ดูถูกงานนี้นะคะ เพราะผู้สำเร็จก็มี
แต่เรารู้สึกไม่ค่อยชอบ เพราะมันจะมีเป็นระยะที่แกก็บังคับให้เราไปซื้อของเหล่านั้นมาใช้ในบ้าน
ซึ่งราคาก็ค่อนข้างสูง ถ้าเทียบกับของคุณภาพที่เราค้นหารีวิว ละหาราคาที่ดีที่สุดในแอปชอปปี้ซื้อมา
สุดท้ายเราอยากถามทุกคนว่าเราเห็นแก่ตัวไปไหมคะกับความรู้สึกนี้
เพราะเราให้เงินแม่ใช้ก็น้อย
พอแม่จะขอทำธุรกิจก็ไม่อยากสนับสนุน ทั้งที่ใจจริงแกอยากหาทางช่วยเหลือค่าใช้จ่ายเราค่ะ
แต่เราก็กังวลว่าแกจะโดนหลอก หรือเสียเงินเสียทองเสียเวลาเปล่า
เราเห็นแก่ตัวมั้ยที่หวังให้แกอยู่เฉยๆดูหนังดูละคร ว่างๆก็กวาดบ้านถูพื้นแก้เหงาไปเฉยๆ
ทุกคนช่วยชี้แนะแนวทางให้เราด้วยค่ะ
ส่วนตัวของเราเอง เราก็มองเรื่องหารายได้เสริมอยู่บ้างค่ะ
แต่นิสัยเราก็คือยังไม่เริ่มทำสักที
เราขี้ขลาดเกินไปมั้ยคะ
แม่อยากมีรายได้ แต่เราไม่อยากให้แม่เราทำ
เราอาศัยอยู่กับแม่ เมื่อปีที่แล้วเราได้สร้างหนี้ก่อนใหญ่
ตัดสินใจผ่อนบ้านผ่อนรถ และเราก็จ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมดในบ้าน
พูดตรงๆว่าเงินเดือนก็เหลือไม่พอจะให้แม่มากมายอะไร
ก็ให้ติดไว้ใช้แค่เดือนละ 3,000
เราซื้อกับข้าวเข้าบ้าน แม่อยากกินอะไรซื้อให้ อยากได้ของใช้อะไรซื้อให้
ตอนนี้แม่ไม่ได้ทำงานอะไรแล้ว แกอายุ58 ร่างกายก็ไม่ได้แข็งแรงเท่าไหร่
เรายอมรับว่างานบ้านส่วนใหญ่แม่เป็นคนทำเพราะแกอยู่บ้านตลอด
เรารู้ว่าสิ่งที่เราให้แกไม่ได้มากมายอะไรเลย เพราะภาระค่าใช้จ่ายเราเยอะ
ทีนี้ ด้วยความที่แม่คงคิดว่าอยากมีเงินใช้เป็นของตัวเอง
แกก็พยายามหาอะไรทำ แต่ว่าทุกอย่างที่แกทำมันมักจะยืนระยะไม่ได้และเป็นเราที่เจ็บตัว
เริ่มจากขายผัดไทในหมู่บ้าน เราก็ลงทุนของ วัตถุดิบให้ มันก็ใช่ว่าจะขายดี
และเป็นเราเองที่ไม่สู้ทุนยืนระยะให้แก เช่นขายได้ 2 อาทิตย์ ขาดทุนเข้าเนื้อเราเราก็หว่านล้อมให้แกเลิกขาย
หลังจากนั้นแกก็มาคุยว่าอยากทำน้ำพริกขายให้เราลงทุนให้ ทำเพจเฟสให้ เราก็บ่ายเบี่ยงเพราะค่าใช้จ่ายก็ตึงมือ
เราก็ยอมรับว่าแกอยากหาอะไรทำตลอดแต่เราไม่ค่อยสนับสนุนแก
หลังจากนั้นแกก็เริ่มไปหางานหาธุรกิจ ในเฟส ที่โม้ว่าได้เดือนเป็นแสนมั่งไรมั่ง ส่วนใหญ่เป็นเครือข่าย เรารู้สึกเป็นห่วงมาก
เพราะเราจะมีจี้ถามบ้างว่าจะไปทำกับที่ไหน แบรนด์อะไร เราก็จะเอาชื่อมาหาในกระทู้พันทิป ส่วนใหญ่ก็หลอกลวง
ดีหน่อยที่แกไม่ได้มีเงินคล่องอะไรมาก เวลาทำอะไรหรือเริ่มต้นแกเลยต้องมาคุยเพื่อให้เราช่วยลงทุนก่อน
เราคิดในใจว่าถ้าแกมีตังก้อนใหญ่คงทุ่มไปเยอะแล้ว
เวลาเราอยู่ในบ้านได้ยินแกเปิดลำโพงมือถือฟังประชุมกรุ๊ปไลน์ ของเครือข่ายธุรกิจต่างๆ เสียงดังทุกๆวัน เรารู้สึกกังวล
ไม่อยากให้แกไปยุ่งเกี่ยว เหมือนแกพยายามให้เราฟังแล้วคล้อยตาม
เราขอย้อนไปเมื่อตอนสมัยเราเด็กและวัยรุ่น แกก็ทำขายตรงมาหลายแบรนด์ แกจะพาเราไปประชุมที่ต่างๆ
ไปทำกิจกรรมให้เราซึมซับ แกชอบงานสร้างฝัน แกก็ประคองตัวรวมกับงานประจำกัดฟันส่งเราเรียนมาได้
แต่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จในงานขายตรงเครือข่ายพวกนั้น เราไม่ได้ดูถูกงานนี้นะคะ เพราะผู้สำเร็จก็มี
แต่เรารู้สึกไม่ค่อยชอบ เพราะมันจะมีเป็นระยะที่แกก็บังคับให้เราไปซื้อของเหล่านั้นมาใช้ในบ้าน
ซึ่งราคาก็ค่อนข้างสูง ถ้าเทียบกับของคุณภาพที่เราค้นหารีวิว ละหาราคาที่ดีที่สุดในแอปชอปปี้ซื้อมา
สุดท้ายเราอยากถามทุกคนว่าเราเห็นแก่ตัวไปไหมคะกับความรู้สึกนี้
เพราะเราให้เงินแม่ใช้ก็น้อย
พอแม่จะขอทำธุรกิจก็ไม่อยากสนับสนุน ทั้งที่ใจจริงแกอยากหาทางช่วยเหลือค่าใช้จ่ายเราค่ะ
แต่เราก็กังวลว่าแกจะโดนหลอก หรือเสียเงินเสียทองเสียเวลาเปล่า
เราเห็นแก่ตัวมั้ยที่หวังให้แกอยู่เฉยๆดูหนังดูละคร ว่างๆก็กวาดบ้านถูพื้นแก้เหงาไปเฉยๆ
ทุกคนช่วยชี้แนะแนวทางให้เราด้วยค่ะ
ส่วนตัวของเราเอง เราก็มองเรื่องหารายได้เสริมอยู่บ้างค่ะ
แต่นิสัยเราก็คือยังไม่เริ่มทำสักที
เราขี้ขลาดเกินไปมั้ยคะ