ผู้ชายแบบนี้เป็นคนยังงัย คิดว่าเป็นคนประหลาดเกินไปมั้ย ถ้าจะใช้ชีวิตอยู่ด้วย

ผู้ชายแบบนี้เป็นคนยังงัย คิดว่าเป็นคนประหลาดเกินไปมั้ย ถ้าจะใช้ชีวิตอยู่ด้วย เค้าอายุ 39

-ข้อดีที่เห็นชัดคือ
ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่
ไม่เล่นการพนัน
ไม่เที่ยวกลางคืน
ไม่เจ้าชู้ ไม่มีเรื่องผู้หญิง
ในหัวคิดเรื่องสร้างธุรกิจตลอดเวลา

ทำงานเก่ง สร้างระบบเก่ง
ทำเป็นทุกอย่างแบบที่ผู้ชายควรเป็น
ใจดีกับลูกน้องมากกก ลูกน้องรัก และเกรงกลัว นับถือ
ดูคนเก่ง มองคนออก ไม่ต้องรู้จัก ก็ดูออกว่าคนนั้นนิสัยยังงัย
รักเมียมาก รักลูกมาก รักครอบครัว เค้าบอกครอบครัว คือ อันดับ 1 คือสนใจครอบครัวมากกว่างานค่ะ หลายๆเรื่อง ถ้าครอบครัวมาก่อน เขายอมทิ้งงาน

-นิสัยประหลาดคือ
ไม่คบเพื่อน มีเพื่อน แต่ไม่ค่อยสนใจ
ไม่ชอบสังคม ไม่ไปงานสังสรรค์
งานแต่ง งานศพญาติ งานอะไร ก็ไม่ไป และไม่สน ว่าใครจะว่ายังงัย

ไม่เคยพาเข้าโรงหนัง เขาชอบดูเนตฟลิกที่บ้าน บ้าเครื่องเสียง บอกว่าจะทำบ้านให้เป็นโรงหนังเอง
ไม่เที่ยวที่มีคนเยอะๆ ชอบเที่ยววันธรรมดา เสาร์อาทิตย์จะไม่ยอมไปเลย วันหยุดเทศกาลอย่าได้หวัง
เวลาไปกินข้าว ถ้าร้านอาหารดังๆ จะไม่ยอมไปกินเด็ดขาด ต้องหาร้านบ้านๆ ต้องเจ้าของร้านทำเองเท่านั้น
เป็นคนคิดเยอะมาก เรื่องหลายๆเรื่อง คิดลงไปลึกถึงรายละเอียดชั้นเซลล์  
ถ้าปกติ เป็นคนใจดี แต่ถ้าโกรธใคร จะใจร้ายมาก เป็นคนโหด ประมานว่าถ้าแค้นใคร อาจฆ่าได้เลย แต่ยังไม่เคยเห็นทำนะ 555

เป็นพวกขี้เกรงใจสาธารณะ แต่ไม่สนคนข้างตัว เช่นจอดรถข้างทาง ถ้าแถวนั้นมีคนนั่งอยู่ จะต้องดับรถตลอด คนในรถจะร้อนยังงัย ก็ไม่สน
ขับรถต้องยอมคันอื่นตลอด ถ้ามีใครขอเบี่ยงเลน จะให้ทุกครั้ง ถ้าอะไรที่มันเป็นสาธารณะ จะเป็นพวกยอมให้คนอื่นก่อนในทุกเรื่องค่ะ
ไม่เคยต่อคิว ซื้อของ ถ้าต้องไปยืนต่อคิว คือไม่ซื้อ ประมานว่าไปไหนด้วยกัน จะเห็นเข้าเซเว่น ปีละครั้ง
เวลาซื้อของ ถ้าเจ้าของร้านขายเอง เขาจะไม่ต่อราคา แต่จะแถมเงินให้

เวลาไปเที่ยว จะนอนโรงแรมเดิมๆซ้ำซาก เป็น 20-30 ครั้ง ไม่เปลี่ยนบรรยากาศที่อื่นเลย ไม่นอนโรงแรมฮิตดังๆ ชอบนอนโรงแรมที่ไม่ค่อยมีคน
เป็นคนเซ้นท์แรงมาก มีสัมผัสที่ 6 ถ้าเจอสถานที่ เจอคน เจอเหตุการณ์อะไรที่มันไม่ดี เค้าจะรับรู้ บางทีก็ดี บางทีก็รู้สึกอยู่ด้วยแล้วขนลุก
หูดีมากเกินคนทั่วไป ไปนอนโรงแรม ถ้ามีนาฬิกาข้างฝา ต้องปีนขึ้นไปแกะถ่านออก ไม่งั้นนอนไม่ได้

-นิสัย
บ้าต้นไม้มาก ชอบมองทรงต้นไม้ข้างทาง ทรงสวยๆ จะถูกใจมาก
บ้าการแต่งบ้านค่ะ ชอบของกระจุ้กกะจิ้ก มาแต่งบ้าน รสนิยมเค้าดีค่ะ ชอบทำบรรยากาศโรแมนติก เลือกของเก่ง
รักหมามาก เวลาคุยกับหมา เค้าชอบทำเสียงเด็กต๊องๆ แบบคุยกับหมารู้เรื่อง ตามใจหมาทุกอย่าง ชอบเอาหมามานอนด้วย เราก็รักหมาค่ะ

เป็นพวกชอบฟังเพลงบรรเลง เพลงแจ๊ส เกลียดเพลงแบบมีคนร้อง เค้าบอกรำคาญเนื้อหา
ไม่ดูทีวี ไม่ตามข่าว แต่รู้ทุกเรื่อง ที่บ้านไม่มีดาวเทียม ดูทุกอย่างผ่านยูทูป แต่ชอบหาละคร ให้เราดู ดูทุกคืนค่ะ
ชอบเที่ยวภาคเหนือเป็นชีวิตจิตใจ ชอบขับรถเล่น

ถ้าเป็นคุณต้องใช้ชีวิตกับผู้ชายแบบนี้ ควรจะคิดแบบไหนดี
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
เราอ่านดูแล้วก็เป็นคนปกติค่ะ ไม่ได้ประหลาดอะไร
เราก็เป็นแบบนั้นเกือบหมด

แค่ไม่ได้ขนาดต้องปีนไปแกะถ่านนาฬิกาออก หรือไม่ไปที่ที่เขาฮิตกันเลย
เราไปบ้างนะ แต่ส่วนใหญ่เลือกไปที่ที่คนน้อย ไปวันที่คนน้อย
งานสังคมที่จำเป็นต้องไปเราก็ไป แต่งานที่ไม่จำเป็นก็คือไม่ไป

ถ้าถามว่าผู้ชายที่ จขกท เล่ามาเป็นยังไง
เราว่าเขาเป็นคนปกติ ที่ขี้รำคาญและสุดโต่งไปบ้าง ไม่ถือว่าประหลาดนะคะ
ความคิดเห็นที่ 3
ไม่ได้ประหลาดหรอกครับ

แค่มีโลกส่วนตัว กรอบส่วนตัวที่ค่อนข้างสูงและชัดเจน
และจะยึดตรึงและ ตึง กับกรอบนั้นๆของตัวเองในแต่ละเรื่อง
ยึดมั่นถือมั่นในแนวคิดของตัวเองและ..ไม่สนโลก
คือ ขาดความยืดหยุ่น
แต่เค้าก็จะพอใจ สบายใจ ในชีวิตตัวเองที่ได้ยึดกรอบนั้นๆไว้

การจะใช้ชีวิตกับคนแบบนี้...คุณต้องเข้าใจเค้ามากๆ และยอมรับในตัวตนนี้ของเค้า
เพราะเป็นเรื่องยากมากๆๆๆๆๆๆๆๆที่เค้าจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อใครหรืออะไร
คุณต้องฟังเพลงแจสไม่มีคนร้องแบบเค้าได้
ไปนอนโรงแรมเดิมๆกับเค้า
ทนนั่งร้อนๆในรถกับเค้า
ดูเค้าเอาใจหมา
ฯลฯ
โดยไม่ใช่การ..ทน
เพราะไม่อย่างนั้นคุณจะอยู่กับเค้าอย่างไม่มีความสุข และอยู่ได้ไม่นาน

เรื่องเล็กๆสำหรับบางคน ก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับอีกหลายๆคน
หรือแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆเหมือนเสี้ยนตำ แต่ถ้ามันตำทุกวันหรือตำทีเป็นร้อยๆมันก็ไม่ไหวเหมือนกัน
ความคิดเห็นที่ 9
ถ้าให้เขาทำแบบทดสอบ Enneagram test จะได้ type 5 หรือแบบทดสอบบุคลิกภาพ MBTI จะได้ประมาณ INFJ
เป็นคนปกติแต่จะไม่ค่อยมีคนเป็นแบบนี้ก็เลยทำให้ดูประหลาด จะขออธิบายเหตุผลของการกระทำบางอย่างเท่าที่พอจะอธิบายได้

- ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่เจ้าชู้ ไม่มีเรื่องผู้หญิง อันนี้ตอบง่าย ๆ เลยคือมองเป็นการลงทุนลงแรงที่ได้ไม่คุ้มเสีย และไม่รู้จะทำไปทำไมมีแต่เสียกับเสีย

- เรื่องการมองคนเก่งเพราะเขาสังเกตทุกอย่างรอบตัว บางทีคุยกับคนบางคนจะรู้เลยว่าเป็นลูกคนโต คนกลาง คนเล็ก หรือเป็นลูกคนเดียว บางทีก็ร็ว่าพื้นเพมากจากครอบครัวแบบไหน เช่นบางทีก็ทักไปเลยว่าพ่อแม่เป็นครูใช่ไหม สมัยก่อนที่สังคมไม่หลากหลายเท่าปัจจุบันนี้จะทายคนได้แม่นมาก

- เป็นคนมี Empathy สูง แต่ก็มีความส่วนตัวสูงพอ ๆ กัน บางคนไม่ยอมเสียเปรียบถ้าเป็นสิทธิที่ควรได้ แต่ในบางกรณีก็แอบงงที่ยอมให้ทั้ง ๆ ที่ไม่ควรยอม ซึ่งมันเกิดจากลูกคิดในหัวคำนวณแล้วว่าไม่คุ้มที่จะแลก การยอมเสียได้มาซึ่งการมากกว่า

- คราวนี้มาเรื่องประหลาด ไม่คบเพื่อน มีเพื่อน แต่ไม่ค่อยสนใจ ไม่ชอบสังคม ไม่ไปงานสังสรรค์ งานแต่ง งานศพญาติ งานอะไร ก็ไม่ไป และไม่สน ว่าใครจะว่ายังงัย อันนี้เราก็ไม่รู้จะอธิบายยังงัย แต่อยากจะถามกลับว่าคนที่ไปงานเหล่านี้ไปทำไม ไปทำอะไร เพราะไม่มีเราเขาก็ดำเนินการไปได้ เรื่องเพื่อนก็เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าไม่มี ก็พอมีอยู่บ้าง แต่เรื่องเลี้ยงรุ่นอะไรนี่ไม่เข้าใจว่าทำไปเพื่ออะไร รำลึกอะไรกัน

- เป็นพวกขี้เกรงใจสาธารณะ แต่ไม่สนคนข้างตัว เช่นจอดรถข้างทาง ถ้าแถวนั้นมีคนนั่งอยู่ จะต้องดับรถตลอด คนในรถจะร้อนยังงัย ก็ไม่สน
ขับรถต้องยอมคันอื่นตลอด ถ้ามีใครขอเบี่ยงเลน จะให้ทุกครั้ง ถ้าอะไรที่มันเป็นสาธารณะ จะเป็นพวกยอมให้คนอื่นก่อนในทุกเรื่องค่ะ
  อันนี้ตอบสั้น ๆ ว่าเราอยากให้สังคมเป็นแบบไหนเราก็ทำแบบนั้น บางทีก็ภูมิใจเป็นการส่วนตัวที่ทำแบบนี้ เพราะรู้สึกตัวเองมีมาตรฐานที่สูงกว่าคนทั่วไป คนอื่นเป็นงัยฉันไม่รู้ แต่ฉันรู้ว่าสังคมอารยะเขาทำกันแบบนี้และฉันเป็น

- ไม่เคยต่อคิว ซื้อของ ถ้าต้องไปยืนต่อคิว คือไม่ซื้อ ประมานว่าไปไหนด้วยกัน จะเห็นเข้าเซเว่น ปีละครั้ง เวลาซื้อของ ถ้าเจ้าของร้านขายเอง เขาจะไม่ต่อราคา แต่จะแถมเงินให้ เรื่องต่อคิวซื้ออาหาร ความเห็นส่วนตัวคือมีร้านเยอะแยะให้เลือกซื้อแต่จะมาเสียเวลาต่อคิวไปทำไม อาหารรสชาติก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก ส่วนเรื่องต่อราคามีคนพูดกันเยอะแล้วเรื่องต่อราคากับของ 5บาท10บาท แล้วปีๆนึงจะซื้อแค่ครั้งสองครั้ง มองในแง่การลงทุน เงินที่เราต่อราคามันมีมูลค่าน้อยกว่าความอิ่มเอมใจของผู้ขาย

- เวลาไปเที่ยว จะนอนโรงแรมเดิมๆซ้ำซาก เป็น 20-30 ครั้ง ไม่เปลี่ยนบรรยากาศที่อื่นเลย ไม่นอนโรงแรมฮิตดังๆ ชอบนอนโรงแรมที่ไม่ค่อยมีคน ถ้าเคยไปไหนแล้วรู้สึกราบรื่น รู้สึกสนุก ก็จะทำแบบเดิมซ้ำ ๆ ไปเที่ยวก็จะไปแต่เชียงใหม่เพราะไปแล้วมีความสุขก็อยากไปอีก เคยแวะร้านนี้ เคยนอนโรงแรมนี้ ก็จะทำแบบเดิม ๆ  เพราะไม่รู้ว่าจะเสี่ยงไปเจอโรงแรมหรือร้านอาหารที่ไม่โอเคไปทำไม เรารู้ล่วงหน้าแล้วว่ามันโอเคไม่ต้องไปเสี่ยง คือไปแต่ละครั้งก็อยากรู้ด้วยว่ามันเปลี่ยนแปลงไปยังงัย ส่วนเรื่องเซนส์เราไม่มีนอกจากรู้ว่าฝนจะตกหรือไม่ตก อย่างเมฆตั้งเค้ามาแต่ไกล อุตุฯก็บอกตกแน่ ถ้าเรารู้สึก(จากการสังเกต)ว่ามันไม่ตก เราบอกเมียซักผ้าได้เลย มันข้ามไปตกที่อื่นแน่ ๆ เรื่องผีไม่เคยเจอ แต่ถ้าเรารู้สึกว่าคนนี้ไม่น่าจะอยู่ได้เกินปีนี้ ก็เป็นจริง อย่างตอนนี้พ่อตาเราป่วยติดเตียงแม่ยายดูแลอยู่ เราบอกเมียไว้เลยว่าแม่ไปก่อนพ่อแน่นอน เตรียมดูแลพ่อแทนแม่ได้เลย เราสังเกตจากพลังชีวิตของเขาเหมือนเขาเบื่อที่จะอยู่

- เรื่องฟังเพลง อธิบายไม่ได้ แต่เราชอบทำนองมากกว่าเนื้อร้อง เพราะเวลาฟังเพลงที่มีเนื้อเราจะฟังเนื้อหาของเพลงว่าเขาพูดถึงอะไร และเพลงไทยส่วนใหญ่มีเนื้อหาที่เหมือนกัน จริง ๆ เราชอบเพลงเมื่อสมัยตอนเราเก้าขวบ ห้องสีขาว, โอ๊ย ๆ ของพี่แจ้ เริ่มไม่เข้าใจตัวเองที่ทุกคนร้องเพลง เจ เจตรินได้หมดทุกคนตอนกีฬาสีมอสาม เพลงอะไรฟะ เราหลุดวงโคจรเพลงไปตั้งแตตอนนี้  กลับมาฟังอีกทีก็ตอนมหาลัยได้ยินทำนองของพวก World music  Kitaro, Yanni, Enya ก็ฟังอยู่พักนึงแต่ตอนหลังเบื่อแล้วก็ชอบเอามาประกอบธรรมบรรยายก็เลยเลิกฟัง  มีอยู่พักนึงตอนทำงานดึก ๆ ก็ฟังวิทยุจุฬาของคุณสีส้ม (ชอบเสียงบรรยายพอ ๆ กับเพลง) สองปีมานี้ติดฟังดนตรี Lofi ของญี่ปุ่นกับอินเดีย แต่ตอนขับรถชอบฟัง PODCAST ประวัติศาสตร์ อยากฟังคนคุยกันมากกว่าฟังเพลง

- ถ้าต้องใช้ชีวิตกับผู้ชายแบบนี้ ควรจะคิดแบบไหนดี
คิดว่าไม่น่าจะโรแมนติคแต่ก็ไม่มีช่วงหมดโปร  ถ้าวันแรกที่เริ่มรักกันไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม วันต่อไปมันจะไม่ลดลงไปจากนั้น ถ้าคุณสามารถใช้ชีวิตอยู่เองได้โดยไม่ต้องมีเขา การมีเขาจะทำให้ชีวิตรื่นรมย์ขึ้นมากทีเดียว และบางทีก็เหมือนคนโสดสองคนมาอยู่ด้วยกัน จะใช้ชีวิตคู่ยังงัยก็เหมือนยังรู้สึกโสดอยู่ อธิบายไมถูกทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับคนที่จะไปอยู่ด้วย
ความคิดเห็นที่ 12
น่าจะเป็นประเภท เชื่อมั่นในความคิดตัวเองสุดโต่งมากกว่าค่ะ

เวลาเขาไปไหนกับคุณ เขาเคยถาม คห. ความชอบ ความอยากไปของคุณบ้างไหมคะ
ความคิดเห็นที่ 2
เท่าที่อ่าน ลองเดาดูนะ

เป็นคนที่ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกจากชีวิต สาเหตุที่ไม่ค่อยเข้าสังคมเพราะ1. เค้ามีมาตราฐานทางสังคมสูงกว่าคนอื่นเช่นการจอดรถในที่สาธารณะจนแม้กระทั้งยอมลดคุณภาพชีวิตตนเองลง ซึ่งต่างจากคนส่วนใหญ่ ทำให้เวลาอยู่ข้างนอกจะอึดอัดมากกว่าคนทั่วไป 2. สังคมเพื่อนฝูงมักนำมาซึ่งเรื่องเดือดร้อนมากกว่าเรื่องดี อย่างน้อยก็จากประสบการณ์ของเค้าที่เคยเจอ ทำนองผู้มาไม่ดีผู้ดีไม่มาเลยตัดตัวเองจากสังคม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่