MERCEDES-AMG นั้นมีตระกูลหลากหลายรุ่นและยิ่งในปัจจุบันนั้นมีการประกอบไทยทำให้มีราคาและการจับต้องได้ง่ายขึ้นอย่างมาก รวมถึงมีการเปิดตัว AMG ที่ราคาถูกขึ้นเรื่อยๆและรองรับการใช้งานได้ดีไม่แพ้กับการประกอบนอกด้วยเช่นกัน และหลักๆนั้นจะเป็นเรื่องของพละกำลังที่จัดเต็มเช่นเดิมเลย และรุ่นที่ต้องบอกว่าได้รับความนิยมอีกตัวทั้งเรื่องของขนาดการออกแบบที่กำลังดีในการขับขี่รวมถึงราคาที่ดีเช่นกันในตระกูล C43 ต้องบอกว่าน่าสนใจและพละกำลังมันโหดอย่างมากเลยทีเดียว และอาจจะเป็นเครื่องยนต์ V6 รุ่นส่งท้ายในตระกูล C43 ต่างๆแล้วก็เป็นไปได้รวมถึงอาจจะเป็นโมเดล C Coupe รุ่นสุดท้ายก็เป็นไปได้เพราะว่ารุ่นต่อไปนั้นอาจจะ ยุบรวมกันกับตระกูล E และอาจจะปรับไปใช้งานเครื่องยนต์ 4 สูบ + ไฟฟ้าแทนทั้งหมดแล้วก็มีโอกาสสูงมากๆ จึงเป็นรุ่นส่งท้ายที่ต้องบอกว่าน่าสะสมหรือหามาใช้งานจริงๆ เพราะว่าเรื่องการขับขี่ งานออกแบบจริงๆนั้นก็ถือว่ายังสวยและดูดีอยู่เช่นกันครับ
MERCEDES-AMG C43 COUPE นั้นถือว่าเป็นตระกูล AMG ประกอบไทยตัวแรกๆที่เอาเข้ามาขายและเป็นรุ่นแรกๆเลยก็ว่าได้ที่ประกอบนอก เยอรมันครับ และเป็นรุ่นที่อยู่ในระดับที่จับต้องได้ง่ายทั้งขนาดและราคารวมถึงประสิทธิภาพของตัวรถ เครื่องยนต์ต่างๆ ตัวนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V6 ที่อาจจะเป็นตัวสุดท้ายของตระกูล ใช้งาน เครื่องยนต์เบนซินแบบ V6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 390 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร ที่ 2,500 – 5,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ถือว่าจัดเต็มเลยทีเดียว สามารถขับ 0-100 ประมาณ 5.5 วินาที และ 80-120 ประมาณ 3.9 วินาทีครับ ถือว่าขับสนุกมากๆตัวนึงทำงานร่วมกับขับ 4 ล้อได้อย่างแม่นยำ ส่วนออฟชั่นรุ่นนี้ประกอบไทยนั้นยังรองรับออฟชั่นจัดเต็ม ไฟหน้า MULTIBEAM LED พร้อมระบบช่วยเหลือ Adaptive Highbeam Assist , Cornering Light , ALS ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ หลังคา Panoramic Sunroof ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต AMG Ride Control sport suspension และการตกแต่ง กันชนหน้า กันชนหลัง สเกิร์ตข้าง แบบ AMG Bodystyling และ ปลายท่อไอเสียโครเมียม 2 ท่อคู่ Two Round Twin Tailpipe look รวมถึงล้อ ขนาด 19 นิ้วขนาดใหญ่จัดเต็ม ส่วนภายในก็รองรับทั้งเรื่องของหน้าจอ ชุดมาตรวัด แบบดิจิทัล ขนาด 12.3 นิ้ว ปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ และ ไฟเรืองแสงห้องโดยสาร Ambient Light 64 สี รวมถึง เข็มขัดแดง และ พวงมาลัย AMG Performance แบบสปอร์ตท้ายตัด รวมถึง พวงมาลัยหุ้มหนัง Nappa Leather จัดเต็มเลยทีเดียวทั้งภายนอก และ ภายใน เสียงเครื่อง เสียงท่อเองนั้นสมกับชื่อ AMG นั้นเองแต่ก็เข้าใจกันก่อนว่าคงจะไม่สะใจเท่ากับบรรดา C63 ที่เป็นตัวเทพของตระกูลนี้อยู่แล้วนะ
MERCEDES-AMG รุ่นนี้เปิดราคาอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นรุ่นประกอบในประเทศ ทำให้ราคาดีขึ้นกว่าประกอบนอกชัดเจนครับ มาพร้อมกับราคา Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe’ Facelift 4,220,000 บาท และถ้าเทียบกับรุ่นก่อนจะ แรงม้ามากขึ้นกว่ารุ่นเดิมครับ
EXTERIOR
งานออกแบบ C43 COUPE นั้นจะอิงหน้าตาแบบ C COUPE ปกติเลยทีเดียวและจะเห็นว่าจุดแตกต่างกับ C COUPE AMG DYNAMICS แค่เล็กน้อยมากจริงๆ และรูปทรงหน้าตาความดุดันนั้นยังคงคล้ายกับ C43 Sedan บางส่วนนั้นเอง ทำให้เมื่อมองภายนอกนั้นอาจจะไม่ได้ดูรู้สึกดุดันหรือว่าว้าวอะไรมากเมื่อเทียบกับ C Coupe แต่ถ้ามองเรื่องของพละกำลัง การขับขี่ ช่วงล่าง เครื่องยนต์ นั้นแตกต่างกับแบบชัดเจนทุกๆส่วน ทำให้หลายๆคนที่มองผ่านๆ หรือคนที่ไม่ได้รู้เรื่องรถอาจจะไม่ได้มองรู้ว่าตัวแรงเท่าไรนักก็แอบน่าเสียดายในเรื่องของความดุดันอยู่บ้าง
ตัวรถนั้นต้องบอกว่ามีขนาดในการขับขี่ในเมืองกำลังดี ขับขี่มุดเลี้ยวอะไรค่อนข้างสนุก มิติตัวถัง ยาว 4,696 มิลลิเมตร กว้าง 1,877 มิลลิเมตร และสูง 1,405 มิลลิเมตร พร้อมกับ ความจุถังเชื้อเพลิง 66 ลิตร น้ำหนัก 1,735 กิโลกรัม ถือว่าเป็นขนาดที่กำลังเหมาะในการใช้งานทั่วไปได้ดี ขับขี่คนเดียว หรือใช้งานในเมืองอะไรได้ดีมากๆตัวนึง และเมื่อเทียบกับพละกำลังกับขนาดตัวแค่นี้ทำให้มันจัดจ้านมากๆในการขับขี่ จะเห็นว่าดีไซน์รูปทรงถือว่ายังคงสวยอยู่แม้จะเป็นปลายโมเดลแล้วก็ตามรวมถึง ไฟหน้าไฟท้ายอะไรก็ยังคงใส่ใช้งานเทคโนโลยีเน้นๆเหมือนเดิมเลยตัวนี้ และ รูปทรงที่มองข้างๆนั้นมีความโค้งมนมากๆ ท้ายค่อนข้างลาดตามสไตล์ Coupe แต่ก็มีพื้นที่นั่งข้างหลังได้บ้าง
ด้านหน้าและด้านหลังในมุมตรงๆบอกเลยว่าน่าสนใจในเรื่องของท้ายรถที่มีความโดดเด่นมากๆ จะเห็นว่าท่อไอเสีย 4 ท่อเด่นๆสะใจรวมถึง ชายกันชนล่างแบบ Diffuser จัดเต็ม และ Ducktail ตูดเป็ดข้างหลังที่เป็นจุดแตกต่างครับ ส่วนรูปทรงไฟท้ายอะไรนั้นก็จะเหมือนกับ C Coupe ในหลายๆส่วนเลย ส่วนด้านหน้าไฟหน้า multi-Beam เทคโนโลยีสุดเทพของค่าย และ กันชนล่างแบบ AMG ที่มีกระจังหน้าแบบ เส้นคู่ สีเงินที่จะไม่มี Diamound Grill แล้ว และมีโลโก้ AMG เสริมเข้ามาครับ แต่ถ้ากระจังแนวตั้งนั้นจะเป็นพวก C63 หรือ บรรดารุ่นใหม่หลังปี 2021 เป็นหลักครับ เมื่อมองด้านหน้าตัวนี้จะมีความดุดันแบบนิดหน่อย อาจจะออกไปทางแนวสาวๆเหมือนกันในหน้าตรง
จุดแตกต่างกับรุ่นปกติหรือจุดที่ให้เรามองแล้วรู้ว่าตัวนี้แรง อย่างไปซ่าบนถนนนั้นจะเป็นจุดข้างตัวถังรถจะเขียนว่า BI-TURBO 4 MATIC จุดนี้แหละเมื่อมองข้างรถจะรู้เลยว่าตัวนี้ AMG C43 แน่นอน รวมถึงถ้าตัวรถเป็นสีอื่นๆนั้น ตัวกระจกมองข้างตัวรถนั้นจะเป็นสีดำ ไม่ว่าตัวรถจะเป็นสีอะไร ตัวกระจกมองข้างจะเป็นสีดำเสมอ รวมถึงตัวล้อ 5 ก้านคู่ Twin Spoke ล้ออัลลอย AMG ขนาด 19 นิ้ว ยาง Runflat Tyre คู่หน้า ขนาด 225/40 R19 – คู่หลัง 255/35 R19 และ ตัวเบรกที่มาพร้อมกับสีเงินและเขียนว่า AMG และ จานเบรกขนาดใหญ่ ขนาด 360 x 36 มิลลิเมตร 4 พอต ในส่วนจานดิสก์เบรกหลังมีขนาด 320 x 24 มิลลิเมตร พร้อมคาร์ลิปเปอร์เบรกแบบ 2 พอต ถือว่าเรื่องการระบายความร้อนนั้นสบายๆ และการใช้งานเมื่อต้องรองรับกับพละกำลัง V6 3000CC นั้นสบายๆ
กระจังหน้า AMG ในยุคก่อนที่จะปรับเป็นแบบซี่แนวตั้งที่เราเห็นกันใน AMG GLA35 เป็นต้นซึ่งจะเป็นทรงปากคว่ำนั้นเอง ซึ่งปกติกระจังหน้าซี่แนวตั้งจะให้เฉพาะกับ AMG C63 เท่านั้นแต่ปลายปี 2020 ก็เริ่มใช้งานกระจังหน้าแนวตั้งหมดทุกตัวไม่เว้นแต่ตัวเล็กแล้วนั้นเองครับ ทำให้กระจังหน้าแบบแนวนอนคู่แบบในรีวิวตัวนี้นั้นจะไม่มีอีกแล้วครับ และจะมีโลโก้ AMG อยู่ในด้านขวา และ ช่องระบายในด้านซ้าย และ ขวา นั้นจะเป็นช่องรีดอากาศจริงๆที่มีการตกแต่ง โครเมียม 2 แถบ ซึ่งถ้ารุ่นปกตินั้นจะเป็นสีดำ เป็นอีกจุดเล็กๆที่แตกต่างแต่ก็สังเกตได้ยากเลยทีเดียวครับ
ในด้านหลังนั้นจุดแตกต่างกันเราจะเห็นว่าชุดชายกันชนล่างนั้นจะเป็นจุกแตกต่างหลักๆคือเรื่องของ ท่อไอเสีย 4 ท่อ และ Diffuser ขนาดใหญ่ที่ใส่เข้ามาใช้งานจัดเต็ม และเป็นสีดำเงา ซึ่งตรงนี้จะเป็นสีดำในทุกสีของตัวรถครับทำให้เด่นสวยงามเลย ส่วนทางด้านไฟท้าย รายละเอียดการออกแบบกันชนต่างๆนั้นจะคล้ายกับรุ่นปกติ และ จุดเปลี่ยนอีกส่วนคือ โลโก้ AMG C43 ที่ใส่เข้ามาพร้อมกับ Duck Tail ด้านบนที่เสริมเข้ามาแค่นั้นในส่วนของตัวท้ายรถครับ
ด้านข้างชายกันชนอะไรไม่ได้มีจุดเปลี่ยนหรืองานออกแบบอะไรที่ดูดุดันเท่าไรและต้องบอกว่าเป็นรถที่ไม่ได้เตี้ยเลยทำให้ความสูงในการขับขี่เท่ากับบรรดารถทั่วไป รถ Sedan ต่างๆ เจอกับถนนเมืองไทยได้สบายๆครับ แต่ก็จะเสียเรื่องของความสวยและเตี้ยสปอร์ตไปเหมือนกัน และ ชุดแต่งรอบคันก็ไม่ได้เตี้ยมากด้วยแม้จะเป็น C43 ส่วนหลังคานั้นเปิดได้กว้างและเยอะมากๆครับเมื่อเปิดออกมาแล้วจะยิงออกไปข้างหลังเด่นชัดและกว้างขวางเหมือนกัน
ห้องสัมภาระในการใช้งานต้องบอกว่าพื้นที่เหลือเยอะมากๆในการขนของ 400 ลิตร ซึ่งฝาท้ายไฟฟ้ารองรับ การเตะเปิดปกติ รวมถึงสามารถกดล็อกได้ทั้งหมด และสามารถกดพับเบาะได้ซ้ายและขวา รวมถึงที่แขวนถุงพลาสติกต่างๆจะเห็นว่าความลึกสามารถวางกระเป๋าเป้ในแนวลึกได้ต่อกัน 2 ใบขนาดกลางครับ และกว้างเหลือพื้นที่ใส่ได้อีกสบายแต่จุดที่ขอบ่นคือ ฝาท้ายไฟฟ้า ไม่มีปุ่มเปิดตัวตัวรถ ทำให้ต้องเตะเปิด หรือ กดรีโมท หรือกดภายในเท่านั้นครับ !
ยามค่ำคืนไฟท้ายและไฟหน้ามีความสวยงามมากๆและเรื่องของลำแสงนั้นไม่ธรรมดาเลยครับ เส้นสายไฟหน้าสวยงามพร้อมกับไฟ DRL แบบใหม่ทั้งไฟเลี้ยวในตัว และไฟใหญ่ที่เป็น MULTI BEAM รองรับการใช้งานแบบจัดเต็ม พร้อมกับปรับโคมไฟหน้าตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS รวถ ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง Cornering Light และ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist และทางไฟท้ายแบบ LED แบบเดียวกับรุ่นปกติ และรุ่นก่อนหน้า มาพร้อมไฟตัดหมอกหลังในด้านขวาใส่เข้ามาให้ครบ ในรูปทรงแบบเดิมทั้งหมด
ยามค่ำคืนนั้นแสงสีอาจจะไม่ได้เยอะมากในฝั่งด้านท้ายและด้านหน้าครับ ไฟเบรกดวงที่ 3 ด้านบนขนาดกลางๆไม่ได้ยาวมากนัก ส่วนด้านหน้าโคมสว่างแสงเข้มสวยงามพร้อมกับไฟทุกอย่างเป็น LED ทั้งหมดรวมถึงไฟส่องป้ายทะเบียน
[SR] รีวิว MERCEDES-AMG C43 4MATIC COUPE ตัวแรง ราคาดี ส่งท้ายโมเดล เครื่อง V6 !
MERCEDES-AMG นั้นมีตระกูลหลากหลายรุ่นและยิ่งในปัจจุบันนั้นมีการประกอบไทยทำให้มีราคาและการจับต้องได้ง่ายขึ้นอย่างมาก รวมถึงมีการเปิดตัว AMG ที่ราคาถูกขึ้นเรื่อยๆและรองรับการใช้งานได้ดีไม่แพ้กับการประกอบนอกด้วยเช่นกัน และหลักๆนั้นจะเป็นเรื่องของพละกำลังที่จัดเต็มเช่นเดิมเลย และรุ่นที่ต้องบอกว่าได้รับความนิยมอีกตัวทั้งเรื่องของขนาดการออกแบบที่กำลังดีในการขับขี่รวมถึงราคาที่ดีเช่นกันในตระกูล C43 ต้องบอกว่าน่าสนใจและพละกำลังมันโหดอย่างมากเลยทีเดียว และอาจจะเป็นเครื่องยนต์ V6 รุ่นส่งท้ายในตระกูล C43 ต่างๆแล้วก็เป็นไปได้รวมถึงอาจจะเป็นโมเดล C Coupe รุ่นสุดท้ายก็เป็นไปได้เพราะว่ารุ่นต่อไปนั้นอาจจะ ยุบรวมกันกับตระกูล E และอาจจะปรับไปใช้งานเครื่องยนต์ 4 สูบ + ไฟฟ้าแทนทั้งหมดแล้วก็มีโอกาสสูงมากๆ จึงเป็นรุ่นส่งท้ายที่ต้องบอกว่าน่าสะสมหรือหามาใช้งานจริงๆ เพราะว่าเรื่องการขับขี่ งานออกแบบจริงๆนั้นก็ถือว่ายังสวยและดูดีอยู่เช่นกันครับ
MERCEDES-AMG C43 COUPE นั้นถือว่าเป็นตระกูล AMG ประกอบไทยตัวแรกๆที่เอาเข้ามาขายและเป็นรุ่นแรกๆเลยก็ว่าได้ที่ประกอบนอก เยอรมันครับ และเป็นรุ่นที่อยู่ในระดับที่จับต้องได้ง่ายทั้งขนาดและราคารวมถึงประสิทธิภาพของตัวรถ เครื่องยนต์ต่างๆ ตัวนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V6 ที่อาจจะเป็นตัวสุดท้ายของตระกูล ใช้งาน เครื่องยนต์เบนซินแบบ V6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 390 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร ที่ 2,500 – 5,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ถือว่าจัดเต็มเลยทีเดียว สามารถขับ 0-100 ประมาณ 5.5 วินาที และ 80-120 ประมาณ 3.9 วินาทีครับ ถือว่าขับสนุกมากๆตัวนึงทำงานร่วมกับขับ 4 ล้อได้อย่างแม่นยำ ส่วนออฟชั่นรุ่นนี้ประกอบไทยนั้นยังรองรับออฟชั่นจัดเต็ม ไฟหน้า MULTIBEAM LED พร้อมระบบช่วยเหลือ Adaptive Highbeam Assist , Cornering Light , ALS ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ หลังคา Panoramic Sunroof ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต AMG Ride Control sport suspension และการตกแต่ง กันชนหน้า กันชนหลัง สเกิร์ตข้าง แบบ AMG Bodystyling และ ปลายท่อไอเสียโครเมียม 2 ท่อคู่ Two Round Twin Tailpipe look รวมถึงล้อ ขนาด 19 นิ้วขนาดใหญ่จัดเต็ม ส่วนภายในก็รองรับทั้งเรื่องของหน้าจอ ชุดมาตรวัด แบบดิจิทัล ขนาด 12.3 นิ้ว ปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ และ ไฟเรืองแสงห้องโดยสาร Ambient Light 64 สี รวมถึง เข็มขัดแดง และ พวงมาลัย AMG Performance แบบสปอร์ตท้ายตัด รวมถึง พวงมาลัยหุ้มหนัง Nappa Leather จัดเต็มเลยทีเดียวทั้งภายนอก และ ภายใน เสียงเครื่อง เสียงท่อเองนั้นสมกับชื่อ AMG นั้นเองแต่ก็เข้าใจกันก่อนว่าคงจะไม่สะใจเท่ากับบรรดา C63 ที่เป็นตัวเทพของตระกูลนี้อยู่แล้วนะ
MERCEDES-AMG รุ่นนี้เปิดราคาอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นรุ่นประกอบในประเทศ ทำให้ราคาดีขึ้นกว่าประกอบนอกชัดเจนครับ มาพร้อมกับราคา Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe’ Facelift 4,220,000 บาท และถ้าเทียบกับรุ่นก่อนจะ แรงม้ามากขึ้นกว่ารุ่นเดิมครับ
EXTERIOR
งานออกแบบ C43 COUPE นั้นจะอิงหน้าตาแบบ C COUPE ปกติเลยทีเดียวและจะเห็นว่าจุดแตกต่างกับ C COUPE AMG DYNAMICS แค่เล็กน้อยมากจริงๆ และรูปทรงหน้าตาความดุดันนั้นยังคงคล้ายกับ C43 Sedan บางส่วนนั้นเอง ทำให้เมื่อมองภายนอกนั้นอาจจะไม่ได้ดูรู้สึกดุดันหรือว่าว้าวอะไรมากเมื่อเทียบกับ C Coupe แต่ถ้ามองเรื่องของพละกำลัง การขับขี่ ช่วงล่าง เครื่องยนต์ นั้นแตกต่างกับแบบชัดเจนทุกๆส่วน ทำให้หลายๆคนที่มองผ่านๆ หรือคนที่ไม่ได้รู้เรื่องรถอาจจะไม่ได้มองรู้ว่าตัวแรงเท่าไรนักก็แอบน่าเสียดายในเรื่องของความดุดันอยู่บ้าง
ตัวรถนั้นต้องบอกว่ามีขนาดในการขับขี่ในเมืองกำลังดี ขับขี่มุดเลี้ยวอะไรค่อนข้างสนุก มิติตัวถัง ยาว 4,696 มิลลิเมตร กว้าง 1,877 มิลลิเมตร และสูง 1,405 มิลลิเมตร พร้อมกับ ความจุถังเชื้อเพลิง 66 ลิตร น้ำหนัก 1,735 กิโลกรัม ถือว่าเป็นขนาดที่กำลังเหมาะในการใช้งานทั่วไปได้ดี ขับขี่คนเดียว หรือใช้งานในเมืองอะไรได้ดีมากๆตัวนึง และเมื่อเทียบกับพละกำลังกับขนาดตัวแค่นี้ทำให้มันจัดจ้านมากๆในการขับขี่ จะเห็นว่าดีไซน์รูปทรงถือว่ายังคงสวยอยู่แม้จะเป็นปลายโมเดลแล้วก็ตามรวมถึง ไฟหน้าไฟท้ายอะไรก็ยังคงใส่ใช้งานเทคโนโลยีเน้นๆเหมือนเดิมเลยตัวนี้ และ รูปทรงที่มองข้างๆนั้นมีความโค้งมนมากๆ ท้ายค่อนข้างลาดตามสไตล์ Coupe แต่ก็มีพื้นที่นั่งข้างหลังได้บ้าง
ด้านหน้าและด้านหลังในมุมตรงๆบอกเลยว่าน่าสนใจในเรื่องของท้ายรถที่มีความโดดเด่นมากๆ จะเห็นว่าท่อไอเสีย 4 ท่อเด่นๆสะใจรวมถึง ชายกันชนล่างแบบ Diffuser จัดเต็ม และ Ducktail ตูดเป็ดข้างหลังที่เป็นจุดแตกต่างครับ ส่วนรูปทรงไฟท้ายอะไรนั้นก็จะเหมือนกับ C Coupe ในหลายๆส่วนเลย ส่วนด้านหน้าไฟหน้า multi-Beam เทคโนโลยีสุดเทพของค่าย และ กันชนล่างแบบ AMG ที่มีกระจังหน้าแบบ เส้นคู่ สีเงินที่จะไม่มี Diamound Grill แล้ว และมีโลโก้ AMG เสริมเข้ามาครับ แต่ถ้ากระจังแนวตั้งนั้นจะเป็นพวก C63 หรือ บรรดารุ่นใหม่หลังปี 2021 เป็นหลักครับ เมื่อมองด้านหน้าตัวนี้จะมีความดุดันแบบนิดหน่อย อาจจะออกไปทางแนวสาวๆเหมือนกันในหน้าตรง
จุดแตกต่างกับรุ่นปกติหรือจุดที่ให้เรามองแล้วรู้ว่าตัวนี้แรง อย่างไปซ่าบนถนนนั้นจะเป็นจุดข้างตัวถังรถจะเขียนว่า BI-TURBO 4 MATIC จุดนี้แหละเมื่อมองข้างรถจะรู้เลยว่าตัวนี้ AMG C43 แน่นอน รวมถึงถ้าตัวรถเป็นสีอื่นๆนั้น ตัวกระจกมองข้างตัวรถนั้นจะเป็นสีดำ ไม่ว่าตัวรถจะเป็นสีอะไร ตัวกระจกมองข้างจะเป็นสีดำเสมอ รวมถึงตัวล้อ 5 ก้านคู่ Twin Spoke ล้ออัลลอย AMG ขนาด 19 นิ้ว ยาง Runflat Tyre คู่หน้า ขนาด 225/40 R19 – คู่หลัง 255/35 R19 และ ตัวเบรกที่มาพร้อมกับสีเงินและเขียนว่า AMG และ จานเบรกขนาดใหญ่ ขนาด 360 x 36 มิลลิเมตร 4 พอต ในส่วนจานดิสก์เบรกหลังมีขนาด 320 x 24 มิลลิเมตร พร้อมคาร์ลิปเปอร์เบรกแบบ 2 พอต ถือว่าเรื่องการระบายความร้อนนั้นสบายๆ และการใช้งานเมื่อต้องรองรับกับพละกำลัง V6 3000CC นั้นสบายๆ
กระจังหน้า AMG ในยุคก่อนที่จะปรับเป็นแบบซี่แนวตั้งที่เราเห็นกันใน AMG GLA35 เป็นต้นซึ่งจะเป็นทรงปากคว่ำนั้นเอง ซึ่งปกติกระจังหน้าซี่แนวตั้งจะให้เฉพาะกับ AMG C63 เท่านั้นแต่ปลายปี 2020 ก็เริ่มใช้งานกระจังหน้าแนวตั้งหมดทุกตัวไม่เว้นแต่ตัวเล็กแล้วนั้นเองครับ ทำให้กระจังหน้าแบบแนวนอนคู่แบบในรีวิวตัวนี้นั้นจะไม่มีอีกแล้วครับ และจะมีโลโก้ AMG อยู่ในด้านขวา และ ช่องระบายในด้านซ้าย และ ขวา นั้นจะเป็นช่องรีดอากาศจริงๆที่มีการตกแต่ง โครเมียม 2 แถบ ซึ่งถ้ารุ่นปกตินั้นจะเป็นสีดำ เป็นอีกจุดเล็กๆที่แตกต่างแต่ก็สังเกตได้ยากเลยทีเดียวครับ
ในด้านหลังนั้นจุดแตกต่างกันเราจะเห็นว่าชุดชายกันชนล่างนั้นจะเป็นจุกแตกต่างหลักๆคือเรื่องของ ท่อไอเสีย 4 ท่อ และ Diffuser ขนาดใหญ่ที่ใส่เข้ามาใช้งานจัดเต็ม และเป็นสีดำเงา ซึ่งตรงนี้จะเป็นสีดำในทุกสีของตัวรถครับทำให้เด่นสวยงามเลย ส่วนทางด้านไฟท้าย รายละเอียดการออกแบบกันชนต่างๆนั้นจะคล้ายกับรุ่นปกติ และ จุดเปลี่ยนอีกส่วนคือ โลโก้ AMG C43 ที่ใส่เข้ามาพร้อมกับ Duck Tail ด้านบนที่เสริมเข้ามาแค่นั้นในส่วนของตัวท้ายรถครับ
ด้านข้างชายกันชนอะไรไม่ได้มีจุดเปลี่ยนหรืองานออกแบบอะไรที่ดูดุดันเท่าไรและต้องบอกว่าเป็นรถที่ไม่ได้เตี้ยเลยทำให้ความสูงในการขับขี่เท่ากับบรรดารถทั่วไป รถ Sedan ต่างๆ เจอกับถนนเมืองไทยได้สบายๆครับ แต่ก็จะเสียเรื่องของความสวยและเตี้ยสปอร์ตไปเหมือนกัน และ ชุดแต่งรอบคันก็ไม่ได้เตี้ยมากด้วยแม้จะเป็น C43 ส่วนหลังคานั้นเปิดได้กว้างและเยอะมากๆครับเมื่อเปิดออกมาแล้วจะยิงออกไปข้างหลังเด่นชัดและกว้างขวางเหมือนกัน
ห้องสัมภาระในการใช้งานต้องบอกว่าพื้นที่เหลือเยอะมากๆในการขนของ 400 ลิตร ซึ่งฝาท้ายไฟฟ้ารองรับ การเตะเปิดปกติ รวมถึงสามารถกดล็อกได้ทั้งหมด และสามารถกดพับเบาะได้ซ้ายและขวา รวมถึงที่แขวนถุงพลาสติกต่างๆจะเห็นว่าความลึกสามารถวางกระเป๋าเป้ในแนวลึกได้ต่อกัน 2 ใบขนาดกลางครับ และกว้างเหลือพื้นที่ใส่ได้อีกสบายแต่จุดที่ขอบ่นคือ ฝาท้ายไฟฟ้า ไม่มีปุ่มเปิดตัวตัวรถ ทำให้ต้องเตะเปิด หรือ กดรีโมท หรือกดภายในเท่านั้นครับ !
ยามค่ำคืนไฟท้ายและไฟหน้ามีความสวยงามมากๆและเรื่องของลำแสงนั้นไม่ธรรมดาเลยครับ เส้นสายไฟหน้าสวยงามพร้อมกับไฟ DRL แบบใหม่ทั้งไฟเลี้ยวในตัว และไฟใหญ่ที่เป็น MULTI BEAM รองรับการใช้งานแบบจัดเต็ม พร้อมกับปรับโคมไฟหน้าตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS รวถ ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง Cornering Light และ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist และทางไฟท้ายแบบ LED แบบเดียวกับรุ่นปกติ และรุ่นก่อนหน้า มาพร้อมไฟตัดหมอกหลังในด้านขวาใส่เข้ามาให้ครบ ในรูปทรงแบบเดิมทั้งหมด
ยามค่ำคืนนั้นแสงสีอาจจะไม่ได้เยอะมากในฝั่งด้านท้ายและด้านหน้าครับ ไฟเบรกดวงที่ 3 ด้านบนขนาดกลางๆไม่ได้ยาวมากนัก ส่วนด้านหน้าโคมสว่างแสงเข้มสวยงามพร้อมกับไฟทุกอย่างเป็น LED ทั้งหมดรวมถึงไฟส่องป้ายทะเบียน
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้