ปัญหาโลกแตกสำหรับครอบครัวฉันมาก
ตอนแม่มีฉัน พวกเราก็ทำงาน และรับผิดชอบตัวเองด้วยกันทุกคน โดยพ่อจะมีให้นิดๆหน่อยๆ
จนมามีน้อง พ่อก็ยังคงให้ความรักแก่ลูกๆทุกคน แต่ขาดอย่างเดียวคือความรับผิดชอบทางการเงินในครอบครัว
ทำให้แม่ เป็นเสาหลักในการหาเงินจุนเจือครอบครัวเพียงลำพัง ซึ่งลูกๆทุกคนก็เป็นคนดี ไม่เกเร เรียน ทำงานไปด้วยถ้ามีเวลาว่าง
เอาเงินส่วนนี้ไปจุนเจือในเรื่องการเรียน (และเป็นความโชคดี ที่ฉันได้ทุนจนเรียนจบ) ช่วยแม่ได้เยอะเลย
ตั้งแต่จำความได้ พ่อของฉันสร้างหนี้ตลอด และหนี้ที่เกิดขึ้นมาจากการซื้อหวย หรือแอบเล่นการพนันหรือเปล่า ไม่มั่นใจ
เพราะตอนนั้นฉันยังเด็ก เลยไม่รู้อะไรมาก (ตอนนั้น ฉันรู้เพียงแค่ว่า ฉันเกือบไม่มีอนาคตที่จะมีเงินเรียน แต่โชคดีมาก ที่ลุงผู้ไม่ถูกกันยิบยื่นเงิน 3,000 บาท
ช่วยฉัน ทำให้ฉันได้เรียนต่อ) และคนที่ใช้หนี้ให้พ่อก็คือแม่ แม่พยายามหาเงินทุกทาง แม่กระทั้งเก็บขวดขาย ถ้าแม่มีโอกาสว่าง แม่ก็ทำ
หรือแม้แต่การปล่อยเงินกู้เพียงๆ แม่ก็ทำ เพื่อให้หมดหนี้ ทั้งที่แม่ไม่ชอบทำนาบนหลังคน รู้ว่าผิดก็ต้องทำ จนทำให้พวกเราหมดหนี้ ถึงจะเลิกทำ
จนมาวันที่พวกเราลืมตาอ้าปากได้ และฉํนเรียนจบ แม่ก็ซื้อรถเพราะพ่ออยากได้ ครอบครัวเราจะได้ไปไหนสะดวก อยากได้ที่ ก็พยายามเอาเงินเก็บทั้งหมด
ไปซื้อเก็บไว้ เพื่อที่จะได้สร้างบ้าน แต่สุดท้ายคือ คือพ่อเอารถไปรีไฟเน้นท์ เงินที่ได้มา ไม่รู้ว่าหายไปไหน ไม่ได้เอามาจุนเจือในครอบครัวเลยสักนิด
ฉันก็แอบคิดว่าคงเอาเงินไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและเอาไปใช้หนี้หวย (เงินซื้อรถ ซื้อที่ก็เป็นเงินแม่ทั้งหมด)
อยากมีทองใส่เราก็เปย์ทุกคนในบ้าน ในวันที่เราหาเงินได้ ทุกสิ้นปีฉันก็จะมีโบนัสให้ทุกคน
ณ วันนี้โควิดเข้าระลอก 3 เราช่วยที่บ้านทุกอย่าง แทนแม่ เพราะอาชีพของแม่ไม่สามารถไปต่อได้อีก เราช่วยคิดและจัดแจงเงินที่ได้มาในครอบครัว
น้องเราก็ช่วย ว่างก็หางานทำในช่วงปิดเทอม แม่ก็ต้องไปทำอาชีพใหม่ ซึ่งอาชีพใหม่ก็เดินตากแดดทั้งวัน ส่วนพ่อ เราพยายามช่วยคิดและปฏิเสธเราทุกอย่าง ไม่มีเงินเราก็ไปกู้มาให้ (ตกลงร่วมกันเกี่ยวกับอาชีพที่จะทำใหม่แล้ว) สุดท้ายเราเป็นหนี้ฟรี แถมดอกเบี้ยมหาศาล ... สรุปไม่ทำ เราเป็นหนี้ฟรีๆ
รถจะโดนยึด พ่ออยากได้ เราก็หาเงินมาผ่อนแทนไปก่อน ... จนตอนนี้ฉันจะไม่ไหวแล้ว
ปีหน้าน้องฉันจะเรียนต่อเข้ามหาลัย ฉันอยากให้น้องมีอนาคต ฉันก็พยายามเคลียร์หนี้สินให้จบภายในปีนี้ เพื่อที่น้องจะได้ไม่ต้องหยุดเรียน
และแม่ก็เป็นห่วงเรื่องนี้มาก เพราะแม่ไม่ไหวที่จะส่ง (แต่ฉันมองว่าฉันไหว ฉันรับปากแม่ว่าฉันจะจัดการเอง)
ค่าใช้จ่ายในบ้านทุกคนใช้อย่างประหยัด แต่พ่อก็เอาแต่ใจไม่ทำตามที่เราบอก เรามองว่าบางอย่างมันสิ้นเปลืองโดยใช้เหตุ สุดท้ายเราโดนมองว่าไม่ดี ว่าเกลื่อนกลาดใส่อารมณ์กับคนในบ้าน เราได้ยินเราก็น้ำตาตก....และก็พึ่งรู้ว่าไปสร้างหนี้ก้อนใหม่อีก เฮ้อ...หนี้ก้อนนี้เขาเงินไปใช้อะไรไม่รู้ (และคนที่ใช้หนี้คือเรา ไม่งั้นคนที่โดนประจาน เขาจะมาว่าถึงแม่เราได้)
ฉันรู้สึกสงสารแม่มาก และฉันก็สงสารตัวเอง .... ที่ตั้งแต่เกิดมา ฉันอาจจะได้รับความรักของพ่อ แต่การที่พ่อสร้างหนี้ให้พวกเราไม่หยุด เราและน้องจะไปมีอนาคตของตัวเองได้ยังไง ในเมื่อทุกวันล่ายล้อมด้วยคำว่าหนี้
ฉันจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงดี ถ้าฉันไม่ใช้หนี้แทนอยู่ตลอดเวลา พ่อก็คงไม่พอใจไปตลอดชีวิต และถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ ฉันกับน้อง คงไม่มีอนาคตที่อยากจะสร้างเป็นของตัวเอง เครียด...ถ้าฉันเลือกได้ ฉันก็คงไม่อยากเกิด
ในทุกๆกริยาบทของตัวละคร แอบซ่อนน้ำตาไว้เสมอ บางทีฉันก็ไม่สามารถเอาเรื่องในครอบครัวไปคุยให้ใครฟังได้ (เพราะกลัวคนอื่นจะว่าพ่อเรา)
พ่อชอบสร้างหนี้ทำยังไงดี
ตอนแม่มีฉัน พวกเราก็ทำงาน และรับผิดชอบตัวเองด้วยกันทุกคน โดยพ่อจะมีให้นิดๆหน่อยๆ
จนมามีน้อง พ่อก็ยังคงให้ความรักแก่ลูกๆทุกคน แต่ขาดอย่างเดียวคือความรับผิดชอบทางการเงินในครอบครัว
ทำให้แม่ เป็นเสาหลักในการหาเงินจุนเจือครอบครัวเพียงลำพัง ซึ่งลูกๆทุกคนก็เป็นคนดี ไม่เกเร เรียน ทำงานไปด้วยถ้ามีเวลาว่าง
เอาเงินส่วนนี้ไปจุนเจือในเรื่องการเรียน (และเป็นความโชคดี ที่ฉันได้ทุนจนเรียนจบ) ช่วยแม่ได้เยอะเลย
ตั้งแต่จำความได้ พ่อของฉันสร้างหนี้ตลอด และหนี้ที่เกิดขึ้นมาจากการซื้อหวย หรือแอบเล่นการพนันหรือเปล่า ไม่มั่นใจ
เพราะตอนนั้นฉันยังเด็ก เลยไม่รู้อะไรมาก (ตอนนั้น ฉันรู้เพียงแค่ว่า ฉันเกือบไม่มีอนาคตที่จะมีเงินเรียน แต่โชคดีมาก ที่ลุงผู้ไม่ถูกกันยิบยื่นเงิน 3,000 บาท
ช่วยฉัน ทำให้ฉันได้เรียนต่อ) และคนที่ใช้หนี้ให้พ่อก็คือแม่ แม่พยายามหาเงินทุกทาง แม่กระทั้งเก็บขวดขาย ถ้าแม่มีโอกาสว่าง แม่ก็ทำ
หรือแม้แต่การปล่อยเงินกู้เพียงๆ แม่ก็ทำ เพื่อให้หมดหนี้ ทั้งที่แม่ไม่ชอบทำนาบนหลังคน รู้ว่าผิดก็ต้องทำ จนทำให้พวกเราหมดหนี้ ถึงจะเลิกทำ
จนมาวันที่พวกเราลืมตาอ้าปากได้ และฉํนเรียนจบ แม่ก็ซื้อรถเพราะพ่ออยากได้ ครอบครัวเราจะได้ไปไหนสะดวก อยากได้ที่ ก็พยายามเอาเงินเก็บทั้งหมด
ไปซื้อเก็บไว้ เพื่อที่จะได้สร้างบ้าน แต่สุดท้ายคือ คือพ่อเอารถไปรีไฟเน้นท์ เงินที่ได้มา ไม่รู้ว่าหายไปไหน ไม่ได้เอามาจุนเจือในครอบครัวเลยสักนิด
ฉันก็แอบคิดว่าคงเอาเงินไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและเอาไปใช้หนี้หวย (เงินซื้อรถ ซื้อที่ก็เป็นเงินแม่ทั้งหมด)
อยากมีทองใส่เราก็เปย์ทุกคนในบ้าน ในวันที่เราหาเงินได้ ทุกสิ้นปีฉันก็จะมีโบนัสให้ทุกคน
ณ วันนี้โควิดเข้าระลอก 3 เราช่วยที่บ้านทุกอย่าง แทนแม่ เพราะอาชีพของแม่ไม่สามารถไปต่อได้อีก เราช่วยคิดและจัดแจงเงินที่ได้มาในครอบครัว
น้องเราก็ช่วย ว่างก็หางานทำในช่วงปิดเทอม แม่ก็ต้องไปทำอาชีพใหม่ ซึ่งอาชีพใหม่ก็เดินตากแดดทั้งวัน ส่วนพ่อ เราพยายามช่วยคิดและปฏิเสธเราทุกอย่าง ไม่มีเงินเราก็ไปกู้มาให้ (ตกลงร่วมกันเกี่ยวกับอาชีพที่จะทำใหม่แล้ว) สุดท้ายเราเป็นหนี้ฟรี แถมดอกเบี้ยมหาศาล ... สรุปไม่ทำ เราเป็นหนี้ฟรีๆ
รถจะโดนยึด พ่ออยากได้ เราก็หาเงินมาผ่อนแทนไปก่อน ... จนตอนนี้ฉันจะไม่ไหวแล้ว
ปีหน้าน้องฉันจะเรียนต่อเข้ามหาลัย ฉันอยากให้น้องมีอนาคต ฉันก็พยายามเคลียร์หนี้สินให้จบภายในปีนี้ เพื่อที่น้องจะได้ไม่ต้องหยุดเรียน
และแม่ก็เป็นห่วงเรื่องนี้มาก เพราะแม่ไม่ไหวที่จะส่ง (แต่ฉันมองว่าฉันไหว ฉันรับปากแม่ว่าฉันจะจัดการเอง)
ค่าใช้จ่ายในบ้านทุกคนใช้อย่างประหยัด แต่พ่อก็เอาแต่ใจไม่ทำตามที่เราบอก เรามองว่าบางอย่างมันสิ้นเปลืองโดยใช้เหตุ สุดท้ายเราโดนมองว่าไม่ดี ว่าเกลื่อนกลาดใส่อารมณ์กับคนในบ้าน เราได้ยินเราก็น้ำตาตก....และก็พึ่งรู้ว่าไปสร้างหนี้ก้อนใหม่อีก เฮ้อ...หนี้ก้อนนี้เขาเงินไปใช้อะไรไม่รู้ (และคนที่ใช้หนี้คือเรา ไม่งั้นคนที่โดนประจาน เขาจะมาว่าถึงแม่เราได้)
ฉันรู้สึกสงสารแม่มาก และฉันก็สงสารตัวเอง .... ที่ตั้งแต่เกิดมา ฉันอาจจะได้รับความรักของพ่อ แต่การที่พ่อสร้างหนี้ให้พวกเราไม่หยุด เราและน้องจะไปมีอนาคตของตัวเองได้ยังไง ในเมื่อทุกวันล่ายล้อมด้วยคำว่าหนี้
ฉันจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงดี ถ้าฉันไม่ใช้หนี้แทนอยู่ตลอดเวลา พ่อก็คงไม่พอใจไปตลอดชีวิต และถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ ฉันกับน้อง คงไม่มีอนาคตที่อยากจะสร้างเป็นของตัวเอง เครียด...ถ้าฉันเลือกได้ ฉันก็คงไม่อยากเกิด
ในทุกๆกริยาบทของตัวละคร แอบซ่อนน้ำตาไว้เสมอ บางทีฉันก็ไม่สามารถเอาเรื่องในครอบครัวไปคุยให้ใครฟังได้ (เพราะกลัวคนอื่นจะว่าพ่อเรา)