เริ่มแรกผมเป็นเกย์ แต่ไม่แสดงออกครับ แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเป็นแบบนี้ ทั้งชีวิตก็เคยมีฉุดคิดความเป็นชายขึ้นมาบ้าง อยากแต่งงานมีลูก การสร้างครอลครัวที่อบอุ่น แต่ผมว่าไม่ดีกว่า ความคิดนั้นมีแค่ 0.5%เองครับ
เริ่มดีกว่าครับ ผมเช่าห้องอยู่คนเดียว พ่อแม่ไม่สนิท ไม่มีเวลาเข้าสังคม ไม่มีเพื่อน (ไม่มีประสบการณ์สังคมในวัยนี้)
อายุ24 เรียนมหา'ลัยจะขึ้นปี3 (ภาคปกติ) กู้เงินจ่ายค่าเทอม
การใช้ชีวิตของผมมักแย่บ้าง ดีบ้าง อยู่คนเดียว คิดและทำเองคนเดียว ก็ต้องมักจะแย่เสมอ ตัวผมก็ไม่ได้เก่งไปทุกอย่าง
สิ่งที่ขาดคือคนรักหรือเปล่า เรื่องนี้ผมก็มีคนคุยบ้างครับ
คนนี้อยู่ไกลถึง เวเนซุเอลา เราคุยกันนานเกือบปี โทรคุย คอล แลกเฟสบุ๊ค มีทะเลาะหึงกันต่างๆ ทางออนไลน์ จนเขามีจุดให้คิดขึ้นมาว่า เรายากที่จะเจอกัน เราไม่คุยกันสักพัก แต่จนถึงวันนี้ก็ยังคุยกันแบบ แค่ข้อความ เท่านั้น รู้สึกโอเคมากครับ แต่ระยะทางไกล น่าจะต้องรอเวลาอะไรสักอย่างก่อน
ต่อจากคนเวเน คนนี้อายุ30กว่า สายธรรมมะครับ ชอบทำบุญเข้าวัด หรือเข้าเทศกาลต่างๆ ไหว้ศาลจีน คือพี่เขาทักผมมาเพราะชอบรูปหน้าปก ผมยอมรับว่า ใครที่เข้ามาผมทุ่มเทเต็มที่ พี่เขาบอกผมว่า แอบชอบ ก็คุยกัน2-3เดือน จนได้เจอกัน สรุปมีอะไรกัน แต่ลักษณะของเขาเมื่อเจอกันในห้อง ไม่ได้สนใจผมเลย เหมือนไม่ชอบผมมาก พอเช้าส่งผมกลับ พี่เขาบอกว่า สไตล์ของเราเข้ากันไม่ได้ สรุปอกหักครับ แต่ไม่แย่
ต่อจากคนอายุ30กว่า
คนนี้ไม่เคยเจอกันครับ อายุเท่ากันเลย คุยกันทางคอล โทร คนนี้ดีมากครับ โทรคุยกันได้ตลอดเวลา 24 ชมได้ ถ้าไม่มีธุระไปไหน ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เหมือนกันครับ ก็คุยกันมานาน2-3เดือน มีวันนึงผมรู้สึกว่า ทำไมอยู่ๆ เริ่มแปลกๆ ผมไม่อยากคุย ซึ่งแน่นอนผมมีความรักให้แน่ๆ หรือเพราะไม่ได้เจอตัวจริงหรือเปล่า
ก็อยู่ๆก็เลิกคุยกันไป นานๆทักกันทีต่อมาจนไม่ทักกันเลย
ต่อจากคนอายุเท่ากัน
คนนี้เจอกันในtiktokครับ ต่างกันกดหัวใจรัวๆ เริ่มคุยกันมาถึงตอนนี้นะครับ น่าจะเดือนนึงครับ
อายุ38
เขาดูรวยนะครับ ระดับกลางๆ มีธุรกิจร้านต่างๆ ผมเองก็หวังว่าจะมีชีวิตดีขึ้น แต่อีกใจก็อย่าเลย เราสร้างมันเองดีกว่า หรืออยู่แบบของเรา ดูเหมือนติดแม่มากครับ นอนกับเเม่ และระหว่างที่ผมคุยกันเนี่ย ไม่เคยโทรคุยกันนานเกิน 10 นาทีเลยครับ หรือไม่ถึงเลยครับ หรือบางวันไม่ได้โทรคุยเลย และ แชทข้อความ ทำอะไรอยู่ คิดถึงนะ นอยก่อนนะ ฝันดีนะ และอื่นๆเล็กน้อย คือสรุปสั้นๆคือ ไม่เคยเปิดใจคุยกันเรื่องต่างๆในชีวิตที่อยากจะคุยเลยครับ เข้าใจใช่ไหมครับ คนที่จะเริ่มรักกัน มันต้องรู้เรื่องหรือเล่าเรื่องต่างๆ ให้กันฟัง ถึงจะเริ่มสนิมกัน หรือไม่ว่างจริง เพราะเขายุ่งกับการทำธุรกิจร้านอาหาร กาแฟต่างๆ มีไปเรียนทำกาแฟ มีการเดินทางไปดูงานสวนผลไม้ การทำอาหาร หลายอย่าง การไปทำบุญ การดูแลแม่
(หรือผมยังเด็ก ยังคิดไม่ทันคนวัยนั้นหรือเปล่า ผมเองก็ไม่ได้แย่อะไรนะ ผมรีบหรือเขาเรื่อยๆ) ขนาดผมพิมข้อความยาวๆ เปิดใจเรื่องที่อยากคุย ส่งไปนะ ไม่สนใจเลย เปลี่ยนเรื่องคุยด้วยครับ หรือผมเข้าไม่ถึงครับ haha แต่ยังไงก็คุยเรื่อยๆนะ ผมไม่รีบละ เพราะคิดว่าตัวผมเองยังไม่พร้อมแน่นอนครับ กับการใช้ชีวิตคู่ ทำงานกับเรียนอีกต่างหาก
ผมควรจะหยุดเรื่องนี้ดีไหมครับ แต่ในใจผมคิดมากว่า ถ้าเกิดผมมีปัญหาจะให้ใครช่วย เพราะพ่อแม่ก็ไม่กล้า แทบจะเกลียดกันด้วยซ้ำครับ นี่ตือวาเหตุที่ผมอยากมีคนข้างๆหรือเปล่า?
บางคำผมอาจจะสื่อไม่หมดนะครับ ขออภัย ใครพอจะมีข้อคิดเห็นเรื่องไหนบ้างครับ รับฟังครับ คุณเป็นเหมือนครู
ถ้าหากชีวิตกำลังวุ่นวาย จะต้องแก้ยังไงดีหรือลากไปด้วย?
เริ่มดีกว่าครับ ผมเช่าห้องอยู่คนเดียว พ่อแม่ไม่สนิท ไม่มีเวลาเข้าสังคม ไม่มีเพื่อน (ไม่มีประสบการณ์สังคมในวัยนี้)
อายุ24 เรียนมหา'ลัยจะขึ้นปี3 (ภาคปกติ) กู้เงินจ่ายค่าเทอม
การใช้ชีวิตของผมมักแย่บ้าง ดีบ้าง อยู่คนเดียว คิดและทำเองคนเดียว ก็ต้องมักจะแย่เสมอ ตัวผมก็ไม่ได้เก่งไปทุกอย่าง
สิ่งที่ขาดคือคนรักหรือเปล่า เรื่องนี้ผมก็มีคนคุยบ้างครับ
คนนี้อยู่ไกลถึง เวเนซุเอลา เราคุยกันนานเกือบปี โทรคุย คอล แลกเฟสบุ๊ค มีทะเลาะหึงกันต่างๆ ทางออนไลน์ จนเขามีจุดให้คิดขึ้นมาว่า เรายากที่จะเจอกัน เราไม่คุยกันสักพัก แต่จนถึงวันนี้ก็ยังคุยกันแบบ แค่ข้อความ เท่านั้น รู้สึกโอเคมากครับ แต่ระยะทางไกล น่าจะต้องรอเวลาอะไรสักอย่างก่อน
ต่อจากคนเวเน คนนี้อายุ30กว่า สายธรรมมะครับ ชอบทำบุญเข้าวัด หรือเข้าเทศกาลต่างๆ ไหว้ศาลจีน คือพี่เขาทักผมมาเพราะชอบรูปหน้าปก ผมยอมรับว่า ใครที่เข้ามาผมทุ่มเทเต็มที่ พี่เขาบอกผมว่า แอบชอบ ก็คุยกัน2-3เดือน จนได้เจอกัน สรุปมีอะไรกัน แต่ลักษณะของเขาเมื่อเจอกันในห้อง ไม่ได้สนใจผมเลย เหมือนไม่ชอบผมมาก พอเช้าส่งผมกลับ พี่เขาบอกว่า สไตล์ของเราเข้ากันไม่ได้ สรุปอกหักครับ แต่ไม่แย่
ต่อจากคนอายุ30กว่า
คนนี้ไม่เคยเจอกันครับ อายุเท่ากันเลย คุยกันทางคอล โทร คนนี้ดีมากครับ โทรคุยกันได้ตลอดเวลา 24 ชมได้ ถ้าไม่มีธุระไปไหน ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เหมือนกันครับ ก็คุยกันมานาน2-3เดือน มีวันนึงผมรู้สึกว่า ทำไมอยู่ๆ เริ่มแปลกๆ ผมไม่อยากคุย ซึ่งแน่นอนผมมีความรักให้แน่ๆ หรือเพราะไม่ได้เจอตัวจริงหรือเปล่า
ก็อยู่ๆก็เลิกคุยกันไป นานๆทักกันทีต่อมาจนไม่ทักกันเลย
ต่อจากคนอายุเท่ากัน
คนนี้เจอกันในtiktokครับ ต่างกันกดหัวใจรัวๆ เริ่มคุยกันมาถึงตอนนี้นะครับ น่าจะเดือนนึงครับ
อายุ38 เขาดูรวยนะครับ ระดับกลางๆ มีธุรกิจร้านต่างๆ ผมเองก็หวังว่าจะมีชีวิตดีขึ้น แต่อีกใจก็อย่าเลย เราสร้างมันเองดีกว่า หรืออยู่แบบของเรา ดูเหมือนติดแม่มากครับ นอนกับเเม่ และระหว่างที่ผมคุยกันเนี่ย ไม่เคยโทรคุยกันนานเกิน 10 นาทีเลยครับ หรือไม่ถึงเลยครับ หรือบางวันไม่ได้โทรคุยเลย และ แชทข้อความ ทำอะไรอยู่ คิดถึงนะ นอยก่อนนะ ฝันดีนะ และอื่นๆเล็กน้อย คือสรุปสั้นๆคือ ไม่เคยเปิดใจคุยกันเรื่องต่างๆในชีวิตที่อยากจะคุยเลยครับ เข้าใจใช่ไหมครับ คนที่จะเริ่มรักกัน มันต้องรู้เรื่องหรือเล่าเรื่องต่างๆ ให้กันฟัง ถึงจะเริ่มสนิมกัน หรือไม่ว่างจริง เพราะเขายุ่งกับการทำธุรกิจร้านอาหาร กาแฟต่างๆ มีไปเรียนทำกาแฟ มีการเดินทางไปดูงานสวนผลไม้ การทำอาหาร หลายอย่าง การไปทำบุญ การดูแลแม่
(หรือผมยังเด็ก ยังคิดไม่ทันคนวัยนั้นหรือเปล่า ผมเองก็ไม่ได้แย่อะไรนะ ผมรีบหรือเขาเรื่อยๆ) ขนาดผมพิมข้อความยาวๆ เปิดใจเรื่องที่อยากคุย ส่งไปนะ ไม่สนใจเลย เปลี่ยนเรื่องคุยด้วยครับ หรือผมเข้าไม่ถึงครับ haha แต่ยังไงก็คุยเรื่อยๆนะ ผมไม่รีบละ เพราะคิดว่าตัวผมเองยังไม่พร้อมแน่นอนครับ กับการใช้ชีวิตคู่ ทำงานกับเรียนอีกต่างหาก
ผมควรจะหยุดเรื่องนี้ดีไหมครับ แต่ในใจผมคิดมากว่า ถ้าเกิดผมมีปัญหาจะให้ใครช่วย เพราะพ่อแม่ก็ไม่กล้า แทบจะเกลียดกันด้วยซ้ำครับ นี่ตือวาเหตุที่ผมอยากมีคนข้างๆหรือเปล่า?
บางคำผมอาจจะสื่อไม่หมดนะครับ ขออภัย ใครพอจะมีข้อคิดเห็นเรื่องไหนบ้างครับ รับฟังครับ คุณเป็นเหมือนครู