เข้าสู่ยุคที่บรรดาค่ายเลนส์ กล้องเริ่มมาจับมือกับฝั่งมือถือกันเยอะมากขึ้นและทาง vivo เองก็ได้จับมือกับ ZEISS มาอย่างอย่าวนานแล้วในรุ่นก่อนหน้าและรุ่นนี้ก็เป็นการร่วมมือที่จัดเต็มมากกว่าเดิม ในรุ่น vivo X60 PRO นั้นเองครั้งนี้นอกเหนือจากพัฒนาอะไรร่วมกันยังมีการทำ Effect เลนส์แบบ BIOTAR เสริมเข้ามาทำให้โบเก้นั้นจะวนๆสวยงามมากเวลาถ่ายบุคคลครับเป็นจุดเด่นของ ZEISS เลยก็ว่าได้ในครั้งนี้ และสเปคอื่นๆของ vivo X60 Pro 5G เองนั้นจัดเต็มไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ 120Hz กล้องหลัง 48MP กันสั่นที่พัฒนาขึ้น และงานออกแบบที่ยังคงโดดเด่น ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจมากๆตัวนึงในตลาดตอนนี้สำหรับใครที่เน้นกล้องหน้าหลัง และ การใช้งานระดับสูง
VIVO X60 PRO ตัวนี้ใช้งาน หน้าจอ E3 AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว FHD+ ที่มีรีเฟรชเรท 120Hz และความถี่การตอบสนอง 240Hz ส่วนกล่องหน้าจะเป็นแบบเจาะรูที่มีความละเอียด 32MP และตัวสมาร์ทโฟนใช้งาน Snapdragon 870 ที่รองรับเครือข่าย 5G อีกทั้งยังมาพร้อมระบบปฏิบัติการใหม่อย่าง OriginOS ที่ครอบอยู่บน Android 11 ด้วย สำหรับรุ่น X60 Pro มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ที่ใช้เลนส์ของ Zeiss optics ประกอบด้วย กล้องตัวหลัก 48MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX598 ที่มาพร้อม OIS 5 แกนป้องกันการสั่น + กล้อง portrait 50mm 13MP + กล้องมุมกว้าง 120 องศา 13MP ที่รองรับมาโครขนาด 2.5cm และสำหรับฟีเจอร์การถ่ายรูปอื่น ๆ ได้แก่ การแก้ไขความคนชัดและสีแก่รูปภาพเก่า, vivo X60 Pro รองรับ multi-focus 1X, 2X สมาร์ทโฟนในซีรีย์ X60 จะมาพร้อมดีไซน์สี two-tone แบบ gradient และใช้เทคโนโลยี satin AG ที่ทำให้แทบจะปราศจากรอยนิ้วมือ อีกทั้งทาง vivo ได้ออกมาเผยว่า X60 ที่ถูกเปิดตัวนี้จะเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่ตัวเครื่องบางที่สุดในปัจจุบัน โดยมีความหนาเพียง 7.56mm และตัวเครื่องนั้นจะมาพร้อมกับแบตขนาด 4200mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 33W ส่วนการเปิดตัวในไทย รวมถึงทางด้านราคาเองนั้นต้องรอติดตามกันอย่างเป็นทางการอีกรอบว่าจะมาที่เท่าไรนะครับ แต่สเปคดีงามและน่าสนใจมาก และ เรื่องของคุณภาพการถ่ายรูป และ กันสั่นทำได้น่าประทับใจจริงๆ
UNBOX
ตัวกล่องยังคงมีความสวยพรีเมี่ยมและออกแบบได้ดีครับเมื่อเปิดเข้ามาข้างในจะเห็นการเขียนชื่อรุ่นพร้อมระบบกันสั่นให้เข้ามาด้านในพร้อมกับตัวเครื่องวางสวยๆอยู่ด้านในเป็นกล่องที่สวยงามและใส่ใจมากๆตัวนึงในคู่แข่งด้วยกันส่วนอุปกรณ์เองนั้นให้มาครบๆทั้ง หูฟัง ตัวแปลง ที่ชาร์จ และ สายครบพร้อมใช้งานรวมถึงตัวเคสใสแบบพลาสติกแข็ง
- ตัวเครื่อง vivo X60Pro 5G
- เคสใสแข็ง vivo X60Pro 5G
- ที่ชาร์จ USB-A รองรับชาร์จไว 33W
- สาย USB-C
- หูฟัง IN-EAR 3.5 มม.
- ตัวแปลง USB-C ไป 3.5 มม.
- คู่มือ และ ที่จิ้มซิม
ที่ชาร์จนั้นยังคงให้มาพร้อมกับชาร์จไว vivo Flashcharge 2.0 ที่ 33W ครับแน่นอนว่าเหลือๆในการใช้งานทั่วไปแล้ว พร้อมกับหัวแบบ USB-A ส่วนทางด้านหูฟังเองนั้นเป็นแบบ IN-EAR พรีเมี่ยมพร้อมกับสายแบบ 3.5 มม. รวมถึงให้ตัวแปลง USB-C ไป 3.5 มม. เสริมเข้ามาให้ แม้จะตัดรูหูฟังไปแต่ก็ให้อุปกรณ์มาครบๆเลยแหละ
ทางด้านเคสเองนั้นเป็นเคสแบบพลาสติกแข็งๆเลยในเรื่องของการปกป้องอาจจะไม่ได้โดดเด่นครับแต่ก็พอเข้าใจได้ที่ออกแบบมาแบบนี้เนื่องจาก vivo X60Pro 5G ตัวนี้ใช้หน้าจอแบบโค้งมากๆทำให้เคสต้องเกาะบนล่างแทนนั้นเอง ส่วนฝาหลังก็เป็นสีขุ่นๆขาวๆนิดหน่อยไม่ได้มีการออกแบบหรือเขียนอะไรพิเศษสำหรับตัวเคสนี้ไม่มีลูกเล่นอะไรครับ รวมถึงการปกป้องเลนส์ต่างๆนั้นขึ้นมานิดหน่อยไม่ได้เยอะมาก เคสแข็งนั้นจะไม่ได้เน้นการปกป้อง กระแทกอะไรนัก จะเห็นว่าในด้านหน้านั้นกระจกหน้าจอโค้งเยอะมากๆทำให้เคสต้องทำเป็นแบบเคสแข็งแน่นอนว่าไม่ต้องถามเรื่องการกันกระแทกเวลาตกครับด้วยหน้าจอและเคสแบบนี้ แต่ที่จะได้คือการปกป้องรอยขัดข่วนตามขอบเครื่อง ตามฝาหลังซะมากกว่า และได้ความเบาบางและจับถนัดมือมากกว่าเคสหนาๆแบบ TPU นั้นเองอันนี้ก็แล้วแต่คนชอบกันไปในตัวนี้
DESIGN
งานออกแบบรุ่นนี้ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของค่าย vivo ที่มาพร้อมกับเลนส์ขนาดใหญ่มุมซ้ายบนตัวเครื่องอีกทั้งเลนส์หลักด้านบนที่มีกันสั่น OIS+EIS 5 แกนจัดเต็มจะเห็นเลนว่าเลนส์ขยับได้เยอะมากๆรวมถึงโลโก้ของเทพแบบ ZEISS ไว้มุมขวาบน ทางด้านฝาหลังดีไซน์สวยงามพร้อมกับความโค้งแบบ 3D ไล่เฉดสีสวยงามจับถือถนัดและที่น่าสนใจขอบหน้าจอด้านหน้าก็โค้งลงมาด้วยเช่นกันพร้อมกับความบางเพียง 7.56mmถือว่าบาง เบา 177 กรัม พกพาได้ง่ายมาก และสีสันเวลาเจอแสงก็จะเปลี่ยนไปได้ตามสภาพแสงครับแต่ถ้าสีเดิมๆจะออกสีเงินอมฟ้าเล็กน้อยครับ
หน้าจอขนาด 6.56 นิ้ว LTM Display ที่ได้พัฒนาร่วมกับ Qualcomm ใช้งานหน้าจอแบบ AMOLED ที่มี Refresh Rate 120 Hz, Touch Sampling Rate ที่ 240Hz รองรับสีสันแบบ HDR10+ ในความละเอียด FHD+ ครับ รวมถึงการออกแบบขอบหน้าจอกระจกแบบ 3D โค้งลงเยอะในด้านข้างทั้ง 2 สวยงามและพรีเมี่ยม
ขอบด้านล่างยังคงเป็นการควบคุมมาตรฐานที่สามารถปรับใช้งานแบบเต็มหน้าจอได้รวมถึงขอบข้างๆโค้งลงไปทำให้ขอบบางขั้นเต็มตามากกว่าเดิม ส่วนขอบล่างก็ทำพื้นที่ได้ดีครับ สวยงามและเนียนไปกับหน้าจอได้กำลังสวยเลยแหละ
ขอบด้านบนนั้นเราจะเห็นว่าบางมากๆบางกว่าขอบล่าง แต่ยังใส่ทั้งลำโพง เซนเซอร์ และกล้องหน้ามาให้ครบๆส่วนนี้และกล้องหน้าให้มามากถึง 32MP ในขนาดเล็ก แต่คุณภาพไม่ธรรมดาเลยแหละครับ แต่น่าเสียดายเป็นลำโพงเดี่ยว
ฐานเครื่องเราจะเห็นลำโพงหลักพร้อมกับ เส้นเสาสัญญาณเพราะว่าตัวขอบนั้นเป็นอลูมิเนียมทั้งหมดแข็งแรงขึ้นรูปสวยงามมีการเว้าเล็กน้อยให้มีมิติครับ ส่วนรู USB-C เป็น 2.0 พร้อมกับรูไมค์หลัก และ ถาดซิมแบบ Dual SIM
ขอบเครื่องด้านขวานั้นจะเห็นเลยว่าฝาหลัง และหน้าจอโค้งเข้าหากันแบบสมมาตรทั้งหมดทำให้การขับถือนั้นมีการโค้งรับมือได้ดี แต่ก็มีข้อเสียในการระวังหรือการจับถืออาจจะโดนขอบจอได้ง่ายขึ้นนั้นเอง มาพร้อมกับปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง และ ปุ่ม Power ที่รองรับการใช้งานได้สบายๆมีการเปลี่ยนพื้วผิวเล็กน้อยในปุ่มเปิดปิดให้จับได้แตกต่างกัน
ขอบฐานด้านบนนั้นจะมีการใส่วัสดุสีเงาคล้ายกับฝาหลังเข้ามาพร้อมกับรูไมค์ตัดเสียง และ ตรงกลางเครื่องเขียนว่า PROFESSIONAL PHOTOGRAPHY ด้วยนะถือว่าแปลกตาดีเหมือนกันครับ มีลูกเล่นเล็กๆน้อยในส่วนขอบบนนี้
ขอบเครื่องทางด้านซ้ายนั้นเรียบๆไม่มีปุ่มหรือถาดซิมอะไรครับเราจะเห็นแค่ ขีดเสาสัญญาณเท่านั้นและการโค้งลงมาของฝาหลัง และกระจกหน้าจอ ส่วนกล้องหลังนั้นนูนกำลังดีไม่ได้เด่นมากนักและปกป้องได้กำลังดีไม่เกะกะมากเกินไป
สมาร์ทโฟนในซีรีย์ X60 นั้นจะมาพร้อมดีไซน์สี two-tone แบบ gradient และใช้เทคโนโลยี satin AG ที่ทำให้แทบจะปราศจากรอยนิ้วมือ บอกเลยว่าพรีเมี่ยม สวย และรักษาได้ง่ายเป็นกระจกด้านที่ออกแบบได้ดีทั้งมิติของแสงหรือว่าการสะท้อนแสงต่างๆนั้นโดดเด่นอย่างมากจริงๆ ตัวเครื่องที่บางและฝาหลังที่ขอบโค้งลงทั้ง 2 ข้างแบบ 3D ทำให้เวลาจับถือ ถือว่าบางและเบาถนัดมือแม้จะถือมือเดียวก็ตามครับ โลโก้วางนอนพร้อมกับกล้องหลังตำแหน่งที่คุ้นเคยกันดีเป็นเลนส์หลักขนาดใหญ่และเลนส์รองลงมาด้านล่าง และจะเห็น LOGO ZEISS โดดเด่น ขึ้นมาเช่นกัน
กล้องหลังถือว่าเป็นจุดเด่นและน่าสนใจมากๆของรุ่นนี้เพราะว่าทาง vivo เองนั้นได้ร่วมพัฒนากับทาง ZEISS แบรนด์เลนส์กล้องชื่อดัง ที่จะมาพัฒนาเลนส์ ระบบถ่ายภาพ โทนสีร่วมกับทาง vivo ครับ รวมถึงมี Effect Bokeh แบบพิเศษที่จะเจอในเลนส์ซีรีส์ Biotar พร้อมกับฟีเจอร์อื่นๆยังให้มาครบทั้งโหมด Pro Sports Mode, Kids Snapshot, HDR Super Night Portrait, Super Pano เป็นต้น ส่วนสเปคกล้องหลัง 48MP (f/1.48) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX598, OIS 4 แกน + กล้อง ultra-wide 120° 13MP (f/2.2) ที่มาพร้อมมาโครขนาด 2.5cm + กล้อง portrait 50mm 13MP (f/2.46) ถือว่าให้เลนส์ระยะมาครบมากๆทั้ง เทเล มุมกว้าง มาโคร และ เลนส์หลัก ที่ยังคงสานต่อการกันสั่นแบบ Gimbal Stabilization 2.0 ทำให้กันสั่นนิ่งขึ้นเยอะมากครับตัวนี้
SPEC
- หน้าจอ E3 AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว (2376×1080 พิกเซล) Full HD+, อัตราส่วน 19.8:9, รีเฟรชเรท 120Hz แบบโค้ง, HDR10+
- ชิบประมวลผล Snapdragon 870
- การ์ดจอ Adreno 650
- RAM LPDDR5 12GB + storage (UFS 3.1) 256GB
- Android 11 ที่ครอบด้วย Funtouch OS11.1
- ซิมคู่
- กล้องหลัง 48MP (f/1.48) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX598, OIS 5 แกน + กล้อง ultra-wide 120° 13MP (f/2.2) ที่มาพร้อมมาโครขนาด 2.5cm + กล้อง portrait 50mm 13MP (f/2.46) แฟลช LED
- กล้องหน้า 32MP (f/2.45)
- เซ็นเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอ
- พอร์ต USB Type-C
- ระบบเสียง Hi-Res Audio
- ขนาดตัวเครื่อง X60 Pro : 158.57×73.24×7.59mm; น้ำหนัก: 178กรัม
- รองรับ 5G SA/NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ax, Bluetooth 5.1, GPS (L1+L5 Dual Band) + GLONASS
- แบตเตอรี่ 4200mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 33W
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน Snapdragon 870 รอบรับการใช้งาน 5G มาพร้อมกับ Storage UFS 3.1 ในความจุ 256GB จัดเต็มด้วย RAM 12GB ส่วนทางด้านคะแนน UFS นั้นอ่านไปได้ที่ 1731 MB/s – เขียนไปได้ที่ 783MB/s ส่วน DRM L1 ในแอป Netflix รองรับ HD นะครับ ส่วนคะแนน Antutu ทำไปได้ 632412 คะแนนถือว่าตามระดับของ CPU และ Geekbench นั้นทำไปได้ 1015 /3400 คะแนน คะแนนภาพรวมนั้นดีขึ้นแน่นอนและใช้งานลื่นไหลเล่นเกมได้ดีกว่าเดิมแบบรู้สึกได้จริงๆ และการเขียนที่ไวขึ้นส่งผลการทำงานต่างๆในตัวเครื่องได้ดีขึ้นด้วยเช่นกันครับ บนพื้นฐานระบบ Funtouch OS 11.1
[SR] รีวิว VIVO X60PRO 5G พัฒนาร่วม ZEISS พร้อม กันสั่นเทพ 5 แกน หน้าจอ 120Hz !
เข้าสู่ยุคที่บรรดาค่ายเลนส์ กล้องเริ่มมาจับมือกับฝั่งมือถือกันเยอะมากขึ้นและทาง vivo เองก็ได้จับมือกับ ZEISS มาอย่างอย่าวนานแล้วในรุ่นก่อนหน้าและรุ่นนี้ก็เป็นการร่วมมือที่จัดเต็มมากกว่าเดิม ในรุ่น vivo X60 PRO นั้นเองครั้งนี้นอกเหนือจากพัฒนาอะไรร่วมกันยังมีการทำ Effect เลนส์แบบ BIOTAR เสริมเข้ามาทำให้โบเก้นั้นจะวนๆสวยงามมากเวลาถ่ายบุคคลครับเป็นจุดเด่นของ ZEISS เลยก็ว่าได้ในครั้งนี้ และสเปคอื่นๆของ vivo X60 Pro 5G เองนั้นจัดเต็มไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ 120Hz กล้องหลัง 48MP กันสั่นที่พัฒนาขึ้น และงานออกแบบที่ยังคงโดดเด่น ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจมากๆตัวนึงในตลาดตอนนี้สำหรับใครที่เน้นกล้องหน้าหลัง และ การใช้งานระดับสูง
VIVO X60 PRO ตัวนี้ใช้งาน หน้าจอ E3 AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว FHD+ ที่มีรีเฟรชเรท 120Hz และความถี่การตอบสนอง 240Hz ส่วนกล่องหน้าจะเป็นแบบเจาะรูที่มีความละเอียด 32MP และตัวสมาร์ทโฟนใช้งาน Snapdragon 870 ที่รองรับเครือข่าย 5G อีกทั้งยังมาพร้อมระบบปฏิบัติการใหม่อย่าง OriginOS ที่ครอบอยู่บน Android 11 ด้วย สำหรับรุ่น X60 Pro มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ที่ใช้เลนส์ของ Zeiss optics ประกอบด้วย กล้องตัวหลัก 48MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX598 ที่มาพร้อม OIS 5 แกนป้องกันการสั่น + กล้อง portrait 50mm 13MP + กล้องมุมกว้าง 120 องศา 13MP ที่รองรับมาโครขนาด 2.5cm และสำหรับฟีเจอร์การถ่ายรูปอื่น ๆ ได้แก่ การแก้ไขความคนชัดและสีแก่รูปภาพเก่า, vivo X60 Pro รองรับ multi-focus 1X, 2X สมาร์ทโฟนในซีรีย์ X60 จะมาพร้อมดีไซน์สี two-tone แบบ gradient และใช้เทคโนโลยี satin AG ที่ทำให้แทบจะปราศจากรอยนิ้วมือ อีกทั้งทาง vivo ได้ออกมาเผยว่า X60 ที่ถูกเปิดตัวนี้จะเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่ตัวเครื่องบางที่สุดในปัจจุบัน โดยมีความหนาเพียง 7.56mm และตัวเครื่องนั้นจะมาพร้อมกับแบตขนาด 4200mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 33W ส่วนการเปิดตัวในไทย รวมถึงทางด้านราคาเองนั้นต้องรอติดตามกันอย่างเป็นทางการอีกรอบว่าจะมาที่เท่าไรนะครับ แต่สเปคดีงามและน่าสนใจมาก และ เรื่องของคุณภาพการถ่ายรูป และ กันสั่นทำได้น่าประทับใจจริงๆ
UNBOX
ตัวกล่องยังคงมีความสวยพรีเมี่ยมและออกแบบได้ดีครับเมื่อเปิดเข้ามาข้างในจะเห็นการเขียนชื่อรุ่นพร้อมระบบกันสั่นให้เข้ามาด้านในพร้อมกับตัวเครื่องวางสวยๆอยู่ด้านในเป็นกล่องที่สวยงามและใส่ใจมากๆตัวนึงในคู่แข่งด้วยกันส่วนอุปกรณ์เองนั้นให้มาครบๆทั้ง หูฟัง ตัวแปลง ที่ชาร์จ และ สายครบพร้อมใช้งานรวมถึงตัวเคสใสแบบพลาสติกแข็ง
- ตัวเครื่อง vivo X60Pro 5G
- เคสใสแข็ง vivo X60Pro 5G
- ที่ชาร์จ USB-A รองรับชาร์จไว 33W
- สาย USB-C
- หูฟัง IN-EAR 3.5 มม.
- ตัวแปลง USB-C ไป 3.5 มม.
- คู่มือ และ ที่จิ้มซิม
ที่ชาร์จนั้นยังคงให้มาพร้อมกับชาร์จไว vivo Flashcharge 2.0 ที่ 33W ครับแน่นอนว่าเหลือๆในการใช้งานทั่วไปแล้ว พร้อมกับหัวแบบ USB-A ส่วนทางด้านหูฟังเองนั้นเป็นแบบ IN-EAR พรีเมี่ยมพร้อมกับสายแบบ 3.5 มม. รวมถึงให้ตัวแปลง USB-C ไป 3.5 มม. เสริมเข้ามาให้ แม้จะตัดรูหูฟังไปแต่ก็ให้อุปกรณ์มาครบๆเลยแหละ
ทางด้านเคสเองนั้นเป็นเคสแบบพลาสติกแข็งๆเลยในเรื่องของการปกป้องอาจจะไม่ได้โดดเด่นครับแต่ก็พอเข้าใจได้ที่ออกแบบมาแบบนี้เนื่องจาก vivo X60Pro 5G ตัวนี้ใช้หน้าจอแบบโค้งมากๆทำให้เคสต้องเกาะบนล่างแทนนั้นเอง ส่วนฝาหลังก็เป็นสีขุ่นๆขาวๆนิดหน่อยไม่ได้มีการออกแบบหรือเขียนอะไรพิเศษสำหรับตัวเคสนี้ไม่มีลูกเล่นอะไรครับ รวมถึงการปกป้องเลนส์ต่างๆนั้นขึ้นมานิดหน่อยไม่ได้เยอะมาก เคสแข็งนั้นจะไม่ได้เน้นการปกป้อง กระแทกอะไรนัก จะเห็นว่าในด้านหน้านั้นกระจกหน้าจอโค้งเยอะมากๆทำให้เคสต้องทำเป็นแบบเคสแข็งแน่นอนว่าไม่ต้องถามเรื่องการกันกระแทกเวลาตกครับด้วยหน้าจอและเคสแบบนี้ แต่ที่จะได้คือการปกป้องรอยขัดข่วนตามขอบเครื่อง ตามฝาหลังซะมากกว่า และได้ความเบาบางและจับถนัดมือมากกว่าเคสหนาๆแบบ TPU นั้นเองอันนี้ก็แล้วแต่คนชอบกันไปในตัวนี้
DESIGN
งานออกแบบรุ่นนี้ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของค่าย vivo ที่มาพร้อมกับเลนส์ขนาดใหญ่มุมซ้ายบนตัวเครื่องอีกทั้งเลนส์หลักด้านบนที่มีกันสั่น OIS+EIS 5 แกนจัดเต็มจะเห็นเลนว่าเลนส์ขยับได้เยอะมากๆรวมถึงโลโก้ของเทพแบบ ZEISS ไว้มุมขวาบน ทางด้านฝาหลังดีไซน์สวยงามพร้อมกับความโค้งแบบ 3D ไล่เฉดสีสวยงามจับถือถนัดและที่น่าสนใจขอบหน้าจอด้านหน้าก็โค้งลงมาด้วยเช่นกันพร้อมกับความบางเพียง 7.56mmถือว่าบาง เบา 177 กรัม พกพาได้ง่ายมาก และสีสันเวลาเจอแสงก็จะเปลี่ยนไปได้ตามสภาพแสงครับแต่ถ้าสีเดิมๆจะออกสีเงินอมฟ้าเล็กน้อยครับ
หน้าจอขนาด 6.56 นิ้ว LTM Display ที่ได้พัฒนาร่วมกับ Qualcomm ใช้งานหน้าจอแบบ AMOLED ที่มี Refresh Rate 120 Hz, Touch Sampling Rate ที่ 240Hz รองรับสีสันแบบ HDR10+ ในความละเอียด FHD+ ครับ รวมถึงการออกแบบขอบหน้าจอกระจกแบบ 3D โค้งลงเยอะในด้านข้างทั้ง 2 สวยงามและพรีเมี่ยม
ขอบด้านล่างยังคงเป็นการควบคุมมาตรฐานที่สามารถปรับใช้งานแบบเต็มหน้าจอได้รวมถึงขอบข้างๆโค้งลงไปทำให้ขอบบางขั้นเต็มตามากกว่าเดิม ส่วนขอบล่างก็ทำพื้นที่ได้ดีครับ สวยงามและเนียนไปกับหน้าจอได้กำลังสวยเลยแหละ
ขอบด้านบนนั้นเราจะเห็นว่าบางมากๆบางกว่าขอบล่าง แต่ยังใส่ทั้งลำโพง เซนเซอร์ และกล้องหน้ามาให้ครบๆส่วนนี้และกล้องหน้าให้มามากถึง 32MP ในขนาดเล็ก แต่คุณภาพไม่ธรรมดาเลยแหละครับ แต่น่าเสียดายเป็นลำโพงเดี่ยว
ฐานเครื่องเราจะเห็นลำโพงหลักพร้อมกับ เส้นเสาสัญญาณเพราะว่าตัวขอบนั้นเป็นอลูมิเนียมทั้งหมดแข็งแรงขึ้นรูปสวยงามมีการเว้าเล็กน้อยให้มีมิติครับ ส่วนรู USB-C เป็น 2.0 พร้อมกับรูไมค์หลัก และ ถาดซิมแบบ Dual SIM
ขอบเครื่องด้านขวานั้นจะเห็นเลยว่าฝาหลัง และหน้าจอโค้งเข้าหากันแบบสมมาตรทั้งหมดทำให้การขับถือนั้นมีการโค้งรับมือได้ดี แต่ก็มีข้อเสียในการระวังหรือการจับถืออาจจะโดนขอบจอได้ง่ายขึ้นนั้นเอง มาพร้อมกับปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง และ ปุ่ม Power ที่รองรับการใช้งานได้สบายๆมีการเปลี่ยนพื้วผิวเล็กน้อยในปุ่มเปิดปิดให้จับได้แตกต่างกัน
ขอบฐานด้านบนนั้นจะมีการใส่วัสดุสีเงาคล้ายกับฝาหลังเข้ามาพร้อมกับรูไมค์ตัดเสียง และ ตรงกลางเครื่องเขียนว่า PROFESSIONAL PHOTOGRAPHY ด้วยนะถือว่าแปลกตาดีเหมือนกันครับ มีลูกเล่นเล็กๆน้อยในส่วนขอบบนนี้
ขอบเครื่องทางด้านซ้ายนั้นเรียบๆไม่มีปุ่มหรือถาดซิมอะไรครับเราจะเห็นแค่ ขีดเสาสัญญาณเท่านั้นและการโค้งลงมาของฝาหลัง และกระจกหน้าจอ ส่วนกล้องหลังนั้นนูนกำลังดีไม่ได้เด่นมากนักและปกป้องได้กำลังดีไม่เกะกะมากเกินไป
สมาร์ทโฟนในซีรีย์ X60 นั้นจะมาพร้อมดีไซน์สี two-tone แบบ gradient และใช้เทคโนโลยี satin AG ที่ทำให้แทบจะปราศจากรอยนิ้วมือ บอกเลยว่าพรีเมี่ยม สวย และรักษาได้ง่ายเป็นกระจกด้านที่ออกแบบได้ดีทั้งมิติของแสงหรือว่าการสะท้อนแสงต่างๆนั้นโดดเด่นอย่างมากจริงๆ ตัวเครื่องที่บางและฝาหลังที่ขอบโค้งลงทั้ง 2 ข้างแบบ 3D ทำให้เวลาจับถือ ถือว่าบางและเบาถนัดมือแม้จะถือมือเดียวก็ตามครับ โลโก้วางนอนพร้อมกับกล้องหลังตำแหน่งที่คุ้นเคยกันดีเป็นเลนส์หลักขนาดใหญ่และเลนส์รองลงมาด้านล่าง และจะเห็น LOGO ZEISS โดดเด่น ขึ้นมาเช่นกัน
กล้องหลังถือว่าเป็นจุดเด่นและน่าสนใจมากๆของรุ่นนี้เพราะว่าทาง vivo เองนั้นได้ร่วมพัฒนากับทาง ZEISS แบรนด์เลนส์กล้องชื่อดัง ที่จะมาพัฒนาเลนส์ ระบบถ่ายภาพ โทนสีร่วมกับทาง vivo ครับ รวมถึงมี Effect Bokeh แบบพิเศษที่จะเจอในเลนส์ซีรีส์ Biotar พร้อมกับฟีเจอร์อื่นๆยังให้มาครบทั้งโหมด Pro Sports Mode, Kids Snapshot, HDR Super Night Portrait, Super Pano เป็นต้น ส่วนสเปคกล้องหลัง 48MP (f/1.48) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX598, OIS 4 แกน + กล้อง ultra-wide 120° 13MP (f/2.2) ที่มาพร้อมมาโครขนาด 2.5cm + กล้อง portrait 50mm 13MP (f/2.46) ถือว่าให้เลนส์ระยะมาครบมากๆทั้ง เทเล มุมกว้าง มาโคร และ เลนส์หลัก ที่ยังคงสานต่อการกันสั่นแบบ Gimbal Stabilization 2.0 ทำให้กันสั่นนิ่งขึ้นเยอะมากครับตัวนี้
SPEC
- หน้าจอ E3 AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว (2376×1080 พิกเซล) Full HD+, อัตราส่วน 19.8:9, รีเฟรชเรท 120Hz แบบโค้ง, HDR10+
- ชิบประมวลผล Snapdragon 870
- การ์ดจอ Adreno 650
- RAM LPDDR5 12GB + storage (UFS 3.1) 256GB
- Android 11 ที่ครอบด้วย Funtouch OS11.1
- ซิมคู่
- กล้องหลัง 48MP (f/1.48) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX598, OIS 5 แกน + กล้อง ultra-wide 120° 13MP (f/2.2) ที่มาพร้อมมาโครขนาด 2.5cm + กล้อง portrait 50mm 13MP (f/2.46) แฟลช LED
- กล้องหน้า 32MP (f/2.45)
- เซ็นเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอ
- พอร์ต USB Type-C
- ระบบเสียง Hi-Res Audio
- ขนาดตัวเครื่อง X60 Pro : 158.57×73.24×7.59mm; น้ำหนัก: 178กรัม
- รองรับ 5G SA/NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ax, Bluetooth 5.1, GPS (L1+L5 Dual Band) + GLONASS
- แบตเตอรี่ 4200mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 33W
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน Snapdragon 870 รอบรับการใช้งาน 5G มาพร้อมกับ Storage UFS 3.1 ในความจุ 256GB จัดเต็มด้วย RAM 12GB ส่วนทางด้านคะแนน UFS นั้นอ่านไปได้ที่ 1731 MB/s – เขียนไปได้ที่ 783MB/s ส่วน DRM L1 ในแอป Netflix รองรับ HD นะครับ ส่วนคะแนน Antutu ทำไปได้ 632412 คะแนนถือว่าตามระดับของ CPU และ Geekbench นั้นทำไปได้ 1015 /3400 คะแนน คะแนนภาพรวมนั้นดีขึ้นแน่นอนและใช้งานลื่นไหลเล่นเกมได้ดีกว่าเดิมแบบรู้สึกได้จริงๆ และการเขียนที่ไวขึ้นส่งผลการทำงานต่างๆในตัวเครื่องได้ดีขึ้นด้วยเช่นกันครับ บนพื้นฐานระบบ Funtouch OS 11.1
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้