กำลังสนุกเลยทีเดียว สำหรับละครเรื่อง พราวมุก ที่ออนแอร์อยู่ทางช่อง 3 ในขณะนี้
หลายคนอาจจะสะดุดตาสะดุดใจกับเลขาหนุ่มหน้าหล่อสไตล์เกาหลี และสงสัยว่าหนุ่มคนนี้เป็นใคร
ซึ่งหนุ่มคนนี้ก็คือ มีน นิชคุณ ขจรบริรักษ์ นั่นเอง
บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปทำความรู้จักกันหนุ่มคนนี้ให้มากขึ้นอีกนิด
บอกเลยว่าตอนนี้กำลังฮอตมาก เพราะเขามีดีกรีเป็นถึงนักกีฬาบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
และยังสังกัดสโมสรบาสเกตบอลบอลชื่อดัง "ไฮเทค บาสเกตบอล คลับ" อีกด้วย
โดย มีน ได้เปิดใจและเล่าถึงเส้นทางการมาเป็นนักกีฬา และทำงานในวงการบันเทิงให้เราฟัง ว่า
"ผมเป็นนายแบบครับ เดินแบบของสินค้าแบรนด์ เดินแบบตามแฟชั่นวีกครับผม
เริ่มต้นการเข้ามาทำงานในวงการนายแบบ คือผมไปเดินเล่นแถวสยามครับ แล้วคนที่เขามาเจอผม ก็พาไปหาโมเดลลิ่ง
ก็เริ่มเรียนรู้และเริ่มไปแคสต์งานครับ"
"คือผมเป็นหนุ่มคิวต์บอยอยู่แล้ว ลงตามเพจต่างๆ เช่น รถโรงเรียน คิวต์บอยไทยแลนด์ แล้วเป็นนักกีฬาด้วย
ตอนนั้นเป็นนักกีฬาอยู่แต่ยังไม่ได้เป็นนายแบบ ก็มียอดฟอลโลว์อยู่แล้ว เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนเริ่มสนใจผมด้วยครับ"
เป็นนักกีฬาบาสเกตบอลมาตั้งแต่ ม.2
"ผมเล่นบาสเกตบอลมาตั้งแต่ ม.2 แล้วครับ แล้วเพิ่งย้ายมา แต่ว่าเข้ามาเป็นนักกีฬาเต็มตัวตอน ม.4 ครับ
ตอนนั้นมีคัดตัวนักกีฬาที่ได้ทุนเรียนฟรีที่อัสสัมชัญ ธนบุรี เป็นโครงการของโรงเรียน พอมาคัดแล้วก็ติด เลยได้เรียนที่นั่นเลยครับ
ผมมาจากต่างจังหวัดไงตอนนั้น แล้วพอเข้ามหาวิทยาลัย ก็มาคัดตัวนักกีฬาของมหาวิทยาลัย ก็ได้ทุนเรียนเหมือนกันครับ
ส่วนนายแบบนี้ ผมเข้ามาทำตั้งแต่เรียน ม.5 แล้วครับ ตั้งแต่อายุ 16-17 ตอนนี้ 22 แล้ว งานที่ผ่านมาของผมส่วนใหญ่จะเป็นสายโมเดลมากกว่า
เช่น พวกเดินแบบ ถ่ายแบบ ด้วยความที่ผมสูง และเริ่มต้นมาจากการเป็นนายแบบ เลยทำให้ถนัดทางนี้มากกว่า
เพิ่งจะมามีผลงานซีรีส์ ละครเพิ่งปีที่แล้วเอง และ พราวมุก ก็เพิ่งออนแอร์ด้วย คือละครเรื่อง พราวมุก เป็นงานชิ้นแรกเลยที่ผมได้มาแสดง
จากนั้นก็ไปเล่นซีรีส์เรื่อง บังเอิญรัก2 เป็นซีรีส์วายครับ เล่นเป็นตัวร้าย คือทั้งเรื่องร้ายแต่ตอนจบไม่ได้ร้าย
ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ออนแอร์ก่อน พราวมุก เลยทำให้หลายคนรู้จักผมจากซีรีส์เรื่องนี้ก่อน"
"ตอนเป็นนักบาสก็มีสาวๆ มากรี๊ดบ้างครับ บอกตรงๆ เขินนะ บางแมตช์ก็เล่นไม่ออกเลย จนโค้ชด่าก็มี(หัวเราะ)
เพราะเราเขิน กลัวเล่นไม่ดี แล้วคนดูเราเยอะเลย เรากดดัน อยากทำให้ออกมาดี แต่เป็นตอนแรกๆ นะ ตอนนี้เริ่มชินแล้ว"
"ตอนนี้ผมก็ยังเล่นบาสอยู่ เป็นนักกีฬาของสโมสรไฮเทค บาสเกตบอล คลับ เพิ่งเซ็นสัญญาไป ก็ต้องไปซ้อมด้วย
แต่ดีที่เจ้าของสโมสรเขาเข้าใจ เลยแบ่งเวลาเอาว่า วันไหนต้องไปถ่ายละคร วันไหนว่างก็มาซ้อม
คือผมเป็นคนที่แบบถ้าวันไหนไม่ได้ไปซ้อมบาสตอนเย็น พอตื่นมาตอนเช้าก็เข้าฟิตเนสและค่อยไปทำงาน เพราะผมเป็นคนดูแลร่างกายอยู่แล้ว"
"การไปแข่ง ก็แล้วแต่ละรายการแข่งขันครับ เพราะแต่ละรายการจัดไม่เหมือนกัน ต้องแล้วแต่ผู้จัดรายการแข่งแต่ละครั้งด้วยครับ
ผมเล่นในตำแหน่งปีก แต่ด้วยความที่สูงกว่าคนอื่น เลยเข้าไปเล่นข้างนอกก็ได้ ข้างในก็ได้เป็นตัวฟรีครับ"
"ถามว่ายึดอาชีพนักกีฬาบาสเกตบอลเป็นอาชีพหลักเลยมั้ย ก็เป็นหลักเลยครับ เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไร
ตอนนี้เรายังเรียนหนังสืออยู่ด้วยครับ กำลังจะขึ้นปี 4 แล้วครับ ก็มีแค่เรียน ถ่ายงาน ซ้อมบาสครับ
ผมเรียนอยู่ที่ ม.กรุงเทพ ฝั่งกล้วยน้ำไทครับ คณะนิเทศศาสตร์อินเตอร์ครับ ด้านโฆษณา การตลาดครับ ตอนนี้ปิดเทอมอยู่ครับ
ช่วงโควิดนี้ส่วนใหญ่ผมก็จะดูซีรีส์และเข้าฟิตเนสครับ ส่วนใหญ่จะเข้าฟิตเนสมากกว่า แต่เป็นแบบส่วนตัวครับ"
กระทิง ขุนณรงค์ รับบทป๋าดัน
"ผมเป็นรุ่นน้องพี่กระทิง (กระทิง ขุนณรงค์) อยู่กับพี่กระทิงบ่อย แล้วพี่เขามาเห็นเลยบอกให้ไปลองแคสต์ดู ผมก็ไปครับ
ผมกับพี่กระทิงเราสนิทกันอยู่แล้ว เป็นเด็กเหนือเหมือนกัน เรียนมาจากที่เดียวกัน และเป็นนักบาสมาเหมือนกัน
พอไปอยู่ ม.กรุงเทพ ก็เป็นนักบาสเหมือนกัน พี่เขามาบอกให้ไปแคสต์ ก็ได้มาเล่นเป็นเลขาของพี่กระทิงในเรื่องครับ
พอได้เข้าฉากกับพี่กระทิงก็รู้สึกเป็นตัวเองมากขึ้น ด้วยความที่เราประสบการณ์น้อย ก็อาจจะมีเกร็งบ้าง อย่างน้อยเราก็รู้จักกับพี่กระทิง
แล้วเราเล่นไม่เก่ง ก็จะเกร็งบ้าง พอไปเข้าฉากเจอพี่ภณกับพี่บัว และพี่กระทิงอยู่ ก็หายเกร็ง เพราะมีพี่กระทิงคอยช่วย
ตอนที่ถ่ายเรื่อง พราวมุก คือเมื่อ 2 ปีที่แล้วครับ ก่อนที่โควิดจะมา"
"พอละครออน ได้เห็นเรตติ้งรู้สึกดีใจครับ คนเริ่มจำผมได้แล้ว ส่วนใหญ่คนจะจำภาพเราที่อยู่ในสถานที่ทำงาน
เพราะในฉากส่วนใหญ่ที่อยู่ที่ทำงานจะมีผม อยู่กับบอส กับน้ำเพชร ภาพจำคือ เลขาภูมิ ด้วย
และตั้งแต่ละครออนแอร์ไป ยอดฟอลโลว์ในอินสตาแกรมเพิ่มขึ้นครับ เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ครับ ทุกครั้งที่มีการออนแอร์ครับผม"
"สำหรับกระแสตอบรับ ซีรีส์ บังเอิญรัก2 คือมันเป็นซีซั่น 2 แล้วใช่มั้ยครับ มีแฟนคลับในซีซั่นแรกมาติดตามใหม่
เพราะเราเป็นนักแสดงใหม่ในซีซั่น 2 การตอบรับดีมากครับ ยอดฟอลโลว์เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก
ตอนที่เล่นละคร ผมไม่เคยเรียนแอ็กติ้งมาก่อนเลย แต่อาศัยการเวิร์กช็อปเอา พอมาเป็นซีรีส์เขาก็ส่งไปเรียน มีครูมาสอน
ส่วนงานต่อไปก็ต้องรอดูครับ ว่าอนาคตจะได้ทำอะไรต่อ คือต้องรอหลังช่วงโควิดเลยครับ ตอนนี้ว่างก็เล่นฟิตเนส เล่นเกมครับ"
"ถ้าถามว่างานในวงการบันเทิงต่อไปอยากทำอะไร เช่น เรื่องร้องเพลงใช่มั้ยครับ ก็มีผู้จัดการเคยส่งไปเรียน แต่ก็ไม่ได้ร้องเพราะขนาดนั้น
แต่ผมเป็นคนชอบร้องเพลง แต่ไม่ได้ร้องเพี้ยนนะ ครูเขาบอกว่าเราพูดไม่ชัด ก็ต้องฝึกนิดนึง อยากเล่นหนังก็อยาก อยากเล่นซีรีส์ด้วย"
เป็นลูกชายที่ทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจได้เต็มที่
"พ่อแม่เขาก็ภูมิใจครับ เพราะตอนที่เราคุยกับเขาไว้ในตอนแรก คือเรามาเป็นนักกีฬาในกรุงเทพฯ เราก็หาอะไรทำระหว่างนั้นด้วย แบ่งเบาภาระ
พอได้เงินมาก็ไม่ต้องขอเงินพ่อแม่มาตั้งแต่ ม.6 แล้วครับ ส่วนค่าเทอมผมเรียนฟรีอยู่แล้ว เพราะเป็นโควตานักกีฬา จ่ายเองแค่ค่าที่พัก ค่ากินใช้ครับ
พ่อแม่มีลูก 2 คนครับ ผมเป็นลูกชายคนโต และมีน้องชายอีกคน
ตอนนี้ก็ต้องดูแลเลี้ยงน้องด้วย เพราะน้องก็เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ก็เลยอยู่คอนโดด้วยกัน
ถามว่าพ่อกับแม่หวงมั้ย พ่อเขาก็บอกว่า เมื่อก่อนเขาก็เคยเข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ เหมือนกัน เขาก็รู้ว่ามันเป็นยังไง ก็เป็นห่วงเรา
แต่ทีนี้ผมอยู่กับกลุ่มนักกีฬาผู้ชาย แรกๆ พ่อแม่เขาก็เป็นห่วงว่าจะออกนอกลู่นอกทาง เราก็บอกไม่ต้องห่วง ก็ทำให้เขาเห็นแทนคำพูดครับ"
เป็นคนมาดนิ่ง ทำให้ดูหยิ่งมาก
"ถ้าในสายตาคนข้างนอกมองมาอาจจะมองว่าผมเป็นคนไม่ค่อยคุยกับใคร แต่จริงๆ อยากคุยมาก แต่พูดไม่เก่ง
ถ้าสนิทจริงๆ ผมจะมีเรื่องคุยได้ครับ อย่างถ้าร่วมงานกับคนอื่น เขาอาจจะมองว่าเราไม่คุย มันดูน่าอึดอัด
แต่ความจริงคือเราอยู่แบบเจียมตัวของเรา และก็ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรดีครับ
ตอนนี้ก็เริ่มพูดคุยมากขึ้นแล้ว เหมือนเราทำงานตรงนี้ ก็ต้องแลกเปลี่ยนความคิดกัน เขาสอนเรา เราก็รับ
และเราก็คุยกับเขาได้ เขาจะได้ช่วยเรา ปรึกษากันได้
ถามว่าขี้อายมั้ย ก็ระดับหนึ่งเลยครับ เป็นคนที่คุยไม่เก่งจริงๆ จนคนรอบข้างบอกว่าเป็นคนพูดน้อยนะ ขนาดผู้จัดการส่วนตัวยังบอกเลย
แต่พอตอนเดินแบบผมไม่อายนะ เพราะรู้สึกว่าเหมือนได้ทำสิ่งที่เรารักเราชอบ เราจะเป็นคนละคนเลย
อย่างตอนเล่นบาสก็จะเป็นคนละคนเหมือนกัน อยู่นอกสนามกับในสนามก็คนละคนเลยครับ เป็นตัวของตัวเองกว่า เต็มที่กว่า"
"คือเวลาถ่ายรูปผมจะเป็นคนไม่ค่อยยิ้มมากกว่า เพราะเป็นคนไม่ชอบยิ้มเห็นฟัน เหมือนเรามั่นใจในมุมนี้ครับ(ยิ้ม)"
"สุดท้ายนี้ขอฝากด้วยนะครับเรื่อง พราวมุก นะครับ ฝากติดตามไปเรื่อยๆ จนจบด้วยนะครับ และขอบคุณแฟนๆ ที่ติดตามมาตลอดเลย
บางคนอาจจะติดตามมาตั้งแต่เดินแบบ ตั้งแต่ซีรีส์เลย ก็อยากให้ติดตามกันต่อไป ขอบคุณมากครับ"
เป็นเด็กหนุ่มที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจแบบนี้ ในอนาคตขอให้หนุ่ม มีน นิชคุณ เติบโตในเส้นทางและความฝันดังที่ตั้งใจ
ขอ tag นักแสดง ' นิชคุณ ขจรบริรักษ์ '
🔎 เปิดวาร์ปเลขาหล่อต้องบอกต่อ "มีน นิชคุณ" เลขาภูมิ จาก "พราวมุก"
"คือผมเป็นหนุ่มคิวต์บอยอยู่แล้ว ลงตามเพจต่างๆ เช่น รถโรงเรียน คิวต์บอยไทยแลนด์ แล้วเป็นนักกีฬาด้วย
"ผมเล่นบาสเกตบอลมาตั้งแต่ ม.2 แล้วครับ แล้วเพิ่งย้ายมา แต่ว่าเข้ามาเป็นนักกีฬาเต็มตัวตอน ม.4 ครับ
"ผมเป็นรุ่นน้องพี่กระทิง (กระทิง ขุนณรงค์) อยู่กับพี่กระทิงบ่อย แล้วพี่เขามาเห็นเลยบอกให้ไปลองแคสต์ดู ผมก็ไปครับ
"พ่อแม่เขาก็ภูมิใจครับ เพราะตอนที่เราคุยกับเขาไว้ในตอนแรก คือเรามาเป็นนักกีฬาในกรุงเทพฯ เราก็หาอะไรทำระหว่างนั้นด้วย แบ่งเบาภาระ
"ถ้าในสายตาคนข้างนอกมองมาอาจจะมองว่าผมเป็นคนไม่ค่อยคุยกับใคร แต่จริงๆ อยากคุยมาก แต่พูดไม่เก่ง