เบื่อกันไหมมมมมมมมมมมมมมมมมมม ? บ้านใครที่พื้นที่หน้าบ้านว่าง ๆ มองไปแล้วรู้สึกว่าอยากเกิดให้มีพื้นที่สีเขียวบ้าง เหมือนที่เวลาเราไปคาเฟ่ เรามักเลือกคาเฟ่ที่มีความเป็นธรรมชาติ ต้นไม้เยอะ ๆ แล้วทำไมไอเดียเหล่านี้จะเกิดขึ้นที่บ้านเราไม่ได้บ้างล่ะ วันนี้ บ้านบ้าน จะพามาทำความรู้จักกับ "สนามหญ้า" และประเภทของ "หญ้า" ที่จะช่วยทำให้บ้านน่าอยู่ น่ามอง มากขึ้น
หญ้าที่หลายหลังคาเรือนส่วนใหญ่นิยมปลูก
ส่วนข้อดีของสนามหญ้าก็คือ ช่วยลดความร้อนในสวนได้ดี ปรับแสงสะท้อน และดูดซับฝุ่นละออง แต่ก่อนอื่นเราต้องนึกถึงชนิด และความเหมาะสมของพื้นที่ที่เราจะทำการปลูกด้วย
** หญ้าญี่ปุ่น
เป็นหญ้าที่นิยมนำมาจัดสวนญี่ปุ่น โดยแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ
1. หญ้าแบบใบกว้าง
2. หญ้าแบบใบกลม
หญ้าชนิดนี้ต้องการน้ำมาก และเติบโตช้าต้องใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปีกว่าจะขึ้นเต็มสนาม ถ้าขาดน้ำเป็นระยะเวลานานจะทำให้ใบเหลืองทันที แม้จะเป็นหญ้าที่โตช้า แต่เมื่อขึ้นแล้วจะหนาแน่นมากจนวัชพืช ไม่สามารถขึ้นแข่งได้ ด้วยลักษณะใบมีสีเขียวเข้ม ใบเล็กละเอียด ปลายใบแข็งกระด้าง ขอบใบเรียบ ไม่มีขน จึงเหมาะสำหรับนำไปปลูกในสวนหย่อม และพื้นที่ไม่กว้างนัก แต่หญ้าญี่ปุ่นก็มีข้อเสีย เพราะใบหญ้าแข็ง เวลาตัดแต่งจึงลำบากและต้องใช้แรงมาก
คุณสมบัติของหญ้าญี่ปุ่น
เป็นชนิดขนาดเล็กมองดูแล้วสวยงามดี เหมาะสำหรับปลูกเป็นสวนหย่อม และพื้นที่ก็ควรไม่กว้างมากนัก และใช้ปลูกในบริเวณ ที่เป็นทางเข้าได้ดี เพราะสามารถป้องกัน และควบคุมไม่ให้บุกรุกบน ทางเท้า ได้ง่ายกว่าชนิดอื่น
ข้อเสียของหญ้าญี่ปุ่น
สัมผัสใบที่แข็งกระด้าง และปลายใบเล็กเรียวแหลม ทิ่มตำระคายผิวหนัง การตัดลำบาก และกินแรงมาก
** หญ้านวลน้อย
หญ้าที่ชอบแสงแดดจัด ทนต่อการเหยียบย่ำได้ดี ไม่ต้องดูแลรักษามาก รวมทั้งยังเป็นหญ้าที่นิยมปลูกกันมากเพราะสามารถขึ้นได้ดีในดินเกือบทุกชนิด ส่วนใหญ่จะนำหญ้าพันธุ์นี้ไปปลูกเป็นสนามนั่งเล่น และสวนสาธารณะที่ต้องการความสวยงาม
หญ้านวลน้อย มีลักษณะคล้ายกับหญ้าญี่ปุ่น แต่มีลักษณะที่แตกต่างกัน คือ
- หญ้านวลน้อยมีใบกว้างกว่า
- การเจริญเติบโตเร็วกว่า
- ใบไม่แข็งกระด้าง แต่หญ้าญี่ปุ่นมีค่อนข้างแข็งกระด้าง
- ช่อดอกยาว และเห็นได้ชัดกว่า
ประโยชน์ของหญ้านวลน้อย
1. หญ้านวลน้อยใช้ประโยชน์ในการปลูกทำลานหญ้าเป็นหลัก ได้แก่
- ลานหญ้าภายในบ้านหรือสวนหย่อมในบริเวณบ้าน
- ขอบแปลงจัดสวนหรือสวนหย่อม
- สนามเด็กเล่น
2. ทำให้สนามหญ้าดูเรียบ และช่วยเพิ่มสีเขียว เพิ่มความสวยงามของแปลงจัดสวนหรือสวนหย่อมต่างๆ
3. ใช้ปลูกเป็นพืชคลุมดิน ป้องกันการกัดเซาะหน้าดิน
คุณสมบัติของหญ้านวลน้อย
ลำต้น และใบยืดหยุ่นตัวได้ดี ทนต่อสภาพการเหยียบย่ำ ไม่ว่าจะเป็นการเหยียบย่ำของคน รถยนต์ หรือวัสดุต่างๆ เวลาเดินเหยียบจะรู้สึกนุ่มเท้า ลำต้น และใบอ่อนนุ่ม ไม่หยาบกร้าน แม้นอนทับจะไม่ค่อยระคายผิวหรือทำให้เกิดอาการคัน ลำต้นไม่ขึ้นสูง และตัดตกแต่งได้ง่าย แลดูคล้ายพรมหลังการตัดแต่ง ลำต้นแตกกอคลุมหน้าดินได้รวดเร็ว ทนต่อสภาพอากาศร้อน และทนต่อสภาพแห้งแล้งได้เล็กน้อย ทนต่อสภาพน้ำขังได้บ้าง เติบโตได้ดีเกือบทุกสภาพดิน ทั้งดินเหนียว ดินทราย ที่สำคัญไม่มีโรค และแมลงกัดกิน
ข้อเสียของหญ้านวลน้อย
เป็นหญ้าที่ไม่ชอบการขาดน้ำ หากปล่อยในช่วงที่อากาศร้อนมาก ๆ ไม่มีฝนตก สัก 1 เดือน จะเริ่มมีอาการเหี่ยวแห้ง และตาย ดังนั้น ต้องรดน้ำไม่ต่ำกว่า 1 ครั้วต่ออาทิตย์
** หญ้ามาเลเซีย
หากต้องการปลูกหญ้าในที่ร่ม ควรเลือกหญ้ามาเลเซียมาปลูก เพราะหญ้ามาเลเซียชอบอยู่ในที่ร่มชื้น และไม่ต้องเอาใจใส่มากนัก เพราะไม่ต้องตัดบ่อย จึงเหมาะสำหรับ ผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแล หญ้ามาเลเซียเป็นหญ้าที่ชอบน้ำ หญ้ามาเลเซียใบใหญ่ สีเขียวเข้มเหมาะสำหรับปูสนามและจัดสวนได้ดีพอๆ กับหญ้าชนิดอื่น
ประโยชน์ของหญ้ามาเลเซีย
1. หญ้ามาเลเซียใช้ปลูกเป็นลานหญ้าหรือสนามหญ้าเป็นหลัก ได้แก่
- พื้นที่ว่างภายในบ้าน
- แปลงจัดสวน
- ลานสนามเด็กเล่น
2. ช่วยให้สนามหญ้าหรือลานหญ้าดูเรียบ ลานหญ้ามีสีเขียวสด แลดูสวยงาม
3. ช่วยปกคลุมหน้าดินคลุมดิน ป้องกันการกัดเซาะหน้าดิน และป้องกันไม่ให้มีหญ้าชนิดอื่นที่มีต้นสูงขึ้นปกคลุม
คุณสมบัติของหญ้ามาเลเซีย
ลำต้นแตกเหง้า และไหลเลื้อยตามผิวดิน มีใบจะแตกออกปกคลุมหน้าดิน ลำต้นแตกเหง้าไหลได้เร็ว ทำให้เพิ่มกอหญ้าปกคลุมหน้าดินได้เร็ว
ลำต้น และใบยืดทนต่อการเหยียบย่ำได้ดี เวลาเดินผ่านจะรู้สึกเย็น และนุ่มเท้า แต่จะรู้สึกนุ่มน้อยกว่าหญ้านวลน้อย ใบมีลักษณะหยาบน้อย อ่อนตัวได้ดี ทำให้ตัดตกแต่งได้ง่าย ลำต้น และใบมีขนาดสั้น ปกคลุมเรียบตามหน้าดิน สามารถเติบโตได้ดี ทั้งในที่โล่ง และใต้ร่มไม้ที่มีแสงรำไร ทนต่อต่อสภาพแห้งแล้งได้เล็กน้อย ทนต่อสภาพน้ำขังได้ดี เติบโตได้ดีในทุกสภาพดิน ยกเว้นดินเค็ม และทนต่อดินต่อดินเปรี้ยวได้ดี ที่สำคัญไม่พบโรค และแมลงกัดกินใบ
ข้อเสียของหญ้ามาเลเซีย
เป็นหญ้าที่ต้องการน้ำอย่างเพียงพอหรือดินมีความชุ่มชื้นเสมอ หากขาดน้ำมากใบจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอมแดง ใบแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ซึ่งจะตัดกับใบอื่นที่มีสีเขียว ทำให้มองเห็นความแตกต่างชัดเจนจนสนามหญ้าแลดูไม่สวยงาม ขอบใบคม และสากมือ
** หญ้าเบอร์มิวด้า
มีลักษณะใบละเอียด นิ่ม และทนต่อการเหยียบย่ำ รวมทั้งยังฟื้นตัวได้ดี หญ้าชนิดนี้ทนต่อความร้อน และความแห้งแล้งได้เป็นเวลานานๆ รวมทั้งหากน้ำท่วมหญ้าชนิดนี้ก็สามารถอยู่ได้ หญ้าเบอร์มิวด้ามีใบสวยงาม เหมาะแก่การทำสนามกอล์ฟ และสวนสาธารณะ แต่ไม่นิยมนำมาทำสนามฟุตบอล
ประโยชน์หญ้าของเบอร์มิวด้า
หญ้าเบอร์มิวด้า เป็นหญ้าที่สวยงามใบละเอียดนิ่ม ใช้ปลูกเป็นสนามหญ้าได้เกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ สนามหญ้า สนามเด็กเล่น และสวนประดับ สวนญี่ปุ่นได้ดี แต่จะเหมาะสำหรับทำกรีน และทำที่บนสนามกอล์ฟ
คุณสมบัติของหญ้าเบอร์มิวด้า
หญ้าเบอร์มิวด้าทนต่อความแห้งแล้ง และความร้อนได้สูง เนื่องจากการเจริญเติบโตเร็ว แม้กระทั่งตามถนนที่มีรอยแตก หญ้านี้จะแทรกตัวไปขึ้นได้ดี ทนต่อการเหยียบย่ำ ตายยากและยังสามารถเลี้อยเจริญเติบโตได้เร็ว
ข้อเสียของหญ้าเบอร์มิวด้า
ต้องมีการตัดแต่งอยู่สม่ำเสมอ หากทิ้งไว้จะขึ้นสูงรก
ได้ทำความรู้จักกับพืชที่น่านำมาปลูกทั้ง 5 ชนิดที่มีผู้นิยมปลูกสูงสุดกันแล้ว คราวนี้ก็คำถามสำคัญว่า แล้วบ้านเราละ ควรเลือกชนิดใดมาปลูกดี
ควรพิจารณาสถานที่ ที่จะปลูกเป็นอันดับแรก เพราะสถานที่นั้นสำคัญมาก เพราะพื้นที่แต่ละส่วนของบ้าน มีการรับแสงแดดแตกต่างกัน โดนแดดมากน้อยหรือมีน้ำชื้น แฉะมากเพียงได การวิเคราะห์พื้นที่ได้อย่างถูกต้องนั้นมีส่วนช่วยให้ เราสามารถรักษาสนามหญ้าไว้เชยชมได้อย่างยาวนาน และประหยัดงบประมาณในการดูแล ได้มากมาย
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก : พืชเกษตร
ทำความรู้จักกับ "สนามหญ้า" พรมธรรมชาติที่ช่วยทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวา
- หญ้านวลน้อยมีใบกว้างกว่า
- การเจริญเติบโตเร็วกว่า
- ใบไม่แข็งกระด้าง แต่หญ้าญี่ปุ่นมีค่อนข้างแข็งกระด้าง
- ช่อดอกยาว และเห็นได้ชัดกว่า
ประโยชน์ของหญ้านวลน้อย
1. หญ้านวลน้อยใช้ประโยชน์ในการปลูกทำลานหญ้าเป็นหลัก ได้แก่
- ลานหญ้าภายในบ้านหรือสวนหย่อมในบริเวณบ้าน
- ขอบแปลงจัดสวนหรือสวนหย่อม
- สนามเด็กเล่น
2. ทำให้สนามหญ้าดูเรียบ และช่วยเพิ่มสีเขียว เพิ่มความสวยงามของแปลงจัดสวนหรือสวนหย่อมต่างๆ
3. ใช้ปลูกเป็นพืชคลุมดิน ป้องกันการกัดเซาะหน้าดิน
คุณสมบัติของหญ้านวลน้อย
ลำต้น และใบยืดหยุ่นตัวได้ดี ทนต่อสภาพการเหยียบย่ำ ไม่ว่าจะเป็นการเหยียบย่ำของคน รถยนต์ หรือวัสดุต่างๆ เวลาเดินเหยียบจะรู้สึกนุ่มเท้า ลำต้น และใบอ่อนนุ่ม ไม่หยาบกร้าน แม้นอนทับจะไม่ค่อยระคายผิวหรือทำให้เกิดอาการคัน ลำต้นไม่ขึ้นสูง และตัดตกแต่งได้ง่าย แลดูคล้ายพรมหลังการตัดแต่ง ลำต้นแตกกอคลุมหน้าดินได้รวดเร็ว ทนต่อสภาพอากาศร้อน และทนต่อสภาพแห้งแล้งได้เล็กน้อย ทนต่อสภาพน้ำขังได้บ้าง เติบโตได้ดีเกือบทุกสภาพดิน ทั้งดินเหนียว ดินทราย ที่สำคัญไม่มีโรค และแมลงกัดกิน
ข้อเสียของหญ้านวลน้อย
เป็นหญ้าที่ไม่ชอบการขาดน้ำ หากปล่อยในช่วงที่อากาศร้อนมาก ๆ ไม่มีฝนตก สัก 1 เดือน จะเริ่มมีอาการเหี่ยวแห้ง และตาย ดังนั้น ต้องรดน้ำไม่ต่ำกว่า 1 ครั้วต่ออาทิตย์
** หญ้ามาเลเซีย
หากต้องการปลูกหญ้าในที่ร่ม ควรเลือกหญ้ามาเลเซียมาปลูก เพราะหญ้ามาเลเซียชอบอยู่ในที่ร่มชื้น และไม่ต้องเอาใจใส่มากนัก เพราะไม่ต้องตัดบ่อย จึงเหมาะสำหรับ ผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแล หญ้ามาเลเซียเป็นหญ้าที่ชอบน้ำ หญ้ามาเลเซียใบใหญ่ สีเขียวเข้มเหมาะสำหรับปูสนามและจัดสวนได้ดีพอๆ กับหญ้าชนิดอื่น
ประโยชน์ของหญ้ามาเลเซีย
1. หญ้ามาเลเซียใช้ปลูกเป็นลานหญ้าหรือสนามหญ้าเป็นหลัก ได้แก่
- พื้นที่ว่างภายในบ้าน
- แปลงจัดสวน
- ลานสนามเด็กเล่น
2. ช่วยให้สนามหญ้าหรือลานหญ้าดูเรียบ ลานหญ้ามีสีเขียวสด แลดูสวยงาม
3. ช่วยปกคลุมหน้าดินคลุมดิน ป้องกันการกัดเซาะหน้าดิน และป้องกันไม่ให้มีหญ้าชนิดอื่นที่มีต้นสูงขึ้นปกคลุม
คุณสมบัติของหญ้ามาเลเซีย
ลำต้นแตกเหง้า และไหลเลื้อยตามผิวดิน มีใบจะแตกออกปกคลุมหน้าดิน ลำต้นแตกเหง้าไหลได้เร็ว ทำให้เพิ่มกอหญ้าปกคลุมหน้าดินได้เร็ว
ลำต้น และใบยืดทนต่อการเหยียบย่ำได้ดี เวลาเดินผ่านจะรู้สึกเย็น และนุ่มเท้า แต่จะรู้สึกนุ่มน้อยกว่าหญ้านวลน้อย ใบมีลักษณะหยาบน้อย อ่อนตัวได้ดี ทำให้ตัดตกแต่งได้ง่าย ลำต้น และใบมีขนาดสั้น ปกคลุมเรียบตามหน้าดิน สามารถเติบโตได้ดี ทั้งในที่โล่ง และใต้ร่มไม้ที่มีแสงรำไร ทนต่อต่อสภาพแห้งแล้งได้เล็กน้อย ทนต่อสภาพน้ำขังได้ดี เติบโตได้ดีในทุกสภาพดิน ยกเว้นดินเค็ม และทนต่อดินต่อดินเปรี้ยวได้ดี ที่สำคัญไม่พบโรค และแมลงกัดกินใบ
ข้อเสียของหญ้ามาเลเซีย
เป็นหญ้าที่ต้องการน้ำอย่างเพียงพอหรือดินมีความชุ่มชื้นเสมอ หากขาดน้ำมากใบจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอมแดง ใบแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ซึ่งจะตัดกับใบอื่นที่มีสีเขียว ทำให้มองเห็นความแตกต่างชัดเจนจนสนามหญ้าแลดูไม่สวยงาม ขอบใบคม และสากมือ
** หญ้าเบอร์มิวด้า
มีลักษณะใบละเอียด นิ่ม และทนต่อการเหยียบย่ำ รวมทั้งยังฟื้นตัวได้ดี หญ้าชนิดนี้ทนต่อความร้อน และความแห้งแล้งได้เป็นเวลานานๆ รวมทั้งหากน้ำท่วมหญ้าชนิดนี้ก็สามารถอยู่ได้ หญ้าเบอร์มิวด้ามีใบสวยงาม เหมาะแก่การทำสนามกอล์ฟ และสวนสาธารณะ แต่ไม่นิยมนำมาทำสนามฟุตบอล