คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
การจะสรุปว่าป่วย/ตายจากวัคซีน หลักการคือ
1. ตาย/ป่วย -- ด้วยอาการที่อธิบายได้ด้วยกลไกของวัคซีน หรืออาการแพ้ และเกิดขึ้นในระยะเวลาที่เป็นไปได้
เช่น ฉีดแล้วเกิดอาการแพ้รุนแรงแบบ anaphylaxis ในเวลา 12 ชั่วโมงหลังฉีด แบบนี้ชัดเจน
หรือ คนที่ฉีดวัคซีนวัณโรค แล้วต่อมาเกิดวัณโรค โดยเพาะเชื้อขึ้นเป็นสายพันธ์ุที่อยู่ในวัคซีน
(วัคซีนวัณโรคเป็นชนิดเชื้อเป็น แต่เป็นคนละสายพันธ์ุกับที่ก่อโรคในคน) แบบนี้ก็บอกได้เลยว่าเกิดจากวัคซีน
2. ถ้าไม่เป็นไปตามข้อ 1 -- เช่น อาการที่เกิดไม่น่าจะเกี่ยวกับวัคซีนเลย อาการอธิบายด้วยโรคประจำตัวมากกว่า
แบบนี้ต้องเกิดขึ้นในหลายๆ คน จึงจะบอกได้ว่าเป็นผลจากวัคซีน
คนที่มีโรคประจำตัวหลายอย่างก็ไม่เคยทราบมาก่อน จนวันที่ตายจากโรคนั้นๆ จึงทราบ
บางคนทั้งปีทั้งชาติไม่เคยเข้ารพ. ไม่เคยเช็คความดัน ไม่เคยตรวจไขมัน จะไปรู้ได้ยังไงว่ามีความเสี่ยง
วันนึงเส้นเลือดแตกในสมอง กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ก็เจอถมไปค่ะ
ทั้งนี้ถ้าสาเหตุการตายไม่ชัด ไม่ได้ผ่าพิสูจน์ มันก็น่ากังขา
แต่ถ้าผ่าพิสูจน์แล้วเจอคราบไขมันอุดตันในหลอดเลือด นั่นคือสะสมมาเป็นสิบปีแล้ว อธิบายด้วยวัคซีนไม่ได้
หากจะบอกว่าวัคซีนไปกระตุ้น ก็ต้องไปเทียบกับคนที่เป็นโรคแบบเดียวกัน ว่าฉีดกับไม่ฉีดอัตราตายต่างกันรึเปล่า
เช่น ถ้าคนที่เป็นโรคนี้มีอัตราตายอยู่แล้ว 1% ต่อปี เมื่อฉีดวัคซีนแล้วมีคนตาย 1% เท่าเดิม ก็โทษวัคซีนไม่ได้
แต่ถ้าฉีดวัคซีนเสร็จ กลายเป็นตาย 3% ต่อปี อันนี้อาจจะเป็นเพราะวัคซีนไปกระตุ้น
มีตัวอย่างผลเสียที่เกิดจากการโทษวัคซีนแบบไม่ศึกษาให้ดีก่อน คือ
ช่วงปี 1998 เคยมีบทความตีพิมพ์ในวารสารดังว่าวัคซีนป้องกันหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม (MMR) ทำให้เกิดออทิสติก
เป็นข่าวดังไปทั่วโลก พ่อแม่จำนวนมากไม่ยอมให้ลูกฉีดวัคซีน MMR จนเกิดโรคหัดระบาดในอังกฤษ ญี่ปุ่น อิตาลี อเมริกา
ถึงขั้นมีคนตายจากโรคหัด ทั้งที่ประเทศเหล่านี้แทบไม่มีผู้ป่วยโรคหัดมาหลายปีแล้ว ส่วนบริษัทวัคซีนก็โดนฟ้องกระจาย
สาเหตุเพราะวัคซีน MMR จะฉีดในเด็กอายุ 9-12 เดือน ซึ่งเป็นวัยที่ออทิสติกเริ่มปรากฏอาการพอดี
พอเจอเด็กที่ไปฉีดวัคซีนเสร็จแล้วถูกวินิจฉัยออทิสติกไม่กี่คน ก็ไปสรุปว่าเป็นจากวัคซีน
สุดท้ายเมื่อไปศึกษาในเด็กเป็นล้านๆ คน จึงพบว่าคนที่ฉีดกับไม่ฉีด MMR เกิดออทิสติกได้พอๆ กัน
ถึงได้สรุปว่าวัคซีนนี้ไม่ได้เกี่ยวกับออทิสติก และบทความดังกล่าวถูกถอดถอนออกไปในที่สุด
1. ตาย/ป่วย -- ด้วยอาการที่อธิบายได้ด้วยกลไกของวัคซีน หรืออาการแพ้ และเกิดขึ้นในระยะเวลาที่เป็นไปได้
เช่น ฉีดแล้วเกิดอาการแพ้รุนแรงแบบ anaphylaxis ในเวลา 12 ชั่วโมงหลังฉีด แบบนี้ชัดเจน
หรือ คนที่ฉีดวัคซีนวัณโรค แล้วต่อมาเกิดวัณโรค โดยเพาะเชื้อขึ้นเป็นสายพันธ์ุที่อยู่ในวัคซีน
(วัคซีนวัณโรคเป็นชนิดเชื้อเป็น แต่เป็นคนละสายพันธ์ุกับที่ก่อโรคในคน) แบบนี้ก็บอกได้เลยว่าเกิดจากวัคซีน
2. ถ้าไม่เป็นไปตามข้อ 1 -- เช่น อาการที่เกิดไม่น่าจะเกี่ยวกับวัคซีนเลย อาการอธิบายด้วยโรคประจำตัวมากกว่า
แบบนี้ต้องเกิดขึ้นในหลายๆ คน จึงจะบอกได้ว่าเป็นผลจากวัคซีน
คนที่มีโรคประจำตัวหลายอย่างก็ไม่เคยทราบมาก่อน จนวันที่ตายจากโรคนั้นๆ จึงทราบ
บางคนทั้งปีทั้งชาติไม่เคยเข้ารพ. ไม่เคยเช็คความดัน ไม่เคยตรวจไขมัน จะไปรู้ได้ยังไงว่ามีความเสี่ยง
วันนึงเส้นเลือดแตกในสมอง กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ก็เจอถมไปค่ะ
ทั้งนี้ถ้าสาเหตุการตายไม่ชัด ไม่ได้ผ่าพิสูจน์ มันก็น่ากังขา
แต่ถ้าผ่าพิสูจน์แล้วเจอคราบไขมันอุดตันในหลอดเลือด นั่นคือสะสมมาเป็นสิบปีแล้ว อธิบายด้วยวัคซีนไม่ได้
หากจะบอกว่าวัคซีนไปกระตุ้น ก็ต้องไปเทียบกับคนที่เป็นโรคแบบเดียวกัน ว่าฉีดกับไม่ฉีดอัตราตายต่างกันรึเปล่า
เช่น ถ้าคนที่เป็นโรคนี้มีอัตราตายอยู่แล้ว 1% ต่อปี เมื่อฉีดวัคซีนแล้วมีคนตาย 1% เท่าเดิม ก็โทษวัคซีนไม่ได้
แต่ถ้าฉีดวัคซีนเสร็จ กลายเป็นตาย 3% ต่อปี อันนี้อาจจะเป็นเพราะวัคซีนไปกระตุ้น
มีตัวอย่างผลเสียที่เกิดจากการโทษวัคซีนแบบไม่ศึกษาให้ดีก่อน คือ
ช่วงปี 1998 เคยมีบทความตีพิมพ์ในวารสารดังว่าวัคซีนป้องกันหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม (MMR) ทำให้เกิดออทิสติก
เป็นข่าวดังไปทั่วโลก พ่อแม่จำนวนมากไม่ยอมให้ลูกฉีดวัคซีน MMR จนเกิดโรคหัดระบาดในอังกฤษ ญี่ปุ่น อิตาลี อเมริกา
ถึงขั้นมีคนตายจากโรคหัด ทั้งที่ประเทศเหล่านี้แทบไม่มีผู้ป่วยโรคหัดมาหลายปีแล้ว ส่วนบริษัทวัคซีนก็โดนฟ้องกระจาย
สาเหตุเพราะวัคซีน MMR จะฉีดในเด็กอายุ 9-12 เดือน ซึ่งเป็นวัยที่ออทิสติกเริ่มปรากฏอาการพอดี
พอเจอเด็กที่ไปฉีดวัคซีนเสร็จแล้วถูกวินิจฉัยออทิสติกไม่กี่คน ก็ไปสรุปว่าเป็นจากวัคซีน
สุดท้ายเมื่อไปศึกษาในเด็กเป็นล้านๆ คน จึงพบว่าคนที่ฉีดกับไม่ฉีด MMR เกิดออทิสติกได้พอๆ กัน
ถึงได้สรุปว่าวัคซีนนี้ไม่ได้เกี่ยวกับออทิสติก และบทความดังกล่าวถูกถอดถอนออกไปในที่สุด
แสดงความคิดเห็น
ประกันแพ้วัคซีนโควิด ถ้าหมอลงว่าตายจากโรคประจำตัว ก็อดใช่มั้ยครับ
แต่...ที่ผ่านมาผมไม่เคยเห็นหมอคนไหนลงความเห็นว่าตายเพราะฉีดวัคซีนเลย แล้วทางประกันก็แจ้งว่า "จะจ่ายไม่จ่ายอยู่ที่หมอลง"
ถ้าวัคซีนมันไปเร่งให้โรคประจำตัวแสดงผลหนักขึ้น หรือร่ายกายอ่อนแอจนโรคประตัวกำเริบแล้วตาย
หมอก็ลงว่าตายด้วยโรคประจำตัวอยู่ดีป่าวครับ(ทั้งหมดเดาจากที่ไม่มีความรู้อะไรเลยครับถ้าผิดพลาดตรงไหนรบกวนบอกเพื่อเป็นความรู้ด้วยครับ)
ผมเลยอยากรู้ว่า
1. ทำไมหมอเค้าถึงลงว่าตายด้วยโรคประจำตัว โดนใครบีบบังครับ หรือ เบื้องบนสั่งมาหรือเปล่า
2. ถ้าหมอลงว่าตายด้วยโรคประจำตัวจะมีข้อกฎหมายข้อไหนที่จะช่วยคนที่ทำประกันได้บ้าง
3. ถ้าไม่มีข้อกฏหมายช่วย ประกันก็กินเรียบเลยใช่ปะครับ
หากผมไปลบหลู่วิชาชีพท่านผมขอโทษด้วยนะครับ ผมแค่อยากรู้จริงๆครับ