แชร์ความรู้จาก
https://www.youtube.com/watch?v=Ccp_QRjKNlI #ไปทำศัลยกรรมแล้วหน้าเน่า นมเน่าจะเอาผิดใครได้บ้าง วิธีไหน
ทนาย อานนท์ เชื้อสัตตบงกช
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนนะ
ดำเนินการ 2 ทาง
1.ความผิดที่ดำเนินคดีเองไม่ได้
เป็นการผิดตาม
1.1 พ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มาตรา 26 หากไม่มีใบประกอบวิชาชีพ = ต้องรับบทลงโทษตามมาตรา 43
มาตรา 26 ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใด ๆ ว่าพร้อมที่จะประกอบ
วิชาชีพเวชกรรมโดยมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) การประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่กระทำต่อตนเอง
(2) การช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยตามศีลธรรมโดยไม่รับสินจ้างรางวัล แต่การช่วยเหลือเยียวยาดังกล่าวต้องมิใช่เป็นการกระทำทางศัลยกรรม การใช้รังสี การฉีดยาหรือสสารใด ๆ เข้าไปในร่างกายของผู้ป่วย การแทงเข็มหรือการฝังเข็มเพื่อบำบัดโรคหรือระงับความรู้สึก หรือการให้ยาอันตราย ยาควบคุมพิเศษ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทหรือยาเสพติดให้โทษ ตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น แล้วแต่กรณีแก่ผู้ป่วย
(3) นักเรียน นักศึกษา หรือผู้รับการฝึกอบรม ในความควบคุมของสถาบันการศึกษาของรัฐบาลสถาบันการศึกษาที่รัฐบาลอนุมัติให้จัดตั้ง สถาบันทางการแพทย์ของรัฐบาล สถาบันการศึกษาหรือสถาบันทางการแพทย์อื่นที่คณะกรรมการรับรอง ที่กระทำการฝึกหัดหรือฝึกอบรมวิชาชีพเวชกรรม หรือการประกอบโรคศิลปะภายใต้ความควบคุมของเจ้าหน้าที่ผู้ฝึกหัด หรือผู้ให้การฝึกอบรม ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ
(4) บุคคลซึ่งกระทรวง ทบวง กรม กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัด
เทศบาล สุขาภิบาล องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นอื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือสภากาชาดไทยมอบหมายให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือประกอบโรคศิลปะในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือผู้ประกอบโรคศิลปะในสาขานั้น “ ทั้งนี้ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
(5) ผู้ประกอบโรคศิลปะซึ่งประกอบโรคศิลปะตามข้อจำกัด และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ
(6) การประกอบวิชาชีพเวชกรรมของที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญของทางราชการซึ่งมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของต่างประเทศ ทั้งนี้ โดยอนุมัติของคณะกรรมการ
(7) การประกอบโรคศิลปะของที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญของทางราชการ ซึ่งมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะของต่งประเทศ ทั้งนี้ โดยอนุมัติของคณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ
มาตรา 43 ผู้ใดฝ้าฝืนมาตรา 26 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
1.2 พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 จะต้องได้รับอนุญาติจาก ปลัดกระทรวงสาธารณสุข หากไม่ได้รับการอนุญาต = ผิดตามมาตรา 16
มาตรา 16 ห้ามมิให้บุคคลใดประกอบกิจการสถานพยาบาล เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาตการขอ การออกใบอนุญาต และการประกอบกิจการสถานพยาบาลประเภทใดให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
ต้องแจ้งความที่
1)แจ้งกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค
http://www.cppd.go.th/home/
2)กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
https://hss.moph.go.th/index2.php -> จะไปตรวจสถานพยาบาล กับแพทย์
อ.ย. ดูเรื่อง อาหารและยา ว่าได้รับการอนุญาติไม๊
หรือไปร้องขอความเป็นธรรม เช่น มูลนิธิปวีณา
3) สถานีตำรวจท้องที่ ที่คลินิกนั้นตั้งอยู่
2.ดำเนินคดีความเอง โดยใช้ทนายความยื่นฟ้องตรง
การกระทำผิดตาม พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1)
เช่น โปรโมทใน social media ว่ามีแพทย์เฉพาะทาง สามารถทำการผ่าตัดแก้ไขได้ มีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์มากมาย ถือว่าเป็นข้อมูลเท็จ = มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1)
มาตรา 14 (1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา
การกระทำผลิดตามมาตรา มาตรา 295 หรือ 297
กรณีที่แพทย์ทั่วไปทำการผ่าตัด แล้วเกิดอักเสบติดเชื้อ = จงใจให้คนอื่นได้รับอันตรายโดยเล็งเห็นผล เพราะตนไม่ได้จบเฉพาะทาง
มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หรือ
มาตรา 297 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับ
อันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
อันตรายสาหัสนั้น คือ
(1) ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด หรือเสียฆานประสาท
(2) เสียอวัยวะสืบพันธุ์ หรือความสามารถสืบพันธุ์
(3) เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้วหรืออวัยวะอื่นใด
(4) หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว
(5) แท้งลูก
(6) จิตพิการอย่างติดตัว
(7) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต
(8) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนา
เกินกว่ายี่สิบวัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน
หากแพทย์ทั่วไป ไปใช้สถานพยาบาลในการผ่าตัด ผู้ประกอบการสถานพยาบาลที่ได้รับการอนุญาตนั้น ก็ถือว่ามีความผิดด้วย
หากต้องมีการรักษา ให้ขอใบรับรองแพทย์ ผลการรักษาทางการแพทย์ไว้ด้วย
การกระทำผลิดตามมาตรา มาตรา 300
กรณีที่แพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมความงามทำการผ่าตัด แล้วเกิดอักเสบติดเชื้อ = เป็นการกระทำโดยประมาท
จะรู้ได้ไงว่าเป็นการกระทำโดยประมาท ต้องเอาวิธีการรักษา ผลการรักษาไปปรึกษา แพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมความงาม คนอื่น ว่าถ้าจะผ่าตัด จะใช้วิธีเดียวกันนี้หรือไม่ (แพทย์เปิดเผยความลับแพทย์)
มาตรา 300 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากยากจนแล้วต้องการทนาย ให้ไปที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด (มีทุกจังหวัด) จะมีการตั้งทนายให้ มาช่วยเหลือ หรือสามารถเบิกค่าทนายเพื่อไปจ้างทนายเองก็ได้
สิ่งที่ควรตรวจสอบก่อนไปทำ
1.สถานประกอบการ มีป้ายชื่อคลินิกและเลขใบอนุญาต 11 หลัก ติดในที่โจ่งแจ้ง เปิดเผย
2.ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล และดำเนินงาน ติดในที่เปิดเผย และมีหลักฐานการเสียภาษีประจำปี ถ้าไม่มี = ขาดต่ออายุ = ไม่ได้รับอนุญาต
3.เลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ที่มีรูปแพทย์ ติดหน้าห้องตรวจ และแพทย์คนที่ทำเป็นคนเดียวกันกับป้ายนี้
4.ตรวจสอบก่อนว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่ที่ เว็บไซด์ แพทยสภา 24 ชม. www.tmc.or.th/check_md/
หากต้องการแจ้งเรื่อง คลินิกที่เปิดโดยไม่ได้รับการอนุญาต -> สารวัตรสถานพยาบาล 021937999 FB :
สารวัตรสถานพยาบาล Online
แชร์ความรู้ ไปทำศัลยกรรมแล้วหน้าเน่า นมเน่าจะเอาผิดใครได้บ้าง
ทนาย อานนท์ เชื้อสัตตบงกช
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนนะ
ดำเนินการ 2 ทาง
1.ความผิดที่ดำเนินคดีเองไม่ได้
เป็นการผิดตาม
1.1 พ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มาตรา 26 หากไม่มีใบประกอบวิชาชีพ = ต้องรับบทลงโทษตามมาตรา 43
มาตรา 26 ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใด ๆ ว่าพร้อมที่จะประกอบ
วิชาชีพเวชกรรมโดยมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) การประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่กระทำต่อตนเอง
(2) การช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยตามศีลธรรมโดยไม่รับสินจ้างรางวัล แต่การช่วยเหลือเยียวยาดังกล่าวต้องมิใช่เป็นการกระทำทางศัลยกรรม การใช้รังสี การฉีดยาหรือสสารใด ๆ เข้าไปในร่างกายของผู้ป่วย การแทงเข็มหรือการฝังเข็มเพื่อบำบัดโรคหรือระงับความรู้สึก หรือการให้ยาอันตราย ยาควบคุมพิเศษ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทหรือยาเสพติดให้โทษ ตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น แล้วแต่กรณีแก่ผู้ป่วย
(3) นักเรียน นักศึกษา หรือผู้รับการฝึกอบรม ในความควบคุมของสถาบันการศึกษาของรัฐบาลสถาบันการศึกษาที่รัฐบาลอนุมัติให้จัดตั้ง สถาบันทางการแพทย์ของรัฐบาล สถาบันการศึกษาหรือสถาบันทางการแพทย์อื่นที่คณะกรรมการรับรอง ที่กระทำการฝึกหัดหรือฝึกอบรมวิชาชีพเวชกรรม หรือการประกอบโรคศิลปะภายใต้ความควบคุมของเจ้าหน้าที่ผู้ฝึกหัด หรือผู้ให้การฝึกอบรม ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ
(4) บุคคลซึ่งกระทรวง ทบวง กรม กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัด
เทศบาล สุขาภิบาล องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นอื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือสภากาชาดไทยมอบหมายให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือประกอบโรคศิลปะในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือผู้ประกอบโรคศิลปะในสาขานั้น “ ทั้งนี้ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
(5) ผู้ประกอบโรคศิลปะซึ่งประกอบโรคศิลปะตามข้อจำกัด และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ
(6) การประกอบวิชาชีพเวชกรรมของที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญของทางราชการซึ่งมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของต่างประเทศ ทั้งนี้ โดยอนุมัติของคณะกรรมการ
(7) การประกอบโรคศิลปะของที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญของทางราชการ ซึ่งมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะของต่งประเทศ ทั้งนี้ โดยอนุมัติของคณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ
มาตรา 43 ผู้ใดฝ้าฝืนมาตรา 26 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
1.2 พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 จะต้องได้รับอนุญาติจาก ปลัดกระทรวงสาธารณสุข หากไม่ได้รับการอนุญาต = ผิดตามมาตรา 16
มาตรา 16 ห้ามมิให้บุคคลใดประกอบกิจการสถานพยาบาล เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาตการขอ การออกใบอนุญาต และการประกอบกิจการสถานพยาบาลประเภทใดให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
ต้องแจ้งความที่
1)แจ้งกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค http://www.cppd.go.th/home/
2)กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ https://hss.moph.go.th/index2.php -> จะไปตรวจสถานพยาบาล กับแพทย์
อ.ย. ดูเรื่อง อาหารและยา ว่าได้รับการอนุญาติไม๊
หรือไปร้องขอความเป็นธรรม เช่น มูลนิธิปวีณา
3) สถานีตำรวจท้องที่ ที่คลินิกนั้นตั้งอยู่
2.ดำเนินคดีความเอง โดยใช้ทนายความยื่นฟ้องตรง
การกระทำผิดตาม พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1)
เช่น โปรโมทใน social media ว่ามีแพทย์เฉพาะทาง สามารถทำการผ่าตัดแก้ไขได้ มีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์มากมาย ถือว่าเป็นข้อมูลเท็จ = มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1)
มาตรา 14 (1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา
การกระทำผลิดตามมาตรา มาตรา 295 หรือ 297
กรณีที่แพทย์ทั่วไปทำการผ่าตัด แล้วเกิดอักเสบติดเชื้อ = จงใจให้คนอื่นได้รับอันตรายโดยเล็งเห็นผล เพราะตนไม่ได้จบเฉพาะทาง
มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หรือ
มาตรา 297 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
อันตรายสาหัสนั้น คือ
(1) ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด หรือเสียฆานประสาท
(2) เสียอวัยวะสืบพันธุ์ หรือความสามารถสืบพันธุ์
(3) เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้วหรืออวัยวะอื่นใด
(4) หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว
(5) แท้งลูก
(6) จิตพิการอย่างติดตัว
(7) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต
(8) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน
หากแพทย์ทั่วไป ไปใช้สถานพยาบาลในการผ่าตัด ผู้ประกอบการสถานพยาบาลที่ได้รับการอนุญาตนั้น ก็ถือว่ามีความผิดด้วย
หากต้องมีการรักษา ให้ขอใบรับรองแพทย์ ผลการรักษาทางการแพทย์ไว้ด้วย
การกระทำผลิดตามมาตรา มาตรา 300
กรณีที่แพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมความงามทำการผ่าตัด แล้วเกิดอักเสบติดเชื้อ = เป็นการกระทำโดยประมาท
จะรู้ได้ไงว่าเป็นการกระทำโดยประมาท ต้องเอาวิธีการรักษา ผลการรักษาไปปรึกษา แพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมความงาม คนอื่น ว่าถ้าจะผ่าตัด จะใช้วิธีเดียวกันนี้หรือไม่ (แพทย์เปิดเผยความลับแพทย์)
มาตรา 300 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากยากจนแล้วต้องการทนาย ให้ไปที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด (มีทุกจังหวัด) จะมีการตั้งทนายให้ มาช่วยเหลือ หรือสามารถเบิกค่าทนายเพื่อไปจ้างทนายเองก็ได้
สิ่งที่ควรตรวจสอบก่อนไปทำ
1.สถานประกอบการ มีป้ายชื่อคลินิกและเลขใบอนุญาต 11 หลัก ติดในที่โจ่งแจ้ง เปิดเผย
2.ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล และดำเนินงาน ติดในที่เปิดเผย และมีหลักฐานการเสียภาษีประจำปี ถ้าไม่มี = ขาดต่ออายุ = ไม่ได้รับอนุญาต
3.เลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ที่มีรูปแพทย์ ติดหน้าห้องตรวจ และแพทย์คนที่ทำเป็นคนเดียวกันกับป้ายนี้
4.ตรวจสอบก่อนว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่ที่ เว็บไซด์ แพทยสภา 24 ชม. www.tmc.or.th/check_md/
หากต้องการแจ้งเรื่อง คลินิกที่เปิดโดยไม่ได้รับการอนุญาต -> สารวัตรสถานพยาบาล 021937999 FB : สารวัตรสถานพยาบาล Online