เริ่มเเรกก่อนเลยตอนนี้เค้าขึ้น ม.3 เเล้ว หลายคนอาจจะคิดว่ามันเร็วไปมั้ยที่จะคิดเรื่องพวกนี้เเต่เค้าว่าคิดเร็ว วางเเผนเร็วเท่าไหร่ยิ่งดีมากเท่านั้น ย้อนไปตั้งเเต่เกิดมา เราบอกว่าอยากเป็น หมอ พยาบาล พอเริ่มขึ้นม.ต้น รู้สึกชอบภาษาค่ะ คิดไว้เเล้วว่าจะต้องเข้าคณะที่เกี่ยวกับภาษาให้ได้ไม่มีทางไปพวกวิทย์ คณิตล้วนๆเเน่ๆ เเต่พอปิดเทอม ม.2 ขึ้น ม.3 เค้ารู้สึกว่าตัวเองมีความตั้งใจบางอย่างในการอยากเรียนเเพทย์ อยู่ๆความคิดนั้นมันก้โผล่มา รวมกับสภาพบ้านเมืองตอนนี้ด้วยเลยคิดว่าจะเรียนต่อคณะอะไร สายอะไรควรจะเลือกให้ดีๆเพราะมันคือความเป็นอยู่ของเราในอนาคตเลย หลังจากรู้ตัวว่าอยากเรียนเเพทย์ก้เริ่มอ่านหนังสือหนักขึ้น บ่อยขึ้น อุดรอยรั่วต่างๆที่เมื่อก่อนคิดว่าไม่สำคัญ สะสมมาเรื่อยๆ(เริ่มตอนปิดเทอมขึ้น ม.3 ตอนเลื่อนรร.เปิดรอบเเรกเพราะโควิด) หลังจากนั้นก้ไปซื้อหนังสือของม.ปลายมาอ่านเรื่อยๆ + อ่านนส.ของม.3 ด้วย (เพราะรร.ไม่สอนออนไลน์เลยต้องอ่านเอง) ถ้าย้อนไปก่อนที่จะรู้ตัวว่าอยากเรียนเเพทย์คือบอกเเม่ พ่อ ว่าจะเข้า ศิลป์-ภาษา ไม่ก้ ศิลป์-คำนวณ นะ พ่อกับเเม่ก้ไม่ขัด เราอยากเรียนอะไรก้ให้เรียน (อันนี้เราว่าเราโชคดีนะที่มีพ่อเเม่คิดเเบบนี้ไม่กดดันลูก ไม่เอาความหวังมาใส่ที่ลูก) มันทำให้เค้ามั่นใจที่จะฝันอยากเป็นสิ่งนั้นๆโดยไม่มีข้อเเย้งเเล้วทำให้เค้ามั่นใจว่าถ้าเค้าจะไปทางนี้ก้มีคนพร้อมสนับสนุนเเน่นอน เเต่พอมาหลังจากที่รู้ตัวว่าอยากเรียนเเพทย์เราพยายามคิดก่อนเลยว่า เห้ยยย มันเพราะเราเคยดูซีรี่ปล่าววว เราเลยคิดว่ามันเท่ เราเลยอยากเป็นตาม พยายามหาคำตอบให้ตัวเองที่มีความคิดนั้นๆมาเป็น2-3วันเลยละค่ะ ก่อนที่จะรู้ว่าที่อยากเรียนเเพทย์เพราะอยากเรียนจริงๆ จากใจ ไม่ได้มีตัวชักชวนอื่นๆเลย จนเจอทางพิสูจน์อยู่ทางนึงคือ มันบังเอิ๊ญญญญ บังเอิญที่ย่าต้องให้สายน้ำเกลือเราเลยไปดูว่ามันเป็นยังไงเจาะยังไง(คนทำคือ ป้าเค้าค่ะทำงานเกี่ยวกับอนามัย) พอมาดูก้เเบบเห็นว่าเจาะยังไง ต่อสายยังไงเเล้วอยู่ๆมันก้มีความสุขเฉยเลย อยากทำบ้าง อยากลองทำ ทั้งๆที่เมื่อเทียบกับสิ่งที่เราทำได้ด้านภาษาที่ประสบความสำเร็จมาเเล้วยังไม่ดีใจเท่าเห็นเรื่องเเค่นี้เลยค่ะ ทำให้เค้ามั่นใจมากๆว่าจะเรียนเเพทย์ เเต่มันก้ไม่ใช่เเค่นั้นสิ คนเเรกที่เรากล้าบอกคือพ่อค่ะ เราบอกพ่อว่าอยากเรียนเเพทย์นะ จะไม่ไปภาษาเเล้ว ม.ปลายจะเรียนวิทย์ คณิตด้วย พ่อไม่ว่าเลยสักคำ สนับสนุนเหมือนเดิมไม่เคยพูดบั่นทอนความตั้งใจของเรา เเต่พอกับเเม่นะสิคะเรากลับไม่กล้าบอกว่าอยากเรียนเเพทย์ด้วยความที่เเม่เป็นคนค่อนข้างดุ พูดตรงไปตรงมา เรากลัวว่าถ้าบอกเค้าไปตัวเราจะเก็บคำพูดพวกนั้นมาคิดเเล้วบั่นทอนตัวเองสะเองเลยเลือกที่จะไม่บอกตอนนี้ เเต่พยายามพูดว่าจะเข้าวิทย์ คณิต เเทนค่ะ สาเหตุอีกอย่างคือในสายตาคนอื่น เพื่อน พ่อเเม่ เค้าคิดว่าเราเด่นด้านภาษา เเต่วิทย์คณิตเราไม่ได้เเย่เลย(สำหรับเรานะ) เราเลยไม่กล้าบอกใครต่อใครว่าเราอยากเป็นหมอ เพราะมันตรงข้ามกับสิ่งที่ทุกคนเห็นสุดๆ เคยพูดเรื่องนี้กับเพื่อนคนนึงค่ะเค้าตอบเสียงเเข็งเลยว่า เราเหมาะกับภาษามากกว่า จนเรารู้สึกว่าวิทย์ คณิตเราไม่เเย่นะเว้ย สำหรับเราอย่าเอาด้านที่เราเรียนได้เเล้วเห็นผลสำเร็จชัดกว่าเพื่อนในห้องมาตัดสินดิว่าเราควรเรียนสายไหน ทั้งๆที่ใจเราไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าพอเรียนจบเเล้วจะทำงานอะไรคิดไม่ออกเลย ที่จริงมันยังมีอีกหลายความรู้สึกเลยเเต่เเค่เขียนบรรยายออกมาเป็นคำข้อความไม่ได้ ขอบคุณสำหรับคนที่อ่านจนจบนะค้าาาาาา
ไม่กล้าบอกพ่อเเม่ว่าอยากเรียนเเพทย์ ทำไงดีคะ