.....ดูกรภิกษุทั้งหลายอริยปริเยสนา การแสวงหาอย่างประเสริฐ ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน คือ....
1.....บุคคลบางคนในโลกนี้ ตนเองเป็นผู้มีชราเป็นธรรมดา รู้โทษในสิ่งที่มีชราเป็นธรรมดาแล้ว ย่อมแสวงหานิพพานอันไม่มีชรา
เป็นแดนเกษมจากโยคะอย่างเยี่ยม ๑
2.....ตนเองเป็นผู้มีพยาธิเป็นธรรมดา รู้โทษในสิ่งที่มีพยาธิเป็นธรรมดาแล้วย่อมแสวงหานิพพานอันไม่มีพยาธิ เป็นแดนเกษมจากโยคะชั้นเยี่ยม ๑
3.....ตนเองเป็นผู้มีมรณะเป็นธรรมดา รู้โทษในสิ่งที่มีมรณะเป็นธรรมดาแล้ว ย่อมแสวงหานิพพานอันไม่ตาย เป็นแดนเกษม
จากโยคะชั้นเยี่ยม ๑
4.....ตนเองเป็นผู้มีความเศร้าหมองเป็นธรรมดา รู้โทษในสิ่งที่มีความเศร้าหมองเป็นธรรมดาแล้วย่อมแสวงหานิพพานอันไม่เศร้าหมอง
เป็นแดนเกษมจากโยคะชั้นเยี่ยม ๑
.....ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยปริเยสนา ๔ ประการนี้แล ฯ......
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สมจริงตามพระพุทธพจน์ที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า....
.....ดูกรภิกษุทั้งหลาย วิญญาณเป็นอนัตตา.
.....ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าวิญญาณนี้จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ วิญญาณนี้ก็จะไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ.
และจะพึงได้ในวิญญาณว่า ขอวิญญาณของเราจงเป็นอย่างนี้ วิญญาณของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย.
.....ดูกรภิกษุทั้งหลาย แต่เพราะวิญญาณเป็นอนัตตา ฉะนั้น วิญญาณจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ.
และย่อมไม่ได้ในวิญญาณว่า ขอวิญญาณของเราจงเป็นอย่างนี้ วิญญาณของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย.
คำว่า "อาพาธ" ก็คือเป็นผู้มีพยาธิ มีชรา มีความเศร้าหมอง นั่นเอง
นิพพาน(อัตตา) คือ ความไม่มี ชรา มรณะ ?
1.....บุคคลบางคนในโลกนี้ ตนเองเป็นผู้มีชราเป็นธรรมดา รู้โทษในสิ่งที่มีชราเป็นธรรมดาแล้ว ย่อมแสวงหานิพพานอันไม่มีชรา
เป็นแดนเกษมจากโยคะอย่างเยี่ยม ๑
2.....ตนเองเป็นผู้มีพยาธิเป็นธรรมดา รู้โทษในสิ่งที่มีพยาธิเป็นธรรมดาแล้วย่อมแสวงหานิพพานอันไม่มีพยาธิ เป็นแดนเกษมจากโยคะชั้นเยี่ยม ๑
3.....ตนเองเป็นผู้มีมรณะเป็นธรรมดา รู้โทษในสิ่งที่มีมรณะเป็นธรรมดาแล้ว ย่อมแสวงหานิพพานอันไม่ตาย เป็นแดนเกษม
จากโยคะชั้นเยี่ยม ๑
4.....ตนเองเป็นผู้มีความเศร้าหมองเป็นธรรมดา รู้โทษในสิ่งที่มีความเศร้าหมองเป็นธรรมดาแล้วย่อมแสวงหานิพพานอันไม่เศร้าหมอง
เป็นแดนเกษมจากโยคะชั้นเยี่ยม ๑
.....ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยปริเยสนา ๔ ประการนี้แล ฯ......
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สมจริงตามพระพุทธพจน์ที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า....
.....ดูกรภิกษุทั้งหลาย วิญญาณเป็นอนัตตา.
.....ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าวิญญาณนี้จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ วิญญาณนี้ก็จะไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ.
และจะพึงได้ในวิญญาณว่า ขอวิญญาณของเราจงเป็นอย่างนี้ วิญญาณของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย.
.....ดูกรภิกษุทั้งหลาย แต่เพราะวิญญาณเป็นอนัตตา ฉะนั้น วิญญาณจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ.
และย่อมไม่ได้ในวิญญาณว่า ขอวิญญาณของเราจงเป็นอย่างนี้ วิญญาณของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย.
คำว่า "อาพาธ" ก็คือเป็นผู้มีพยาธิ มีชรา มีความเศร้าหมอง นั่นเอง