สวัสดีทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ เราชื่อเนม(ชื่อสมมุติ) อายุ19 เรารู้สึกว่า19ปีแล้ว ทำไมเรายังไม่มีความเป็นตัวของตัวเองเลย แต่ที่พอจะรู้คือเราขี้เกรงใจ ขี้ขลาด ขี้กลัว คิดไปเอง ชอบคิดเรื่องอดีต ประสบการณ์ตอนม.4 วันนั้นใกล้จะเลิกเรียนละ เราชวนเพื่อนคนนึงหนีแถว เพื่อนชื่อBละกัน เราให้B พาเราไปหาแฟน โดยที่ไม่ได้บอกเพื่อนอีกคน เพื่อนคนนี้ชื่อA Aเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ม.1-6เลย วันต่อมา ไม่มีเพื่อนคนไหนพูดกับเราซักคน Bก็ไม่คุยทั้งๆที่พาเราไปหาแฟน เราก็เลยขอโทษเพื่อนทุกคน เพราะเราคงผิดที่ไม่ชวน A จะบอกว่าAเป็นคนที่แบบว่าในกลุ่มเพื่อนคือเพื่อนจะชอบเข้าหามากที่สุด เป็นคนคิดบวกแหละ เฮฮา แต่เราคิดว่าAมีอิทธิพลกับเพื่อนๆ เพราะส่วนมากมีแต่คนอยากปรึกษาอยากคุยด้วย เราก็อิจฉาแหละอือ และตอนม.2ตอนที่ยังไม่ย้ายห้อง พักเที่ยงเพื่อนๆก็มานั่งคุยกัน คุยไรกันบ้างจำไม่ได้ จำฝังใจแค่ว่าAพูดกับเราว่าเนมมันซื่อบื้ออ่ะ ละเราไม่ชอบตัวเองที่เวลาใคริยากจะพูดอะไรกับเราทำไมเราต้องรับไม่ได้วะ เพราะAพูดในน้ำเสียงเกรงใจเราอ่ะ และตอนม.4 Bคือเด็กใหม่ เราอยู่หมู่บ้านเดียวกันกับB ช่วงพักเที่ยงที่โรงอาหาร กินข้าวเสร็จก็ไปนั่งเล่นคุยกันกับA คุยเหมือนเด็กอ่ะ นิสัยแบบเด็กๆ แล้วเราก็มาหาB นั่งด้วยกัน3คน เรา,A,B และBก็บอกว่า เนมนี่นิสัยอย่างกับเด็กเลยเนอะ เราเลยบอกว่าพูดใหม่ซิ Bบอก ไม่มีอะไร แต่ตอนBพูด พูดเสียงเบาอ่ะ และยิ้มแห้งๆด้วย คือเราแบบอยากเป็นคนที่เวลาใครพูดความจริงกับเรา เราต้องรับได้ ไม่ใช่แบบว่าคนอื่นจะพูดอะไรต้องกลัวเราไม่โอเคตลอด พอจะดูออกแหละว่าเพื่อนเป็นคนตรงๆ
แต่ทำไมเวลาจะพูดกับเราต้องออกลักษณะเกรงใจด้วย เราโคตรอึดอัด พอหลังมาๆม.6เหมือนเรารับรู้เพื่อนๆกับเราก็เริ่มไม่เข้าใจกัน แต่ไม่มีใครอยากพูดออกมาอ่ะ หลังๆแบบเวลาไปไหนกับเพื่อนA แต่ไม่ชวนB Bก็จะโกรธ โกรธและเงียบ พอจะพูดก็เหอะ ถามอะไรก็ไม่ตอบ พอตอบก็พูดแรงๆ V
Bเป็นคนที่พูดแรงมาก เราไม่โอเคเลย เราเคยพูดกับAนะว่าเราไม่ชอบเวลาBพูดแรง แต่Aบอกว่า เพื่อนก็คือเพื่อนแหละ แต่เราไม่กล้าคุยต่อหน้าB เราขี้ขลาดเองแหละ
เราเคยนะตอนม.ต้น เพื่อนผู้ชายมันดึงเก้าอี้ตอนเราจะนั่ง เราตกเก้าอี้ละเพื่อนทั้งห้องก็หัวเราะกันอ่ะ เจ็บตัวแถมยังเจ็บใจ เราเอาสมุดตบหัวเพื่อนผู้ชายคนนั้นลั่นห้องอ่ะ ครูและเพื่อนในห้องเงียบกริบเลย เราทั้งอายทั้งโกรธและร้องไห้ในเวลาเดียวกัน และตอนขึ้นม.4ใหม่ๆ มันจะมีเด็กใหม่คนนึงที่แบบเพื่อนในห้องไม่ค่อยชอบเลยอ่ะ และมีช่วงนั่งอยู่ดีๆมีคนเปิดประเด็นนู่นนั่นนี่ เรากับเด็กใหม่คนนั้นก็ทะเลาะกัน เพื่อนๆในห้องก็แอบยิ้ม เอาจริง เราไม่อยากทะเลาะกับใครเลย เราอยากเข้าใจคนอื่นอ่ะ เราอยากเป็นครที่ยอมรับความจริงได้อ่ะ ไม่ใช่เวลาเพื่อนจะพูดจะหยอกอะไรต้องมานั่งคิดว่าเราจะงอนเพราะแค่หยอก และพี่สาว้ราก็เคยพูดว่าเราอ่ะซื่อบื้อ เราก็มานั่งร้องไห้ อยากจะบ้าตาย และมีช่วงนึงเราเล่นมือถือและยิ้มAถามว่ายิ้มอะไร Bก็บอกว่าคงจะมีแต่เรื่องผู้ชายแหละ เราก็ไม่พูดอะไร ความรู้สึกเราคือBกับเราคงเข้ากันได้ดีแค่เรื่องผู้ชายนี่แหละ เรื่องอื่นเราจะพูดน้อยที่สุด และเวลาเรียนหนังสือ โจทย์อันไหนที่เราพอจะทำได้ เข้าใจวิธีทำเพื่อนๆก็มาถามเราก็อธิบาย พออธิบายเสร็จ Bก็แบบอธิบายแค่ให้คนอื่นเข้าใจ เราไม่เข้าใจคนเดียว ก็แล้วแต่เวรกรรมแหละเนอะ (เพราะช่วงนั้นใกล้สอบ) เรากับAก็คุยกัน ไม่รู้ทำไมไม่ถามวะ ต้องมานั่งเอาใจคนเดียวทั้งวันขนาดนั้นหรอ จะบอกคือB ตอนอยู่รร.เดิม มีเพื่อนคอยง้อคอยเอาใจ วันเกิดก็เซอไพร ซึ่งรร.เราก็งั้นๆ รร.ในตำบลอ่ะ ใครเก่งก็รอด โกรธเองหายเอง
นี่ก็คือทั้งหมด เราควรไปหาหมอมั้ยหรือต้องนั่งดัดความคิดสันดานที่บ้าน5555
เรามีปัญหาทางความคิด เราคิดลบมาก คิดเล็กคิดน้อย ควรที่จะแก้ตรงไหนก่อนดีคะ?
แต่ทำไมเวลาจะพูดกับเราต้องออกลักษณะเกรงใจด้วย เราโคตรอึดอัด พอหลังมาๆม.6เหมือนเรารับรู้เพื่อนๆกับเราก็เริ่มไม่เข้าใจกัน แต่ไม่มีใครอยากพูดออกมาอ่ะ หลังๆแบบเวลาไปไหนกับเพื่อนA แต่ไม่ชวนB Bก็จะโกรธ โกรธและเงียบ พอจะพูดก็เหอะ ถามอะไรก็ไม่ตอบ พอตอบก็พูดแรงๆ V
Bเป็นคนที่พูดแรงมาก เราไม่โอเคเลย เราเคยพูดกับAนะว่าเราไม่ชอบเวลาBพูดแรง แต่Aบอกว่า เพื่อนก็คือเพื่อนแหละ แต่เราไม่กล้าคุยต่อหน้าB เราขี้ขลาดเองแหละ
เราเคยนะตอนม.ต้น เพื่อนผู้ชายมันดึงเก้าอี้ตอนเราจะนั่ง เราตกเก้าอี้ละเพื่อนทั้งห้องก็หัวเราะกันอ่ะ เจ็บตัวแถมยังเจ็บใจ เราเอาสมุดตบหัวเพื่อนผู้ชายคนนั้นลั่นห้องอ่ะ ครูและเพื่อนในห้องเงียบกริบเลย เราทั้งอายทั้งโกรธและร้องไห้ในเวลาเดียวกัน และตอนขึ้นม.4ใหม่ๆ มันจะมีเด็กใหม่คนนึงที่แบบเพื่อนในห้องไม่ค่อยชอบเลยอ่ะ และมีช่วงนั่งอยู่ดีๆมีคนเปิดประเด็นนู่นนั่นนี่ เรากับเด็กใหม่คนนั้นก็ทะเลาะกัน เพื่อนๆในห้องก็แอบยิ้ม เอาจริง เราไม่อยากทะเลาะกับใครเลย เราอยากเข้าใจคนอื่นอ่ะ เราอยากเป็นครที่ยอมรับความจริงได้อ่ะ ไม่ใช่เวลาเพื่อนจะพูดจะหยอกอะไรต้องมานั่งคิดว่าเราจะงอนเพราะแค่หยอก และพี่สาว้ราก็เคยพูดว่าเราอ่ะซื่อบื้อ เราก็มานั่งร้องไห้ อยากจะบ้าตาย และมีช่วงนึงเราเล่นมือถือและยิ้มAถามว่ายิ้มอะไร Bก็บอกว่าคงจะมีแต่เรื่องผู้ชายแหละ เราก็ไม่พูดอะไร ความรู้สึกเราคือBกับเราคงเข้ากันได้ดีแค่เรื่องผู้ชายนี่แหละ เรื่องอื่นเราจะพูดน้อยที่สุด และเวลาเรียนหนังสือ โจทย์อันไหนที่เราพอจะทำได้ เข้าใจวิธีทำเพื่อนๆก็มาถามเราก็อธิบาย พออธิบายเสร็จ Bก็แบบอธิบายแค่ให้คนอื่นเข้าใจ เราไม่เข้าใจคนเดียว ก็แล้วแต่เวรกรรมแหละเนอะ (เพราะช่วงนั้นใกล้สอบ) เรากับAก็คุยกัน ไม่รู้ทำไมไม่ถามวะ ต้องมานั่งเอาใจคนเดียวทั้งวันขนาดนั้นหรอ จะบอกคือB ตอนอยู่รร.เดิม มีเพื่อนคอยง้อคอยเอาใจ วันเกิดก็เซอไพร ซึ่งรร.เราก็งั้นๆ รร.ในตำบลอ่ะ ใครเก่งก็รอด โกรธเองหายเอง
นี่ก็คือทั้งหมด เราควรไปหาหมอมั้ยหรือต้องนั่งดัดความคิดสันดานที่บ้าน5555