โชว์ศักยภาพ'ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ' ฉีดได้ 10,000 คน/วัน พร้อมเปิดให้บริการ 7 มิ.ย.นี้
01 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลา 15:37 น
6 มิ.ย.64- กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวแนวทางการจัดการบริการจุดฉีดวัคซีนโควิด-19ที่ “ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ” โดยใช้พื้นที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ จำนวน 14,294 ตารางเมตร จากความร่วมมือระหว่าง กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงคมนาคม ซึ่งคาดว่าสามารถรองรับผู้เข้ารับบริการฉีดวัคซีนสูงสุด 10,000 คนต่อวัน
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ เผยว่า วัตถุประสงค์ที่ใช้พื้นที่สถานีกลางบางซื่อ เพื่อลดความแออัดจากการเข้าใช้บริการในสถานพยาบาลที่ให้บริการฉีดวัคซีน และให้เป็นไปตามแผนแผนการระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร สามารถเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น ในการดำเนินงานทดสอบจุดให้บริการฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.-6 มิ.ย.64 โดยบุคลากรสถาบันโรคผิวหนัง เพื่อบริการฉีดวัคซีนแก่ผู้ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะ ซึ่งถือเป็นบุคคลด่านแรกที่มีความเสี่ยงสูง จากนั้นผู้ที่ได้รับวัคซีนทุกคนข้อมูลจะถูกส่งไปยังฐานข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข หรือ Moph IC เพื่อทำการบันทึกข้อมูลว่าได้รับวัคซีนแล้ว
สำหรับในช่วงการทดสอบที่ผ่านมา พบว่าความสามารถในการรองรับผู้มาใช้บริการได้ประมาณวันละ 7,000-10,000 คน และจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 มิ.ย.- 31 ส.ค.64 ซึ่งได้มีการประเมินขอบเขตเวลาการให้บริการประมาณ 15 นาที/คน รวมเวลาเฝ้าสังเกตอาการต่อคนก็จะประมาณ 45-60 นาที สามารถรองรับผู้ใช้บริการ 900-1,000 คน/ชั่วโมง หรือเฉลี่ย 10,000 คน/วัน โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล และทัตแพทย์ จากหลากหลายสถาบันพร้อมให้บริการประชาชนกว่า 600 คน ซึ่งคาดว่าตลอดช่วงระยะเวลาที่กำหนดจะสามารถให้บริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้ประมาณ1 ล้านคน หรือมากกว่านั้น
กลุ่มผู้รับบริการแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้ 1.กลุ่มองค์กร ที่ประสานมายังสาธารณสุข จำนวน 5,000 คนต่อวัน 2.กลุ่มประชาชนทั่วไป สามารถลงทะเบียนนัดหมายเข้ารับบริการฉีดวัคซีนผ่านผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือดีเอไอเอส (AIS) 1 เบอร์ได้สิทธิ์ลงทะเบียน 5 คน(ตามบัตรประชาชน / บัตรผู้ไม่มีสัญชาติไทย) แทค (Dtac) 1 เบอร์ได้สิทธิ์ลงทะเบียนให้สมาชิกในครอบครัวได้ 1 สิทธิ์ (เครือข่ายใดก็ได้) ทรู (True) 1 เบอร์ได้สิทธิ์ลงทะเบียน 2 คน ได้ที่เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น และคิวอาร์โค้ดของค่ายมือถือนั้นๆ ซึ่งจะแบ่งพื้นที่ให้บริการ คือ ประตู 2 เอไอเอส ประตู 3 ดีแทค และประตู 4 ทรู และ บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติจำกัด (มหาชน) จำนวน 5000 คนต่อวันซึ่งจะอยู่ประตู 2 ฝั่งซ้าย โดยจะได้รับ SMS การยืนยันวัน/เวลาและระบุประตูที่ต้องเข้ารับบริการ ทั้งนี้ในส่วนประตูที่ 1 จะจัดสรรพื้นที่สำหรับผู้ที่มารับวัคซีนเข็ม 2 ในวันที่ 14 มิ.ย.64
“โดยการจัดให้บริการจะเป็นลักษณะเดียวกันคือ One Way เพื่อการจัดการให้บริการอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่การกรอกข้อมูลแบบคัดกรองและความยินยอมการรับวัคซีนโควิด-19 อาทิ อายุต่ำกว่า 18 ปี มีอายุครรภ์น้อยกว่า 12 สัปดาห์ ความดันมากกว่า 160/100 มม.ปรอท ได้รับการถ่ายเลือด พลาสมา ผลิตภัณฑ์จากเลือด ส่วนประกอบของเลือดอิมมูโนโกลบูลิน ยาต้านไวรัส หรือแอนติบอดีรักษาโควิด-19 ภายใน 90 วันที่ผ่านมา หรือมีโรคประจำตัว อาทิ ทางเดินหายใจเรื้อรัง หัวใจและหลอดเลือด หลอดเลือดสมอง เบาหวาน ไตเรื้อรัง ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน และมะเร็งทุกชนิด หากมีข้อมูลดังนี้จะไม่สามารถรับวัคซีนได้” แพทย์หญิงมิ่งขวัญ กล่าวถึงข้อมูลแบบคัดกรอง
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ ได้นำชมในจุดต่างๆ จากจุดที่กรอกข้อมูลเรียบร้อยก็จะเข้าสู่จุดที่ 1 รองรับประชาชน 1.4 พันที่นั่ง เพื่อชั่งน้ำหนัก วัดความดัน จุดที่ 2 การลงทะเบียน เซ็นใบยินยอม ซึ่งเตรียมให้บริการกว่า 200 จุด จุดที่ 3 ฉีดวัคซีน ที่ให้บริการ 100 จุด ขณะที่รอฉีด สังเกตป้ายคำว่า ว่าง ที่บุคลากรทางการแพทย์จะยกขึ้น เพื่อให้บริการคนถัดไป
จุดที่ 4 พักรอสังเกตอาการ 30 นาที ซึ่งรองรับได้ประมาณ 1,200-1,500 ที่นั่ง โดยมีทีวีให้ดูวิธีการสังเกตอาการ จุดบริการน้ำ จุดชาร์จมือถือ และในบางวันก็จะการแสดงดนตรีจากอาสาสมัคร ด้านหลังจะเป็นพื้นที่รองรับสำหรับผู้มารับบริการเกิดเหตุฉุกเฉิน ทั้งนี้เรายังได้จุดที่เก็บวัคซีนไว้ใกล้จุดให้บริการฉีดมากที่สุด โดยตู้เย็นเก็บวัคซีนที่มีการตั้งอุณหภูมิตามมาตรฐานทั้ง 3 ตู้สามารถเก็บได้ 20,000 โดส โดยเฉลี่ยใช้วันละ 12,000-13,000 โดส และมีส่วนที่เก็บสำรองไว้ใช้ในวันถัดไป
สำหรับคนไข้กลุ่มเปราะบาง จะมีจุดบริการแบบ One stop service อาทิ ผู้สูงอายุ เดินไม่ไหว รวมไปถึงผู้ที่เคยมีประวัติแพ้ยาหรือวัคซีนอย่างรุนแรงมาก่อน หรือปัจจุบันได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือด มีภาวะเลือกออดง่าย เกล็ดเลือดต่ำ สามาถดำเนินการทุกอย่างจบในที่เดียว ซึ่งที่ผ่านมามีผู้มาใช้บริการเฉลี่ยวันละ 100-200 คน
ทั้งนี้ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ยังไม่มีนโยบายให้บริการในรูปแบบ Walk-in เพี่อลดความแออัดและไม่แน่นอนในการได้คิวฉีดวัคซีน สำหรับผู้ที่รับการฉีดวัคซีนแล้ว สามารถตรวจสอบประวัติรับการฉีดวัคซีนได้ที่ แอปพลิเคชั่น หมอพร้อม และหน่วยเวชระเบียนของสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ หากมีปัญหาหรือต้องการสอบถาม สามารถติดต่อทางไลน์ @skinthailand ได้ตลอด และเมื่อฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ก็จะมีการออกใบรับรองการฉีดวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุขให้กับประชาชนต่อไป
สำหรับการเดินทางมายังสถานีกลางบางซื่อ สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีน้ำเงิน รถขนส่งมวลชนสาธารณะ โดยกระทรวงคมนาคม ได้อำนวยความสะดวกด้านการเดินทางให้แก่ประชาชน จัดรถประจำทาง ขสมก. จำนวน 3 เส้นทาง และหากเดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว สถานีกลางบางซื่อมีที่จอดรถให้บริการได้ถึง 1,500 คัน โดยรถประจำทาง ขสมก.ที่จะให้บริการ ได้แก่ท่าน้ำบางโพ-สถานีเตาปูนสายสีม่วง, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว – BTS สถานีหมอชิต หรือ รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสวนจตุจักร - สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (เป็นวงรอบ)
https://www.thaipost.net/main/detail/104924
เห็นศักยภาพแล้วงานใหญ่เลยนะคะ
7 มิถุนายน พร้อมแล้วค่ะ.....
🎀มาลาริน/โชว์ศักยภาพ'ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ' ฉีดได้ 10,000 คน/วัน พร้อมเปิดให้บริการ 7 มิ.ย.นี้
01 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลา 15:37 น
6 มิ.ย.64- กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวแนวทางการจัดการบริการจุดฉีดวัคซีนโควิด-19ที่ “ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ” โดยใช้พื้นที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ จำนวน 14,294 ตารางเมตร จากความร่วมมือระหว่าง กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงคมนาคม ซึ่งคาดว่าสามารถรองรับผู้เข้ารับบริการฉีดวัคซีนสูงสุด 10,000 คนต่อวัน
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ เผยว่า วัตถุประสงค์ที่ใช้พื้นที่สถานีกลางบางซื่อ เพื่อลดความแออัดจากการเข้าใช้บริการในสถานพยาบาลที่ให้บริการฉีดวัคซีน และให้เป็นไปตามแผนแผนการระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร สามารถเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น ในการดำเนินงานทดสอบจุดให้บริการฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.-6 มิ.ย.64 โดยบุคลากรสถาบันโรคผิวหนัง เพื่อบริการฉีดวัคซีนแก่ผู้ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะ ซึ่งถือเป็นบุคคลด่านแรกที่มีความเสี่ยงสูง จากนั้นผู้ที่ได้รับวัคซีนทุกคนข้อมูลจะถูกส่งไปยังฐานข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข หรือ Moph IC เพื่อทำการบันทึกข้อมูลว่าได้รับวัคซีนแล้ว
สำหรับในช่วงการทดสอบที่ผ่านมา พบว่าความสามารถในการรองรับผู้มาใช้บริการได้ประมาณวันละ 7,000-10,000 คน และจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 มิ.ย.- 31 ส.ค.64 ซึ่งได้มีการประเมินขอบเขตเวลาการให้บริการประมาณ 15 นาที/คน รวมเวลาเฝ้าสังเกตอาการต่อคนก็จะประมาณ 45-60 นาที สามารถรองรับผู้ใช้บริการ 900-1,000 คน/ชั่วโมง หรือเฉลี่ย 10,000 คน/วัน โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล และทัตแพทย์ จากหลากหลายสถาบันพร้อมให้บริการประชาชนกว่า 600 คน ซึ่งคาดว่าตลอดช่วงระยะเวลาที่กำหนดจะสามารถให้บริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้ประมาณ1 ล้านคน หรือมากกว่านั้น
กลุ่มผู้รับบริการแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้ 1.กลุ่มองค์กร ที่ประสานมายังสาธารณสุข จำนวน 5,000 คนต่อวัน 2.กลุ่มประชาชนทั่วไป สามารถลงทะเบียนนัดหมายเข้ารับบริการฉีดวัคซีนผ่านผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือดีเอไอเอส (AIS) 1 เบอร์ได้สิทธิ์ลงทะเบียน 5 คน(ตามบัตรประชาชน / บัตรผู้ไม่มีสัญชาติไทย) แทค (Dtac) 1 เบอร์ได้สิทธิ์ลงทะเบียนให้สมาชิกในครอบครัวได้ 1 สิทธิ์ (เครือข่ายใดก็ได้) ทรู (True) 1 เบอร์ได้สิทธิ์ลงทะเบียน 2 คน ได้ที่เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น และคิวอาร์โค้ดของค่ายมือถือนั้นๆ ซึ่งจะแบ่งพื้นที่ให้บริการ คือ ประตู 2 เอไอเอส ประตู 3 ดีแทค และประตู 4 ทรู และ บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติจำกัด (มหาชน) จำนวน 5000 คนต่อวันซึ่งจะอยู่ประตู 2 ฝั่งซ้าย โดยจะได้รับ SMS การยืนยันวัน/เวลาและระบุประตูที่ต้องเข้ารับบริการ ทั้งนี้ในส่วนประตูที่ 1 จะจัดสรรพื้นที่สำหรับผู้ที่มารับวัคซีนเข็ม 2 ในวันที่ 14 มิ.ย.64
“โดยการจัดให้บริการจะเป็นลักษณะเดียวกันคือ One Way เพื่อการจัดการให้บริการอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่การกรอกข้อมูลแบบคัดกรองและความยินยอมการรับวัคซีนโควิด-19 อาทิ อายุต่ำกว่า 18 ปี มีอายุครรภ์น้อยกว่า 12 สัปดาห์ ความดันมากกว่า 160/100 มม.ปรอท ได้รับการถ่ายเลือด พลาสมา ผลิตภัณฑ์จากเลือด ส่วนประกอบของเลือดอิมมูโนโกลบูลิน ยาต้านไวรัส หรือแอนติบอดีรักษาโควิด-19 ภายใน 90 วันที่ผ่านมา หรือมีโรคประจำตัว อาทิ ทางเดินหายใจเรื้อรัง หัวใจและหลอดเลือด หลอดเลือดสมอง เบาหวาน ไตเรื้อรัง ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน และมะเร็งทุกชนิด หากมีข้อมูลดังนี้จะไม่สามารถรับวัคซีนได้” แพทย์หญิงมิ่งขวัญ กล่าวถึงข้อมูลแบบคัดกรอง
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ ได้นำชมในจุดต่างๆ จากจุดที่กรอกข้อมูลเรียบร้อยก็จะเข้าสู่จุดที่ 1 รองรับประชาชน 1.4 พันที่นั่ง เพื่อชั่งน้ำหนัก วัดความดัน จุดที่ 2 การลงทะเบียน เซ็นใบยินยอม ซึ่งเตรียมให้บริการกว่า 200 จุด จุดที่ 3 ฉีดวัคซีน ที่ให้บริการ 100 จุด ขณะที่รอฉีด สังเกตป้ายคำว่า ว่าง ที่บุคลากรทางการแพทย์จะยกขึ้น เพื่อให้บริการคนถัดไป
จุดที่ 4 พักรอสังเกตอาการ 30 นาที ซึ่งรองรับได้ประมาณ 1,200-1,500 ที่นั่ง โดยมีทีวีให้ดูวิธีการสังเกตอาการ จุดบริการน้ำ จุดชาร์จมือถือ และในบางวันก็จะการแสดงดนตรีจากอาสาสมัคร ด้านหลังจะเป็นพื้นที่รองรับสำหรับผู้มารับบริการเกิดเหตุฉุกเฉิน ทั้งนี้เรายังได้จุดที่เก็บวัคซีนไว้ใกล้จุดให้บริการฉีดมากที่สุด โดยตู้เย็นเก็บวัคซีนที่มีการตั้งอุณหภูมิตามมาตรฐานทั้ง 3 ตู้สามารถเก็บได้ 20,000 โดส โดยเฉลี่ยใช้วันละ 12,000-13,000 โดส และมีส่วนที่เก็บสำรองไว้ใช้ในวันถัดไป
สำหรับคนไข้กลุ่มเปราะบาง จะมีจุดบริการแบบ One stop service อาทิ ผู้สูงอายุ เดินไม่ไหว รวมไปถึงผู้ที่เคยมีประวัติแพ้ยาหรือวัคซีนอย่างรุนแรงมาก่อน หรือปัจจุบันได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือด มีภาวะเลือกออดง่าย เกล็ดเลือดต่ำ สามาถดำเนินการทุกอย่างจบในที่เดียว ซึ่งที่ผ่านมามีผู้มาใช้บริการเฉลี่ยวันละ 100-200 คน
ทั้งนี้ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ยังไม่มีนโยบายให้บริการในรูปแบบ Walk-in เพี่อลดความแออัดและไม่แน่นอนในการได้คิวฉีดวัคซีน สำหรับผู้ที่รับการฉีดวัคซีนแล้ว สามารถตรวจสอบประวัติรับการฉีดวัคซีนได้ที่ แอปพลิเคชั่น หมอพร้อม และหน่วยเวชระเบียนของสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ หากมีปัญหาหรือต้องการสอบถาม สามารถติดต่อทางไลน์ @skinthailand ได้ตลอด และเมื่อฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ก็จะมีการออกใบรับรองการฉีดวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุขให้กับประชาชนต่อไป
สำหรับการเดินทางมายังสถานีกลางบางซื่อ สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีน้ำเงิน รถขนส่งมวลชนสาธารณะ โดยกระทรวงคมนาคม ได้อำนวยความสะดวกด้านการเดินทางให้แก่ประชาชน จัดรถประจำทาง ขสมก. จำนวน 3 เส้นทาง และหากเดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว สถานีกลางบางซื่อมีที่จอดรถให้บริการได้ถึง 1,500 คัน โดยรถประจำทาง ขสมก.ที่จะให้บริการ ได้แก่ท่าน้ำบางโพ-สถานีเตาปูนสายสีม่วง, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว – BTS สถานีหมอชิต หรือ รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสวนจตุจักร - สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (เป็นวงรอบ)
https://www.thaipost.net/main/detail/104924
เห็นศักยภาพแล้วงานใหญ่เลยนะคะ
7 มิถุนายน พร้อมแล้วค่ะ.....