สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
แบบแรกค่ะ
คิดดูสิคะ ตอนเป็นสาวก็สุขสบาย และไม่ต้องใช้ชีวิตแบบแก่ ๆ ด้วย
ตายก็ตายไป สิ้นสุดทุกข์ใด ๆ สมบัติถึงเอาไปไม่ได้ แต่ตายไปก็ไม่รู้เรื่องแล้ว
แบบที่สอง อยู่นานไปนะคะ เราไม่อยากมีชีวิตอยู่นานขนาดนั้น โลกเราทุกวันนี้มันไม่ได้น่าอยู่ขนาดนั้น
สงสารตัวเอง สภาพร่างกายก็คงจะเสื่อมถอยลงไปมากแล้ว สงสารคนที่ดูแลด้วยค่ะ ไม่รู้ว่าตอนนั้นจะเหลือใครบ้าง
เพื่อนฝูงก็น่าจะตายหมดแล้ว
เราคิดของเรานะคะ อายุที่ยืนยาวที่สุดที่เราอยากจะได้คือ 50
คิดดูสิคะ ตอนเป็นสาวก็สุขสบาย และไม่ต้องใช้ชีวิตแบบแก่ ๆ ด้วย
ตายก็ตายไป สิ้นสุดทุกข์ใด ๆ สมบัติถึงเอาไปไม่ได้ แต่ตายไปก็ไม่รู้เรื่องแล้ว
แบบที่สอง อยู่นานไปนะคะ เราไม่อยากมีชีวิตอยู่นานขนาดนั้น โลกเราทุกวันนี้มันไม่ได้น่าอยู่ขนาดนั้น
สงสารตัวเอง สภาพร่างกายก็คงจะเสื่อมถอยลงไปมากแล้ว สงสารคนที่ดูแลด้วยค่ะ ไม่รู้ว่าตอนนั้นจะเหลือใครบ้าง
เพื่อนฝูงก็น่าจะตายหมดแล้ว
เราคิดของเรานะคะ อายุที่ยืนยาวที่สุดที่เราอยากจะได้คือ 50
ความคิดเห็นที่ 22
เราก็พูดกันไปครับกับเหตุการณ์ที่มันไม่เกิดขึ้นจริง
แต่ลองคิดดูครับ เอาจริงๆ ถ้าเรารู้ว่าเราจะตายแล้ว มีใครรับมันได้บ้าง อาจจะมีครับ แต่สำหรับผมที่เคยผ่านความรู้สึกว่าตนเองกำลังจะตายมาแล้ว ผมรับไม่ไหวอะครับ สำหรับตอนนั้นคือ เงินไม่สำคัญ คิดแต่ว่าทำยังไงให้ได้อยู่ต่อ
ลองคิดตามที่บอกมาดูนะครับ สมมติว่ารวยร้อยล้านจริง แล้วจะตายตอน 50 ปีจริงๆ คิดว่าตอนเข้าอายุ 30 ปี แล้วรู้ว่าอีก 20 ปีจะตายเนี่ย เครียดไหมครับ แล้วพออายุ 40 ปี แล้วรู้ว่าอีก 10 ปีจะตายเนี่ย คงเครียดมากกว่า สุดท้ายพอใกล้จะตายคงเครียดสุดๆ ผมว่าระยะเวลาก่อนจะอายุ 50 ปี คงหมดไปกับการทำยังไงก็ได้ให้ตนเองไม่ตายตอน 50 ปี ก็คงคิดฝืนลิขิตฟ้าเหมือนกับคนรวยอื่นๆหลายคนนั่นแหละครับ แต่ถ้าคุณกำหนดมาแน่นอนว่าตายตอนอายุเท่านี้ ก็เท่ากับว่าฝืนไม่ได้
สำหรับผม ถ้าลิขิตมาแบบนี้จริง ผมก็ขออายุยืนๆไว้ก่อน แล้วค่อยมาใช้ชีวิตแบบดันทุรังฝืนลิขิตฟ้า ดันตัวเองเพื่อให้มีเงินมีทองมากกว่าเดิมดีกว่า ตายช้ายังไงก็ได้ทำอะไรมากกว่าตายเร็วแน่นอนครับ ถึงแม้จะเครียดเรื่องหาเงิน แต่ก็ไม่เครียดเรื่องใกล้ตาย แน่นอนสำหรับผม ระดับความเครียดสองอย่างนี้ไม่ได้ใกล้เคียงกันเลย
ปล อีกอย่าง ความสุขของชีวิต ไม่ได้มีแค่เงินครับ การมีชีวิตยืนยาวกว่าอาจจะทำให้มุมมองการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปได้ด้วยครับ
แต่ลองคิดดูครับ เอาจริงๆ ถ้าเรารู้ว่าเราจะตายแล้ว มีใครรับมันได้บ้าง อาจจะมีครับ แต่สำหรับผมที่เคยผ่านความรู้สึกว่าตนเองกำลังจะตายมาแล้ว ผมรับไม่ไหวอะครับ สำหรับตอนนั้นคือ เงินไม่สำคัญ คิดแต่ว่าทำยังไงให้ได้อยู่ต่อ
ลองคิดตามที่บอกมาดูนะครับ สมมติว่ารวยร้อยล้านจริง แล้วจะตายตอน 50 ปีจริงๆ คิดว่าตอนเข้าอายุ 30 ปี แล้วรู้ว่าอีก 20 ปีจะตายเนี่ย เครียดไหมครับ แล้วพออายุ 40 ปี แล้วรู้ว่าอีก 10 ปีจะตายเนี่ย คงเครียดมากกว่า สุดท้ายพอใกล้จะตายคงเครียดสุดๆ ผมว่าระยะเวลาก่อนจะอายุ 50 ปี คงหมดไปกับการทำยังไงก็ได้ให้ตนเองไม่ตายตอน 50 ปี ก็คงคิดฝืนลิขิตฟ้าเหมือนกับคนรวยอื่นๆหลายคนนั่นแหละครับ แต่ถ้าคุณกำหนดมาแน่นอนว่าตายตอนอายุเท่านี้ ก็เท่ากับว่าฝืนไม่ได้
สำหรับผม ถ้าลิขิตมาแบบนี้จริง ผมก็ขออายุยืนๆไว้ก่อน แล้วค่อยมาใช้ชีวิตแบบดันทุรังฝืนลิขิตฟ้า ดันตัวเองเพื่อให้มีเงินมีทองมากกว่าเดิมดีกว่า ตายช้ายังไงก็ได้ทำอะไรมากกว่าตายเร็วแน่นอนครับ ถึงแม้จะเครียดเรื่องหาเงิน แต่ก็ไม่เครียดเรื่องใกล้ตาย แน่นอนสำหรับผม ระดับความเครียดสองอย่างนี้ไม่ได้ใกล้เคียงกันเลย
ปล อีกอย่าง ความสุขของชีวิต ไม่ได้มีแค่เงินครับ การมีชีวิตยืนยาวกว่าอาจจะทำให้มุมมองการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปได้ด้วยครับ
ความคิดเห็นที่ 8
เลือกร้อยล้าน แล้วตายตอน ห้าสิบค่ะ
สมมติ ได้มาตอนนี้ เราจะเหลือเวลาอีก หกปี ก็จะสิ้นอายุขัย
ซึ่งจะต้องใช้ชีวิตทุกวัน ด้วยความไม่ประมาทสุดๆ
เนื่องจาก เวลาเหลือน้อยมากแล้ว
เราก็จะเต็มที่กับการปฏิบัติธรรม ส่วนเงินร้อยล้าน เอาไว้ทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น
(ตามแต่จะนึกได้ ว่าอยากจะบริจาคที่ใด /สนับสนุนองค์กรใด)
ถ้าเราต้องการปฏิบัติธรรม เงินก็จะเอาไปบริจาคอยู่ดี ทำไมถึงไม่เลือกตายตอน 85 ล่ะ ?
เพราะ ช่วงวัยชราเต็มไปด้วยความเสื่อมของสังขาร ลากยาวไป ก็ใช่ว่าจะดี
แถมต้องใช้เวลาไปกับการดิ้นรนทำมาหากิน เท่ากับว่า อายุที่เพิ่มมา ก็คือเวลาที่ต้องไปหาเงินนั่นแหละ
และการเลือกร้อยล้าน มาไว้เพื่อทำบุญ ก็มิใช่สูญเปล่า มันเป็นเสบียง ติดตัวเราไปชาติหน้าได้ด้วย
สมมติ ได้มาตอนนี้ เราจะเหลือเวลาอีก หกปี ก็จะสิ้นอายุขัย
ซึ่งจะต้องใช้ชีวิตทุกวัน ด้วยความไม่ประมาทสุดๆ
เนื่องจาก เวลาเหลือน้อยมากแล้ว
เราก็จะเต็มที่กับการปฏิบัติธรรม ส่วนเงินร้อยล้าน เอาไว้ทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น
(ตามแต่จะนึกได้ ว่าอยากจะบริจาคที่ใด /สนับสนุนองค์กรใด)
ถ้าเราต้องการปฏิบัติธรรม เงินก็จะเอาไปบริจาคอยู่ดี ทำไมถึงไม่เลือกตายตอน 85 ล่ะ ?
เพราะ ช่วงวัยชราเต็มไปด้วยความเสื่อมของสังขาร ลากยาวไป ก็ใช่ว่าจะดี
แถมต้องใช้เวลาไปกับการดิ้นรนทำมาหากิน เท่ากับว่า อายุที่เพิ่มมา ก็คือเวลาที่ต้องไปหาเงินนั่นแหละ
และการเลือกร้อยล้าน มาไว้เพื่อทำบุญ ก็มิใช่สูญเปล่า มันเป็นเสบียง ติดตัวเราไปชาติหน้าได้ด้วย
แสดงความคิดเห็น
ถ้าเลือกได้ คุณจะเลือกแบบไหน ระหว่าง รวย100ล้านแต่ตายอายุแค่50 กับพออยู่แต่ตายอายุ85
ความเป็นอยู่ปานกลางแบบเป็นอาชีพ รปภ. แม่บ้าน แม่ค้าทั่วไปในตลาดสด ไม่ถึงขั้น
ทำงานออฟฟิศ
พออยู่พอกินไม่ถึงกับอดอยาก แต่ก็ไม่สุขสบายมาก
แต่อายุยืนถึง85แล้วตาย
กับ
รวยแบบชีวิตสบาย ๆ แต่ตายตอนอายุ 50พอดี
มีแค่เงื่อนไขตามนี้เท่านั้น คุณจะเลือกแบบไหน