กระทู้นี้เป็นการขอความคิดเห็นว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้จะไปต่อหรือพอแค่นี้ หรือสามารถแนะแนวทางอื่นได้ค่ะ
เกริ่นก่อนนะคะเป็นผู้หญิง30+ มีแฟนเป็นรุ่นน้องกว่าคบกันมาจะเข้าปีที่6 ความรักแรกๆราบรื่นดีค่ะ ดูแลเดี ใส่ใจ ล่าสุดอยู่ด้วยกันยังไม่ได้แต่งงาน มีบ้านโดยช่วยกันจ่าย เขาไม่สูบบุหรี่ เที่ยว หรือดื่มเหล้า ทำแค่งาน ประเด็นคือตั้งแต่ที่คบกันมา6ปี ไม่เคยได้ยินเขาเอ่ยถึงการแพลนอนาคตแบบจริงจังสักครั้ง มีแค่เราเป็นฝ่ายเปิดประเด็นแบบแอบถามเชิงติดตลก เขายอมรับว่าไม่ชอบเด็กแต่คิดจะมีลูกเพื่อสืบวงศ์ตระกูล (หลังได้ยินคำนี้ก็เริ่มลังเล เหตุการณืเมื่อคบกันได้2ปีกว่า ส่วนตัวเป็นคนชอบเด็กแต่พอได้ยินแบบนี้ก็ลังเล กลัวการมีลูกมันต้องใช้ความอดทนในการเข้าใจเด็กไม่อยากให้คนที่มีความรู้สึกไม่ได้รักเด็กจริงๆแต่ต้องดูแลเขาแล้วเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ปล.บางครั้งเขาก็อารมร์ร้อนขี้หงุดหงิดง่าย) แต่เคยปรึกษาแม่เรื่องนี้ เขาก็บอกว่าเดี๋ยวมีจริงก็รักเองแหละลูกตัวเองใตรๆก็รัก(ความรู้สึกเหมือนจะไม่เป็นจริงอย่างแม่ว่า) เขาจะรักครอบครัวเขามาก พ่อแม่แก่แล้วอยากให้ท่านมีความสุข พาไปเที่ยวทั้งในประเทศ ตปท อันนี้ไม่เคยว่าหรือขัดข้องใจ (จะมีแค่ช่วงแรกๆที่แพลนอยากไปเที่ยวชวนเขา เขามักจะบอกว่าจะพาพ่อแม่ไปด้วยทุกครั้ง... แค่บางครั้งอยากมีชีวิตแบบแฟนกันบ้าง) เมื่อสองปีก่อนเริ่มอยากมีบ้านเผื่ออนาคตราคาบ้านสูงขึ้น เผื่อมีครอบครัวยังมีห้องของลูก (ก่อนหน้านี้อยู่คอนโดกัน) ครั้งแรกเริ่มหาบ้านเขาก็ดูไม่ค่อยสนใจภาระเยอะขึ้น เลยบอกงั้นไว้ก่อนได้ แต่สุดท้ายเขาก็ดูเหมือนจะเห็นด้วยก็พากันไปดูตามโครงการต่างๆ แต่พอไปดูเราดูคิดถึงอนาคตครอบครัวตัวเองที่จะสร้างกันข้างหน้า แต่ดูเหมือนเขาไม่ได้มองแบบนั้น เขาดูสนใจเเละอยากให้ครอบครัวเขามาอยู่บ้าง เคยเอ่ยให้ซื้อสองหลังเขาจะช่วยจ่ายทั้งสองหลังเพื่อให้พ่อแม่มาอยู่ใกล้ๆ (แอบไม่เห็นด้วยเลยต้องบอกตามตรงไปว่าไม่โอเค เพราะสไตล์ครอบครัวเขาไม่เหมือนแบบที่เราคิดเลยไม่อยากมีปัญหาการเลี้ยงลูกในอนาคต แนะนำให้เขาซื้อให้ที่บ้านเขาไปก่อน ของเรารอได้) สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ซื้อให้ที่บ้าน จนมาเจอกับโครงการนึงชอบกันเลยตกลง ครั้งแรกมาดูเราก็แพลนคร่าวๆในหัวว่าห้องไหนโซนไหนรองรับแขก พ่อแม่เราหรือเวลาจะมาพักที่บ้าน(พ่อแม่เราอยู่ตจว.) ห้องของลูกถ้าอนาคตมีครอบครัว เขาแพลนแค่ห้องที่สามารถพาพ่อแม่เขามาอยู่แล้วไม่ลำบาก เขาเริ่มบอกว่าอนาคตจะพาพ่อแม่มาอยุ่ด้วยถ้าตอนนั้นเขาอายุมาก(อันนี้เข้าในจไม่ขัด แต่มันจุกกับประโยคที่เขาบอกว่าเราก็พาพ่อแม่เรามาอยู่ได้นะ แต่ท่านคงไม่มาหรอกมั้งคงติดอยู่ตจว. ประโยคสุดท้ายที่ไม่โอเคถ้าใจไม่อยากก็ไม่ต้องพูดประโยคสุดท้าย ก็ได้ไหม) เริ่มมีบ้านเริ่มแพลนต่อเดิม การแพลนหาแบบกลายเป็นฟังในสิ่งที่เขาต้องการคือ ไว้อนาคตเพื่อพ่อแม่มาอยู่ แต่ไม่เคยได้ดยินแพลนไรเกี่ยวกับอนาคตของครอบครัวเขาเองเลย ไม่เคยได้ยินห้องนี้ห้องนอนของลูกไว้ทาสีตกแต่งแบบนี้ สนามหญ้าเล็กๆให้ลูกวิ่งเล่น มันไม่เคยมีเลย แม้เคยทะเลาะกันเรื่องที่เขาดูจะเอนไปทางครอบครัวเขามากจนไม่นึกถึงตัวเราเองมาแล้ว เหมือนจะเข้าใจกัน แต่สุดท้ายเขาก็ทำแบบเดิม ไม่มีไรเปลี่ยนแปลงดูอยากมีครอบครัวจริงจัง ส่วนตัวไม่เคยเร่งรัด เคยถามเขาบอกมีแพลนแต่เขาแพลนในหัวอธิบายให้ฟังไม่เป็น เราไม่เร่งรัดการแต่งงานใหญ่โต แล้วผู้หญิงทุกคนที่ต้องเจอแบบเราอายุที่นับถอยหลัง การมีลูกที่จะยากมากขึ้น (ถ้ามองการแพทย์ก้าวหน้าแล้วแต่เราไม่ได้ร่ำรวยขนาดนั้น) กับเขาที่เพิ่งอย่างเขาวัยเริ่มกลางคน เราแค่อยากรู้ว่าเขาจริงจังหรือมีแพลนสำหรับอนาคตของตัวเองแค่ไหน ถ้ามันไม่มีเลยหรือต้องอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ เราก็คงมีโอกาสมีลูกได้ยากขึ้น ถ้าเจอแบบนี้คิดว่าควรให้โอกาสตัวเองและเขาต่อไปอีกไม๊ หรือเตรียมใจไว้รักตัวเองในช่วงอายุ30+
ควรไปต่อหรือพอแค่นี้
เกริ่นก่อนนะคะเป็นผู้หญิง30+ มีแฟนเป็นรุ่นน้องกว่าคบกันมาจะเข้าปีที่6 ความรักแรกๆราบรื่นดีค่ะ ดูแลเดี ใส่ใจ ล่าสุดอยู่ด้วยกันยังไม่ได้แต่งงาน มีบ้านโดยช่วยกันจ่าย เขาไม่สูบบุหรี่ เที่ยว หรือดื่มเหล้า ทำแค่งาน ประเด็นคือตั้งแต่ที่คบกันมา6ปี ไม่เคยได้ยินเขาเอ่ยถึงการแพลนอนาคตแบบจริงจังสักครั้ง มีแค่เราเป็นฝ่ายเปิดประเด็นแบบแอบถามเชิงติดตลก เขายอมรับว่าไม่ชอบเด็กแต่คิดจะมีลูกเพื่อสืบวงศ์ตระกูล (หลังได้ยินคำนี้ก็เริ่มลังเล เหตุการณืเมื่อคบกันได้2ปีกว่า ส่วนตัวเป็นคนชอบเด็กแต่พอได้ยินแบบนี้ก็ลังเล กลัวการมีลูกมันต้องใช้ความอดทนในการเข้าใจเด็กไม่อยากให้คนที่มีความรู้สึกไม่ได้รักเด็กจริงๆแต่ต้องดูแลเขาแล้วเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ปล.บางครั้งเขาก็อารมร์ร้อนขี้หงุดหงิดง่าย) แต่เคยปรึกษาแม่เรื่องนี้ เขาก็บอกว่าเดี๋ยวมีจริงก็รักเองแหละลูกตัวเองใตรๆก็รัก(ความรู้สึกเหมือนจะไม่เป็นจริงอย่างแม่ว่า) เขาจะรักครอบครัวเขามาก พ่อแม่แก่แล้วอยากให้ท่านมีความสุข พาไปเที่ยวทั้งในประเทศ ตปท อันนี้ไม่เคยว่าหรือขัดข้องใจ (จะมีแค่ช่วงแรกๆที่แพลนอยากไปเที่ยวชวนเขา เขามักจะบอกว่าจะพาพ่อแม่ไปด้วยทุกครั้ง... แค่บางครั้งอยากมีชีวิตแบบแฟนกันบ้าง) เมื่อสองปีก่อนเริ่มอยากมีบ้านเผื่ออนาคตราคาบ้านสูงขึ้น เผื่อมีครอบครัวยังมีห้องของลูก (ก่อนหน้านี้อยู่คอนโดกัน) ครั้งแรกเริ่มหาบ้านเขาก็ดูไม่ค่อยสนใจภาระเยอะขึ้น เลยบอกงั้นไว้ก่อนได้ แต่สุดท้ายเขาก็ดูเหมือนจะเห็นด้วยก็พากันไปดูตามโครงการต่างๆ แต่พอไปดูเราดูคิดถึงอนาคตครอบครัวตัวเองที่จะสร้างกันข้างหน้า แต่ดูเหมือนเขาไม่ได้มองแบบนั้น เขาดูสนใจเเละอยากให้ครอบครัวเขามาอยู่บ้าง เคยเอ่ยให้ซื้อสองหลังเขาจะช่วยจ่ายทั้งสองหลังเพื่อให้พ่อแม่มาอยู่ใกล้ๆ (แอบไม่เห็นด้วยเลยต้องบอกตามตรงไปว่าไม่โอเค เพราะสไตล์ครอบครัวเขาไม่เหมือนแบบที่เราคิดเลยไม่อยากมีปัญหาการเลี้ยงลูกในอนาคต แนะนำให้เขาซื้อให้ที่บ้านเขาไปก่อน ของเรารอได้) สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ซื้อให้ที่บ้าน จนมาเจอกับโครงการนึงชอบกันเลยตกลง ครั้งแรกมาดูเราก็แพลนคร่าวๆในหัวว่าห้องไหนโซนไหนรองรับแขก พ่อแม่เราหรือเวลาจะมาพักที่บ้าน(พ่อแม่เราอยู่ตจว.) ห้องของลูกถ้าอนาคตมีครอบครัว เขาแพลนแค่ห้องที่สามารถพาพ่อแม่เขามาอยู่แล้วไม่ลำบาก เขาเริ่มบอกว่าอนาคตจะพาพ่อแม่มาอยุ่ด้วยถ้าตอนนั้นเขาอายุมาก(อันนี้เข้าในจไม่ขัด แต่มันจุกกับประโยคที่เขาบอกว่าเราก็พาพ่อแม่เรามาอยู่ได้นะ แต่ท่านคงไม่มาหรอกมั้งคงติดอยู่ตจว. ประโยคสุดท้ายที่ไม่โอเคถ้าใจไม่อยากก็ไม่ต้องพูดประโยคสุดท้าย ก็ได้ไหม) เริ่มมีบ้านเริ่มแพลนต่อเดิม การแพลนหาแบบกลายเป็นฟังในสิ่งที่เขาต้องการคือ ไว้อนาคตเพื่อพ่อแม่มาอยู่ แต่ไม่เคยได้ดยินแพลนไรเกี่ยวกับอนาคตของครอบครัวเขาเองเลย ไม่เคยได้ยินห้องนี้ห้องนอนของลูกไว้ทาสีตกแต่งแบบนี้ สนามหญ้าเล็กๆให้ลูกวิ่งเล่น มันไม่เคยมีเลย แม้เคยทะเลาะกันเรื่องที่เขาดูจะเอนไปทางครอบครัวเขามากจนไม่นึกถึงตัวเราเองมาแล้ว เหมือนจะเข้าใจกัน แต่สุดท้ายเขาก็ทำแบบเดิม ไม่มีไรเปลี่ยนแปลงดูอยากมีครอบครัวจริงจัง ส่วนตัวไม่เคยเร่งรัด เคยถามเขาบอกมีแพลนแต่เขาแพลนในหัวอธิบายให้ฟังไม่เป็น เราไม่เร่งรัดการแต่งงานใหญ่โต แล้วผู้หญิงทุกคนที่ต้องเจอแบบเราอายุที่นับถอยหลัง การมีลูกที่จะยากมากขึ้น (ถ้ามองการแพทย์ก้าวหน้าแล้วแต่เราไม่ได้ร่ำรวยขนาดนั้น) กับเขาที่เพิ่งอย่างเขาวัยเริ่มกลางคน เราแค่อยากรู้ว่าเขาจริงจังหรือมีแพลนสำหรับอนาคตของตัวเองแค่ไหน ถ้ามันไม่มีเลยหรือต้องอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ เราก็คงมีโอกาสมีลูกได้ยากขึ้น ถ้าเจอแบบนี้คิดว่าควรให้โอกาสตัวเองและเขาต่อไปอีกไม๊ หรือเตรียมใจไว้รักตัวเองในช่วงอายุ30+