เป็นลูกคนเดียวค่ะ อยู่กับแม่ที่เป็น Single mom คุณแม่ก็ชอบอยู่คนเดียวดูแลตัวเองคนเดียว ส่งเราไปเรียนเมืองนอกมา 6 ปี (ด้วยทุนช่วง 4 ปีหลัง ไม่ได้ขอที่แม่อีก) แม่บอกให้หางานทำเมืองนอกไปเลย แต่ติดโควิด ทุกอย่างเลยล่มค่ะ
กลับมาเรียนออนไลน์ป.เอกที่ไทย1ปีสุดท้าย ต้องเท้าความว่าตอนอยู่ตปท. กลับกรุงเทพมาทุกปีปีละ2ครั้ง กลับมาทุกครั้ง culture shock ทุกครั้ง (อยู่ปักกิ่ง 6 ปี) เลยมีความรู้สึกเสมอว่า กรุงเทพ
ไม่ใช่ที่ของเรา ตอนแรกคิดว่าอยู่ไปนานๆอาจจะชินค่ะ แต่ตั้งแต่อยู่เดือนธันวาก่อนโควิดจนถึงทุกวันนี้ก็ไม่ชอบกรุงเทพค่ะ โดยส่วนใหญ่คือเรื่องความแออัดของเมือง ย่านที่อยู่เดิมที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ความเป็นสาธารณะของเมืองมันไม่เหมือนที่เราเคยชินและชอบ (ชอบขึ้นรถเมล์ตั้งแต่สมัยเรียนประถมมัธยมมหาลัยที่ไทย แต่ไม่คิดว่าพอกลับมานอกจากนั่งคันเดิมแล้วยังรอนานกว่าเดิมอีก)เลยตัดสินบอกแม่ว่าจะมองหางานทำที่ต่างจังหวัด (ถ้าจะต้องขับรถไปทำงาน ก็ขอไม่ติดจนเกินไปค่ะ กรุงเทพติดแบบจิตหดหู่ คนขับรถเร็วและใจร้อนเยอะมาก กลัวถูกยิงสักวัน)
ตอนนี้สมัครงานได้แล้วค่ะ ได้ที่เชียงใหม่ แม้จะเจอมลพิษบ้างบางเดือน แต่เท่าที่ไปสัมผัสมาระยะนึง เมืองเล็ก และนอกจากช่วงอากาศไม่ดีแล้ว ที่เหลือก็ดีค่ะ และไม่ได้รู้สึกแออัดเท่ากทม. ขับรถง่ายกว่า และที่สำคัญคือค่าครองชีพตาม local ที่ไม่ใช่ tourist spot ถูกกว่ากรุงเทพ
เรื่องก็มาถึงตรงนี้ค่ะ ก่อนสมัครงานได้บอกแม่ไปชัดเจนแล้วว่า จะขอขึ้นไปทำงานที่เชียงใหม่นะ ตั้งเป้าไว้ที่ 5ปีเป็นอย่างน้อย ถ้าชอบจะอยู่ยาว ย้ายไปเลย อยากให้แม่มาด้วย ถ้าไม่ชอบจะกลับมากทม. ซึ่งคุณแม่ก็ตกลงค่ะ ไม่ได้ว่าอะไร เราก็ได้ตอบตกลงงาน โดยงานเป็นอาจารย์ ต้องใช้ทุน (เพราะสมัครช่วงลาศึกษาต่อ มีเงินเดือนแล้ว ต้องใช้ทุนช่วงลาไป)เบ็ดเสร็จรวมโปรเบชั่น 3 ปี แต่งานดีและมั่นคงมากค่ะ
แม้ว่าจะยังไม่ถึงเวลาย้ายไป (ย้ายช่วงปลายปี)แต่ตอนนี้แม่เริ่มเป็นห่วง เริ่มกลับลำ เริ่มคิดมากขึ้น เริ่มขอให้เราพิจารณา คืนทุน เสียค่าปรับ แล้วกลับมาอยู่กรุงเทพได้ไหม... จริงๆถ้าว่ากันตรงนี้ งานไม่ได้เป็นอาจารย์ ก็คงลาออกได้ค่ะ แต่พอเป็นงานสายนี้ ถ้าทำแบบนั้นแล้วกลัวจะมีปัญหาในภายภาคหน้า อาจจะหางานยากในอนาคต อีกทั้ง ยังไม่ได้ลองย้ายไปเลย แต่ก็รู้สึกได้ว่าคุณแม่ยื้อไม่อยากให้เราไปซะอย่างนั้นค่ะ ส่วนตัวเข้าใจท่านว่าท่านเริ่มติดเรา เพราะเรา WFH ทุกวันเนื่องด้วยโควิด ท่านคงชินที่เราอยู่ด้วยมั้ง แต่พอเราจะเริ่มเตรียมตัว ท่านก็อยากให้เราเปลี่ยนใจ จนเราเริ่มเครียดและกังวลค่ะ
คำถามก็คือ เราจะคุยกับคุณแม่ยังไงดี เราพยายามหาคนปรึกษา แต่ส่วนใหญ่คนรอบตัวจะมีพี่น้อง หรือถ้าเป็นลูกคนเดียว ก็มีทั้งพ่อแม่ พอเราเป็นลูกคนเดียว กับ Single mom ทุกคนจะบอกว่าเป็นโจทย์ยากและไม่รู้จะให้คำแนะนำอย่างไรค่ะ ถ้าใครมีคำแนะนำรบกวนด้วยค่ะ มันเครียดอยู่ในใจมานาน ห่วงแม่ก็ห่วง แต่ถ้าปฎิเสธงานนี้ตั้งแต่ยังไม่ได้ทำ จะไปหางานต่อไปช่วงนี้คงยาก รายได้ก็ไม่มี เรียนป.เอกโดยขอตังแม่ทุกวันก็ยังไงๆอยู่ค่ะ (ทุนหยุดให้ช่วงโควิด เลยหาช่องทางหาเงินเก็บ เป็นงานอาจารย์งานนี้ค่ะ)
ข้อมูลเพิ่มเติม เราอายุ 32 แม่อายุ 62 บ้านฐานะปานกลาง แม่เกษียณแล้ว มีเงินเก็บพอสำหรับตัวแม่เอง (แต่ไม่น่าพอถ้าเราไม่ทำงาน)
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำค่ะ
เป็นลูกคนเดียวอยู่กับแม่ที่เป็น single momค่ะ กำลังจะไปทำงานตจว. แต่คุณแม่ไม่ยอม
กลับมาเรียนออนไลน์ป.เอกที่ไทย1ปีสุดท้าย ต้องเท้าความว่าตอนอยู่ตปท. กลับกรุงเทพมาทุกปีปีละ2ครั้ง กลับมาทุกครั้ง culture shock ทุกครั้ง (อยู่ปักกิ่ง 6 ปี) เลยมีความรู้สึกเสมอว่า กรุงเทพไม่ใช่ที่ของเรา ตอนแรกคิดว่าอยู่ไปนานๆอาจจะชินค่ะ แต่ตั้งแต่อยู่เดือนธันวาก่อนโควิดจนถึงทุกวันนี้ก็ไม่ชอบกรุงเทพค่ะ โดยส่วนใหญ่คือเรื่องความแออัดของเมือง ย่านที่อยู่เดิมที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ความเป็นสาธารณะของเมืองมันไม่เหมือนที่เราเคยชินและชอบ (ชอบขึ้นรถเมล์ตั้งแต่สมัยเรียนประถมมัธยมมหาลัยที่ไทย แต่ไม่คิดว่าพอกลับมานอกจากนั่งคันเดิมแล้วยังรอนานกว่าเดิมอีก)เลยตัดสินบอกแม่ว่าจะมองหางานทำที่ต่างจังหวัด (ถ้าจะต้องขับรถไปทำงาน ก็ขอไม่ติดจนเกินไปค่ะ กรุงเทพติดแบบจิตหดหู่ คนขับรถเร็วและใจร้อนเยอะมาก กลัวถูกยิงสักวัน)
ตอนนี้สมัครงานได้แล้วค่ะ ได้ที่เชียงใหม่ แม้จะเจอมลพิษบ้างบางเดือน แต่เท่าที่ไปสัมผัสมาระยะนึง เมืองเล็ก และนอกจากช่วงอากาศไม่ดีแล้ว ที่เหลือก็ดีค่ะ และไม่ได้รู้สึกแออัดเท่ากทม. ขับรถง่ายกว่า และที่สำคัญคือค่าครองชีพตาม local ที่ไม่ใช่ tourist spot ถูกกว่ากรุงเทพ
เรื่องก็มาถึงตรงนี้ค่ะ ก่อนสมัครงานได้บอกแม่ไปชัดเจนแล้วว่า จะขอขึ้นไปทำงานที่เชียงใหม่นะ ตั้งเป้าไว้ที่ 5ปีเป็นอย่างน้อย ถ้าชอบจะอยู่ยาว ย้ายไปเลย อยากให้แม่มาด้วย ถ้าไม่ชอบจะกลับมากทม. ซึ่งคุณแม่ก็ตกลงค่ะ ไม่ได้ว่าอะไร เราก็ได้ตอบตกลงงาน โดยงานเป็นอาจารย์ ต้องใช้ทุน (เพราะสมัครช่วงลาศึกษาต่อ มีเงินเดือนแล้ว ต้องใช้ทุนช่วงลาไป)เบ็ดเสร็จรวมโปรเบชั่น 3 ปี แต่งานดีและมั่นคงมากค่ะ
แม้ว่าจะยังไม่ถึงเวลาย้ายไป (ย้ายช่วงปลายปี)แต่ตอนนี้แม่เริ่มเป็นห่วง เริ่มกลับลำ เริ่มคิดมากขึ้น เริ่มขอให้เราพิจารณา คืนทุน เสียค่าปรับ แล้วกลับมาอยู่กรุงเทพได้ไหม... จริงๆถ้าว่ากันตรงนี้ งานไม่ได้เป็นอาจารย์ ก็คงลาออกได้ค่ะ แต่พอเป็นงานสายนี้ ถ้าทำแบบนั้นแล้วกลัวจะมีปัญหาในภายภาคหน้า อาจจะหางานยากในอนาคต อีกทั้ง ยังไม่ได้ลองย้ายไปเลย แต่ก็รู้สึกได้ว่าคุณแม่ยื้อไม่อยากให้เราไปซะอย่างนั้นค่ะ ส่วนตัวเข้าใจท่านว่าท่านเริ่มติดเรา เพราะเรา WFH ทุกวันเนื่องด้วยโควิด ท่านคงชินที่เราอยู่ด้วยมั้ง แต่พอเราจะเริ่มเตรียมตัว ท่านก็อยากให้เราเปลี่ยนใจ จนเราเริ่มเครียดและกังวลค่ะ
คำถามก็คือ เราจะคุยกับคุณแม่ยังไงดี เราพยายามหาคนปรึกษา แต่ส่วนใหญ่คนรอบตัวจะมีพี่น้อง หรือถ้าเป็นลูกคนเดียว ก็มีทั้งพ่อแม่ พอเราเป็นลูกคนเดียว กับ Single mom ทุกคนจะบอกว่าเป็นโจทย์ยากและไม่รู้จะให้คำแนะนำอย่างไรค่ะ ถ้าใครมีคำแนะนำรบกวนด้วยค่ะ มันเครียดอยู่ในใจมานาน ห่วงแม่ก็ห่วง แต่ถ้าปฎิเสธงานนี้ตั้งแต่ยังไม่ได้ทำ จะไปหางานต่อไปช่วงนี้คงยาก รายได้ก็ไม่มี เรียนป.เอกโดยขอตังแม่ทุกวันก็ยังไงๆอยู่ค่ะ (ทุนหยุดให้ช่วงโควิด เลยหาช่องทางหาเงินเก็บ เป็นงานอาจารย์งานนี้ค่ะ)
ข้อมูลเพิ่มเติม เราอายุ 32 แม่อายุ 62 บ้านฐานะปานกลาง แม่เกษียณแล้ว มีเงินเก็บพอสำหรับตัวแม่เอง (แต่ไม่น่าพอถ้าเราไม่ทำงาน)
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำค่ะ