สวัสดีค่ะ วันนี้จะหยิบเอาเรื่องเล่าเขย่าขวัญตอนหนึ่งจากงานแปลของเราเองที่ชื่อว่า "นอนไม่หลับ" ซึ่งเราเลือกเอาเรื่องเล่าน่ากลัวๆ จากบอร์ด Reddit มาแปลให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน
โดยปกติเราจะอัปเดตวันละหนึ่งตอนในเว็บของเราเองชื่อ "นอนไม่หลับ" ค่ะ (
ลิงก์นี้นะคะ )
หรือถ้าใครสะดวกอ่านบน ReadAWrite ก็
ลิงก์นี้ค่ะ
ถ้าอ่านแล้วชอบ สามารถตามไปอ่านตอนอื่นๆ ได้นะคะ
ปล. ก่อนแปลทุกครั้ง เราได้ขออนุญาตเจ้าของเรื่องเป็นการส่วนตัว และได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่องแล้วทั้งสิ้นนะคะ ทั้งนี้สำนวนการแปลเป็นถือเป็นลิขสิทธิ์ของเรา ห้ามก๊อบปี้ไปลงเว็บอื่น หรือเอาไปอ่านลง Youtube โดยไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาดนะคะ
มาเริ่มกันเลยค่ะ
-------------------------------------------
เอาล่ะเพื่อนๆ ตามที่สัญญาไว้ ต่อไปนี้เป็นเรื่องแปลกๆ ในเกาหลีที่ฉันเคยประสบมา
หลายเดือนก่อน ฉันกำลังจะนั่งรถไฟกลับบ้านจากที่ทำงาน ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณสามทุ่ม และสถานีรถไฟใต้ดินปูซานว่างเปล่าไร้ผู้คน ขณะที่ฉันกำลังเดินไปขึ้นรถไฟ หูก็ได้ยินเสียงเหมือนใครกำลังเดินลากเท้าอยู่ข้างหลัง ด้วยความกลัว ฉันเริ่มเร่งฝีเท้าและดูเหมือนว่าเสียงลากเท้านั่นก็เริ่มก้าวเร็วขึ้นตามด้วย ฉันเริ่มออกวิ่งอย่างตื่นตระหนกจนไปถึงรถไฟและรีบกระโดดขึ้นรถไฟอย่างเร็ว แต่แล้วก็ได้เห็นภาพน่าสยดสยอง
ในตู้รถไฟ ฉันเห็นร่างที่แหลกเหลวกองเต็มพื้นและที่นั่งไปหมด เลือดบนผนังและเสียงผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดขณะที่พวกเขาร้องขอให้ช่วย ในตอนนั้น ฉันเริ่มรู้สึกเวียนหัว และจากนั้นไม่นานก็หมดสติไป
พอได้สติอีกครั้ง ฉันรีบหันมองรอบตัว แต่ศพที่เห็นเมื่อครู่หายไปแล้ว ตู้รถไฟตอนนี้ดูปกติดีเหมือนกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
ต่อมา ฉันพยายามค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้และพบว่า เมื่อประมาณยี่สิบปีที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุรถไฟตกรางที่สถานีรถไฟใต้ดินปูซาน ซึ่งคร่าชีวิตผู้โดยสารไปทั้งหมด 12 คนและมีผู้บาดเจ็บอีกถึง 20 คน ว่ากันว่าตั้งแต่นั้นมา สถานีรถไฟแห่งนี้ถูกครอบครองและหลอกหลอนโดยผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นั้น หลายคนอ้างว่า ในเวลากลางคืน จะได้ยินเสียงลากเท้าใกล้ชานชาลาหมายเลข 8 และบางคนอ้างว่าได้ยินระเบิดเสียงดัง แต่เมื่อหันไปมองกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คนงานที่สถานีรถไฟใต้ดินปูซานยังเคยรายงานด้วยว่าพวกเขาประสบเหตุการณ์แปลกๆ บ่อยครั้ง
เช่นวันหนึ่ง คนงานเล่าให้ฟังว่าเขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บยืนก้มหน้าอยู่กลางรางรถไฟ เมื่อเขาเดินเข้าไปหาเพื่อดูว่าเธอเป็นอะไรไหม เธอก็หายตัวไปเสียแล้ว
นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดที่อยู่ในส่วนใต้ดินของสถานีรถไฟใกล้ชานชาลาหมายเลข 4
มีรายงานแจ้งว่าหลายคนถูกสัตว์ประหลาดตนนี้จู่โจม คนที่เห็นเหตุการณ์อธิบายว่ามันมีผิวซีด ไร้ขนและผม และมีดวงตาสีแดงลุกโชน ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งมีชีวิตตนนี้ปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกที่สถานีนี้เมื่อไหร่ แต่ลือกันว่า มันเคยเป็นมนุษย์มาก่อน แต่ถูกสาปเพราะกรรมชั่วที่เคยทำมา
ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันกำลังจะเล่าให้ฟังนี้ เกี่ยวข้องกับครูอีกคนที่โรงเรียนฉันเอง...
ประมาณหกเดือนที่แล้ว ครูคนที่ว่านี้กำลังรอรถไฟอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดินปูซาน มันเป็นเวลาดึกมากแล้ว และรอบกายเธอมีคนรอรถไฟอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น เมื่อรถไฟมาถึง เธอก้าวขึ้นรถไฟและสังเกตเห็นว่าเธอเป็นผู้โดยสารเพียงคนเดียวในตู้รถไฟนั้น เมื่อรถไฟเริ่มออกตัว เธอรู้สึกง่วงและผล็อยหลับไป พอลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีก็เห็นว่ามีลุงแก่ๆ ใส่ชุดสูทโบราณเก่าๆ นั่งตรงกันข้ามกับเธอ เขาจ้องมองเธอจนเธอรู้สึกอึดอัด ทำให้เธอต้องย้ายไปนั่งที่อื่น ขณะก้มตัวลงนั่ง เธอหันกลับไปมองชายแก่อีกครั้ง แต่เขาได้หายวับไปแล้ว
เรื่องสุดท้ายนี้เกิดขึ้นกับรปภ. ที่โรงเรียนของฉันเอง ซึ่งเขาเคยเป็นหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่สถานีรถไฟใต้ดินปูซานมาก่อน
กลางดึกคืนหนึ่ง เขากำลังตรวจตราความเรียบร้อยผ่านกล้องวงจรปิด เขาสังเกตเห็นคนกลุ่มหนึ่งอยู่บนชานชาลาที่ 8 ด้วยความงุนงง เขารีบวิทยุไปถามเจ้าหน้าที่ที่ลาดตระเวนบริเวณนั้นอยู่พอดี และถามว่าเขาเห็นกลุ่มคนที่ชานชาลา 8 หรือเปล่า เจ้าหน้าที่วิทยุกลับมาว่าตอนนี้ชานชาลา 8 ว่างเปล่า ที่จริง มันปิดไปแล้วด้วยซ้ำ หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยยังคงเห็นคนกลุ่มคนที่ว่าบนชานชาลาหมายเลข 8 เขาวิทยุกลับเจ้าหน้าที่อย่างหัวเสีย ถามว่าล้อกันเล่นหรือยังไง แต่ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตอบกลับ เขาหันไปมองที่หน้าจออีกครั้ง ปรากฎว่ากลุ่มคนที่เขาเห็นเมื่อกี้หายไปแล้ว
นั่นเป็นเพียงหนึ่งในประสบการณ์หลายครั้งที่เขาได้ประสบมาที่ชานชาลาหมายเลข 8 ซึ่งวันหลัง ฉันจะมาเล่าให้ฟังอีก
เอาละ ฉันคงต้องหยุดเล่าไว้เท่านี้ก่อน ตอนนี้ฉันรู้สึกไม่สบาย เมื่อรู้สึกดีขึ้นแล้ว ฉันจะกลับมาเล่าประสบการณ์ที่น่ากลัวของฉันจากเกาหลีให้ฟังอีก
แต่เดี๋ยวก่อน..
ที่จริง เมื่อคืนมีบางอย่างเกิดขึ้น ฉันยังกลัวๆ อยู่เลย แต่ก็อยากจะระบายออกมาบ้าง
เมื่อคืน ฉันยังอยู่ที่โรงเรียนเพื่อเตรียมงานสอนสำหรับวันรุ่งขึ้น เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่โถงทางเดินนอกห้อง ฉันคิดว่าคงเป็นลุงยามหรือไม่ก็รปภ. เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร
ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา ขณะที่ฉันกำลังจะทำงานเสร็จ อยู่ๆ ไฟในห้องเรียนเริ่มกะพริบ ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันมองไปที่กลางห้องและเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนั่งก้มหน้าอยู่ที่โต๊ะ ใจก็รู้สึกงุนงง ว่านักเรียนคนนี้เข้ามานั่งในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ จังหวะที่กำลังจะลุกขึ้นจากโต๊ะไปคุยกับนักเรียนคนนั้น ไฟก็ดับลงพอดี
ตอนนี้ในห้องเรียนมืดสนิท
ฉันรู้สึกหัวใจเต้นแรงขณะพยายามข่มความกลัว จู่ๆ ฉันก็ได้ยินเสียง
คลิก.. คลิก.. เหมือนที่เคยได้ยินก่อนหน้านี้ ฉันรีบมองไปที่เด็กผู้หญิงคนนั้นและพบว่าตอนนี้เธอยืนอยู่ห่างจากฉันไปแค่ไม่กี่ก้าว!
ตอนนั้นฉันแน่ใจแล้วว่าเธอไม่ใช่นักเรียน ด้วยความกลัวจับใจ ฉันร้องกรี๊ด หลับตาปี๋วิ่งออกจากห้อง ขณะที่วิ่งไปตามโถงทางเดิน ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตามมาข้างหลังอย่างชัดเจน ฉันเริ่มตะโกนขอความช่วยเหลือ หวังว่าลุงยามหรือภารโรงจะได้ยิน ฉันรู้สึกเหมือนมีบางอย่างเกาะอยู่ที่หลัง และขาหนักอึ้ง ตอนนั้นเอง อยู่ๆ ตาของฉันเริ่มพร่ามัว หูได้ยินเสียงหัวเราะเย็นๆ ของเด็กนักเรียนคนนั้นก้องไปทั่วโถงทางเดิน ก่อนจะเป็นลมล้มลงกับพื้นตรงนั้นเอง
ไม่กี่นาทีต่อมา ลุงยามมาเจอฉันสลบอยู่ตรงนั้นและช่วยฉันลุกขึ้น ฉันเล่าเรื่องน่ากลัวที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง และเราสองคนตัดสินใจเดินกลับขึ้นไปที่ห้องเรียนอีกครั้งเพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่แน่ละ.. ว่าทั้งห้องว่างเปล่าราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
วันนี้ฉันลาหยุดทั้งวัน แต่อีกเดี๋ยวฉันจะโทรไปที่โรงเรียนเพื่อนดูว่าฉันจะขอเปลี่ยนห้องเรียนได้หรือเปล่า ตอนนี้ฉันคงต้องขอตัวไปนอนพักก่อน แต่จะมาอัปเดทให้เพื่อนๆ ได้ฟังต่อเรื่อยๆ นะ...
*จบ*
----------------------------------
[เล่าเรื่องผี]: ฉันเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่เกาหลี และมีเรื่องน่ากลัวมาเล่าให้ฟัง - ตอนที่ 2 (สถานีรถไฟใต้ดินปูซาน)
โดยปกติเราจะอัปเดตวันละหนึ่งตอนในเว็บของเราเองชื่อ "นอนไม่หลับ" ค่ะ (ลิงก์นี้นะคะ )
หรือถ้าใครสะดวกอ่านบน ReadAWrite ก็ลิงก์นี้ค่ะ
ถ้าอ่านแล้วชอบ สามารถตามไปอ่านตอนอื่นๆ ได้นะคะ
ปล. ก่อนแปลทุกครั้ง เราได้ขออนุญาตเจ้าของเรื่องเป็นการส่วนตัว และได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่องแล้วทั้งสิ้นนะคะ ทั้งนี้สำนวนการแปลเป็นถือเป็นลิขสิทธิ์ของเรา ห้ามก๊อบปี้ไปลงเว็บอื่น หรือเอาไปอ่านลง Youtube โดยไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาดนะคะ
มาเริ่มกันเลยค่ะ
-------------------------------------------
เอาล่ะเพื่อนๆ ตามที่สัญญาไว้ ต่อไปนี้เป็นเรื่องแปลกๆ ในเกาหลีที่ฉันเคยประสบมา
หลายเดือนก่อน ฉันกำลังจะนั่งรถไฟกลับบ้านจากที่ทำงาน ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณสามทุ่ม และสถานีรถไฟใต้ดินปูซานว่างเปล่าไร้ผู้คน ขณะที่ฉันกำลังเดินไปขึ้นรถไฟ หูก็ได้ยินเสียงเหมือนใครกำลังเดินลากเท้าอยู่ข้างหลัง ด้วยความกลัว ฉันเริ่มเร่งฝีเท้าและดูเหมือนว่าเสียงลากเท้านั่นก็เริ่มก้าวเร็วขึ้นตามด้วย ฉันเริ่มออกวิ่งอย่างตื่นตระหนกจนไปถึงรถไฟและรีบกระโดดขึ้นรถไฟอย่างเร็ว แต่แล้วก็ได้เห็นภาพน่าสยดสยอง
ในตู้รถไฟ ฉันเห็นร่างที่แหลกเหลวกองเต็มพื้นและที่นั่งไปหมด เลือดบนผนังและเสียงผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดขณะที่พวกเขาร้องขอให้ช่วย ในตอนนั้น ฉันเริ่มรู้สึกเวียนหัว และจากนั้นไม่นานก็หมดสติไป
พอได้สติอีกครั้ง ฉันรีบหันมองรอบตัว แต่ศพที่เห็นเมื่อครู่หายไปแล้ว ตู้รถไฟตอนนี้ดูปกติดีเหมือนกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
ต่อมา ฉันพยายามค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้และพบว่า เมื่อประมาณยี่สิบปีที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุรถไฟตกรางที่สถานีรถไฟใต้ดินปูซาน ซึ่งคร่าชีวิตผู้โดยสารไปทั้งหมด 12 คนและมีผู้บาดเจ็บอีกถึง 20 คน ว่ากันว่าตั้งแต่นั้นมา สถานีรถไฟแห่งนี้ถูกครอบครองและหลอกหลอนโดยผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นั้น หลายคนอ้างว่า ในเวลากลางคืน จะได้ยินเสียงลากเท้าใกล้ชานชาลาหมายเลข 8 และบางคนอ้างว่าได้ยินระเบิดเสียงดัง แต่เมื่อหันไปมองกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คนงานที่สถานีรถไฟใต้ดินปูซานยังเคยรายงานด้วยว่าพวกเขาประสบเหตุการณ์แปลกๆ บ่อยครั้ง
เช่นวันหนึ่ง คนงานเล่าให้ฟังว่าเขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บยืนก้มหน้าอยู่กลางรางรถไฟ เมื่อเขาเดินเข้าไปหาเพื่อดูว่าเธอเป็นอะไรไหม เธอก็หายตัวไปเสียแล้ว
นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดที่อยู่ในส่วนใต้ดินของสถานีรถไฟใกล้ชานชาลาหมายเลข 4
มีรายงานแจ้งว่าหลายคนถูกสัตว์ประหลาดตนนี้จู่โจม คนที่เห็นเหตุการณ์อธิบายว่ามันมีผิวซีด ไร้ขนและผม และมีดวงตาสีแดงลุกโชน ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งมีชีวิตตนนี้ปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกที่สถานีนี้เมื่อไหร่ แต่ลือกันว่า มันเคยเป็นมนุษย์มาก่อน แต่ถูกสาปเพราะกรรมชั่วที่เคยทำมา
ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันกำลังจะเล่าให้ฟังนี้ เกี่ยวข้องกับครูอีกคนที่โรงเรียนฉันเอง...
ประมาณหกเดือนที่แล้ว ครูคนที่ว่านี้กำลังรอรถไฟอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดินปูซาน มันเป็นเวลาดึกมากแล้ว และรอบกายเธอมีคนรอรถไฟอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น เมื่อรถไฟมาถึง เธอก้าวขึ้นรถไฟและสังเกตเห็นว่าเธอเป็นผู้โดยสารเพียงคนเดียวในตู้รถไฟนั้น เมื่อรถไฟเริ่มออกตัว เธอรู้สึกง่วงและผล็อยหลับไป พอลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีก็เห็นว่ามีลุงแก่ๆ ใส่ชุดสูทโบราณเก่าๆ นั่งตรงกันข้ามกับเธอ เขาจ้องมองเธอจนเธอรู้สึกอึดอัด ทำให้เธอต้องย้ายไปนั่งที่อื่น ขณะก้มตัวลงนั่ง เธอหันกลับไปมองชายแก่อีกครั้ง แต่เขาได้หายวับไปแล้ว
เรื่องสุดท้ายนี้เกิดขึ้นกับรปภ. ที่โรงเรียนของฉันเอง ซึ่งเขาเคยเป็นหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่สถานีรถไฟใต้ดินปูซานมาก่อน
กลางดึกคืนหนึ่ง เขากำลังตรวจตราความเรียบร้อยผ่านกล้องวงจรปิด เขาสังเกตเห็นคนกลุ่มหนึ่งอยู่บนชานชาลาที่ 8 ด้วยความงุนงง เขารีบวิทยุไปถามเจ้าหน้าที่ที่ลาดตระเวนบริเวณนั้นอยู่พอดี และถามว่าเขาเห็นกลุ่มคนที่ชานชาลา 8 หรือเปล่า เจ้าหน้าที่วิทยุกลับมาว่าตอนนี้ชานชาลา 8 ว่างเปล่า ที่จริง มันปิดไปแล้วด้วยซ้ำ หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยยังคงเห็นคนกลุ่มคนที่ว่าบนชานชาลาหมายเลข 8 เขาวิทยุกลับเจ้าหน้าที่อย่างหัวเสีย ถามว่าล้อกันเล่นหรือยังไง แต่ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตอบกลับ เขาหันไปมองที่หน้าจออีกครั้ง ปรากฎว่ากลุ่มคนที่เขาเห็นเมื่อกี้หายไปแล้ว
นั่นเป็นเพียงหนึ่งในประสบการณ์หลายครั้งที่เขาได้ประสบมาที่ชานชาลาหมายเลข 8 ซึ่งวันหลัง ฉันจะมาเล่าให้ฟังอีก
เอาละ ฉันคงต้องหยุดเล่าไว้เท่านี้ก่อน ตอนนี้ฉันรู้สึกไม่สบาย เมื่อรู้สึกดีขึ้นแล้ว ฉันจะกลับมาเล่าประสบการณ์ที่น่ากลัวของฉันจากเกาหลีให้ฟังอีก
แต่เดี๋ยวก่อน..
ที่จริง เมื่อคืนมีบางอย่างเกิดขึ้น ฉันยังกลัวๆ อยู่เลย แต่ก็อยากจะระบายออกมาบ้าง
เมื่อคืน ฉันยังอยู่ที่โรงเรียนเพื่อเตรียมงานสอนสำหรับวันรุ่งขึ้น เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่โถงทางเดินนอกห้อง ฉันคิดว่าคงเป็นลุงยามหรือไม่ก็รปภ. เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร
ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา ขณะที่ฉันกำลังจะทำงานเสร็จ อยู่ๆ ไฟในห้องเรียนเริ่มกะพริบ ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันมองไปที่กลางห้องและเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนั่งก้มหน้าอยู่ที่โต๊ะ ใจก็รู้สึกงุนงง ว่านักเรียนคนนี้เข้ามานั่งในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ จังหวะที่กำลังจะลุกขึ้นจากโต๊ะไปคุยกับนักเรียนคนนั้น ไฟก็ดับลงพอดี
ตอนนี้ในห้องเรียนมืดสนิท
ฉันรู้สึกหัวใจเต้นแรงขณะพยายามข่มความกลัว จู่ๆ ฉันก็ได้ยินเสียง คลิก.. คลิก.. เหมือนที่เคยได้ยินก่อนหน้านี้ ฉันรีบมองไปที่เด็กผู้หญิงคนนั้นและพบว่าตอนนี้เธอยืนอยู่ห่างจากฉันไปแค่ไม่กี่ก้าว!
ตอนนั้นฉันแน่ใจแล้วว่าเธอไม่ใช่นักเรียน ด้วยความกลัวจับใจ ฉันร้องกรี๊ด หลับตาปี๋วิ่งออกจากห้อง ขณะที่วิ่งไปตามโถงทางเดิน ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตามมาข้างหลังอย่างชัดเจน ฉันเริ่มตะโกนขอความช่วยเหลือ หวังว่าลุงยามหรือภารโรงจะได้ยิน ฉันรู้สึกเหมือนมีบางอย่างเกาะอยู่ที่หลัง และขาหนักอึ้ง ตอนนั้นเอง อยู่ๆ ตาของฉันเริ่มพร่ามัว หูได้ยินเสียงหัวเราะเย็นๆ ของเด็กนักเรียนคนนั้นก้องไปทั่วโถงทางเดิน ก่อนจะเป็นลมล้มลงกับพื้นตรงนั้นเอง
ไม่กี่นาทีต่อมา ลุงยามมาเจอฉันสลบอยู่ตรงนั้นและช่วยฉันลุกขึ้น ฉันเล่าเรื่องน่ากลัวที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง และเราสองคนตัดสินใจเดินกลับขึ้นไปที่ห้องเรียนอีกครั้งเพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่แน่ละ.. ว่าทั้งห้องว่างเปล่าราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
วันนี้ฉันลาหยุดทั้งวัน แต่อีกเดี๋ยวฉันจะโทรไปที่โรงเรียนเพื่อนดูว่าฉันจะขอเปลี่ยนห้องเรียนได้หรือเปล่า ตอนนี้ฉันคงต้องขอตัวไปนอนพักก่อน แต่จะมาอัปเดทให้เพื่อนๆ ได้ฟังต่อเรื่อยๆ นะ...
*จบ*
----------------------------------