'''รุจี อุทัยกร''' มีชื่อเล่นว่า"รุ" เกิดในช่วงราวปีพ.ศ.2464-2465 เริ่มต้นชีวิตการเป็นนักร้องในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สองโดยเป็นนักร้องประกอบละครเวทีเช่นเพลง กุหลาบร่วง ของพรานบูรพ์ที่ภายหลังนงลักษณ์ โรจนพรรณ นำมาบันทึกเสียงใหม่ หรือเพลงจันทร์แรมที่ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นลมรักลมลวงเป็นต้น
ในปีพ.ศ.2482 รุจีได้รับการชักชวนจากครูเอื้อ สุนทรสนาน ให้มาเป็นนักร้องวงดนตรีกรมโฆษณาการหรือวงดนตรีสุนทราภรณ์ รุจีได้เข้ามาเป็นนักร้องวงดนตรีสุนทราภรณ์ โดยเป็นนักร้องหญิงคนที่สองของวงต่อจากมัณฑนา โมรากุลโดยมีระยะห่างกันเพียงหนึ่งวัน ผลงานในช่วงนี้ส่วนใหญ่จะไม่ได้บันทึกลงแผ่นเสียงเพราะเนื่องจากช่วงสงคราม ผลงานเพลงดังเช่น แนวหลัง,ชมดอกฟ้า,เย็นเย็น(คู่มัณฑนา โมรากุลภายหลังเพ็ญศรี พุ่มชูศรีบันทึกเสียงแทน),รื่นเริงใจ(มัณฑนา โมรากุลบันทึกเสียงแทน),รักอะไร(มัณฑนา โมรากุลบันทึกเสียงแทน)
รุจีอยู่กับวงดนตรีสุนทราภรณ์ในช่วงระยะเวลาแค่3ปีก็ลาออก เนื่องจากหน้าตาที่สละสวยทำให้ท่านตกเป็นอนุภรรยาจอมพลป. พิบูลสงครามนายกรัฐมนตรีสมัยนั้น
รุจีได้หวนกลับมาร้องเพลงให้วงดนตรีสุนทราภรณ์อีกครั้งในช่วงปีพ.ศ.2493-2496 โดยครู[[เอื้อ สุนทรสนานได้แต่งเพลงชีวิตหญิงให้ขับร้องแต่เธอลาออกเสียก่อน[[มัณฑนา โมรากุล]]จึงได้บันทึกเสียงแทน ในช่วงที่รุจีลาออกเป็นครั้งที่สองเธอได้มาขับร้องเพลงให้กับวงบุญช่วย กมลวาทิน เช่นเพลงไฟสุมขอน,หวานน้ำคำ,หญิงควรสงวนใจ เป็นต้น
ปัจจุบันเธอเสียชีวิตแล้ว
รุจี อุทัยกร
ในปีพ.ศ.2482 รุจีได้รับการชักชวนจากครูเอื้อ สุนทรสนาน ให้มาเป็นนักร้องวงดนตรีกรมโฆษณาการหรือวงดนตรีสุนทราภรณ์ รุจีได้เข้ามาเป็นนักร้องวงดนตรีสุนทราภรณ์ โดยเป็นนักร้องหญิงคนที่สองของวงต่อจากมัณฑนา โมรากุลโดยมีระยะห่างกันเพียงหนึ่งวัน ผลงานในช่วงนี้ส่วนใหญ่จะไม่ได้บันทึกลงแผ่นเสียงเพราะเนื่องจากช่วงสงคราม ผลงานเพลงดังเช่น แนวหลัง,ชมดอกฟ้า,เย็นเย็น(คู่มัณฑนา โมรากุลภายหลังเพ็ญศรี พุ่มชูศรีบันทึกเสียงแทน),รื่นเริงใจ(มัณฑนา โมรากุลบันทึกเสียงแทน),รักอะไร(มัณฑนา โมรากุลบันทึกเสียงแทน)
รุจีอยู่กับวงดนตรีสุนทราภรณ์ในช่วงระยะเวลาแค่3ปีก็ลาออก เนื่องจากหน้าตาที่สละสวยทำให้ท่านตกเป็นอนุภรรยาจอมพลป. พิบูลสงครามนายกรัฐมนตรีสมัยนั้น
รุจีได้หวนกลับมาร้องเพลงให้วงดนตรีสุนทราภรณ์อีกครั้งในช่วงปีพ.ศ.2493-2496 โดยครู[[เอื้อ สุนทรสนานได้แต่งเพลงชีวิตหญิงให้ขับร้องแต่เธอลาออกเสียก่อน[[มัณฑนา โมรากุล]]จึงได้บันทึกเสียงแทน ในช่วงที่รุจีลาออกเป็นครั้งที่สองเธอได้มาขับร้องเพลงให้กับวงบุญช่วย กมลวาทิน เช่นเพลงไฟสุมขอน,หวานน้ำคำ,หญิงควรสงวนใจ เป็นต้น
ปัจจุบันเธอเสียชีวิตแล้ว