10 ขั้นตอนแต่งห้องให้เป๊ะปังเหมือนมืออาชีพ 😎✨

ภาพของห้องสวยๆ ที่เคยเห็นตามนิตยสารบ้านสมัยก่อนหรือจากในเว็บไซต์ต่างๆ (รวมทั้งในห้องชายคาด้วยนะ) ทำให้เราอยากมีห้องในฝันจัดเป็นระเบียบสวยงามแบบนั้นบ้าง แต่ทำไมนะเวลาแต่งบ้านทีไรถึงไม่ได้ตามภาพที่เห็นเลย 
ก็เพราะว่าภาพที่เห็นในนิตยสารต่างๆ มีสไตล์ลิสต์ช่วยจัดทุกอย่างให้เป๊ะปัง รอบรั้วชายคาได้อ่านวิธีการจัดตกแต่งบ้านของสไตล์ลิสต์ เลยอยากจะมาแชร์ให้เพื่อนๆ อ่านกันว่าขั้นตอนการเปลี่ยนพื้นที่ห้องให้เหมือนมืออาชีพต้องทำยังไง
  
1.เก็บ VS ทิ้ง 
เรียกว่าเป็นการเล่นเกมทิ้ง VS เก็บ เมื่อเรารู้แล้วว่าต้องการห้องสไตล์ไหน ไม่ว่าจะเป็นลอฟท์ สแกนดิเนเวียน มินิมอล โมเดิร์น วินเทจ เราก็ต้องมาดูข้าวของแต่งบ้านในห้องว่ามีอะไรที่เข้ากับสไตล์มีอยู่ในใจหรือเปล่า ถามใจตัวเองว่าของชิ้นนั้นถ้าเราทิ้งแล้วจะคิดถึงหรือเปล่า สำหรับคนที่ตัดใจไม่ได้ซะที ลองจัดประเภทเป็น 3 กลุ่มคือ สวย ใช้งานได้ มีคุณค่าทางใจ ของที่เก็บควรจะมีคุณสมบัติข้อใดก็ข้อหนึ่ง หรือถ้ามีพื้นที่เล็กของชิ้นนั้นต้องมีคุณสมบัติ 2 ข้อขึ้นไป 

2. มู้ดบอร์ด 
เวลาอินทีเรียดีไซเนอร์ออกแบบห้องก็ต้องมีคอนเซ็ปต์ มีมู้ดบอร์ดเพื่อเวลาไปเลือกเฟอร์นิเจอร์ เลือกของตกแต่งบ้านจะไม่ได้หลุดจากคอนเซ็ปต์ เราสามารถจะใช้วิธีแมนนวลดั้งเดิมคือการตัดรูป ผ้า สี และเฟอร์นิเจอร์ที่ชอบแล้วแปะลงในแผ่นบอร์ด หรือจะใส่ไว้ใน pinterest ก็ได้ หลังจากนั้นก็ค่อยมาดูสิ่งของที่ต้องการว่าเหมาะสมกับกับพื้นที่ การใช้งาน และงบประมาณหรือเปล่า เวลาเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งจะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น 

3. จัดเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นต้องมีก่อน  
จัดเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านพื้นฐานที่จำเป็นต้องมีในห้อง เช่น โซฟา เตียง โต๊ะ หมอน พรม และผ้าม่านว่าเข้ากับสไตล์ที่เราคิดไว้หรือเปล่า ถ้ามีข้าวของไหนที่หลุดคอนเซ็ปต์ก็จะทำให้สไตล์เปลี่ยนได้ 

ถ้าเรากำลังจะแต่งห้องนั่งเล่นใหม่ สิ่งที่ต้องคิดถึงมากที่สุดก็คือควรจะทาสีใหม่หรือเปล่า เฟอร์นิเจอร์ที่จัดวางอยู่เหมาะสมกับการนั่งคุยหรือเดินไปมาได้สะดวกหรือไม่ ผ้าม่านเข้ากับสไตล์ที่คิดไว้แล้วหรือยัง เราควรหาพรมใหม่ให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ที่คิดไว้หรือเปล่า นอกจากนี้ห้องควรจะบอกบุคลิกลักษณะของเจ้าของบ้านด้วย

เมื่อเราจัดการของชิ้นใหญ่เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ทำความสะอาด ชั้นวางให้โล่งจะได้จัดข้าวของใหม่เข้าไปได้สะดวก หลังจากนั้นก็ถึงเวลาหยิบจับของตกแต่งบ้านชิ้นเล็กๆ เข้าไปในห้อง 

4.  จัดในสิ่งที่มีก่อน
อย่างเพิ่งไปเดินซื้อของประดับบ้านถ้ายังไม่ไม่ดูของประดับบ้านที่เรามีอยู่ วางของตกแต่งบ้านที่มีอยู่ไว้รวมกันบนพื้นแล้วจัดกลุ่มของที่เหมือนกันไว้เข้าด้วยกันเพื่อโชว์เป็นคอลเลคชั่นเดียวกัน 

ของประดับที่เหมาะกับทุกสไตล์คือ กล่องปิดสำหรับเก็บข้าวของที่ไม่อยากโชว์ สิ่งประติมากรรมเหมาะที่จะวางไว้ทุกพื้นที่ และถาดสำหรับเก็บข้าวของกระจุกกระจิกรวมกัน 
 
ของตกแต่งเล็กๆ โชว์เป็นกลุ่มจะทำให้เล่าเรื่องและมีอิมแพ็คมากกว่า เช่น รูปภาพตกแต่งควรมีหลายรูป สำหรับของสะสมที่มีอยู่ให้เลือกของที่เด่นที่สุดมาโชว์ เมื่อใดที่เริ่มรู้สึกเบื่อบรรยากาศห้องขึ้นก็สามารถเปลี่ยนได้ 

5. สร้างคาแรกเตอร์
ห้องแต่ละห้องต้องมีจุดสร้างความสนใจ เพื่อให้คนอื่นๆ หยุดดู และจะทำให้ไม่เหมือนออกมาจากแคตตาล็อกเฟอร์นิเจอร์ เลือกของตกแต่งบ้านที่เด่นและมีคาแรกเตอร์แล้ววางของตกแต่งอื่นไว้โดยรอบจะทำให้ห้องไม่น่าเบื่อ ถ้าเจ้าของห้องรู้สึกเบื่อกับห้องตัวเอง คนอื่นๆ ก็จะรู้สึกแบบเดียวกัน 

6. เลือกซื้อของประดับ 
การจัดห้องก็เหมือนการแต่งตัว เสื้อผ้าคือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก แอสเซสซอรี กระเป๋า รองเท้า สร้อย แหวนก็เหมือนของประดับตกแต่งบ้าน ทุกอย่างจะไปได้สวยได้ถ้าเฟอร์นิเจอร์หลักและของประดับตกแต่งไปในทิศทางเดียวกัน 

เมื่อเราจัดห้องด้วยข้าวของที่มีอยู่แล้ว เราก็จะรู้แล้วล่ะว่าพื้นที่นี้ขาดอะไรไปบ้าง ถึงเวลาไปเลือกซื้อของที่ต้องการ ส่วนมากจะเป็นของเล็กๆ ที่สร้างความสวยงาม เช่น ดอกไม้ งานศิลปะ จานชามจะทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวา 

7. ตกแต่งให้ครบ
ถึงเวลาให้ความคิดสร้างสรรค์ทำงานแล้ว เปิดเพลงที่ชอบเวลาตกแต่งบ้าน ใช้เทคนิคสร้างความแตกต่างเพิ่มความโดดเด่นคือนำของที่มีลักษณะไม่เหมือนกันมาอยู่รวมกันจะทำให้รู้สึกว่าภายในห้องมีพลังงานมากกว่า และหลักการใช้ของ 3 อย่างโดยรวมแล้วของตกแต่งควรจัดเรียงเป็นเลขคี่ 3, 5, 7 จะสวยกว่าเลขคู่ และจึงค่อยไปจัดมุมอื่นๆ อย่าลืมที่จะต้องจัดแต่ละมุมในบ้านให้เกี่ยวเนื่องระหว่างกันด้วย 

8. ดูภาพรวม
หลังจากจัดห้องเสร็จแล้วตามสไตล์ที่ชอบแล้วก็ได้เวลาดูภาพรวมของห้อง ถ่ายรูปห้องด้วยมือถือเก็บไว้ เพื่อจะได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่ามีพื้นที่ไหนขาด มีพื้นที่ไหนล้น ทางทีดีโหลดใส่คอมฯ แล้วขยายดูภาพใหญ่จะเห็นรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น จดโน้ตในสิ่งที่ต้องการเปลี่ยนเอาไว้ เช่น ตรงมุมซ้ายดูรกไปหรือมีน้อยไป ดอกไม้ที่วางไว้อยู่ตรงกลางแล้วหรือยัง ทำเป็นลิสต์เอาไว้แล้วเดินไปจัดห้องใหม่หลังจากดูภาพรวมหมดแล้ว 

9. แก้ไข 
ตอนนี้ถึงเวลาดูแล้วว่าการตกแต่งห้องต้องแก้ไขอะไรบ้าง เป็นเวลาของการย้ายเข้า ย้ายออก จับโน่นผสมนี่ และถ่ายรูปเก็บไว้อีกทีเพื่อเปรียบเที่ยบกับรูปที่ถ่ายตอนแรก และดูว่าต้องแก้ไขตรงไหนบ้าง จนกว่าจะชอบในสไตล์ของตัวเอง 

10. อย่าปล่อยให้เหงา 
งานตกแต่งห้องเสร็จแต่คนไม่เสร็จ เพราะบางทีเราก็เบื่อได้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงกันบ้าง เราไม่จำเป็นต้องซื้อของใหม่แต่เป็นนำของจากที่ต่างๆ มาวางใหม่ก็สามารถเล่าเรื่องราวใหม่ เปลี่ยนบรรยากาศของห้องได้เหมือนกัน 

เมื่อรู้ขั้นตอนการจัดห้องแบบมืออาชีพแล้ว ช่วงนี้อยู่บ้านกันนานๆ มาเปลี่ยนบรรยากาศของห้องให้สดใสกันดีกว่า บางทีเพื่อนๆ ก็อาจจะพบกับความคิดสร้างสรรค์ที่ซ่อนอยู่ในตัวก็ได้
บ้านสวยๆ จากรูปภาพในนิตยสารกลายเป็นจริงได้ด้วยความคิดสร้างสรรค์ของตัวเราเองค่ะ ขอให้สนุกกับการตกแต่งบ้านค่ะ 
สวัสดี 
เพี้ยนลาเวนเดอร์
ข้อมูลจากหนังสือชื่อ Styled Secrets for Arranging Room, from Tabletops to Bookshelves โดย Emily Henderson with Anglein Borsics 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่