ขอมาเล่าความผิดพลาดของตัวเองเป็นบทเรียนให้เพื่อนๆ ที่ต้องเสียเงินเกือบ 10,000 ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้
เราเพิ่งย้ายออกจาก คอนโด ปาร์คแลนด์ ศรีนครินทร์ Parkland Srinakarin แถวๆ ลาซาล ใกล้ โรงพยาบาล ศิครินทร์
ตามสัญญาคือสิ้นสุดที่สิ้นเดือนเมษา และขนของออกภายใน 5 วัน เราแจ้งเจ้าของห้องล่วงหน้าตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม
เราเองก็ยุ่งๆ จากงานศพคุณแม่ ไม่ค่อยได้ติดต่อเจ้าของห้องเท่าไหร่ แต่ก็ได้โทรคุยกับเจ้าของห้องวันที่ 21 เม.ย. ตกลงกันเรื่องขนของออก เราถามว่า จะขอขนของออกช้าหน่อยได้ไหม ไม่น่าเกินครึ่งเดือน
เจ้าของห้องตอบว่า "ได้ค่ะ ช่วงโควิดแบบนี้ไม่น่าจะมีใครมาเช่าอยู่แล้ว" (เดือนเม.ย. มีคนติดโควิดที่คอนโดด้วย)
*** นี่คือ จุดผิดพลาดที่ 1 ไม่มีหลักฐานว่าเจ้าของห้องอนุญาตให้ไม่เป็นไปตามสัญญาได้ ***
เราเริ่มย้ายไปอยู่คอนโดใหม่เมื่อปลายเม.ย. และเริ่มทยอยขนของออกเรื่อยๆ จนมาขนโซฟาตัวใหญ่สุดท้ายในวันที่ 15 พ.ค.
*** นี่คือ จุดผิดพลาดที่ 2 หลักฐานทางเอกสารชิ้นเดียวว่าเราย้ายออกเมื่อไหร่ คือบันทึกของทางนิติ ***
ปกติ เวลาเราเช่าที่ไหน พอย้ายออกเราก็จะทำความสะอาดให้ใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด ซึ่งตอนที่เราขนโซฟาไป ยังเหลือของอีกนิดหน่อย และยังไม่ได้ทำความสะอาด แต่เอเจนท์เข้าไปในห้อง ถ่ายรูปห้องไว้บอกว่าห้องเลอะมาก เราถามเจ้าของห้องว่า ให้เอเจนท์เข้าไปได้ไง เรายังไม่ได้แจ้งอะไรเลยนะ เจ้าของห้องอ้างว่า เอเจนท์เข้าไปเอง เขาไม่รู้เรื่อง เอเจนท์อ้างว่า นิติแจ้งว่าเราย้ายออกแล้ว ส่วนนิติเงียบ ไม่มีคำตอบ
*** คำถาม คือ เอเจนท์ไขกุญแจเข้าไปในห้องได้อย่างไร ***
เนื่องจากห้องนี้ชอบมีนกมาขี้ที่ระเบียง และเรามีปลูกต้นไม้ที่ริมระเบียงด้วย ก่อนออกเราล้างขัดถูพวกเศษดินออกหมด แล้วก็ถ่ายรูปส่งไปให้เจ้าของห้องดู
เรารู้อยู่แล้วว่าเขาจะจ้างแม่บ้าน (น่าจะของเขาเอง เขาบอกตอนเราย้ายเข้า) มาทำความสะอาดอีกรอบ ซึ่งหักเงินจากเรา เราก็เลยไม่ได้ทำความสะอาดทั่วไป พวกกวาดถูห้องโต๊ะชั้นวางของ แต่อะไรยากๆ พวกคราบ เราขัดออกให้หมด
เจ้าของห้องแจ้งว่า เอเจนท์จะเป็นคนเข้าไปตรวจเช็คห้องอีกครั้ง ทำรายการเงินคืนมาให้ แล้วเขาจะโอนเงินคืนให้
เมื่อวันศุกร์ เอเจนท์ส่งรายการเงินหักมาให้เรา ตามรูป
เราถามเอเจนท์ว่า ย้ายออกล่าช้า 4,500 คืออะไร, ขอเหตุผลค่าทำความสะอาด 2,000 และขอเหตุผลค่าอุปกรณ์ห้องน้ำชำรุดด้วย คือเราต้องการเข้าใจจริงๆ นะ ว่า เพราะอะไรถึงหัก ได้โทรคุยกับเอเจนท์ แจ้งว่า ทั้งสามรายการนี้ คุณเจ้าของห้องเป็นคนส่งมาให้ โดยค่าอุปกรณ์มีระบุไว้ในสัญญา ค่าทำความสะอาดแม่บ้านบอกเลอะมาก ยังไงก็ต้อง 2000 แล้วก็ส่งรูประเบียงห้องที่เลอะขี้นก กับคราบฝุ่นบนโต๊ะมาให้ดู ส่วนย้ายออกช้า เขาไม่รู้ เพราะเป็นเรื่องที่เราคุยกับเจ้าของห้องเอง แต่อาจเพราะมีคนสนใจ แต่ย้ายเข้ามาไม่ได้ เลยอาจเป็นการเสียโอกาส และยังสงสัยว่า เราไม่ได้ย้ายออกจริง คุณแพรวยังบอกอีกว่า หลังจากที่เราย้ายออกแล้ว เขาก็ไม่ได้เข้าไปดูห้องอีกเลย มีแต่รูปที่ทางคุณเจ้าของห้องส่งมาให้เท่านั้น
เราพยายามติดต่อเจ้าของห้อง โทรไป ไลน์ไป นางไม่อ่าน เราอยากเข้าใจเหตุผลที่หักเงินเรา และอยากถามว่า เขาจำไม่ได้เหรอที่เป็นคนอนุญาตเองเรื่องการเอาของออกช้า หรือเรื่องอุปกรณ์ ซึ่งในสัญญา ระบุว่าถ้าอุปกรณ์ในห้องมูลค่าไม่เกิน 2,000 ชำรุด เราต้องรับผิดชอบ แต่นี่ก็เพิ่งเปลี่ยนเครื่องทำน้ำอุ่นไปเมื่อปลายปี ฝักบัวจะชำรุดได้ยังไง แล้วเราก็ส่ง timeline ใน Google map ไปให้นางดูด้วยเพื่อแสดงให้เห็นว่า เราย้ายออกจริงๆ แล้วนะ
สุดท้ายเราก็ทำใจละ พยายามคิดว่า คุณเจ้าของห้องเขาคงไม่น่าจะอยากได้เงินเราแค่หมื่นเดียวหรอกนะ เขามีห้องให้เช่าเยอะแยะ ทำธุรกิจแอร์ใหญ่โต เป็นล่ามให้คนญี่ปุ่น มีลูกน้องหลายคน แต่ก็คิดดีไม่ได้เลย (คุยกันสุดท้าย คือที่เราไลน์บอกเขาว่า ฝากกุญแจ คีย์การด สติ้กเกอร์จอดรถ ไว้ให้ที่นิติแล้วนะ ดูเหมือนว่าพอเขาได้ของเขาคืนครบแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่จำเป็นต้องติดต่ออะไรกันอีก) ซึ่งเราเองก็เสียเปรียบทุกทาง สัญญาก็เขียนชัด หลักฐานอะไรก็ไม่มี เงินก็อยู่ในมือเขา ก็เลยส่งไลน์ไปบอกคุณเจ้าของห้องแหล่ะว่า ถ้าไม่ได้อยากอธิบายอะไรให้เราเข้าใจ ก็โอนเงินที่เหลือมาให้เราละกัน แล้วก็ขอบคุณเขาที่เคยให้เราเช่าห้องเขาอยู่
สุดท้าย เอเจนท์ส่งรูปสลิปมาให้ แน่นอนว่าเจ้าของห้องก็ไม่ติดต่ออะไรเรามา
ก็ฝากไว้เป็นอุทธาหรณ์ เวลาไปเช่าห้องอะไร ถ่ายรูปเก็บไว้ให้ละเอียด ร่องรอย ตำหนิ คราบเลอะอะไร ถ่ายเก็บไว้เป็นหลักฐาน คุยอะไร อัดเสียง/ส่งเป็นข้อความให้เขายืนยันกลับมา เวลาเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น จะได้มีหลักฐานไว้ยืนยันกัน
เราเองก็ไว้ใจคนมากไป (ในอีกข้างนึง เรารับฟรีแลนซ์จากบริษัทนึงมา โดนมุขนี้เหมือนกัน เจ้าของโทรมาหาเรา AE เลยให้เราคุยราคาเอง เราส่งไลน์ไป เขา read แต่ไม่ตอบ สุดท้าย บัญชีบอกไม่รู้เรื่อง ครั้งที่แล้วทำงานให้ ปตท. AE นิ่ง รอบนี้เจ้าของนิ่งเอง)
ใจนึงเราก็แอบสงสารคุณเจ้าของห้องนะ คนที่ทำไม่ดีกับเราส่วนใหญ่ที่รู้ ก็ไปไม่รอดซักราย อย่างเอเจนซี่ที่เนียนกับเรา ได้ยินมาว่า ก็ลูกค้าหลุดเยอะเหมือนกันนะ) เอาเถอะ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เราก็ต้องรับผลของการไม่รอบคอบของเราเหมือนกัน
ปล. อีกอย่างนึง คือ แม้คอนโดที่นี่จะมีสภาพแวดล้อมที่ดี มีต้นไม้เยอะ แต่คนไม่ค่อยนะ มีทั้งคนสูบบุหรี่ เหม็นเข้ามาในห้อง ขี้บุหรี่ปลิวเข้ามา จอดรถในที่ห้ามจอด เสียงลูกเล็กเด็กแดงร้องงอแง นิติก็จัดการอะไรไม่ได้ ถ้าจะย้ายเข้ามาอยู่ ก็คิดดีๆ นะครับ
เตือนภัย เช่า คอนโด Parkland Srinakarin พาร์คแลนด์ ศรีนครินทร์
เราเพิ่งย้ายออกจาก คอนโด ปาร์คแลนด์ ศรีนครินทร์ Parkland Srinakarin แถวๆ ลาซาล ใกล้ โรงพยาบาล ศิครินทร์
ตามสัญญาคือสิ้นสุดที่สิ้นเดือนเมษา และขนของออกภายใน 5 วัน เราแจ้งเจ้าของห้องล่วงหน้าตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม
เราเองก็ยุ่งๆ จากงานศพคุณแม่ ไม่ค่อยได้ติดต่อเจ้าของห้องเท่าไหร่ แต่ก็ได้โทรคุยกับเจ้าของห้องวันที่ 21 เม.ย. ตกลงกันเรื่องขนของออก เราถามว่า จะขอขนของออกช้าหน่อยได้ไหม ไม่น่าเกินครึ่งเดือน
เจ้าของห้องตอบว่า "ได้ค่ะ ช่วงโควิดแบบนี้ไม่น่าจะมีใครมาเช่าอยู่แล้ว" (เดือนเม.ย. มีคนติดโควิดที่คอนโดด้วย)
*** นี่คือ จุดผิดพลาดที่ 1 ไม่มีหลักฐานว่าเจ้าของห้องอนุญาตให้ไม่เป็นไปตามสัญญาได้ ***
เราเริ่มย้ายไปอยู่คอนโดใหม่เมื่อปลายเม.ย. และเริ่มทยอยขนของออกเรื่อยๆ จนมาขนโซฟาตัวใหญ่สุดท้ายในวันที่ 15 พ.ค.
*** นี่คือ จุดผิดพลาดที่ 2 หลักฐานทางเอกสารชิ้นเดียวว่าเราย้ายออกเมื่อไหร่ คือบันทึกของทางนิติ ***
ปกติ เวลาเราเช่าที่ไหน พอย้ายออกเราก็จะทำความสะอาดให้ใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด ซึ่งตอนที่เราขนโซฟาไป ยังเหลือของอีกนิดหน่อย และยังไม่ได้ทำความสะอาด แต่เอเจนท์เข้าไปในห้อง ถ่ายรูปห้องไว้บอกว่าห้องเลอะมาก เราถามเจ้าของห้องว่า ให้เอเจนท์เข้าไปได้ไง เรายังไม่ได้แจ้งอะไรเลยนะ เจ้าของห้องอ้างว่า เอเจนท์เข้าไปเอง เขาไม่รู้เรื่อง เอเจนท์อ้างว่า นิติแจ้งว่าเราย้ายออกแล้ว ส่วนนิติเงียบ ไม่มีคำตอบ
*** คำถาม คือ เอเจนท์ไขกุญแจเข้าไปในห้องได้อย่างไร ***
เนื่องจากห้องนี้ชอบมีนกมาขี้ที่ระเบียง และเรามีปลูกต้นไม้ที่ริมระเบียงด้วย ก่อนออกเราล้างขัดถูพวกเศษดินออกหมด แล้วก็ถ่ายรูปส่งไปให้เจ้าของห้องดู
เรารู้อยู่แล้วว่าเขาจะจ้างแม่บ้าน (น่าจะของเขาเอง เขาบอกตอนเราย้ายเข้า) มาทำความสะอาดอีกรอบ ซึ่งหักเงินจากเรา เราก็เลยไม่ได้ทำความสะอาดทั่วไป พวกกวาดถูห้องโต๊ะชั้นวางของ แต่อะไรยากๆ พวกคราบ เราขัดออกให้หมด
เจ้าของห้องแจ้งว่า เอเจนท์จะเป็นคนเข้าไปตรวจเช็คห้องอีกครั้ง ทำรายการเงินคืนมาให้ แล้วเขาจะโอนเงินคืนให้
เมื่อวันศุกร์ เอเจนท์ส่งรายการเงินหักมาให้เรา ตามรูป
เราถามเอเจนท์ว่า ย้ายออกล่าช้า 4,500 คืออะไร, ขอเหตุผลค่าทำความสะอาด 2,000 และขอเหตุผลค่าอุปกรณ์ห้องน้ำชำรุดด้วย คือเราต้องการเข้าใจจริงๆ นะ ว่า เพราะอะไรถึงหัก ได้โทรคุยกับเอเจนท์ แจ้งว่า ทั้งสามรายการนี้ คุณเจ้าของห้องเป็นคนส่งมาให้ โดยค่าอุปกรณ์มีระบุไว้ในสัญญา ค่าทำความสะอาดแม่บ้านบอกเลอะมาก ยังไงก็ต้อง 2000 แล้วก็ส่งรูประเบียงห้องที่เลอะขี้นก กับคราบฝุ่นบนโต๊ะมาให้ดู ส่วนย้ายออกช้า เขาไม่รู้ เพราะเป็นเรื่องที่เราคุยกับเจ้าของห้องเอง แต่อาจเพราะมีคนสนใจ แต่ย้ายเข้ามาไม่ได้ เลยอาจเป็นการเสียโอกาส และยังสงสัยว่า เราไม่ได้ย้ายออกจริง คุณแพรวยังบอกอีกว่า หลังจากที่เราย้ายออกแล้ว เขาก็ไม่ได้เข้าไปดูห้องอีกเลย มีแต่รูปที่ทางคุณเจ้าของห้องส่งมาให้เท่านั้น
เราพยายามติดต่อเจ้าของห้อง โทรไป ไลน์ไป นางไม่อ่าน เราอยากเข้าใจเหตุผลที่หักเงินเรา และอยากถามว่า เขาจำไม่ได้เหรอที่เป็นคนอนุญาตเองเรื่องการเอาของออกช้า หรือเรื่องอุปกรณ์ ซึ่งในสัญญา ระบุว่าถ้าอุปกรณ์ในห้องมูลค่าไม่เกิน 2,000 ชำรุด เราต้องรับผิดชอบ แต่นี่ก็เพิ่งเปลี่ยนเครื่องทำน้ำอุ่นไปเมื่อปลายปี ฝักบัวจะชำรุดได้ยังไง แล้วเราก็ส่ง timeline ใน Google map ไปให้นางดูด้วยเพื่อแสดงให้เห็นว่า เราย้ายออกจริงๆ แล้วนะ
สุดท้ายเราก็ทำใจละ พยายามคิดว่า คุณเจ้าของห้องเขาคงไม่น่าจะอยากได้เงินเราแค่หมื่นเดียวหรอกนะ เขามีห้องให้เช่าเยอะแยะ ทำธุรกิจแอร์ใหญ่โต เป็นล่ามให้คนญี่ปุ่น มีลูกน้องหลายคน แต่ก็คิดดีไม่ได้เลย (คุยกันสุดท้าย คือที่เราไลน์บอกเขาว่า ฝากกุญแจ คีย์การด สติ้กเกอร์จอดรถ ไว้ให้ที่นิติแล้วนะ ดูเหมือนว่าพอเขาได้ของเขาคืนครบแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่จำเป็นต้องติดต่ออะไรกันอีก) ซึ่งเราเองก็เสียเปรียบทุกทาง สัญญาก็เขียนชัด หลักฐานอะไรก็ไม่มี เงินก็อยู่ในมือเขา ก็เลยส่งไลน์ไปบอกคุณเจ้าของห้องแหล่ะว่า ถ้าไม่ได้อยากอธิบายอะไรให้เราเข้าใจ ก็โอนเงินที่เหลือมาให้เราละกัน แล้วก็ขอบคุณเขาที่เคยให้เราเช่าห้องเขาอยู่
สุดท้าย เอเจนท์ส่งรูปสลิปมาให้ แน่นอนว่าเจ้าของห้องก็ไม่ติดต่ออะไรเรามา
ก็ฝากไว้เป็นอุทธาหรณ์ เวลาไปเช่าห้องอะไร ถ่ายรูปเก็บไว้ให้ละเอียด ร่องรอย ตำหนิ คราบเลอะอะไร ถ่ายเก็บไว้เป็นหลักฐาน คุยอะไร อัดเสียง/ส่งเป็นข้อความให้เขายืนยันกลับมา เวลาเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น จะได้มีหลักฐานไว้ยืนยันกัน
เราเองก็ไว้ใจคนมากไป (ในอีกข้างนึง เรารับฟรีแลนซ์จากบริษัทนึงมา โดนมุขนี้เหมือนกัน เจ้าของโทรมาหาเรา AE เลยให้เราคุยราคาเอง เราส่งไลน์ไป เขา read แต่ไม่ตอบ สุดท้าย บัญชีบอกไม่รู้เรื่อง ครั้งที่แล้วทำงานให้ ปตท. AE นิ่ง รอบนี้เจ้าของนิ่งเอง)
ใจนึงเราก็แอบสงสารคุณเจ้าของห้องนะ คนที่ทำไม่ดีกับเราส่วนใหญ่ที่รู้ ก็ไปไม่รอดซักราย อย่างเอเจนซี่ที่เนียนกับเรา ได้ยินมาว่า ก็ลูกค้าหลุดเยอะเหมือนกันนะ) เอาเถอะ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เราก็ต้องรับผลของการไม่รอบคอบของเราเหมือนกัน
ปล. อีกอย่างนึง คือ แม้คอนโดที่นี่จะมีสภาพแวดล้อมที่ดี มีต้นไม้เยอะ แต่คนไม่ค่อยนะ มีทั้งคนสูบบุหรี่ เหม็นเข้ามาในห้อง ขี้บุหรี่ปลิวเข้ามา จอดรถในที่ห้ามจอด เสียงลูกเล็กเด็กแดงร้องงอแง นิติก็จัดการอะไรไม่ได้ ถ้าจะย้ายเข้ามาอยู่ ก็คิดดีๆ นะครับ