ก่อนอื่น เพราะว่าด้านผลข้างเคียงไม่ได้ต่างกันมากมั้งครับ
ตอนนี้ยังไม่ค่อยเจอผลข้างเคียงใหญ่ๆ จากตัวท็อปๆในตอนนี้ (เพราะตัวไหนมีผลข้างเคียงแรงๆ ก็โดนจัดการทันที)

แต่ประสิทธิภาพแตกต่างกันค่อนข้างมาก
เนื่องจาก Sinovac และ Sinopharm ใช้ ไวรัสที่ตายแล้ว หรือทางการแพทย์หน่อยก็คือแพร่เชื้อทำอะไรไม่ได้
ซึ่งเพราะอย่างนั้นมันจึงค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพนัก ต้องใช้หลายโดส เพื่อให้มีผลที่ดี

ในขณะที่พวก Pfizer, Moderna ใช้ mRNA ส่งรหัสยีน เข้าไปให้ร่างกายตอบโต้
และพวก AstraZeneca, Spunik, J&J เป็น Adenovirus-vector ส่ง antigen เข้าไปให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน
ผลกระทบไม่ต่างจากพวก Sinovac มากนัก แต่ประสิทธิภาพดีกว่ากันมาก

แน่นอนว่าเมื่อผลกระทบยังไม่ต่างกันนัก ตัวที่ป้องกันได้ดีกว่าย่อมดีกว่า
ซึ่งผลส่วนใหญ่ให้ Sinovac แค่ 50-60% เท่านั้น ในขณะที่ตัวอื่นๆได้ถึง 90%
บางตัวถึงกับกล้ารับรองว่าถึงจะติดภายหลัง ก็ไม่ถึงขั้นเข้าโรงบาล ไม่ตาย 100%

ซึ่ง Sinovac นี่ถือว่าระดับความสำเร็จนี่อยู่ท้ายตารางเลยทีเดียว
ต่อให้เทียบกับ Sinopharm ที่เป็นวัคซีนประเภทเดียวกัน จากจีนเหมือนกัน Sinopharm ก็ยังมีประสิทธิภาพดีกว่ากันมาก
เป็นตัวหลักที่ใช้ในจีน และได้รับการยอมรับจาก WHO ในฐานะวัคซีนฉุกเฉิน

และในไทยมีปัญหาหลายๆอย่าง ตั้งแต่ที่ไปลงทุนกับ Sinovac มากเกินไป จนไม่สนใจตัวเลือกอื่นๆ
กลายเป็นประเด็นติติงทางการเมือง ว่าทำไมไม่เผื่อเลือกตัวเลือกอื่น ชนิดที่ว่าถ้าไม่แย่จนเจ้าสัวออกมาบ่น ก็ไม่คิดจะขยับทำอะไร
การที่เป็นวัคซีนที่มีความเชื่อถือแย่สุดๆ ถึงขั้นมีประสิทธิภาพต่ำถึง 50% ในบางประเทศ
หมอที่เคยเลือกข้างการเมืองชัดเจน ออกมาแก้ต่างให้ว่ามีประสิทธิภาพสูง
และไม่สูงธรรมดา % สูงกว่ารายงานของประเทศอื่นๆ รวมถึงบริษัทต้นทางอีกต่างหาก ทำให้ความน่าเชื่อถือไม่ดีนัก
(แต่ถึงไม่มีเรื่องการเมือง การไม่มีรายงานออกมาอ่าน กับมีกลุ่มตัวอย่างแค่ 60 คน ไม่ถึงแม้แต่ 100 ก็ทำให้เชื่อถือได้ยาก ในฐานะงานวิจัย)

และในช่วงหลังๆ ที่พยายามประโคมข่าวว่าวัคซีนตัวนี้ดี รัฐบาลอยากให้ใช้กัน
จนถึงขั้นวันก่อน มีกลุ่มดาราที่ได้เข้าไปฉีดวัคซีน แล้วออกมาบอกว่าดี ให้คนมาฉีดกัน
โดยได้คิวก่อน บุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มเสี่ยง และผู้สูงอายุทั้งหลาย ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ได้สิทธิฉีดก่อนได้อย่างไร
ทั้งๆที่บุคคลทั่วไป จะยังไม่ได้สิทธิจนกว่าจะสิ้นเดือน หรือต้นเดือนหน้า
จนคนสงสัยคลางแคลงใจว่า นี่เป็นการชวนเชื่ออย่างหนึ่ง

ซึ่งถ้าทางรัฐบาล แคร์คนไทยจริงๆ น่าจะสั่งตัวที่ดีกว่านี้มา และให้คนไทยมีโอกาสเลือก
ไม่ใช่กึ่งบังคับ ให้ใช้ตัวนี้ของรัฐฯ ที่ซื้อไปแล้ว เพียงแค่ตัวเดียว (ถ้าได้รับการยอมรับเป็นวงกว้างว่ามีประสิทธิภาพดี คงไม่มีปัญหาแบบนี้)

นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ความน่าเชื่อถือของวัคซีนตัวนี้ในไทยต่ำสุดๆครับ