สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ปีที่แล้ว ช่วงที่ญี่ปุ่นระบาดหนัก
บริษัทที่ญาติเราทำงานอยู่ มีพนักงานแอบไปเที่ยวญี่ปุ่นเพราะเสียดายค่าทัวร์ กลับมาก็ไม่กักตัวสิบสี่วัน แต่ตรงมาทำงานเลย ผลคือ บริษัทต้องปิดทำความสะอาดตึกสามวัน แผนกที่พนักงานคนดังกล่าวทำอยู่ ต้องปิดเพราะพนักงานในแผนกนั้นทั้งหมดต้องกักตัวสิบสี่วัน
ความเสียหายมากมาย จุดนี้เราเข้าใจนายจ้างนะ
ถ้าคุณไม่สบายใจ ก็ปฏิเสธไป แต่ก็ต้องทำใจยอมรับผลที่จะตามมา อย่างเช่นอาจโดนกดดันอย่างที่คุณกลัว หรือไม่เพื่อนร่วมงานที่ฉีดวัคซีนแล้วอาจจะไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์ด้วยเพราะมีความเสี่ยง
บริษัทที่ญาติเราทำงานอยู่ มีพนักงานแอบไปเที่ยวญี่ปุ่นเพราะเสียดายค่าทัวร์ กลับมาก็ไม่กักตัวสิบสี่วัน แต่ตรงมาทำงานเลย ผลคือ บริษัทต้องปิดทำความสะอาดตึกสามวัน แผนกที่พนักงานคนดังกล่าวทำอยู่ ต้องปิดเพราะพนักงานในแผนกนั้นทั้งหมดต้องกักตัวสิบสี่วัน
ความเสียหายมากมาย จุดนี้เราเข้าใจนายจ้างนะ
ถ้าคุณไม่สบายใจ ก็ปฏิเสธไป แต่ก็ต้องทำใจยอมรับผลที่จะตามมา อย่างเช่นอาจโดนกดดันอย่างที่คุณกลัว หรือไม่เพื่อนร่วมงานที่ฉีดวัคซีนแล้วอาจจะไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์ด้วยเพราะมีความเสี่ยง
ความคิดเห็นที่ 15
คุณมีสิทธิ์บริหารความเสี่ยงในร่างกายคุณ บริษัทมีสิทธิ์ที่จะบริหารความเสี่ยงในบริษัท เมื่อความต้องการไม่ตรงกันก็ต้องมีฝ่ายที่ต้องยอม
ถ้ามองว่ายอมไม่ได้ก็แตกหักค่ะ ใช่มันโหดร้ายแต่นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง
แค่ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราค่ะ ว่าถ้าเราเป็นเจ้าของกิจการเราต้องการให้องค์กรเราเป็นแบบใหนถ้าฉีดวัคซีนโอกาสที่ธุรกิจจะหยุดชะงักมันน้อยมันก็ย่อมดีกับพนักงานส่วนใหญ่
ส่วนวัคซีนแต่ละยี่ห้อความมั่นใจมีระดับที่แตกต่างกันบังเอิญผู้บริหารบริษัทคุณเค้ามั่นใจในยี่ห้อนั้นๆมากพอที่จะบังคับพนักงาน
เราว่าคุณลองศึกษาคุณสมบัติของวัคซีนให้ดีๆ ลองหาข่าวที่เกี่ยวข้องเยอะๆ ลองดูสถิติผลข้างเคียงของทุกยี่ห้อค่อยคิดว่าจะปฏิเสธหรือรับวัคซีน แล้วถ้าต้องรอวัคซีนทางเลือกซึ่งน่าจะมา Q3 -4 รอไหวใหม ลองเข้าไปเจรจาดู ถ้ามันตกลงกันไม่ได้และคุณได้ศึกษาแล้วว่ายังไงคุณก็ไม่ยอมเสี่ยงก็ต้องรับผลที่ตามมาค่ะ อาจไม่ได้โบนัส เงินเดือนไม่ขึ้น หรือมากสุดโดนให้ออก ซึ่งทุกอย่างเป็นผลที่เราต้องรับจากการตัดสินใจของเราค่ะ
บริษัทเองเค้าต้องมองผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว มองภาพองค์กรโดยรวม เค้าถึงต้องมีกฏเพื่อให้องค์กรมันเดินได้ต้องเข้าใจเค้าด้วยค่ะ
ถ้ามองว่ายอมไม่ได้ก็แตกหักค่ะ ใช่มันโหดร้ายแต่นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง
แค่ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราค่ะ ว่าถ้าเราเป็นเจ้าของกิจการเราต้องการให้องค์กรเราเป็นแบบใหนถ้าฉีดวัคซีนโอกาสที่ธุรกิจจะหยุดชะงักมันน้อยมันก็ย่อมดีกับพนักงานส่วนใหญ่
ส่วนวัคซีนแต่ละยี่ห้อความมั่นใจมีระดับที่แตกต่างกันบังเอิญผู้บริหารบริษัทคุณเค้ามั่นใจในยี่ห้อนั้นๆมากพอที่จะบังคับพนักงาน
เราว่าคุณลองศึกษาคุณสมบัติของวัคซีนให้ดีๆ ลองหาข่าวที่เกี่ยวข้องเยอะๆ ลองดูสถิติผลข้างเคียงของทุกยี่ห้อค่อยคิดว่าจะปฏิเสธหรือรับวัคซีน แล้วถ้าต้องรอวัคซีนทางเลือกซึ่งน่าจะมา Q3 -4 รอไหวใหม ลองเข้าไปเจรจาดู ถ้ามันตกลงกันไม่ได้และคุณได้ศึกษาแล้วว่ายังไงคุณก็ไม่ยอมเสี่ยงก็ต้องรับผลที่ตามมาค่ะ อาจไม่ได้โบนัส เงินเดือนไม่ขึ้น หรือมากสุดโดนให้ออก ซึ่งทุกอย่างเป็นผลที่เราต้องรับจากการตัดสินใจของเราค่ะ
บริษัทเองเค้าต้องมองผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว มองภาพองค์กรโดยรวม เค้าถึงต้องมีกฏเพื่อให้องค์กรมันเดินได้ต้องเข้าใจเค้าด้วยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
การปฏิเสธวัคซีนที่ที่ทำงานหามาให้ ถือว่าเราผิดไหมครับ?