เราอยากปรับความเข้าใจกับแม่ค่ะ

คือตั้งแต่เด็กๆเราเคยทะเลาะกับแม่ค่ะบางครั้งก็จบที่การโดนตีหรือโดนด่าโดนว่าตอนนี้เจ้าของโพสก็ไม่ได้อายุเยอะหรอกนะคะอยู่ในช่วงมัธยมต้นแล้วเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งจะทะเลาะกับแม่ก็หนักพมควรค่ะประมาณว่า
..วันนั้นเรามีอารมณ์โมโหนิดหน่อยเลยทำหน้าบึ้งตอนนั้นไปกินอาหารด้วยกลับบ้านมาเขาเลยเข้าห้องเข้ามาว่าเราพี่เราก็ช่วยเราด้วยน่ะค่ะทีนี้มันก็เริ่มบานปลายเขาก็ถามว่าทำไมมีอะไรไม่บอกกันแบบนู้นแบนี้เรากับพี่ก็พยายามอธิบายค่ะว่าแต่ก่อนแม่ก็ด่าหนูตีหนูเด็กมันจะไปกล้าพูดด้วยไหมเขาก็บอกว่าจะไปพูดถึงเมื่อก่อนทำไมเราก็เริ่มร้องไห้เรามาบอกว่าร้องทำไมหนูบอกไปว่า"แม่เคยรู้ไหมว่าหนูเป็นคนที่sensitive ในคำพูดคนในการเล่าเรื่องที่แย่ๆในชีวิตที่เคยผ่านมาหรือฟังเรื่องเศร้าๆ" เขาบอกว่าแค่นี้ทำไมอ่อนแอแข็งแข็งหน่อยสิพี่เราก็ช่วยพูด น้องมันก็อายุแค่นี้มันก็พยายามอยู่ไง สุดท้ายการทะเลาะครั้งนั้นก็จบเพราะมีลุงมาห้ามแม่ไว้เพราะทั้งเราและแม่เริ่มไม่มีเหตุผลกันแล้ว..
ตอนนี้ที่โตขึ้นมีความคิดอะไรต่างๆก็คิดย้อนไปตอนเด็กในการสอนของแม่เราว่าการด่าการตีอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการสอนลูกน่ะค่ะการสอนของเขาทำเราไม่มีความกล้าเราขี้อายค่ะเราไม่กล้าแสดงออก

จริงๆที่เราไม่กล้าคุยกับเขาก็เพราะประโยคที่เราเน้นเรื่องsensitiveค่ะ เรากลัว กลัวว่าถ้าเราไปคุยครั้งนี้เขาจะว่าอะไรเรารึป่าวเราแทบไม่ค่อยมีความกล้าเลยค่ะ

ถึงคุณแม่ทุกๆคนนะคะการเลี้ยงลูกแบบชาวต่างชาติการที่ให้เขาลูกช่วยตัวเองล้มเองก็ต้องพยายามลุกด้วยตัวเองการรับฟังลูกของคุณการเข้าหาลูกถามว่าวันนี้เป็นไงบ้างเหนื่อยไหมมีอะไรระบายรึป่าวพูดด้วยน้ำเสียงดีๆคุยกับเขาที่ไม่ใช่การตะคอก ถ้าอยากให้ลูกคุณพูดเพราะคุณควรพูดเพราะๆน่ารักๆกับเขาตั้งแต่ยังเด็กเราว่าแบบนี้เด็กน่าจะพูดเพราะนะคะถึงแม้เขาจะพูดกับเพื่อนไม่ค่อยสุภาพแต่พูดกับผู้ใหญ่ไพเราะแต่อะไรแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับนิสัยของเด็กแต่ละคนด้วยค่ะการเอาใจใส่ลูกเราว่าอันนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้วค่ะ

ในทุกวันนี้เราจะเห็นเด็กหรือหลายๆครอบครัวมีปัญหาด้านนี้เยอะมากๆเลยนะคะเราว่าควรต้องเริ่มที่ใครสักคนใช้เหตุผลคุยกันให้รู้เรื่องเราก็จะเตรียมใจว่าจะไปคุยกับแม่เหมือนกันค่ะ ระหว่างที่เราพิมพ์ไปเล่าเรื่องต่างๆถึงจะงงๆ แต่เราก็พอมีความกล้าขึ้นมาบ้างนะคะ555 เราคิดไม่ออกเลยค่ะว่าจะเป็นยังไง

การที่ครอบครัวห้ามลูกมีแฟนเราเคยโดนห้ามค่ะเราเข้าใจมั้ยเข้าใจค่ะว่าการมีความรักวัยเรียนมันก็คงจะจบไม่ดีหรืออาจจะไปกันไม่ได้หรือออกนอกลูกนอกนอกแต่การที่เราแอบคบกันไม่บอกครอบครัวเราว่านี่แหละค่ะคือสิ่งที่เราว่าอาจจะออกนอกลู่นอกทางได้เราว่าารที่ครอบครัวรับฟังและลูกสามารถคุยเรื่องนี้กบครอบครัวได้อย่างไม่ต้องกลัวพ่อแม่เราว่าเป็นสิ่งที่ดีเลยค่ะพ่อและแม่สามารถให้คำปรึกษาเรื่องความรักกับลูกได้พ่อแม่รับฟังพ่อแม่แนะนำไม่บังคับให้ลูกได้คิดได้รู้ว่าทำแบบนี้จะเป็นยังไงแล้วสิ่งนั้นจะเป็นบทเรียน  แม่เราแต่ก่อนก็ห้ามให้เราไม่ให้มีแฟนค่ะส่วนตอนนี้เราไม่รู้ว่ายังไงถ้าได้คุยก็ว่าจะถามเรื่องมีเหมือนกันค่ะ

สุดท้ายนี้เราเองขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆคนรวมถึงตัวเราเองด้วยค่ะในการจัดการเรื่องภายในครอบครัวเรามาสู้ไปด้วยกันนะคะไม่ว่าจะเป็นยังสามารถแลกเปลี่ยนความคิดหรือพูดคุยกับเราในคอมเม้นท์ได้นะคะติชมได้ค่ะ

ขอโทษด้วยนะคะตรงส่วนไหนที่เล่าได้วกไปวนมาเราเขียนอะไรพวกนี้อาจไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่น่ะค่ะ55 
ขออภัยจริงๆด้วยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ชีวิตวัยรุ่น ปัญหาครอบครัว การสอนลูก
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่