"ขอขอบคุณเพจ ป ปืนอย่างสูงครับ"
https://www.facebook.com/Porpeunbybaster/
เบลเยี่ยมเป็นชาติหนึ่งใน NATO ที่ใช้กระสุนขนาด 5.56x45mm NATO ซึ่งคือแบบ SS109 FMJ หัวกระสุนหนัก 62 เกรน ซึ่งต่อมาได้รับการบรรจุเป็นกระสุนมาตรฐานนาโต้ STANAG 4172. ขนาด 5.56 NATO แบบที่2 ต่อจากแบบ M193 ในเดือนตุลาคมปี 1980 โดยกระสุนที่อยู่ในมาตรฐาน STANAG 4172.จะต้องทาหัวสีเขียว( Green tip )เพื่อแยกกับกระสุนแบบ M193
เพื่อให้กระสุนที่มีน้ำหนักมากขึ้น(ยาวขึ้น) มีขีปนวิถีที่เสถียรขึ้น กระสุนจึงต้องหมุนรอบตัวของกระสุนที่มากขึ้น จึงมีการใช้เกลียวลำกล้องที่มีอัตราเวียนครบรอบที่ 1:9 ถึง 1:7 นิ้ว (เวียนครบรอบ ที่ความยาว 9 หรือ 7 นิ้ว ) ซึ่งกองทัพบกสหรัฐอเมริกาจึงได้ บรรจุกระสุนแบบ Cartridge, Caliber 5.56 mm, Ball, M855 [Green tip] ซึ่งมีแกนเหล็ก(steel penetrator)อยู่ในเปลือกทองแดง เพื่อเพิ่มอำนาจการเจาะมากขึ้น
จากประสบการณ์ของนาวิกโยธินสหรัฐฯกับ XM16E1 ในเวียดนาม(คงไม่อยากให้ใครมากำหนดยุทโธปกรณ์ให้ใช้อีก) จึงได้รองขอให้ปรับปรุงอาวุธประจำกาย M16A1
ในปี 1981 Colt จึงได้พัฒนาและปรับปรุงปืน M16A1 เพื่อใช้กระสุนแบบ STANAG 4172 นั้นคือ M16A1E1 (Colt Model 645)โดยใช้เกลียวลำกล้อง1:7 ซึ่งใช้คันบังคับการยิงแบบ S-1-3 เหตุผลที่มีการใช้โหมดยิงชุด 3 นัด(three-round burst) มาจากการศึกษาพบว่าเมื่อมีการยิงแบบอัตโนมัติ กระสุนเพียง3นัดแรกจะเข้าเป้า(three-shot groups) ส่วนที่เหลือจะบินพ้นเป้าออกไปหมดจากแรงสะท้อนถอยหลังของปืนเอง ซึ่งมันเป็นการเปลืองกระสุน
โดยมีการเพิ่มปรับปรุงดังนี้
-ระบบศูนย์เล็งที่สามารสปรับแนวดิ่งได้
-มีตัวบังปลอกกระสุน(ดีดเข้าหน้า)/ brass deflector
-คันส่งลูกเลื่อน(forward assist)แบบปุ่มกลม(แบบเดิมแป้นรูปรองเท้า)
-ใช้กำกล้องหนาขึ้นช่วงปลาย(HB)
-ประกับรองลำกล้องแบบกลม(Ribbed)
-ปลอกลดแสงแบบ Compensator (มีรูหันขึ้นด้านบน) 5ช่อง
(ด้ามปืน และ พานท้าย ยังใช้แบบ M16A1 อยู่)
-ใช้เกลียวลำกล้องแบบ 1:7
มีแบบ M16A2E1 Colt Model 645E ซึ่งใช้ระบบศูนย์แบบ พลัก( flip down front sight) ของ M16A1
ถึงแม้จะมีการพัฒนาระบบลั่นไกเป็นแบบ ชุด3นัด แต่ในโครงการนี้ Colt ก็มีการพัฒนาระบบลั่นไกแบบอัตโนมัติ(S-1-F)ไปด้วยนั้นคือ M16A2E3 Colt Model 646 ซึ่งต่อมาก็คือ M16A3
ในปี 1982 หลังทดสอบและแก้ใขปรับปรุงจนเสร็จสิ้น Department of Defense จึงได้บรรจุใช้งานในกองทัพสหรัฐฯ ในชื่อ "US Rifle, 5.56 mm, M16A2" (หรือ Colt Model 702)
โดยเพิ่มการปรับปรุงอีกคือ
-ด้ามปืนที่มีส้นรองนิ้ว
-พานท้ายปืนยาวขึ้นกว่าเดิม 15 มม.(5⁄8 นิ้ว)
-พานท้ายแข็งแรงกว่าเดิมถึง10เท่าเพราะรุ่นเก่าใช้พลาสติกแบบ cellulose-impregnated phenolic resin แบบใหม่ใช้ DuPont Zytel glass-filled thermoset polymers.
-ที่รองบ่าพานท้ายเป็นโพลีเมอร์ที่มีช่องสำหรับใส่อุปกรณ์ทำความสะอาดปืน
-ใช้ซองกระสุนขนาด 30 นัดเป็นหลัก
ความเร็วปากลำกล้องลดลงคือจาก 3,200 ฟุตต่อวินาที เป็น 3,100-3,050 ฟุตต่อวินาที แต่ขีปนวิถีตั้งแต่ 400 เมตรมีความแม่นยำมากขึ้น
นาวิกโยธินสหรัฐฯ เป็นเหล่าแรกที่ใช้งาน M16A2 และต่อมาก็กองทัพบกสหรัฐฯ ,กองทัพอากาศสหรัฐฯ และ ยามชายฝั่งสหรัฐฯ
ผู้ผลิตเปลี่ยนมือ
ในปี1988 รัฐบาลสหรัฐได้มอบสัญญาจ้างผลิต M16A2 ของกองทัพบกสหรัฐฯ ให้แก่ FN มูลค่า 112.1ล้านดอลล่าสหรัฐ ในการผลิตM16A2จำนวน 266,961 กระบอก ซึ่งทำการผลิตโดยโรงงานของFabrique Nationale S.A. ในอมเริกาคือ โรงงาน FN Manufacturing Inc. เมืองโคลัมเบีย รัฐเซาท์โคโลไลน่า เหตุผลก็มาจากการที่รัฐบาลให้ราคาต่ำเกินที่ Colt Industries Inc.จะรับได้ Colt จึงไม่ตอบรับสัญญาของกองทัพบกสหรัฐฯ ซึ่ง Colt ให้เหตุผลว่าไม่เกี่ยวกับปัญหาภายในของ Colt Firearms Division ในเมือง Hartford และ West Hartford, เช่นการกระท้วงหยุดงานหรือปัญหาคุณภาพ
**จาก New York Times วันที่ 3 ตุลาคม ปี1988
แต่ทั้ง Colt Model 701-702 ก็สามารถพบได้ในงานผลิตส่งออก โดยไม่ได้มีการปั้มคำว่า Property of US .Govt. (หากมีคำนี้คือส่งมอบรัฐบาล)และในทางเทคนิคงานผลิตจากทั้งสองเจ้า นั้นสามารถสลับชิ้นส่วนกันได้เพราะผลิตบนแบบมาตราฐานของรัฐบาลเหมือนกัน
จากการเปลี่ยนแปลงนี้จึงทำให้การผลิตM16A2 รายใหญ่ เปลี่ยนมือจาก Colt เป็น FN และรวมถึงสัญญาการผลิตในโครงการความช่วยเหลือบางโครงการที่มีทั้ง Colt และ FN ต้องมาแข่งกัน ( จุดนี้ผมคิดว่า FN ต้องจ่ายค่าลิขสิทธ์ให้ Colt เพราะ ปี1991 Fn ผลิตกลุ่มM16 ภายใต้ลิขสิทธิ์Cotl ในสัญญาจากรัฐบาล)
โดยเนื่องจากในบ้านเรา M16A2 ซึ่งมีใช้งานมาตั้งแต่ปี 27-30 (1984-88 หน่วยรบพิเศษใช้งานเป็นหน่วยแรกๆ
https://www.facebook.com/Porpeunbybaster/posts/1606240386140774/ ) ทั้งนี้มาจากส่วนใหญ่ที่พบเป็นงาน FN ผลิตเป็นส่วนมากจึงมีความเข้าใจ้ว่า FN เป็นผู้ผลิตหลักในรุ่นนี้ ซึ่งจริงๆ Colt ผลิตให้แก่รัฐบาลสหรัฐฯมาตั้งแต่ช่วงปี 1982 และมาเปลี่ยนผู้ผลิตในปี1988 นั้นเอง
Colt เองได้เอาชื่อ M16A2 มาเป็นเครื่องหมายการค้า(ตามแบบ CAR-15 แต่ไม่ได้จดทะเบียนคำว่าM16A2 เพราะเจ้าตัวไม่ใช่คนคิดคำนี้) ซึ่งคล้ายรูปแบบ Modular Weapon System ในการกำหนดรูปแบบต่างๆ ในการขายส่งออกซึ่งในกลุ่มก็มี
-Colt M16A2 rifle HB (ลำกล้องหนาปลาย) คือ Colt Model 701(0-1-F) และ 705(0-1-3) ลำกล้องยาว 20 นิ้ว
-Colt M16A2 rifle LB (ลำกล้องบาง) คือ Colt Model 711(0-1-F) , 713 (0-1-3) และ 715(0-1-F) ลำกล้องยาว 20 นิ้ว
-Colt M16A2 HBAR (ปืนเล็กยาวยิงกล) ) คือ Colt Model 741/ 742 ลำกล้องยาว 20 นิ้ว แบบหนาตลอดความยาว ติดตั้งขาทราย
-Colt M16A2 with M203 ปืนเล็กยาวติดเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. ใต้ลำกล้องแบบ M203
-Colt M16A2 Carbine (ปืนเล็กสั้น) คือ Colt Model 723 ลำกล้องยาว 16 นิ้ว
-Colt M16A2 Commando (ปืนลำกล้องสั้น) Colt Model 733 ระบบ ลำกล้องยาว11.5 นิ้ว
-Colt M16A2 SMG (ปืนกลมือ) Colt Model 635 ขนาด 9.มม. ลำกล้องยาว 10 นิ้ว
ซึ่งมีการใช้โครงปืนบนแบบระบบศูนย์เดิมกับ ซึ่งเป็นรูปแบบของM16A2E1 Colt Model 645E ซึ่งใช้งานกับ Colt Model 733 หรือ Colt Model 711/715 เป็นต้น
M16A3
M16A3 เป็นงานที่ผลิตโดย FN USA. ซึ่งเป็นการผลิตตามคำสั่งซื้อของกองทัพเรือสหรัฐ ฯ เพื่อใช้งานใน U.S. Navy SEAL, Seabee (ช่างสนามกองทัพเรือ), และ หน่วยงานรักษาความปลอดภัยฐานทัพเรือ
ซึ่งจริงนั้นชื่อ M16A2 ชื่อเครื่องหมายการค้าของ Colt ไปแล้วในยุค1980 ในกลุ่มของ M16A2 ก็มี Colt Model 701 ซึ่งโหมดการยิงเป็น S-1-F และ Colt Model 702 ซึ่งโหมดการยิงเป็น S-1-3 อยู่แล้ว แต่กองทัพสหรัฐเลือกซื้อแบบ 702 ไปใช้งานโดยมี FN และ Colt เป็นผู้ผลิตให้ทั้งกองทัพและส่งออก
โดยในเฟสของการพัฒนาต่อยอดมาจาก M16A2 ของ Colt ก็มี M16A2E3 ซึ่งเป็นการพัฒนาให้แก่กองทัพเรือสหรัฐ ฯอย่างที่กล่าวในข้างต้น
บางแหล่งข้อมูลก็มีการกล่าวอ้างว่า M16A3 เป็นการพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้งานในทะเลหรือพื้นที่ชายทะเล โดยมีการออกแบบให้ชิ้นส่วนทนทานต่อไอเกลือและการกัดกร่อนได้ ประมาณนั้น
ในกลุ่ม M16A2 นี้ยังมีอีกหลายโมเดลที่ไม่ได้นำมาพูดถึง ซึ่งมีรายละเอียดต่างกันไปยิบๆย่อยๆ ในส่วนของที่จำหน่ายแก่พลเรือน ซึ่งใช้เกลียวแบบ 1:7 จะใช้ชื่อ AR-15A2 อย่างเช่น
- AR-15A2 Government Carbine หรือ Colt Model R6520
- Colt Carbine หรือ Colt Model R6521
- AR-15A2 Government หรือ Colt Model R6550
- AR-15A2 Delta HBAR หรือ Colt Model R6600DH ซึ่งใช้เกลียว
ลำกล้องแบบ 1:9 สามารถใช้ได้ทั้ง .223 REM และ 5.56 NATO
เป็นต้น
โดยมีการพัฒนาโดย Diemaco/ Colt Canada ที่ร่วมพัฒนากลุ่มนี้ แต่เดี๋ยวจะเอามาพูดต่อไปในโพสถัดไปแบบละเอียดๆอีกที
โปรดติดตามต่อในตอนที่ 4
Cr.
https://americanhistory.si.edu/.../object/nmah_1061364
https://www.ar15.com/.../differences_between.../118-221693/?
https://modernfirearms.net/.../u-s-a.../m16-a1-a2-a3-a4-eng/
https://www.nytimes.com/.../army-drops-colt-as-m16-rifle...
http://ultimatefirearmtechnologies.com/.../m16-must-know.../
#M16A2 # M16A3 #AR15A2 #ป_ปืน
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 594 AR15 ตอนที่ 3 M16A2 / M16A3
https://www.facebook.com/Porpeunbybaster/
เบลเยี่ยมเป็นชาติหนึ่งใน NATO ที่ใช้กระสุนขนาด 5.56x45mm NATO ซึ่งคือแบบ SS109 FMJ หัวกระสุนหนัก 62 เกรน ซึ่งต่อมาได้รับการบรรจุเป็นกระสุนมาตรฐานนาโต้ STANAG 4172. ขนาด 5.56 NATO แบบที่2 ต่อจากแบบ M193 ในเดือนตุลาคมปี 1980 โดยกระสุนที่อยู่ในมาตรฐาน STANAG 4172.จะต้องทาหัวสีเขียว( Green tip )เพื่อแยกกับกระสุนแบบ M193
เพื่อให้กระสุนที่มีน้ำหนักมากขึ้น(ยาวขึ้น) มีขีปนวิถีที่เสถียรขึ้น กระสุนจึงต้องหมุนรอบตัวของกระสุนที่มากขึ้น จึงมีการใช้เกลียวลำกล้องที่มีอัตราเวียนครบรอบที่ 1:9 ถึง 1:7 นิ้ว (เวียนครบรอบ ที่ความยาว 9 หรือ 7 นิ้ว ) ซึ่งกองทัพบกสหรัฐอเมริกาจึงได้ บรรจุกระสุนแบบ Cartridge, Caliber 5.56 mm, Ball, M855 [Green tip] ซึ่งมีแกนเหล็ก(steel penetrator)อยู่ในเปลือกทองแดง เพื่อเพิ่มอำนาจการเจาะมากขึ้น
จากประสบการณ์ของนาวิกโยธินสหรัฐฯกับ XM16E1 ในเวียดนาม(คงไม่อยากให้ใครมากำหนดยุทโธปกรณ์ให้ใช้อีก) จึงได้รองขอให้ปรับปรุงอาวุธประจำกาย M16A1
ในปี 1981 Colt จึงได้พัฒนาและปรับปรุงปืน M16A1 เพื่อใช้กระสุนแบบ STANAG 4172 นั้นคือ M16A1E1 (Colt Model 645)โดยใช้เกลียวลำกล้อง1:7 ซึ่งใช้คันบังคับการยิงแบบ S-1-3 เหตุผลที่มีการใช้โหมดยิงชุด 3 นัด(three-round burst) มาจากการศึกษาพบว่าเมื่อมีการยิงแบบอัตโนมัติ กระสุนเพียง3นัดแรกจะเข้าเป้า(three-shot groups) ส่วนที่เหลือจะบินพ้นเป้าออกไปหมดจากแรงสะท้อนถอยหลังของปืนเอง ซึ่งมันเป็นการเปลืองกระสุน
โดยมีการเพิ่มปรับปรุงดังนี้
-ระบบศูนย์เล็งที่สามารสปรับแนวดิ่งได้
-มีตัวบังปลอกกระสุน(ดีดเข้าหน้า)/ brass deflector
-คันส่งลูกเลื่อน(forward assist)แบบปุ่มกลม(แบบเดิมแป้นรูปรองเท้า)
-ใช้กำกล้องหนาขึ้นช่วงปลาย(HB)
-ประกับรองลำกล้องแบบกลม(Ribbed)
-ปลอกลดแสงแบบ Compensator (มีรูหันขึ้นด้านบน) 5ช่อง
(ด้ามปืน และ พานท้าย ยังใช้แบบ M16A1 อยู่)
-ใช้เกลียวลำกล้องแบบ 1:7
มีแบบ M16A2E1 Colt Model 645E ซึ่งใช้ระบบศูนย์แบบ พลัก( flip down front sight) ของ M16A1
ถึงแม้จะมีการพัฒนาระบบลั่นไกเป็นแบบ ชุด3นัด แต่ในโครงการนี้ Colt ก็มีการพัฒนาระบบลั่นไกแบบอัตโนมัติ(S-1-F)ไปด้วยนั้นคือ M16A2E3 Colt Model 646 ซึ่งต่อมาก็คือ M16A3
ในปี 1982 หลังทดสอบและแก้ใขปรับปรุงจนเสร็จสิ้น Department of Defense จึงได้บรรจุใช้งานในกองทัพสหรัฐฯ ในชื่อ "US Rifle, 5.56 mm, M16A2" (หรือ Colt Model 702)
โดยเพิ่มการปรับปรุงอีกคือ
-ด้ามปืนที่มีส้นรองนิ้ว
-พานท้ายปืนยาวขึ้นกว่าเดิม 15 มม.(5⁄8 นิ้ว)
-พานท้ายแข็งแรงกว่าเดิมถึง10เท่าเพราะรุ่นเก่าใช้พลาสติกแบบ cellulose-impregnated phenolic resin แบบใหม่ใช้ DuPont Zytel glass-filled thermoset polymers.
-ที่รองบ่าพานท้ายเป็นโพลีเมอร์ที่มีช่องสำหรับใส่อุปกรณ์ทำความสะอาดปืน
-ใช้ซองกระสุนขนาด 30 นัดเป็นหลัก
ความเร็วปากลำกล้องลดลงคือจาก 3,200 ฟุตต่อวินาที เป็น 3,100-3,050 ฟุตต่อวินาที แต่ขีปนวิถีตั้งแต่ 400 เมตรมีความแม่นยำมากขึ้น
นาวิกโยธินสหรัฐฯ เป็นเหล่าแรกที่ใช้งาน M16A2 และต่อมาก็กองทัพบกสหรัฐฯ ,กองทัพอากาศสหรัฐฯ และ ยามชายฝั่งสหรัฐฯ
ผู้ผลิตเปลี่ยนมือ
ในปี1988 รัฐบาลสหรัฐได้มอบสัญญาจ้างผลิต M16A2 ของกองทัพบกสหรัฐฯ ให้แก่ FN มูลค่า 112.1ล้านดอลล่าสหรัฐ ในการผลิตM16A2จำนวน 266,961 กระบอก ซึ่งทำการผลิตโดยโรงงานของFabrique Nationale S.A. ในอมเริกาคือ โรงงาน FN Manufacturing Inc. เมืองโคลัมเบีย รัฐเซาท์โคโลไลน่า เหตุผลก็มาจากการที่รัฐบาลให้ราคาต่ำเกินที่ Colt Industries Inc.จะรับได้ Colt จึงไม่ตอบรับสัญญาของกองทัพบกสหรัฐฯ ซึ่ง Colt ให้เหตุผลว่าไม่เกี่ยวกับปัญหาภายในของ Colt Firearms Division ในเมือง Hartford และ West Hartford, เช่นการกระท้วงหยุดงานหรือปัญหาคุณภาพ
**จาก New York Times วันที่ 3 ตุลาคม ปี1988
แต่ทั้ง Colt Model 701-702 ก็สามารถพบได้ในงานผลิตส่งออก โดยไม่ได้มีการปั้มคำว่า Property of US .Govt. (หากมีคำนี้คือส่งมอบรัฐบาล)และในทางเทคนิคงานผลิตจากทั้งสองเจ้า นั้นสามารถสลับชิ้นส่วนกันได้เพราะผลิตบนแบบมาตราฐานของรัฐบาลเหมือนกัน
จากการเปลี่ยนแปลงนี้จึงทำให้การผลิตM16A2 รายใหญ่ เปลี่ยนมือจาก Colt เป็น FN และรวมถึงสัญญาการผลิตในโครงการความช่วยเหลือบางโครงการที่มีทั้ง Colt และ FN ต้องมาแข่งกัน ( จุดนี้ผมคิดว่า FN ต้องจ่ายค่าลิขสิทธ์ให้ Colt เพราะ ปี1991 Fn ผลิตกลุ่มM16 ภายใต้ลิขสิทธิ์Cotl ในสัญญาจากรัฐบาล)
โดยเนื่องจากในบ้านเรา M16A2 ซึ่งมีใช้งานมาตั้งแต่ปี 27-30 (1984-88 หน่วยรบพิเศษใช้งานเป็นหน่วยแรกๆ https://www.facebook.com/Porpeunbybaster/posts/1606240386140774/ ) ทั้งนี้มาจากส่วนใหญ่ที่พบเป็นงาน FN ผลิตเป็นส่วนมากจึงมีความเข้าใจ้ว่า FN เป็นผู้ผลิตหลักในรุ่นนี้ ซึ่งจริงๆ Colt ผลิตให้แก่รัฐบาลสหรัฐฯมาตั้งแต่ช่วงปี 1982 และมาเปลี่ยนผู้ผลิตในปี1988 นั้นเอง
Colt เองได้เอาชื่อ M16A2 มาเป็นเครื่องหมายการค้า(ตามแบบ CAR-15 แต่ไม่ได้จดทะเบียนคำว่าM16A2 เพราะเจ้าตัวไม่ใช่คนคิดคำนี้) ซึ่งคล้ายรูปแบบ Modular Weapon System ในการกำหนดรูปแบบต่างๆ ในการขายส่งออกซึ่งในกลุ่มก็มี
-Colt M16A2 rifle HB (ลำกล้องหนาปลาย) คือ Colt Model 701(0-1-F) และ 705(0-1-3) ลำกล้องยาว 20 นิ้ว
-Colt M16A2 rifle LB (ลำกล้องบาง) คือ Colt Model 711(0-1-F) , 713 (0-1-3) และ 715(0-1-F) ลำกล้องยาว 20 นิ้ว
-Colt M16A2 HBAR (ปืนเล็กยาวยิงกล) ) คือ Colt Model 741/ 742 ลำกล้องยาว 20 นิ้ว แบบหนาตลอดความยาว ติดตั้งขาทราย
-Colt M16A2 with M203 ปืนเล็กยาวติดเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. ใต้ลำกล้องแบบ M203
-Colt M16A2 Carbine (ปืนเล็กสั้น) คือ Colt Model 723 ลำกล้องยาว 16 นิ้ว
-Colt M16A2 Commando (ปืนลำกล้องสั้น) Colt Model 733 ระบบ ลำกล้องยาว11.5 นิ้ว
-Colt M16A2 SMG (ปืนกลมือ) Colt Model 635 ขนาด 9.มม. ลำกล้องยาว 10 นิ้ว
ซึ่งมีการใช้โครงปืนบนแบบระบบศูนย์เดิมกับ ซึ่งเป็นรูปแบบของM16A2E1 Colt Model 645E ซึ่งใช้งานกับ Colt Model 733 หรือ Colt Model 711/715 เป็นต้น
M16A3
M16A3 เป็นงานที่ผลิตโดย FN USA. ซึ่งเป็นการผลิตตามคำสั่งซื้อของกองทัพเรือสหรัฐ ฯ เพื่อใช้งานใน U.S. Navy SEAL, Seabee (ช่างสนามกองทัพเรือ), และ หน่วยงานรักษาความปลอดภัยฐานทัพเรือ
ซึ่งจริงนั้นชื่อ M16A2 ชื่อเครื่องหมายการค้าของ Colt ไปแล้วในยุค1980 ในกลุ่มของ M16A2 ก็มี Colt Model 701 ซึ่งโหมดการยิงเป็น S-1-F และ Colt Model 702 ซึ่งโหมดการยิงเป็น S-1-3 อยู่แล้ว แต่กองทัพสหรัฐเลือกซื้อแบบ 702 ไปใช้งานโดยมี FN และ Colt เป็นผู้ผลิตให้ทั้งกองทัพและส่งออก
โดยในเฟสของการพัฒนาต่อยอดมาจาก M16A2 ของ Colt ก็มี M16A2E3 ซึ่งเป็นการพัฒนาให้แก่กองทัพเรือสหรัฐ ฯอย่างที่กล่าวในข้างต้น
บางแหล่งข้อมูลก็มีการกล่าวอ้างว่า M16A3 เป็นการพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้งานในทะเลหรือพื้นที่ชายทะเล โดยมีการออกแบบให้ชิ้นส่วนทนทานต่อไอเกลือและการกัดกร่อนได้ ประมาณนั้น
ในกลุ่ม M16A2 นี้ยังมีอีกหลายโมเดลที่ไม่ได้นำมาพูดถึง ซึ่งมีรายละเอียดต่างกันไปยิบๆย่อยๆ ในส่วนของที่จำหน่ายแก่พลเรือน ซึ่งใช้เกลียวแบบ 1:7 จะใช้ชื่อ AR-15A2 อย่างเช่น
- AR-15A2 Government Carbine หรือ Colt Model R6520
- Colt Carbine หรือ Colt Model R6521
- AR-15A2 Government หรือ Colt Model R6550
- AR-15A2 Delta HBAR หรือ Colt Model R6600DH ซึ่งใช้เกลียว
ลำกล้องแบบ 1:9 สามารถใช้ได้ทั้ง .223 REM และ 5.56 NATO
เป็นต้น
โดยมีการพัฒนาโดย Diemaco/ Colt Canada ที่ร่วมพัฒนากลุ่มนี้ แต่เดี๋ยวจะเอามาพูดต่อไปในโพสถัดไปแบบละเอียดๆอีกที
โปรดติดตามต่อในตอนที่ 4
Cr.
https://americanhistory.si.edu/.../object/nmah_1061364
https://www.ar15.com/.../differences_between.../118-221693/?
https://modernfirearms.net/.../u-s-a.../m16-a1-a2-a3-a4-eng/
https://www.nytimes.com/.../army-drops-colt-as-m16-rifle...
http://ultimatefirearmtechnologies.com/.../m16-must-know.../
#M16A2 # M16A3 #AR15A2 #ป_ปืน