เรื่องที่ 15 "ยูโด ศาสตร์การต่อสู้ของญี่ปุ่นในกีฬาโอลิมปิก"
"ยูโด" เป็นศาสตร์การต่อสู้ที่มาจากยูยิตสู ซึ่งเป็นเทคนิคการต่อสู้มือเปล่าของเหล่านักรบซามูไรของญี่ปุ่น ยูโดถือว่าเป็นกีฬามวยปล้ำแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่ถูกพัฒนาขึ้นในราวปี ค.ศ. 1880 ซึ่ง ดร. จิโกโระคาโนะ (Jigoro Kano) ได้พัฒนาหลักการและวิธีการฝึกฝนยูโด โดยเพิ่มวิธีการศึกษาทางร่างกาย สติปัญญาและศีลธรรมเพิ่มขึ้น และได้ตัดทักษะที่เป็นอันตรายของยิวยิตสูออกไป ในภาษาญี่ปุ่นคำว่า "จูโด" หมายถึง "วิถีทางแห่งความอ่อนนุ่ม" มีหลักการมาจากกิ่งไม้ที่งอแต่ไม่หักเมื่อถูกทับถมด้วยหิมะ แต่อย่างไรก็ดีในการแข่งขันยูโดในปัจจุบันก็แทบจะไม่หลงเหลือความอ่อนนุ่มไว้เลย เพราะการแข่งขันยูโดเน้นการใช้พละกำลังตลอดการแข่งขัน
ยูโด เกิดขึ้นครั้งแรกในโอลิมปิกเกมส์ที่ โตเกียว ในปี คศ 1964 (พ.ศ.2507) ซึ่งตั้งแต่นั้นมา ยูโดก็ถูกบรรจุเป็น 1 ใน 28 กีฬาโอลิมปิกเรื่อยมาถึงปัจจุบัน ซึ่งในการแข่งขันครั้งนั้น มีแต่การแข่งขันในประเภทชายเท่านั้น ประเภทหญิงจัดขึ้นครั้งแรกในโอลิมปิก บาร์เซโลน่า 1992 แน่นอนที่สุดว่าเจ้าเหรียญทองตลอดกาลคงเป็น ประเทศญี่ปุ่น โดยมีประเทศฝั่งยุโรป อย่างฝรั่งเศส ที่ตามเก็บเหรียญทองรวมตามมาเป็นลำดับที่สอง และเกาหลีใต้ ตามลำดับ หากจะกล่าวถึงนักกีฬายูโดที่เป็นตำนานของญี่ปุ่น ก็ต้องพูดถึงเขาผู้นี้ โนมูระทาดาฮิโระ ซึ่งสามารถคว้า 3 เหรียญทองติดต่อกันถึง 3 สมัยในรุ่น 60 กิโลกรัม น้อยคนที่จะรู้ว่า โนมูระทาดาฮิโระ เกิดในตระกูลนักยูโด และมีสายเลือดนักยูโดเต็มตัว พ่อของเขาเป็นนักยูโดที่มีชื่อเสียงและเคยเป็นโคชยูโดที่สร้างผลงานเหรียญทองโอลิมปิกมาแล้ว โดยเฉพาะลุงของเขาเคยได้แชมป์โอลิมปิก ในโอลิมปิก มิวนิค 1972 อีกด้วย โนมูระทาดาฮิโระ ได้รับเหรียญทองครั้งแรกใน แอตแลนตา 1996 ครั้งที่สองที่ ออสเตรเลีย ปี 2000 และครั้งสุดท้าย ในโอลิมปิก เอเธนส์ 2004 นับเป็นนักกีฬาที่เป็นตำนานของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
เรื่องที่ 15 "ยูโด ศาสตร์การต่อสู้ของญี่ปุ่นในกีฬาโอลิมปิก"
"ยูโด" เป็นศาสตร์การต่อสู้ที่มาจากยูยิตสู ซึ่งเป็นเทคนิคการต่อสู้มือเปล่าของเหล่านักรบซามูไรของญี่ปุ่น ยูโดถือว่าเป็นกีฬามวยปล้ำแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่ถูกพัฒนาขึ้นในราวปี ค.ศ. 1880 ซึ่ง ดร. จิโกโระคาโนะ (Jigoro Kano) ได้พัฒนาหลักการและวิธีการฝึกฝนยูโด โดยเพิ่มวิธีการศึกษาทางร่างกาย สติปัญญาและศีลธรรมเพิ่มขึ้น และได้ตัดทักษะที่เป็นอันตรายของยิวยิตสูออกไป ในภาษาญี่ปุ่นคำว่า "จูโด" หมายถึง "วิถีทางแห่งความอ่อนนุ่ม" มีหลักการมาจากกิ่งไม้ที่งอแต่ไม่หักเมื่อถูกทับถมด้วยหิมะ แต่อย่างไรก็ดีในการแข่งขันยูโดในปัจจุบันก็แทบจะไม่หลงเหลือความอ่อนนุ่มไว้เลย เพราะการแข่งขันยูโดเน้นการใช้พละกำลังตลอดการแข่งขัน
ยูโด เกิดขึ้นครั้งแรกในโอลิมปิกเกมส์ที่ โตเกียว ในปี คศ 1964 (พ.ศ.2507) ซึ่งตั้งแต่นั้นมา ยูโดก็ถูกบรรจุเป็น 1 ใน 28 กีฬาโอลิมปิกเรื่อยมาถึงปัจจุบัน ซึ่งในการแข่งขันครั้งนั้น มีแต่การแข่งขันในประเภทชายเท่านั้น ประเภทหญิงจัดขึ้นครั้งแรกในโอลิมปิก บาร์เซโลน่า 1992 แน่นอนที่สุดว่าเจ้าเหรียญทองตลอดกาลคงเป็น ประเทศญี่ปุ่น โดยมีประเทศฝั่งยุโรป อย่างฝรั่งเศส ที่ตามเก็บเหรียญทองรวมตามมาเป็นลำดับที่สอง และเกาหลีใต้ ตามลำดับ หากจะกล่าวถึงนักกีฬายูโดที่เป็นตำนานของญี่ปุ่น ก็ต้องพูดถึงเขาผู้นี้ โนมูระทาดาฮิโระ ซึ่งสามารถคว้า 3 เหรียญทองติดต่อกันถึง 3 สมัยในรุ่น 60 กิโลกรัม น้อยคนที่จะรู้ว่า โนมูระทาดาฮิโระ เกิดในตระกูลนักยูโด และมีสายเลือดนักยูโดเต็มตัว พ่อของเขาเป็นนักยูโดที่มีชื่อเสียงและเคยเป็นโคชยูโดที่สร้างผลงานเหรียญทองโอลิมปิกมาแล้ว โดยเฉพาะลุงของเขาเคยได้แชมป์โอลิมปิก ในโอลิมปิก มิวนิค 1972 อีกด้วย โนมูระทาดาฮิโระ ได้รับเหรียญทองครั้งแรกใน แอตแลนตา 1996 ครั้งที่สองที่ ออสเตรเลีย ปี 2000 และครั้งสุดท้าย ในโอลิมปิก เอเธนส์ 2004 นับเป็นนักกีฬาที่เป็นตำนานของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง