เป็นกระทู้แรกของผมนะครับ ถ้าผิดพลาดยังไงต้องขออภัยด้วยนะครับ
อดไม่ได้จริงๆกับเคสนี้จนต้องสมัครพันทิปมาเลยครับ
เกริ่นก่อนว่าตัวผมเองก็เป็นนักศึกษาแพทย์คนนึงครับ ปัจจุบันกำลังจะเรียนจบแล้ว วันที่ผมสอบติดแพทย์ ทั้งครอบครัวมีเงินติดบัญชีอยู่ไม่เกิน 2000บาท จำได้ว่าตอนนั้นเครียดมากกลัวจะไม่ได้เรียนต่อ พ่อแม่ก็เครียดเพราะค่าเทอมเกือบ 3 หมื่นบาท ไม่รู้จะจ่ายยังไงเลยครับตอนนั้น จนตัดสินใจไปคุยกับพ่อแม่ว่าผมไม่เรียนต่อก็ได้ จะได้ออกมาช่วยทำงานหรือไปเรียนคณะอื่นๆที่ค่าเทอมไม่แพงแทน แต่พ่อผมพูดมาคำนึงว่า "ไม่เป็นไรพ่อทำได้" ผมยังจำคำพูดนี้มาจนถึงวันนี้เลยครับ หลังจากนั้นพ่อแม่ผมก็ไปหางานทำมากขึ้น ใครจ้างอะไรทำหมด ตัวผมเองก็ใช้วิธีรับสอนพิเศษ ไปสมัครพาร์ทไทม์ที่พิซซ่า ทำงานทุกวันจนเปิดเทอม จนสุดท้ายก็สามารถจ่ายค่าเทอมเทอมแรกได้ครับ
พอเปิดเทอมอาจารย์ก็มาแจ้งเรื่องทุน แล้วผมก็ได้ทุนจากคณะมาเรียน กล้ายืนยันได้เลยครับว่าคณะแพทย์เป็นคณะที่ซัพพอร์ตเด็กมากๆ ใครที่ลำบากจริงๆ เค้าให้ค่าเทอมครบทุกบาท แถมให้ย้อนหลังในส่วนเทอมแรกที่ผมจ่ายไปแล้วด้วยซ้ำ อาจารย์ก็ติดตามตลอดว่ามีเงินใช้ไหม อาจารย์จะทำเรื่องขอค่าใช้จ่ายรายเดือนให้ด้วย จนสุดท้ายจากวันที่สอบติดพร้อมเงินทั้งบ้านที่มีไม่ถึง 2000 บาท สุดท้ายวันนี้ผมก็ยังเรียนมาได้จนกำลังจะจบแล้วครับ โดยที่ไม่เคยเปิดรับบริจาคเลยสักบาท
ตอนเห็นข่าวเคสนี้ครั้งแรก พ่อผมพูดกับผมเลยครับว่า "วันที่ลูกสอบติด พ่อก็มีตังค์อยู่เท่าเค้า" เรายังไม่ต้องเปิดรับบริจาคเลยครับ ก็ยังเรียนมาได้
ส่วนตัวผมมองว่าสังคมต้องใช้เคสนี้เป็นกรณีศึกษาและเป็นบทเรียนมากๆในการจะเปิดรับบริจาคอะไรสักอย่าง
1.) ควรมีการตรวจสอบก่อน ว่ามีความจำเป็นจริงไหม และควรมีการแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับบริจาค
2.) สื่อเป็นตัวการสำคัญมาก ไม่ควรประโคมข่าวใหญ่โตจนคนสงสารแห่ไปบริจาคกันมากขนาดนี้ทั้งที่ยังไม่ตรวจสอบอะไรเลย
3.) ควรเปลี่ยนจากการโอนไวเป็นการแนะนำช่องทางในการหาทุนหรือแนะนำเรื่องการจัดสรรเงินให้น้องดีกว่า เช่น เก็บเงินค่าเทอมก่อนจะซื้อของแพงอย่างอื่น เป็นต้น
4.) เราควรเลิกตรรกะที่ว่า "ถือว่าทำบุญ" "เพื่อสร้างบุคลากรให้สังคม" "ให้แล้วก็แล้วไป" ฯลฯ เพราะสิ่งเหล่านี้แหละจะเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเอาเปรียบอยู่ตลอด และที่บอกว่าน้องจะได้เติบโตเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ดีในอนาคต ผมมองว่า จุดเริ่มต้นที่คดงอ ไม่สามารถจะเป็นปลายที่สง่างามได้ครับ และคงไม่มีหมอคนไหนอยากได้เพื่อนร่วมวิชาชีพที่ไร้ซึ่งจรรยาบรรณ
5.) เราควรให้คุณค่ากับทุกอาชีพและทุกวิชาชีพอย่างเท่าเทียมกัน ควรเลิกยึดติดกับการยกอาชีพแพทย์ว่าดีที่สุดได้แล้วครับ ที่ข่าวดังขนาดนี้ต้องยอมรับว่าเกิดจากการที่เราให้ค่ากับคำว่าคณะแพทย์มากเกินไป ทั้งที่เด็กคนอื่นที่เค้าลำบากก็มีอีกเยอะมาก
อยากฝากไว้เพียงเท่านี้ครับ
มีความคิดเห็นกับกรณีเด็กสอบติดแพทย์ขอรับบริจาคเงินยังไงกันบ้างครับ?
อดไม่ได้จริงๆกับเคสนี้จนต้องสมัครพันทิปมาเลยครับ
เกริ่นก่อนว่าตัวผมเองก็เป็นนักศึกษาแพทย์คนนึงครับ ปัจจุบันกำลังจะเรียนจบแล้ว วันที่ผมสอบติดแพทย์ ทั้งครอบครัวมีเงินติดบัญชีอยู่ไม่เกิน 2000บาท จำได้ว่าตอนนั้นเครียดมากกลัวจะไม่ได้เรียนต่อ พ่อแม่ก็เครียดเพราะค่าเทอมเกือบ 3 หมื่นบาท ไม่รู้จะจ่ายยังไงเลยครับตอนนั้น จนตัดสินใจไปคุยกับพ่อแม่ว่าผมไม่เรียนต่อก็ได้ จะได้ออกมาช่วยทำงานหรือไปเรียนคณะอื่นๆที่ค่าเทอมไม่แพงแทน แต่พ่อผมพูดมาคำนึงว่า "ไม่เป็นไรพ่อทำได้" ผมยังจำคำพูดนี้มาจนถึงวันนี้เลยครับ หลังจากนั้นพ่อแม่ผมก็ไปหางานทำมากขึ้น ใครจ้างอะไรทำหมด ตัวผมเองก็ใช้วิธีรับสอนพิเศษ ไปสมัครพาร์ทไทม์ที่พิซซ่า ทำงานทุกวันจนเปิดเทอม จนสุดท้ายก็สามารถจ่ายค่าเทอมเทอมแรกได้ครับ
พอเปิดเทอมอาจารย์ก็มาแจ้งเรื่องทุน แล้วผมก็ได้ทุนจากคณะมาเรียน กล้ายืนยันได้เลยครับว่าคณะแพทย์เป็นคณะที่ซัพพอร์ตเด็กมากๆ ใครที่ลำบากจริงๆ เค้าให้ค่าเทอมครบทุกบาท แถมให้ย้อนหลังในส่วนเทอมแรกที่ผมจ่ายไปแล้วด้วยซ้ำ อาจารย์ก็ติดตามตลอดว่ามีเงินใช้ไหม อาจารย์จะทำเรื่องขอค่าใช้จ่ายรายเดือนให้ด้วย จนสุดท้ายจากวันที่สอบติดพร้อมเงินทั้งบ้านที่มีไม่ถึง 2000 บาท สุดท้ายวันนี้ผมก็ยังเรียนมาได้จนกำลังจะจบแล้วครับ โดยที่ไม่เคยเปิดรับบริจาคเลยสักบาท
ตอนเห็นข่าวเคสนี้ครั้งแรก พ่อผมพูดกับผมเลยครับว่า "วันที่ลูกสอบติด พ่อก็มีตังค์อยู่เท่าเค้า" เรายังไม่ต้องเปิดรับบริจาคเลยครับ ก็ยังเรียนมาได้
ส่วนตัวผมมองว่าสังคมต้องใช้เคสนี้เป็นกรณีศึกษาและเป็นบทเรียนมากๆในการจะเปิดรับบริจาคอะไรสักอย่าง
1.) ควรมีการตรวจสอบก่อน ว่ามีความจำเป็นจริงไหม และควรมีการแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับบริจาค
2.) สื่อเป็นตัวการสำคัญมาก ไม่ควรประโคมข่าวใหญ่โตจนคนสงสารแห่ไปบริจาคกันมากขนาดนี้ทั้งที่ยังไม่ตรวจสอบอะไรเลย
3.) ควรเปลี่ยนจากการโอนไวเป็นการแนะนำช่องทางในการหาทุนหรือแนะนำเรื่องการจัดสรรเงินให้น้องดีกว่า เช่น เก็บเงินค่าเทอมก่อนจะซื้อของแพงอย่างอื่น เป็นต้น
4.) เราควรเลิกตรรกะที่ว่า "ถือว่าทำบุญ" "เพื่อสร้างบุคลากรให้สังคม" "ให้แล้วก็แล้วไป" ฯลฯ เพราะสิ่งเหล่านี้แหละจะเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเอาเปรียบอยู่ตลอด และที่บอกว่าน้องจะได้เติบโตเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ดีในอนาคต ผมมองว่า จุดเริ่มต้นที่คดงอ ไม่สามารถจะเป็นปลายที่สง่างามได้ครับ และคงไม่มีหมอคนไหนอยากได้เพื่อนร่วมวิชาชีพที่ไร้ซึ่งจรรยาบรรณ
5.) เราควรให้คุณค่ากับทุกอาชีพและทุกวิชาชีพอย่างเท่าเทียมกัน ควรเลิกยึดติดกับการยกอาชีพแพทย์ว่าดีที่สุดได้แล้วครับ ที่ข่าวดังขนาดนี้ต้องยอมรับว่าเกิดจากการที่เราให้ค่ากับคำว่าคณะแพทย์มากเกินไป ทั้งที่เด็กคนอื่นที่เค้าลำบากก็มีอีกเยอะมาก
อยากฝากไว้เพียงเท่านี้ครับ