VIVO ได้เปิดตัว V21 5G ในไทยเป็นที่เรียบร้อยยังคงสานต่อเทพกล้องหน้ากันอย่างต่อเนื่องจากรุ่นที่แล้วนั้น ทำกล้องหน้าดีมากๆตัวนึงที่มาพร้อมกับ 44MP ที่รองรับการโฟกัสด้วยเช่นกันถือว่าเป็นกล้องหน้าที่ดีที่สุดในบรรดา Smartphone ที่ขายในไทยก็ไม่เวอร์เกินไป รวมถึงในการพัฒนากล้องหน้าก็เป็นจุดขายหลักๆของค่ายนี้อีกเช่นกันครับ และทาง V21 5G เองนั้นก็พัฒนามาอีกขั้นของกล้อง ใส่ระบบกันสั่นแบบ แมคคานิค OIS เข้ามาในกล้องหน้า รวมถึง กล้องหลังก็ใส่เข้ามา และยังมีแฟลชด้านหน้าแบบ LED จริงๆ 2 ดวงซ้ายขวา บอกเลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ ทำให้มันเป็นกล้องหน้าที่ดีมากตัวนึงในตลาดตอนนี้ และใช้งานบอดี้ที่บางเบา และหน้าจอ 90Hz AMOLED จัดเต็ม
VIVO V21 5G มาพร้อมกับ การใช้งาน CPU ตัวใหม่จากค่าย MEDIATEK Dimensity 800U (MT6873V) 7nm และ GPU Mali-G57 รองรับการใช้งาน 5G DUALMODE สบายๆใน CPU ตัวนี้ ส่วนทางด้านหน้าจอใช้งาน หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว (2404 ×1080พิกเซล) Full HD+, ความสว่าง 800nits, HDR 10+, รีเฟรชเรท 90Hz ถือว่าเป็นหน้าจอที่รองรับได้ดีกว่ารุ่นเดิมชัดเจน ส่วน RAM LPDDR4x 8GB + storage (UFS 2.2) 128GB,256GB ใส่ microSD card เพิ่มได้ มาพร้อมกับกล้องหลัง 64MP ที่มีกันสั่น OIS ด้วยเช่นกัน กล้องตัวหลัก 64MP (f/1.79), รองรับ OIS กล้อง ultra-wide กว้าง 119 องศา 8MP (f/2.2) กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) แฟลช LED และ ทางด้าน กล้องหน้า 44MP (f/2.0), รองรับ OIS, แฟลช LED คู่, ถ่ายวีดีโอได้ 4K ทำให้เป็นตัวแรกในตลาดที่มาพร้อมกับ 44MP OIS กล้องหน้า และ กล้องหลัง รวมถึงในตลาดมือถือตอนนี้ ในเรทราคาแบบนี้หาได้ยากและทำให้ V21 5G โดดเด่นมากจริงๆ และ ใช้งานแบต 4,000 mAh รองรับการชาร์จไว 33W และตัวเครื่องที่บาง เบามากๆแค่ 7.29 มม. เท่านั้น และหนัก 176 กรัม แน่นอนว่าเบาบางอีกทั้งดีไซน์ยังสวยและทำได้ดีไม่แตกต่างกับรุ่นพี่เลยก็ตาม แต่น่าเสียดายว่ารู 3.5 มม. ได้หายไปแล้วในรุ่นนี้ครับ
Vivo V21 5G เปิดให้จับจองเป็นเจ้าของอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ROM 128GB สี Dusk Blue และ Sunset Dazzle จองได้ตั้งแต่ 10 – 14 พ.ค. 64
- ROM 128GB สี Arctic White จองได้ตั้งแต่ 10 – 19 พ.ค. 64
- ROM 256GB สี Dusk Blue และ Sunset Dazzle จองได้ตั้งแต่ 10 – 19 พ.ค. 64
ส่วนทางด้านราคานั้น จะมาพร้อมกับด้วย 2 ราคา สำหรับตัว RAM 8 GB STORAGE 128 GB 12,999 บาท ส่วนตัว RAM 8 GB STORAGE 256 GB 14,999 บาทครับ
UNBOX
- ตัวเครื่อง VIVO V21 5G
- เคสใส TPU
- ที่ชาร์จ VIVO FLASHCHARGE 2.0 33W
- สายชาร์จ USB-C
- หูฟัง In-Ear
- ตัวแปลง USB-C ไป 3.5 มม.
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
จะเห็นว่าตัวเคสนั้นมีการปกป้องได้ดีพอสมควรในเรื่องเลนส์กล้องและหน้าจอ แต่อาจจะไม่ได้สูงหนาขึ้นมามากนักแต่ก็ถือว่าพ้นระยะเวลาวางคว่ำหรือใช้งานได้ดีพอสมควรเลย สำหรับเคสที่แถมมาให้ในกล่องรุ่นนี้ ขอบเครื่องมีการเพิ่มความหนาเข้ามาให้ทำให้เรื่องของการปกป้องเวลาตกอะไรทำได้ดีเลยแหละ ส่วนตัวพอร์ตมีจุกปิดกันฝุ่นมาให้อีกครั้งนึงแอบเกะกะนิดๆครับทั้งที่รุ่นก่อนหน้าได้ตัดออกไป แต่ถ้าในแง่ของการใช้งานอาจจะดูกันฝุ่นดีกว่าแบบทั่วไป
DESIGN
ทางด้านงานออกแบบนั้นต้องบอกว่าน่าสนใจรุ่นนี้ยังคงอิงดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้ดีทีเดียว เพราะว่ามาพร้อมกับ กล้องขนาดใหญ่ด้านบนและตัวเล็กด้านล่าง รวมถึงดีไซน์จะไปอิงทั้งรุ่นก่อนหน้าหรือแม้แต่รุ่นพี่ X60 Pro เลยก็ตามครับทำให้เป็นตัวเองค่อนข้างสูงเลยแหละ มาพร้อมกับสีใหม่ Sunset Dazzle แนวคิดจากภาพของเมฆสีแดงที่เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ท่ามกลางแสงอันสวยงามของดวงอาทิตย์ยามเย็นที่กำลังจะตกลงมาบรรจบกับมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ แต่ก็เล่นแสงสีได้สวยและเด่นมากจริงๆครับ รวมถึงมีความบางมาก และเบามากจริงๆทำน้ำหนักได้ บาง เบามากๆแค่ 7.29 มม. เท่านั้น และหนัก 176 กรัม ถือว่าเป็นมือถือ 5G ที่บางและสวยมากๆตัวนึงในตอนนี้
หน้าจอตัวนี้มาพร้อมกับหน้าจอแบบติ่งตรงกลาง ใช้งานขนาด 6.44 นิ้ว ใช้งานหน้าจอ AMOLED FHD+ ให้สีสันสดใส คมชัดสมจริง ความสว่าง 500 nits และ HBM 800nits อัตราส่วนคอนทราสต์ 6000000: 1 รองรับ HDR 10+ และรองรับการปกป้องดวงตา SGS รวมถึงมาพร้อมกับ Refresh rate 90Hz ลื่นไหลเลยทีเดียวครับ
อีกจุดเด่นนึงที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือขอบหน้าจอส่วนบนที่ไม่ได้มีแค่กล้องหน้า แต่ยังมาพร้อมกับไฟแฟลช 2 ดวง ซ้าย ขวา ตามภาพบอกเลยว่าจัดเต็มจริงๆ ซ่อนได้เนียนตาและสวยจริงๆ ถ้าไม่ได้เปิดใช้งานแทบจะมองไม่ออกเลยว่ามีไฟอยู่ด้านบนครับ รวมถึงมีลำโพง และ เซนเซอร์แฝงไว้ทั้งหมดและทำขอบได้บาง ถือว่าออกแบบได้ดี และกล้องหน้า 44ล้านพิกเซล ที่ใส่กันสั่นแบบ OIS เข้ามาอีกบอกเลยว่าทำได้ขนาดแบบนี้ถือว่าโหดมากๆเลยทีเดียวครับตัวนี้
ขอบหน้าจอส่วนล่างนั้นมีขนาดใหญ่กว่าทุกด้านเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติครับ แต่ก็อยู่ในระดับที่รับได้สบายๆไม่หนาเกินไป และปุ่มควคุมหน้าจอรองรับการใช้งานได้ปกติ รวมถึงใช้งานแบบเต็มหน้าจอได้ด้วยเช่นกัน
ขอบหน้าจอส่วนบนตัวเครื่องจะเห็นว่ามันมีความบางมากๆ และขอบเหลี่ยมชัดเจน ตัดด้วยบอดี้แบบเงาพร้อมรูไมค์ตัดเสียงใส่เข้ามาให้ จะเห็นว่ากล้องหลังนั้นแอบนูนเล็กน้อยครับ แต่ก็ไม่ได้เยอะน่าเกลียดอะไรในรุ่นนี้ครับ
ขอบเครื่องในฝั่งขวานั้นจะเป็น ปุ่ม POWER ที่มีการออกแบบที่พื้นผิวแตกต่างกันนิดหน่อยรวมถึงปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียงครับ แน่นอนว่า งานออกแบบเน้นความเรียบหรูชัดเจน ขอบสีเงินเงาสวยงามพร้อมกับความเหลี่ยมสันทั้งหน้าหลัง
แน่นอนว่าทางด้านซ้ายนั้นเราจะเห็นว่าไม่มีแม้แต่ถาดซิมอะไรใส่เข้ามาทำให้ฝั่งนี้เรียบไปทั้งหมดครับออกแบบได้สวยและหรูหรา แม้จะใช้งานวัสดุแบบพลาสติกแต่ก็ทำงานประกอบ คุณภาพความแน่นได้เนียนมือและดูดีมากจริงๆ
ขอบเครื่องในด้านล่าง ไม่มีรู 3.5 มม. แล้วนะ แต่ก็ยังให้ตัวแปลงมาในกล่อง รวมถึงลำโพงหลักในด้านล่าง และ รู USB-C ใส่เข้ามาพร้อมกับ รูไมค์หลัก และ ถาดซิมแบบ Hybrid Slot ในด้านล่างรองรับการใช้งานได้ปกติครับ
ฝาหลังแบบด้าน พร้อมกับความเรียบทั้งหมดไม่มีส่วนโค้ง ใช้งานวัสดุกระจกในด้านหลัง ด้วยเทคโนโลยี AG Matte Glass เพิ่มความสวยงาม หรูหรา ให้กับตัวเครื่อง พร้อมทั้งให้คุณสัมผัสถึงความเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ด้วยพื้นผิวที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน ช่วยป้องกันโทรศัพท์ของคุณจากรอยนิ้วมือ และมาพร้อมกับสี Sunset Dazzle : ภาพของเมฆสีแดงที่เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ท่ามกลางแสงอันสวยงามของดวงอาทิตย์ยามเย็นที่กำลังจะตกลงมาบรรจบกับมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ และต้องบอกว่าสีสวยจริงๆสามารถสะท้อนแสงได้หลากหลายมุมมากๆจริง และ เดิมๆจะเป็นสี ฟ้าม่วงๆแต่ถ้าเจอแสงก็จะมีโทนร้อนขึ้นมาทั้งโทนสีเหลืองเข้มต่างๆแล้วแต่สภาพแสงที่เราเจอบอกเลยว่าล้ำสวย
ออกแบบตัวกล้องด้านหลังแบบ Dual Tone Step จัดวางตัวกล้องได้อย่างมีมิติ และดูสง่างาม (สเต็ปขั้นแรก พื้นสีดำซึ่งเป็นตำแหน่งวางตัวกล้อง ขั้นที่สองพื้นเป็นสีเดียวกับฝาหลัง มีกรอบล้อมรอบทำให้ดูมีมิติ ขั้นที่สามคือฝาหลังที่ใช้ครอบแบตเตอรี่) ทำให้กล้องหลังดูสวยเด่นและดีไซน์ต่อเนื่องจากรุ่นพี่ รวมถึงรุ่นที่แล้วได้ดีมากๆจุดนี้ขอชม VIVO ครับ และตัวเลนส์หลักขนาดใหญ่มี OIS ใส่เข้ามาด้วยนะโหดจริงๆ มาพร้อมกับสเปก กล้องตัวหลัก 64MP (f/1.79), รองรับ OIS กันสั่น และ กล้อง ultra-wide กว้าง 119 องศา 8MP (f/2.2) กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) แฟลช LED รองรับการใช้งานได้อิสระ รวมถึงโหมดการถ่ายที่เยอะและจัดเต็มมากๆตัวนึงในการถ่ายรูป
SPEC
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว (2404 ×1080พิกเซล) Full HD+, ความสว่าง 800nits, HDR 10+, รีเฟรชเรท 90Hz
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 800U (MT6873V) 7nm
- GPU Mali-G57
- RAM LPDDR4x 8GB + storage (UFS 2.2) 128GB, ใส่ microSD card เพิ่มได้
- ซิมคู่แบบ Hybrid (nano + nano / microSD)
- Android 11 ที่ครอบด้วย Funtouch OS 11.1
- กล้องหล้ง กล้องตัวหลัก 64MP (f/1.79), รองรับ OIS กล้อง ultra-wide กว้าง 119 องศา 8MP (f/2.2) กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) แฟลช LED
- กล้องหน้า 44MP (f/2.0), รองรับ OIS, แฟลช LED คู่, ถ่ายวิดิโอได้ 4K
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- ไม่มีรูหูฟัง 3.5มม.
- ขนาดตัวเครื่อง : 159.68×73.90×7.29มม. (สี Dusk Blue)/ 7.39มม. (สี Sunset Dazzle);
- น้ำหนัก: 176กรัม(สี Dusk Blue)/ 177กรัม (สี Sunset Dazzle)
- รองรับเครือข่าย 5G SA/ NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5.1, GPS/GLONASS/Beidou
- USB Type-C แบตเตอรี่ 4,000 mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 33W
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน MTK DIMENSITY 800U 5G พร้อมกับ Storage UFS 2.2 ในความจุ 128GB จัดเต็มด้วย RAM 8GB ส่วนทางด้านคะแนน UFS นั้นอ่านไปได้ที่ 965MB/s – เขียนไปได้ที่ 470MB/s อ่านใกล้เคียงเดิม แต่เขียนดีขึ้นเท่าตัวจากการปรับมาใช้ 2.2 ครับ ส่วน ส่วน DRL L1 ในแอป Netflix รองรับ HD นะครับ ส่วนคะแนน Antutu ทำไปได้ 365713 คะแนนถือว่าตามระดับของ CPU และ Geekbench นั้นทำไปได้ 443 /1572 คะแนน คะแนนภาพรวมนั้นดีขึ้นแน่นอนและใช้งานลื่นไหลเล่นเกมได้ดีกว่าเดิมแบบรู้สึกได้จริงๆ และการเขียนที่ไวขึ้นส่งผลการทำงานต่างๆในตัวเครื่องได้ดีขึ้นด้วยเช่นกันครับ บนพื้นฐานระบบ Funtouch OS 11.1
SYSTEM UI
ทางด้านหน้าตาระบบอะไรนั้นใช้ Funtouch OS 11.1 บนตัว Android 11 แล้วบอกเลยว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างครับทั้งหน้าตาการตั้งค่า Quick Setting มันไปอยู่ตำแหน่งที่ควรจะเป็นแล้วในด้านบนแน่นอนว่าหากเทียบกับ OS 10 ก่อนหน้าถือว่ามีหลายๆจุดต่างที่หน้าตั้งค่าตามที่แจ้งไปและฟีเจอร์ตามระบบ 11 นั้นเองครับ
[SR] รีวิว VIVO V21 5G จัดเต็ม กล้องหน้า 44MP กันสั่น OIS+ไฟแฟลชคู่ พร้อมจอ AMOLED 90Hz !
VIVO ได้เปิดตัว V21 5G ในไทยเป็นที่เรียบร้อยยังคงสานต่อเทพกล้องหน้ากันอย่างต่อเนื่องจากรุ่นที่แล้วนั้น ทำกล้องหน้าดีมากๆตัวนึงที่มาพร้อมกับ 44MP ที่รองรับการโฟกัสด้วยเช่นกันถือว่าเป็นกล้องหน้าที่ดีที่สุดในบรรดา Smartphone ที่ขายในไทยก็ไม่เวอร์เกินไป รวมถึงในการพัฒนากล้องหน้าก็เป็นจุดขายหลักๆของค่ายนี้อีกเช่นกันครับ และทาง V21 5G เองนั้นก็พัฒนามาอีกขั้นของกล้อง ใส่ระบบกันสั่นแบบ แมคคานิค OIS เข้ามาในกล้องหน้า รวมถึง กล้องหลังก็ใส่เข้ามา และยังมีแฟลชด้านหน้าแบบ LED จริงๆ 2 ดวงซ้ายขวา บอกเลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ ทำให้มันเป็นกล้องหน้าที่ดีมากตัวนึงในตลาดตอนนี้ และใช้งานบอดี้ที่บางเบา และหน้าจอ 90Hz AMOLED จัดเต็ม
VIVO V21 5G มาพร้อมกับ การใช้งาน CPU ตัวใหม่จากค่าย MEDIATEK Dimensity 800U (MT6873V) 7nm และ GPU Mali-G57 รองรับการใช้งาน 5G DUALMODE สบายๆใน CPU ตัวนี้ ส่วนทางด้านหน้าจอใช้งาน หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว (2404 ×1080พิกเซล) Full HD+, ความสว่าง 800nits, HDR 10+, รีเฟรชเรท 90Hz ถือว่าเป็นหน้าจอที่รองรับได้ดีกว่ารุ่นเดิมชัดเจน ส่วน RAM LPDDR4x 8GB + storage (UFS 2.2) 128GB,256GB ใส่ microSD card เพิ่มได้ มาพร้อมกับกล้องหลัง 64MP ที่มีกันสั่น OIS ด้วยเช่นกัน กล้องตัวหลัก 64MP (f/1.79), รองรับ OIS กล้อง ultra-wide กว้าง 119 องศา 8MP (f/2.2) กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) แฟลช LED และ ทางด้าน กล้องหน้า 44MP (f/2.0), รองรับ OIS, แฟลช LED คู่, ถ่ายวีดีโอได้ 4K ทำให้เป็นตัวแรกในตลาดที่มาพร้อมกับ 44MP OIS กล้องหน้า และ กล้องหลัง รวมถึงในตลาดมือถือตอนนี้ ในเรทราคาแบบนี้หาได้ยากและทำให้ V21 5G โดดเด่นมากจริงๆ และ ใช้งานแบต 4,000 mAh รองรับการชาร์จไว 33W และตัวเครื่องที่บาง เบามากๆแค่ 7.29 มม. เท่านั้น และหนัก 176 กรัม แน่นอนว่าเบาบางอีกทั้งดีไซน์ยังสวยและทำได้ดีไม่แตกต่างกับรุ่นพี่เลยก็ตาม แต่น่าเสียดายว่ารู 3.5 มม. ได้หายไปแล้วในรุ่นนี้ครับ
Vivo V21 5G เปิดให้จับจองเป็นเจ้าของอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ROM 128GB สี Dusk Blue และ Sunset Dazzle จองได้ตั้งแต่ 10 – 14 พ.ค. 64
- ROM 128GB สี Arctic White จองได้ตั้งแต่ 10 – 19 พ.ค. 64
- ROM 256GB สี Dusk Blue และ Sunset Dazzle จองได้ตั้งแต่ 10 – 19 พ.ค. 64
ส่วนทางด้านราคานั้น จะมาพร้อมกับด้วย 2 ราคา สำหรับตัว RAM 8 GB STORAGE 128 GB 12,999 บาท ส่วนตัว RAM 8 GB STORAGE 256 GB 14,999 บาทครับ
UNBOX
- ตัวเครื่อง VIVO V21 5G
- เคสใส TPU
- ที่ชาร์จ VIVO FLASHCHARGE 2.0 33W
- สายชาร์จ USB-C
- หูฟัง In-Ear
- ตัวแปลง USB-C ไป 3.5 มม.
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
จะเห็นว่าตัวเคสนั้นมีการปกป้องได้ดีพอสมควรในเรื่องเลนส์กล้องและหน้าจอ แต่อาจจะไม่ได้สูงหนาขึ้นมามากนักแต่ก็ถือว่าพ้นระยะเวลาวางคว่ำหรือใช้งานได้ดีพอสมควรเลย สำหรับเคสที่แถมมาให้ในกล่องรุ่นนี้ ขอบเครื่องมีการเพิ่มความหนาเข้ามาให้ทำให้เรื่องของการปกป้องเวลาตกอะไรทำได้ดีเลยแหละ ส่วนตัวพอร์ตมีจุกปิดกันฝุ่นมาให้อีกครั้งนึงแอบเกะกะนิดๆครับทั้งที่รุ่นก่อนหน้าได้ตัดออกไป แต่ถ้าในแง่ของการใช้งานอาจจะดูกันฝุ่นดีกว่าแบบทั่วไป
DESIGN
ทางด้านงานออกแบบนั้นต้องบอกว่าน่าสนใจรุ่นนี้ยังคงอิงดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้ดีทีเดียว เพราะว่ามาพร้อมกับ กล้องขนาดใหญ่ด้านบนและตัวเล็กด้านล่าง รวมถึงดีไซน์จะไปอิงทั้งรุ่นก่อนหน้าหรือแม้แต่รุ่นพี่ X60 Pro เลยก็ตามครับทำให้เป็นตัวเองค่อนข้างสูงเลยแหละ มาพร้อมกับสีใหม่ Sunset Dazzle แนวคิดจากภาพของเมฆสีแดงที่เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ท่ามกลางแสงอันสวยงามของดวงอาทิตย์ยามเย็นที่กำลังจะตกลงมาบรรจบกับมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ แต่ก็เล่นแสงสีได้สวยและเด่นมากจริงๆครับ รวมถึงมีความบางมาก และเบามากจริงๆทำน้ำหนักได้ บาง เบามากๆแค่ 7.29 มม. เท่านั้น และหนัก 176 กรัม ถือว่าเป็นมือถือ 5G ที่บางและสวยมากๆตัวนึงในตอนนี้
หน้าจอตัวนี้มาพร้อมกับหน้าจอแบบติ่งตรงกลาง ใช้งานขนาด 6.44 นิ้ว ใช้งานหน้าจอ AMOLED FHD+ ให้สีสันสดใส คมชัดสมจริง ความสว่าง 500 nits และ HBM 800nits อัตราส่วนคอนทราสต์ 6000000: 1 รองรับ HDR 10+ และรองรับการปกป้องดวงตา SGS รวมถึงมาพร้อมกับ Refresh rate 90Hz ลื่นไหลเลยทีเดียวครับ
อีกจุดเด่นนึงที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือขอบหน้าจอส่วนบนที่ไม่ได้มีแค่กล้องหน้า แต่ยังมาพร้อมกับไฟแฟลช 2 ดวง ซ้าย ขวา ตามภาพบอกเลยว่าจัดเต็มจริงๆ ซ่อนได้เนียนตาและสวยจริงๆ ถ้าไม่ได้เปิดใช้งานแทบจะมองไม่ออกเลยว่ามีไฟอยู่ด้านบนครับ รวมถึงมีลำโพง และ เซนเซอร์แฝงไว้ทั้งหมดและทำขอบได้บาง ถือว่าออกแบบได้ดี และกล้องหน้า 44ล้านพิกเซล ที่ใส่กันสั่นแบบ OIS เข้ามาอีกบอกเลยว่าทำได้ขนาดแบบนี้ถือว่าโหดมากๆเลยทีเดียวครับตัวนี้
ขอบหน้าจอส่วนล่างนั้นมีขนาดใหญ่กว่าทุกด้านเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติครับ แต่ก็อยู่ในระดับที่รับได้สบายๆไม่หนาเกินไป และปุ่มควคุมหน้าจอรองรับการใช้งานได้ปกติ รวมถึงใช้งานแบบเต็มหน้าจอได้ด้วยเช่นกัน
ขอบหน้าจอส่วนบนตัวเครื่องจะเห็นว่ามันมีความบางมากๆ และขอบเหลี่ยมชัดเจน ตัดด้วยบอดี้แบบเงาพร้อมรูไมค์ตัดเสียงใส่เข้ามาให้ จะเห็นว่ากล้องหลังนั้นแอบนูนเล็กน้อยครับ แต่ก็ไม่ได้เยอะน่าเกลียดอะไรในรุ่นนี้ครับ
ขอบเครื่องในฝั่งขวานั้นจะเป็น ปุ่ม POWER ที่มีการออกแบบที่พื้นผิวแตกต่างกันนิดหน่อยรวมถึงปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียงครับ แน่นอนว่า งานออกแบบเน้นความเรียบหรูชัดเจน ขอบสีเงินเงาสวยงามพร้อมกับความเหลี่ยมสันทั้งหน้าหลัง
แน่นอนว่าทางด้านซ้ายนั้นเราจะเห็นว่าไม่มีแม้แต่ถาดซิมอะไรใส่เข้ามาทำให้ฝั่งนี้เรียบไปทั้งหมดครับออกแบบได้สวยและหรูหรา แม้จะใช้งานวัสดุแบบพลาสติกแต่ก็ทำงานประกอบ คุณภาพความแน่นได้เนียนมือและดูดีมากจริงๆ
ขอบเครื่องในด้านล่าง ไม่มีรู 3.5 มม. แล้วนะ แต่ก็ยังให้ตัวแปลงมาในกล่อง รวมถึงลำโพงหลักในด้านล่าง และ รู USB-C ใส่เข้ามาพร้อมกับ รูไมค์หลัก และ ถาดซิมแบบ Hybrid Slot ในด้านล่างรองรับการใช้งานได้ปกติครับ
ฝาหลังแบบด้าน พร้อมกับความเรียบทั้งหมดไม่มีส่วนโค้ง ใช้งานวัสดุกระจกในด้านหลัง ด้วยเทคโนโลยี AG Matte Glass เพิ่มความสวยงาม หรูหรา ให้กับตัวเครื่อง พร้อมทั้งให้คุณสัมผัสถึงความเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ด้วยพื้นผิวที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน ช่วยป้องกันโทรศัพท์ของคุณจากรอยนิ้วมือ และมาพร้อมกับสี Sunset Dazzle : ภาพของเมฆสีแดงที่เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ท่ามกลางแสงอันสวยงามของดวงอาทิตย์ยามเย็นที่กำลังจะตกลงมาบรรจบกับมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ และต้องบอกว่าสีสวยจริงๆสามารถสะท้อนแสงได้หลากหลายมุมมากๆจริง และ เดิมๆจะเป็นสี ฟ้าม่วงๆแต่ถ้าเจอแสงก็จะมีโทนร้อนขึ้นมาทั้งโทนสีเหลืองเข้มต่างๆแล้วแต่สภาพแสงที่เราเจอบอกเลยว่าล้ำสวย
ออกแบบตัวกล้องด้านหลังแบบ Dual Tone Step จัดวางตัวกล้องได้อย่างมีมิติ และดูสง่างาม (สเต็ปขั้นแรก พื้นสีดำซึ่งเป็นตำแหน่งวางตัวกล้อง ขั้นที่สองพื้นเป็นสีเดียวกับฝาหลัง มีกรอบล้อมรอบทำให้ดูมีมิติ ขั้นที่สามคือฝาหลังที่ใช้ครอบแบตเตอรี่) ทำให้กล้องหลังดูสวยเด่นและดีไซน์ต่อเนื่องจากรุ่นพี่ รวมถึงรุ่นที่แล้วได้ดีมากๆจุดนี้ขอชม VIVO ครับ และตัวเลนส์หลักขนาดใหญ่มี OIS ใส่เข้ามาด้วยนะโหดจริงๆ มาพร้อมกับสเปก กล้องตัวหลัก 64MP (f/1.79), รองรับ OIS กันสั่น และ กล้อง ultra-wide กว้าง 119 องศา 8MP (f/2.2) กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) แฟลช LED รองรับการใช้งานได้อิสระ รวมถึงโหมดการถ่ายที่เยอะและจัดเต็มมากๆตัวนึงในการถ่ายรูป
SPEC
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว (2404 ×1080พิกเซล) Full HD+, ความสว่าง 800nits, HDR 10+, รีเฟรชเรท 90Hz
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 800U (MT6873V) 7nm
- GPU Mali-G57
- RAM LPDDR4x 8GB + storage (UFS 2.2) 128GB, ใส่ microSD card เพิ่มได้
- ซิมคู่แบบ Hybrid (nano + nano / microSD)
- Android 11 ที่ครอบด้วย Funtouch OS 11.1
- กล้องหล้ง กล้องตัวหลัก 64MP (f/1.79), รองรับ OIS กล้อง ultra-wide กว้าง 119 องศา 8MP (f/2.2) กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) แฟลช LED
- กล้องหน้า 44MP (f/2.0), รองรับ OIS, แฟลช LED คู่, ถ่ายวิดิโอได้ 4K
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- ไม่มีรูหูฟัง 3.5มม.
- ขนาดตัวเครื่อง : 159.68×73.90×7.29มม. (สี Dusk Blue)/ 7.39มม. (สี Sunset Dazzle);
- น้ำหนัก: 176กรัม(สี Dusk Blue)/ 177กรัม (สี Sunset Dazzle)
- รองรับเครือข่าย 5G SA/ NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5.1, GPS/GLONASS/Beidou
- USB Type-C แบตเตอรี่ 4,000 mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 33W
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน MTK DIMENSITY 800U 5G พร้อมกับ Storage UFS 2.2 ในความจุ 128GB จัดเต็มด้วย RAM 8GB ส่วนทางด้านคะแนน UFS นั้นอ่านไปได้ที่ 965MB/s – เขียนไปได้ที่ 470MB/s อ่านใกล้เคียงเดิม แต่เขียนดีขึ้นเท่าตัวจากการปรับมาใช้ 2.2 ครับ ส่วน ส่วน DRL L1 ในแอป Netflix รองรับ HD นะครับ ส่วนคะแนน Antutu ทำไปได้ 365713 คะแนนถือว่าตามระดับของ CPU และ Geekbench นั้นทำไปได้ 443 /1572 คะแนน คะแนนภาพรวมนั้นดีขึ้นแน่นอนและใช้งานลื่นไหลเล่นเกมได้ดีกว่าเดิมแบบรู้สึกได้จริงๆ และการเขียนที่ไวขึ้นส่งผลการทำงานต่างๆในตัวเครื่องได้ดีขึ้นด้วยเช่นกันครับ บนพื้นฐานระบบ Funtouch OS 11.1
SYSTEM UI
ทางด้านหน้าตาระบบอะไรนั้นใช้ Funtouch OS 11.1 บนตัว Android 11 แล้วบอกเลยว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างครับทั้งหน้าตาการตั้งค่า Quick Setting มันไปอยู่ตำแหน่งที่ควรจะเป็นแล้วในด้านบนแน่นอนว่าหากเทียบกับ OS 10 ก่อนหน้าถือว่ามีหลายๆจุดต่างที่หน้าตั้งค่าตามที่แจ้งไปและฟีเจอร์ตามระบบ 11 นั้นเองครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้