เราคบกับแฟนมาอีก 1 เดือนจะครบ 2 ปีแต่เราบอกเลิกเขาไปแล้ว
ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาไม่มีแพลนในอนาคตเกี่ยวกับเราเลย
เมื่อเราถามเขาว่าต้องคบกี่ปีถึงจะคุยเรื่องแต่งงานเหรอ
เพราะเราเห็นเขาคบกับคนเก่าก็เกือบ 2 ปีและยังอยู่ในวัยเรียนมหาวิทยาลัยตอนนั้น แต่ก็แพลนจะแต่งงานด้วยกับคนนั้น
มันก็เลยทำให้เรารู้สึกว่า
อ้าวแล้วฉันก็คบเวลาพอๆกัน เรียนจบมีงานทำแล้วด้วย แต่ไม่เคยแม้แต่คุยกันถึงอะไรแบบนี้ พอเราถามเขาก็บอกว่ามันควรเป็นอารมณ์ ในช่วงนั้นไหม ตอนเขาจีบเรา เราก็ไม่ได้บังคับให้เขาจีบ ตอนเขาขอเราคบก็ไม่ได้บังคับให้เขาคบ
เราก็เลยตอบกลับไปว่า คือเราต้องรอเธอมีฟิวเหรอ รอนี้ต้องรอถึงเมื่อไร ในเมื่อตอนนี้เธอยังไม่มีแพลนอะไรเกี่ยวกับเราเลย วางแผนจะเก็บตังค์แต่งงานด้วยกันก็ไม่มีเลย
ตอนนี้บอกเลิกไปแล้ว เหตุผลแบบนี้มันดีจริงๆแล้วใช่ไหมคะ เรารู้สึกว่า เป็นเราเหรอที่คิดไปไกลเกิน เราผิดเหรอที่เราอยากจะวางแผนก่อน ความจริงแค่พูดกันก็ยังดีนะ เช่น เราคบกันสัก 5 ปีนะแล้วค่อยแต่งงานกัน ตอนนี้ก็เก็บตังค์กันไปก่อน เราก็แค่ต้องการแบบนี้เราผิดมากเหรอ
ทำไมผู้ชายถึงต้องเลือกเห็นแก่ตัว มองว่าตัวเองพร้อม แล้วอีกคนอ่ะเขาคิดบ้างไหมว่าอีกคนเขารู้สึกยังไง เวลาที่เสียไปทุกๆวัน โดยไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไร ทำไมเขาไม่คิดถึงคนอื่นบ้างอ่ะ
คบกันกี่ปีถึงควรจะเริ่มมีแพลนสำหรับอนาคตกันเหรอคะ