เกร็ดน่าสนใจของคู่ชิงดำ ยูโรปา ลีก "แมนยู-บียาร์เรอัล"

คู่ชิงชนะเลิศของศึก ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ประจำฤดูกาล 2020-21 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมันจะเป็นการเผชิญหน้ากันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าของแชมป์รายการนี้ 1 สมัย กับ บียาร์เรอัล ที่เพิ่งเข้าถึงรอบชิงดำของรายการนี้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร จากการที่ก่อนหน้านี้มาไกลสุดแค่รอบรองชนะเลิศ 3 ครั้ง เพียงแต่ อูไน เอเมรี่ กุนซือของพวกเขาถือเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในรายการนี้มาก หลังเคยได้แชมป์กับ เซบีย่า ถึง 3 สมัย



สำหรับ โซลชา นั้น นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขามีโอกาสจะได้สัมผัสกับแชมป์รายการใหญ่ร่วมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฐานผู้จัดการทีม หลังจากก่อนหน้านี้พาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้หลายรายการแต่ก็ไปไม่ถึงรอบชิงดำ ส่วน บียาร์เรอัล นี่มีความหมายมากกว่าแค่แชมป์ เพราะมันสามารถเป็นทางลัดพาพวกเขาไปเล่นรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นหน้าได้ เพราะปัจจุบัน "เรือดำน้ำสีเหลือง" หมดลุ้นติดท็อปโฟร์ใน ลา ลีกา แน่นอนแล้ว

 ทั้งนี้ วันนี้เราจะมาย้อนดูเกร็ดที่น่าสนใจจากการโคจรมาเจอกันของคู่นี้สักหน่อย ไม่ว่าจะเป็นผลงานของ เอเมรี่ ในการเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด, ประสบการณ์ในการดวลกับทีมจากสเปนของ โซลชา และการเจอกันที่ผ่านมาของทั้ง 2 ทีม
 
 - เอเมรี่ ไม่ค่อยถูกโฉลกกับ แมนฯ ยูไนเต็ด



ตลอดอาชีพการคุมทีมของเขานั้น เอเมรี่ เคยนำทีมเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งหมด 6 ครั้ง แบ่งเป็น 2 หนสมัยที่คุม บาเลนเซีย และอีก 4 ครั้งในฐานะกุนซือ อาร์เซน่อล ซึ่งในจำนวนนั้นเขาสามารถชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แค่หนเดียว นั่นคือเกมลีกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ปี 2019 ส่วนที่เหลือแบ่งเป็นการเสมอ 3 หนกับแพ้ 2 นัด

ทั้งนี้ หากเทียบเฉพาะการดวลกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคของ โซลชา แล้วนั้น ผลงานของ เอเมรี่ ก็ไม่ได้เหนือกว้าอดีตหัวหอกชาวนอร์เวย์มากนัก เพราะจาก 3 หนที่ดวลกึ๋นกันทั้งคู่ชนะกันไปคนละ 1 ครั้ง และเสมอกัน 1 หน โดยครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้ที่เจอกันคือเกมลีกเมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กับ อาร์เซน่อล เจ๊ากัน 1-1

ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากเกมเดียวที่เขาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แล้วนั้น มันก็ไม่เคยมีครั้งไหนอีกเลยที่ทีมของ เอเมรี่ จะไม่เสียประตูให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยตลอดทั้ง 6 เกมที่เจอกับทีมดังจากเมืองแมนเชสเตอร์ ทีมของ เอเมรี่ เสียไปรวมแล้ว 8 ประตูด้วยกัน

- โซลชา ผลงานปานกลางในการเจอกับทีมจากสเปน



9 ครั้ง คือจำนวนที่ โซลชา เคยเจอกับทีมจากแดนกระทิงดุในฐานะกุนซือ โดยเป็นการนับรวมทั้งสมัยที่เขากุมบังเหียน โมลด์ และกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งผลงานของเขาในการเจอกับทีมจากสเปนคือการชนะ 4 หน, เสมอ 1 ครั้ง และแพ้ 4 เกม

สำหรับ 4 เกมที่เขาชนะทีมจากสเปนได้นั้นประกอบด้วยการนำ โมลด์ เฉือน เซบีย่า 1-0 ในเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดสอง ประจำฤดูกาล 2015-16 (ในนัดแรก โมลด์ แพ้ไปก่อน 0-3), การพา แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เรอัล โซเซียดาด 4-0 ในเกม ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดแรก ของซีซั่นนี้ รวมถึงการนำ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ กรานาด้า ด้วยสกอร์ 2-0 ในทั้ง 2 นัดของรอบก่อนรองชนะเลิศของศึก ยูโรปา ลีก ฤดูกล 2020-21

ส่วน 4 เกมที่แพ้นั้น มันก็เป็นการแพ้ให้กับทีมใหญ่ทั้งหมด นี่นคือการพ่ายให้ เซบีย่า 2 หน กับการแพ้ บาร์เซโลน่า 2 ครั้ง ในขณะที่เกมเสมอนั้น เกิดขึ้นในศึก ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดสองของซีซั่นนี้ที่เจ๊ากับ โซเซียดาด 0-0 โดยส่วนหนึ่งมันเป็นเพราะในนัดแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะมาแบบขาดลอยจนเล่นแบบสบายใจได้นั่นเอง

- ครั้งแรกที่ต้องมี "ผู้ชนะ"



ก่อนจะถึงเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก นัดชิงดำในฤดูกาลนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด กับ บียาร์เรอัล เคยเจอกันมาทั้งหมด 4 ครั้ง และทั้ง 4 เกมที่ว่าก็จบลงด้วยการเสมอกันทั้งหมด แถมสกอร์ยังออกมา 0-0 ทั้ง 4 นัดด้วย โดยแบ่งเป็นเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ในฤดูกาล 2005-06 กับ 2008-09 ซีซั่นละ 2 หน



นั่นหมายความว่าเกมที่ สตาดิโอน มีจสกี้ ในเมืองกดัญสก์ ประเทศโปแลนด์ วันที่ 26 พฤษภาคมนี้นั้น มันจะเป็นครั้งแรกที่การเจอกันของคู่นี้จะมีผู้ชนะ เพียงแต่จะเป็นในช่วงเวลาปกติ, ในช่วงต่อเวลาพิเศษ หรือในการดวลเป้ากันเท่านั้น

credit : www.siamsport.co.th โดย  - เด็กเกร็ดบอล -
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่