ทริปนี้ เพื่อนชวนไปนอนเต็นท์แถวสุพรรณบุรี 
ตอนแรกกลัวว่าจะร้อนจนนอนไม่หลับ 
แต่กลับมาเจอหนาวจนนอนไม่หลับแทน

20/02/2564 ออกจากบ้านเช้าหน่อย
แวะเติมน้ำมัน ซื้อกาแฟ และเข้าห้องน้ำ
ใช้เวลา 1 ชม.กว่าเกือบ 2 ชม. ประมาณ 125 กม.
ก็มาถึง อุทยานมังกรสวรรค์ (Dragon Paradise Park) อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี
เดินชมหมู่บ้านมังกรสวรรค์ ที่สร้างจำลองแบบเมืองลี่เจียง ประเทศจีน
เดินไป ก็ทำให้นึกย้อนถึงภาพเมืองลี่เจียง ที่เคยไปเมื่อปี 2549
https://topicstock.ppantip.com/.../05/E4344271/E4344271.html



ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขนม ระหว่างทาง
หากมีโอกาสแวะ ช่วยๆ กันอุดหนุนพ่อค้าแม่ค้าหน่อยนะครับ



เดินข้ามมาฝั่งศาลหลักเมืองสุพรรณบุรี
ใต้ฐานมังกรตัวใหญ่ เป็น พิพิธภัณฑ์ลูกหลานแดนมังกร
แวะไหว้เทพเจ้า ประจำปีเกิด เจ้าพ่อหลักเมือง ที่มีประวัติ ตาม Link นี้
https://www.talontiew.com/dragon-paradise-park-suphanburi/
ขอขอบคุณข้อมูลไว้ ณ ที่นี้



ออกจากอุทยานมังกรสวรรค์และศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
มาต่อกันที่ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 3 กม.
บนถ.มาลัยแมน ต.รั้วใหญ่ อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี
แวะไหว้พระหลวงพ่อโต วันที่ไปเจ้าหน้าที่กำลังทำพิธีห่มผ้าองค์หลวงพ่อโต ที่ญาติโยมถวายหลวงพ่อ



ไหว้พระเสร็จ ก็ได้เวลามื้อเที่ยง
เดินออกจากวัด ข้ามสะพานลอยไปฝั่งตรงข้าม
นพรัตน์ ภัตตาคาร ร้านอาหารจีนเก่าแก่ของที่นี้
ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร
ส่วนตัวผมว่ารสชาติอาหารที่สั่งวันนี้ ทานได้ครับ
ยกเว้น ลูกชิ้นกุ้งแปะฉ่าย ลูกชิ้นอร่อยมาก



หลังอาหารก็ข้ามถนนกลับมาที่วัด
เดินชมร้านค้าด้านข้างวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ได้ขนมติดมือมานิดหน่อย ก่อนกลับไปที่รถ



ออกจากวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร
มุ่งตรงสู่ พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ ระยะทางประมาณ 32 กม.
พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือ หลวงพ่ออู่ทอง
พระพุทธรูปแกะสลักบนหน้าผามังกรบิน ณ พุทธมหาสถานเมืองโบราณอู่ทอง
อยู่ใกล้วัดเขาทำเทียม ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
บริเวณโดยรอบ ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่



ออกจาก พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ ไปต่อกันที่ อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง ระยะทางประมาณ 88 กม.
อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
วิวดีจนได้ชื่อว่า ปางอุ๋ง สุพรรณบุรี เป็นอีกสถานที่ ที่อยากจะมานานละ

การเดินทางด้วย Google Maps
หากตั้งจุดหมายไปที่ อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง Google จะพาเข้าเส้นทางดินแดง ที่รถไม่สามารถเข้าได้
ให้ตั้งแผนที่ไปที่ วัดพุน้ำร้อน สุพรรณบุรี 
เมื่อถึงวัดให้ลดความเร็ว ขับเลยวัดไปนิดนึง
สังเกตุซอยด้านขวาข้างวัด จะมีซุ้มประตูใหญ่ ขึ้นป้ายอ่างเก็บน้ำหุบเขาวง
ขับไปตามทาง จะมีป้ายบอกตลอด โดยจะผ่านทางลูกรังช่วงสั้นๆ

วันที่ไปดูร้างๆ ร้านค้าปิด กลับมาที่บ้าน หาข้อมูล
เห็นว่าจะเปิด 12 สิงหาคม 2564
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.suphan.biz/phunamron01.htm



จากอ่างเก็บน้ำหุบเขาวง ขับรถอีก 43 กม. มุ่งหน้าไปยัง ไร่คงเดือน แคมป์ปิ้ง นัดเจอเพื่อนที่นั้น
จริงๆ เพื่อนก็ขับตามหลังมา เกือบทุกที่ ที่แวะ ได้เจอ ทักทายกันระหว่างทางเล็กน้อย 555



ช่วงเย็น เราก็มาถึงเป้าหมายของทริปนี้ ไร่คงเดือน แคมป์ปิ้ง อ.ด่านช้าง สุพรรณบุรี
ที่พักอยู่ริมลำตะเพิน ซึ่งมีที่พักหลายที่ให้เลือก
เพื่อนดูภาพจากเวป ก็เลือกที่นี้ เพราะภาพสวยๆ เลยชวนกันมา


 
ติดต่อเจ้าหน้าที่ แวะเข้าเต็นท์ ที่จองไว้ ภายในกว้างมากๆ



ส่วนเพื่อนเอาเต็นท์มาเอง วันที่ไปคนกางเต็นท์เยอะมาก
โซนสวยๆ ริมน้ำ โดนจองเต็มหมด แถมมาปิดทาง มุมถ่าย จนไม่กล้าแวะเข้าไปเก็บภาพ
เพื่อนเลยมากางเต็นท์บริเวนสนามหญ้าด้านใน ที่มีเต็นท์มากางก่อน 2-3 กลุ่ม แลดูสงบและส่วนตัวดีกว่า
ข้างทางมีต้นกัลปพฤกษ์ ออกดอก สวยมากๆ




หลังการเต็นท์เสร็จ ได้เวลาอาหารเย็น
เพื่อนผมก็เปลี่ยนหน้าที่มาเป็นเชฟ ทำกับข้าว
(ขอขอบใจเพื่อนมากๆ ที่ดูแล อาหาร 3 มื้อ ตลอดทริป เย็นวันแรก / เช้า และ กลางวัน วันที่ 2)



พระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า แสงเริ่มอ่อนแรง



หลังอาหารเย็น เรานั่งดื่มและพูดคุยกัน จนความมืดเข้ามาปกคลุม
ต้องอาศัยแสงสว่างจากหลอดไฟเล็กๆ 
ยิ่งดึกอากาศยิ่งเย็น สาวๆ ต้องเอาผ้าห่มออกมาคลุมกาย
ลองดูอุณหภูมิจากโทรศัพท์ 21 องศา 
แย่ละคืนนี้ ที่คาดว่าจะร้อน แต่กลับมาหนาว ไม่ได้เตรียมอุปกรณ์กันหนาวมาเลย



ออกไปเก็บภาพบรรยากาศยามค่ำคืน
เทียบภาพจากกล้องมือถือของผม กับ ภาพของเพื่อน
ทำไมมันต่างกันมากแบบนี้ 555
ชมภาพสวยๆ ได้ที่
https://www.facebook.com/.../pcb.../129234165754925



4 ทุ่มครึ่ง ขอตัวกลับมาที่เต็นท์ อาบน้ำ 
หนาวก็หนาว แต่ก็ต้องอาบน้ำ เพราะวันนี้เจอฝุ่นมาทั้งวัน
พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า วางแผนไว้ จะแวะเที่ยวก่อนกลับกทม.
อาบน้ำเสร็จเกือบ 5 ทุ่ม วงเหล้าใกล้เต็นท์ ยังไม่เลิก ยังคงสนุกสนาน ส่งเสียงดังกันมากๆ

ลองนอนเล่นๆ เผื่อจะหลับจริงๆ ได้ยินเสียงเพื่อนบางคน บอกเพื่อนให้เบาเสียง
แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล 
คิดในใจเอาน่า ไม่น่าเกินเที่ยงคืน คงเลิก
เสียงก็ยังคงดังอยู่ตลอด ดูเวลาเที่ยงคืนกว่า ได้ยินเสียงเพื่อนบางคนขอตัวไปนอน แอบดีใจ

แต่ ก็ยังมีที่ยังสนุกและส่งเสียงดังกันอยู่ ในใจก็โมโหมากนะ ที่ไม่เกรงใจกันเลย
แล้วก็ได้ยิน คนเสียงดังสุดพูดขึ้นมา
"นานๆ จะได้มีโอกาสมาสักที..." ด้วยน้ำเสียงของเขา เหมือนอยากให้เพื่อนอยู่ด้วยกันก่อน
ตอนนั้นความโกรธ ลดลงมาเยอะเลย เกิดความเห็นใจ เข้าใจเขาขึ้นมา
สรุปกว่าจะเงียบ ก็ปาเข้าไปตีสอง 555


ราตรีสวัสดิ์