อยากรวย ต้องดู! เทคนิคหาเงินแบบ มหาเศรษฐี EP5 - เจ้าของ TIKTOK (จาง อีหมิง)


อยากรวย ต้องดู! เทคนิคหาเงินแบบ มหาเศรษฐี EP5 - เจ้าของ TIKTOK (จาง อีหมิง)






เป็นไปไม่ได้เลยที่คนในยุคอินเทอร์เน็ต จะไม่รู้จัก “ติ๊กต๊อก” (TIKTOK) แอปพลิเคชั่นคลิปวิดีโอสั้นที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักทั่วโลก และพุ่งแรงขึ้นในช่วง
โควิด-19 ที่ทุกคนติดล็อกอยู่ที่บ้านเป็นระยะเวลานาน จนทำให้มียอดผู้ใช้แอปพลิเคชั่นนี้ทั่วโลกถึง 800 ล้านบัญชี และมีการดาวน์โหลดถึง 2 พันล้านครั้ง หลังจากที่แจ้งเกิดเพียง 4 ปี กลายเป็นแอปเขย่าโลก แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ “ติ๊กต๊อก” (TIKTOK) เจ้าของแอปพลิเคชั่น “ติ๊กต๊อก” (TIKTOK) ที่แน่นอนว่าเขาไม่ได้รวยขึ้นมาจากโชคช่วยอย่างแน่นอน ๆ แล้วอะไรคือจุดเริ่มทำให้เขาประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ และเขามีแนวคิดอย่างไร ทำไมถึงได้กลายมาเป็นมหาเศรษฐีอย่างในปัจจุบัน บทความนี้มีคำตอบให้ครับ…


เพี้ยนเงือก


บทความนี้จะเป็นการเปิดชีวิตในการหาเงินของ จาง อี้หมิง (Zhang Yiming) จากวิศวกรรมซอฟแวร์ธรรมดา สู่ความมั่งคั่งเป็นเศรษฐีอันดับที่ 9 ของจีน และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในบรรดาแอปพลิเคชั่นโซเชียลมีเดียที่เขาได้สร้างขึ้นมานั้น กำลังได้รับความนิยมและมีผู้ใช้งานหน้าใหม่มากที่สุดในขณะนี้เห็นจะไม่มีใครเกินอย่าง ติ๊กต๊อก (TIKTOK) แอปวิดีโอสั้นที่ตอบโจทย์และโดนใจคนรุ่นใหม่อย่างล้นหลาม ทีนี้ก่อนที่เราจะไปเรียนรู้เทคนิคการหาเงินจาก จาง อี้หมิง (Zhang Yiming) เราก็ต้องไม่ลืมที่จะมารู้จักที่ไปที่มาของบุคคลท่านนี้กันสักหน่อย ว่าจุดเริ่มต้นของความสำเร็จจากคนธรรมดาทั่วไปสู่มหาเศรษฐีเขามีแนวคิดอย่างไร ตลอดจนสามารถประสบความสำเร็จได้แบบไหนอย่างในทุกวันนี้

จาง อี้หมิง (Zhang Yiming) เป็นชาวจีนแคะจากมณฑลฝูเจี้ยน แม่เป็นพยาบาล พ่อทำงานในหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ท้องถิ่น ซึ่งใครจะรู้ว่าอาชีพการงานของพ่อเขาเองเป็นตัวบ่มเพาะความสนใจของเขาในด้านเทคโนโลยี จากที่เพื่อน ๆ ของพ่อมักแวะมาที่บ้านเพื่อดื่มชาและคุยเรื่องการสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ ๆ จนเขาได้เรียนจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยนานไคในปี 2005 ในคณะวิศวกรรมซอฟแวร์ และได้สมรสกับภรรยาที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย

โดยงานแรกหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยของ จาง อี้หมิง (Zhang Yiming)  คือการได้มาสมัครเข้าทำงานที่บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง MICROSOFT แต่แล้วความจำเจและน่าเบื่อหน่ายจากสารพัดระเบียบในออฟฟิศของชีวิตมนุษย์เงินเดือน ที่ถึงแม้จะได้รับค่าตอบแทนที่สูง (มาก) แต่มันกลับไร้ซึ่งความท้าทาย จาง อี้หมิง (Zhang Yiming) จึงตัดสินใจลาออก และได้เข้าสมัครทำงานที่บริษัท STARTUP ที่กำลังเริ่มก่อร่างสร้างตัว (ณ เวลานั้น) อย่าง FANFOU (ทวิตเตอร์ของประเทศจีน) แต่เมื่อได้ลองทำงานในจุดนี้ไปแล้ว ตัวเขาเองก็ยังรู้สึกว่างานนี้มันยังไม่ใช่ จึงตัดสินใจค้นหาความท้าทายอีกครั้ง ด้วยการไปทำงานให้กับบริษัท STARTUP ที่มีชื่อว่า KUNUX เป็นบริษัทที่เกี่ยวกับการค้นหาตั๋วโดยสาร และเจ้านายของเขาได้ชื่นชอบผลงานของเขามาก ทำให้เขาขึ้นสู่ตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคในเวลาแค่เพียงปีเดียว ซึ่งถือว่าหนึ่งจุดเปลี่ยนในชีวิตของ BILLIONAIRE (มหาเศรษฐีพันล้าน)ผู้นี้!!
 

เพี้ยนฮัลโหล
 
 
ขอบคุณเครดิตรูปภาพจาก https://www.thansettakij.com/content/world/448945


เมื่อปี 2012 จาง อี้หมิง (Zhang Yiming) ได้ตั้งบริษัท ไบต์แดนซ์ ขึ้นมา ณ กรุงปักกิ่ง เพื่อพัฒนาเกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อมูลต่าง ๆ แก่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนโดยมี AI ทำหน้าที่คัดเลือกให้ว่าผู้ใช้มือถือน่าจะสนใจข้อมูลเกี่ยวกับอะไร ซึ่งวิสัยทัศน์นี้ถือว่าล้ำมาก และต่อมาในปี 2019 บริษัท ไบต์แดนซ์ บริษัทแม่ของติ๊กต๊อกมีรายได้ถึง 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.27 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 1 เท่าตัว และทำกำไรถึง 3 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 9.3 หมื่นล้านบาท) โดยแอปพลิเคชั่น ติ๊กต๊อก (TIKTOK)  เปิดให้บริการครั้งแรกในประเทศจีนเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2016 ภายใต้ชื่อ “โถวอิน” 

และ ติ๊กต๊อก (TIKTOK) จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่ใช่ด้วยศักยภาพของ จาง อี้หมิง (Zhang Yiming) ในการเลือกใช้เทคโนโลยีเข้าสู่แพลตฟอร์มสร้างวิดีโอเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แอปพลิเคชั่นนี้มาแรง และความสำเร็จอาจจะไม่เกิดขึ้น หากบริษัท ไบต์แดนซ์ ไม่ได้ตัดสินใจซื้อ “มิวสิคคลี่” แอปพลิเคชั่นทำวิดีโอสั้น ที่ผู้ใช้สามารถใส่เพลงเพื่อร้องหรือเต้นตามซึ่งเป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกา ซึ่งหลังจากที่เขาได้ซื้อแอปพลิเคชั่นนี้มาเมื่อปี 2017 ทำให้แอปพลิเคชั่น ติ๊กต๊อก (TIKTOK)  ได้ฐานผู้ใช้แอปมิวสิคคลี่ในสหรัฐมากด้วย และเติบโตขึ้นมาเรื่อย ๆ จนไตรมาสที่ 1 ปีนี้มีการดาว์นโหลดแอป ติ๊กต๊อก (TIKTOK) ในสหรัฐถึง 130 ล้านครั้ง ซึ่งเกิดจากไอเดียของ จาง อี้หมิง (Zhang Yiming)  ที่ปัจจุบันได้มีอายุ 37 ปี ที่เป็นมหาเศรษฐีและประสบความสำเร็จอย่างมากอย่างทุกวันนี้ 

เพี้ยนเจอเก้ง


เป็นอย่างไรบางครับ ผมต้องบอกเลยว่าบทความนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สำคัญในการลองผิดลองถูกและเกิดผลลัพธ์ที่มีรายได้มหาศาลของ จาง อี้หมิง (Zhang Yiming)   ซึ่งจากนี้ไปเราจะมาไขปริศนากันนะครับว่า บุคคลท่านนี้เขาสามารถหาเงินจนเป็นมหาเศรษฐีได้อย่างไร และใช้แนวคิดไหนในการเริ่มต้นธุรกิจ ดังนี้

1.      แก้ปัญหาให้กับผู้คน : บางครั้งการแก้ไขปัญหาให้กับผู้คนไม่จำป็นต้องเป็นต้องเป็นสิ่งของเพียงอย่างเดียว แต่สามารถมาในรูปแบบความสนุกสนานและคลายความเหงาของคนได้ ซึ่งในยุคนี้ผู้คนมักจะให้ความสำคัญกับตัวเองในโลกโซเชียลมีเดียมากขึ้น

2.      แก้ไขปัญหาให้กับผู้คนหมู่มาก : เนื่องจาก ณ ขณะนั้นประเทศจีนยังไม่ได้มีแอปพลิเคชั่นเกี่ยวกับการเล่นโซเชียลมีเดียที่กว้างขวางเท่ากับคนทั่วไป เมื่อเกิดแอป ติ๊กต๊อก (TIKTOK) ขึ้นมา เพื่อสร้างความบันเทิงและสามารถสร้างกิจกรรมและกิจวัตรประจำตัวด้วยการเต้น การร้องเพลง หรือการทำคลิปสั้นออกมา ทำให้คนจีนรู้สึกถึงความแปลกใหม่และเกิดการแชร์อย่างแพร่หลาย จนต่อมาแอป ติ๊กต๊อก (TIKTOK) ได้ขยายฐานบัญชีผู้เล่นไปทั่วโลกบวกกับอยู่ในสภาวะวิกฤตโรคระบาดอย่างโควิด-19 ทุกคนทั่วโลกจำเป็นที่จะกักตัวอยู่บ้านเป็นเวลานาน จึงทำให้เกิดความเบื่อหน่าย และโดยความที่แอป ติ๊กต๊อก (TIKTOK) โด่งดังมาสักระยะแล้ว ก็ยิ่งดังควบคุมไปทั่วโลกในชั่วข้ามคืน จากการแชร์บนโลกอินเทอร์เน็ต นั่นเอง

3.      ต้นทุนเฉลี่ยต่อผู้ใช้งาน ต่ำมาก : หลังจากที่ จาง อี้หมิง (Zhang Yiming) ได้สร้างแอปพลิเคชั่น “โถวอิน” ขึ้นมาในช่วงแรก ก็มีการค่อย ๆ พัฒนาแอปพลิเคชั่นนี้ขึ้นมาเรื่อย ๆ จากเดิม จนกลายมาแอปพลิเคชั่น ติ๊กต๊อก (TIKTOK) ที่เป็นการลงทุนที่ไม่ซับซ้อนและรายได้ส่วนใหญ่มาจากการทำโฆษณา และยิ่งแอปของเขาโด่งดังมากแค่ไหน โฆษณาก็จะยิ่งเยอะขึ้นมากเท่านั้น ก็เปรียบเสมือนว่า จาง อี้หมิง (Zhang Yiming) ได้สร้าง Passive Income ไปในตัวได้อีกด้วย
 
 
 
ขอบคุณเครดิตภาพจาก https://www.marketingoops.com/exclusive/tiktok-and-the-end-of-vanity-metric/

ดังนั้น สิ่งที่คนสำเร็จหรือคนที่สามารถเป็นมหาเศรษฐีได้ในเวลาอันรวดเร็ว และใช้กลยุทธ์ในการหาเงินที่เหมือน ๆ กัน ถึงแม้ว่ารูปแบบการทำสินค้าและบริการจะแตกต่างกันก็ตาม นั่นก็คือ การแก้ไขปัญหาให้กับคน ซึ่งดูเหมือนว่าปัญหาของคนบนโลกใบนี้ดูเหมือนจะมีเข้ามาให้แก้ไขอยู่ตลอด ขึ้นอยู่กับว่าคุณสามารถมองเห็นช่องทางการหาเงินจากสิ่งนั้นเมื่อไหรเท่านั้นเองครับ แล้วถ้าเป็นคุณล่ะครับ คุณคิดว่าอย่างไหร่เมื่อฟังมาถึงตรงนี้แล้ว พอจะมีไอเดียหรือแผนธุรกิจขึ้นมาได้บ้างหรือยัง สามารถคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นมาได้ตามด้านล่างนี้เลยนะครับ 
 

เพี้ยนกินกล้วย

================================================================================

   สำหรับใครที่อยากได้รับอรรถรสเพิ่มมากขึ้น สามารถคลิกวีดีโอได้ตามด้านล่างนี้นะครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่