เป็นแฟนกันก่อนแต่งงาน 13 ปี คบตั้งแต่สมัยมัธยม ช่วง11 ปีแรก ลักษณะการคบคือไปเช้า-เย็นกลับ คบกันอย่างลับๆ เพราะฉันพักอยู่กับพ่อแม่ซึ่งค่อนข้างจะถือตามวัฒนธรรมโบราณมากๆ ไม่อยากให้มีแฟน จนกระทั่งปีที่ 12-13 ที่บ้านรับรู้ ก็เปิดเผยมากขึ้น ไปเที่ยวด้วยกันบ้าง ปีละ 1-2 ครั้ง แฟนเป็นคนสม่ำเสมอ แข็งๆ รักครอบครัว ใช้ชีวิตสบายๆ ใจเย็น เป็นมิตร มีอาชีพที่มั่นคง ตัดสินใจแต่งงาน จนกระทั่งหลังแต่งงานและต้องมาอยู่ด้วยกัน...
ฉันเป็น working women เต็มตัว ทำงานหนัก ในหนึ่งเดือนหยุดไม่เกิน 4 วัน คิดว่าตัวเองเป็นคนขยันคนหนึ่ง อยากจะสร้างเนื้อสร้างตัวเพื่อครอบครัว เพื่อความเป็นอยู่ของลูกๆ ในอนาคต พื้นฐานของเราทั้งคู่ไม่มีสมบัติ ไม่มีที่ทางติดตัว ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกว่าต้องสู้กับเรื่องนี้ เรายังทำงานคนละจังหวัด หลังแต่งงานได้ 1 ปี ฉันมีลูกคนแรก (ปัจจุบันมี 2) ลูกๆ ดิฉันเป็นคนดูแลทั้งหมด เคยชวนสามีมานั่งปรับแผนในอนาคต (ก่อนแต่งสามีมีหนี้ก้อนใหญ่ ตอนนั้นเราได้วางแผนคุยกันเรื่องลดหนี้ จนทำสำเร็จ) เขาบอกมาว่ายังไม่ได้คิด คิดแค่ว่าใช้ชีวิตให้ผ่านไปทุกวันก็พอแล้ว ไม่อยากจะปวดหัว นี่เป็นจุดเริ่มต้นของความแตกต่าง
ชีวิตหลังแต่งงานทำให้ได้รู้ว่าเรามีความต่างกันมากกว่าที่คาดเอาไว้ ไม่ได้มองว่าใครผิด แต่มันมีความแตกต่าง ความสบายๆ ของสามี บางครั้งก็ทำให้รู้สึกอึดอัด จนคิดว่าตอนนี้มันควรจะลำบากเพื่ออนาคตก่อนไหม เช่น นิสัยตื่นสาย มันจะไม่เป็นอะไรเลย หากเราไม่ได้มีลูกด้วยกัน ช่วงโควิดสามีมีการ WFH กลับมาเลี้ยงลูกอยู่บ้าน พอไม่พยายามจะช่วย มันทำให้คนเป็นแม่อย่างเราต้องลำบากขึ้น ต้องตื่นเช้าขึ้นไม่เช่นนั้นจะทำงานไม่ทัน ถ้าไม่ทำก็เป็นห่วงลูกๆ และยังมีอีกหลายๆ เรื่องที่เป็นแบบนี้ ได้มีการคุยกันหลายครั้ง เพราะไม่อยากจะจบปัญหาด้วยการเลิกกัน คิดเสมอว่าจะทำอย่างไรดี แต่พอคุยกันหลายครั้งในเรื่องเดิม แล้วมันไม่ถูกแก้ไข เขาเหมือนไม่เห็นสัญญาณเตือนกับสิ่งที่ฉันพยายามจะบอกว่า "ฉันไม่ไหวแล้วนะ ช่วยฉันด้วย" กลายเป็นเรื่องเหมือนยายแก่ขี้บ่น
ฉันอ่อนล้ามาตลอดหลายปีตามสไตล์แม่ลูกอ่อนที่ทำงานหนักทั้งกลางวันกลางคืน เครียดกับการทำงาน (จากกระทู้ที่แล้ว) เครียดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว ไม่ได้พัก ร่างกายมันเริ่มจะแย่ มีโรคประจำตัวเพิ่ม ต้องกินยาพบแพทย์ตลอด นอนไม่หลับ อารมณ์แปรปรวนค่อนไปทางลบ ร้องไห้ได้อย่างไม่มีเหตุผล ไม่มีช่องหายใจ เหมือนต้องเป็นคนแบกรับทุกๆ อย่างอยู่คนเดียว
ตอนนี้ที่รู้สึกเลย ก็คือ ไม่มีความสุข บางครั้งเราก็ไม่สามารถรับมือกับหลายๆ เรื่องได้พร้อมกัน ไม่สามารถรับมือกับความคาดหวังกับความไว้ใจ ที่คิดว่าฉันทำได้ ฉันต้องไหวอยู่แล้ว จริงๆ แล้ว มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น..... ฉันก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เหนื่อยเป็น และก็อยากได้รับการดูแลเหมือนกัน
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นล่วงหน้า
เมื่อฉันไม่ได้มีความสุขกับชีวิตแต่งงาน (อย่างที่คิด)
ฉันเป็น working women เต็มตัว ทำงานหนัก ในหนึ่งเดือนหยุดไม่เกิน 4 วัน คิดว่าตัวเองเป็นคนขยันคนหนึ่ง อยากจะสร้างเนื้อสร้างตัวเพื่อครอบครัว เพื่อความเป็นอยู่ของลูกๆ ในอนาคต พื้นฐานของเราทั้งคู่ไม่มีสมบัติ ไม่มีที่ทางติดตัว ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกว่าต้องสู้กับเรื่องนี้ เรายังทำงานคนละจังหวัด หลังแต่งงานได้ 1 ปี ฉันมีลูกคนแรก (ปัจจุบันมี 2) ลูกๆ ดิฉันเป็นคนดูแลทั้งหมด เคยชวนสามีมานั่งปรับแผนในอนาคต (ก่อนแต่งสามีมีหนี้ก้อนใหญ่ ตอนนั้นเราได้วางแผนคุยกันเรื่องลดหนี้ จนทำสำเร็จ) เขาบอกมาว่ายังไม่ได้คิด คิดแค่ว่าใช้ชีวิตให้ผ่านไปทุกวันก็พอแล้ว ไม่อยากจะปวดหัว นี่เป็นจุดเริ่มต้นของความแตกต่าง
ชีวิตหลังแต่งงานทำให้ได้รู้ว่าเรามีความต่างกันมากกว่าที่คาดเอาไว้ ไม่ได้มองว่าใครผิด แต่มันมีความแตกต่าง ความสบายๆ ของสามี บางครั้งก็ทำให้รู้สึกอึดอัด จนคิดว่าตอนนี้มันควรจะลำบากเพื่ออนาคตก่อนไหม เช่น นิสัยตื่นสาย มันจะไม่เป็นอะไรเลย หากเราไม่ได้มีลูกด้วยกัน ช่วงโควิดสามีมีการ WFH กลับมาเลี้ยงลูกอยู่บ้าน พอไม่พยายามจะช่วย มันทำให้คนเป็นแม่อย่างเราต้องลำบากขึ้น ต้องตื่นเช้าขึ้นไม่เช่นนั้นจะทำงานไม่ทัน ถ้าไม่ทำก็เป็นห่วงลูกๆ และยังมีอีกหลายๆ เรื่องที่เป็นแบบนี้ ได้มีการคุยกันหลายครั้ง เพราะไม่อยากจะจบปัญหาด้วยการเลิกกัน คิดเสมอว่าจะทำอย่างไรดี แต่พอคุยกันหลายครั้งในเรื่องเดิม แล้วมันไม่ถูกแก้ไข เขาเหมือนไม่เห็นสัญญาณเตือนกับสิ่งที่ฉันพยายามจะบอกว่า "ฉันไม่ไหวแล้วนะ ช่วยฉันด้วย" กลายเป็นเรื่องเหมือนยายแก่ขี้บ่น
ฉันอ่อนล้ามาตลอดหลายปีตามสไตล์แม่ลูกอ่อนที่ทำงานหนักทั้งกลางวันกลางคืน เครียดกับการทำงาน (จากกระทู้ที่แล้ว) เครียดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว ไม่ได้พัก ร่างกายมันเริ่มจะแย่ มีโรคประจำตัวเพิ่ม ต้องกินยาพบแพทย์ตลอด นอนไม่หลับ อารมณ์แปรปรวนค่อนไปทางลบ ร้องไห้ได้อย่างไม่มีเหตุผล ไม่มีช่องหายใจ เหมือนต้องเป็นคนแบกรับทุกๆ อย่างอยู่คนเดียว
ตอนนี้ที่รู้สึกเลย ก็คือ ไม่มีความสุข บางครั้งเราก็ไม่สามารถรับมือกับหลายๆ เรื่องได้พร้อมกัน ไม่สามารถรับมือกับความคาดหวังกับความไว้ใจ ที่คิดว่าฉันทำได้ ฉันต้องไหวอยู่แล้ว จริงๆ แล้ว มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น..... ฉันก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เหนื่อยเป็น และก็อยากได้รับการดูแลเหมือนกัน
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นล่วงหน้า