หนังสือเล่มนี้ บอกความลับที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ ชีวิตของคุณถูกกำหนดด้วยจิตของตัวคุณเอง
คุณจะมีอิสรภาพได้เท่าที่คุณต้องการ หากคุณรู้วิธีใช้จิตใต้สำนึก
สรุป How to หลัก ๆ มาให้ ที่จะพาคุณไปพบกับ...ความสุข ความสงบ ความรัก ความกลมเกลียว ความมั่งคั่ง ผ่านการฝึกใช้พลังจากจิตใต้สำนึกของคุณเพราะทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต ล้วนเกิดมาจากเมล็ดพันธุ์แห่งความคิด ที่คุณหว่านลงไปในจิตใต้สำนึกของคุณ หากคุณรู้ว่า ความคิด คือต้นกำเนิดเรื่องราวในชีวิตคุณ แต่มันไม่ใช่แค่เพียงเท่านั้น.... คุณต้องรู้วิธีทั้งหมดในการใช้ความคิด เพื่อดึงพลังจิตใต้สำนึกให้เกิดผล ตอนนี้ความลับทั้งหมดมาอยู่ในเล่มนี้แล้ว และคุณได้มีโอกาสมารับรู้ความลับนี้
หากคุณต้องการ กำหนดชีวิตด้วยจิตใต้สำนึกของคุณ คุณต้องรู้ก่อนว่าพลังนั้นสามารถดึงมาใช้ได้อย่างไร
มาเข้าใจกันก่อน จิตของคุณมีอยู่ 2 ระดับ
1. จิตสำนึก คือสิ่งที่รับรู้ข้อมูลจากสิ่งภายนอก จากประสาทสัมผัส และประสบการณ์ โดยสามารถไตร่ตรอง รับรู้สิ่งที่ถูกหรือผิด สามารถสร้างภาพจากความปรารถนา หรือกระทั่งความกลัวให้เกิดขึ้นในจิต
2. จิตใต้สำนึก คือสิ่งที่จะตอบสนองต่อจิตสำนึกของคุณ เป็นพลังแหล่งขุมทรัพย์ของคุณที่ไม่มีที่สิ้นสุด เป็นพลังอันหนึ่งเดียวกับจักรวาล ที่สร้างปรากฏการณ์ทุกอย่างให้เกิดขึ้น จิตใต้สำนึกสร้างร่างกาย ดูแลระบบการทำงานของร่างกาย และสามารถรักษาร่างกายของคุณ ความสามารถที่ลึกลงไปของจิตใต้สำนึก คือสามารถรับรู้ทุกอย่างได้โดยไม่ต้องผ่านประสาทสัมผัส เป็นความหยั่งรู้หรือปัญญาญาณ หากคุณเปิดรับ คุณจะได้รับคำตอบของทุกคำตอบ
หลักการทำงานร่วมกันของจิต
ภาพ ความเชื่อ ความปราถนา ความกลัว ที่คุณคิดอยู่สม่ำเสมอในจิตสำนึก ไม่ว่าจะด้านลบ หรือด้านบวก จะถูกส่งไปยังจิตใต้สำนึก จิตใต้สำนึกจะบันทึกภาพเหล่านั้น บันทึกความรู้สึกเหล่านั้นที่มากพอ และยอมรับว่าสิ่งนั้นเป็นความจริงแม้จะยังไม่เกิดขึ้นจริงในโลกภายนอก จากนั้นจะสะท้อนภาพนั้นออกมาในโลกความจริง
เหตุการณ์ในชีวิตที่ผ่านมาของคุณ จนถึงปัจจุบัน มาจากการสะท้อนโลกภายในของคุณ
“หากคุณเชื่อว่าคุณจะจน คุณก็จะจน”
“หากคุณเชื่อว่าคุณจะรวย คุณก็จะรวย”
นี่เป็นเหตุผล ที่คุณจะไม่โทษชะตาฟ้าดินอีกต่อไป ถ้าคุณรับรู้และสัมผัสได้ถึงความลับและความมหัศจรรย์เหล่านี้
หลังจากนี้ ชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไป หากคุณนำวิธีใช้พลังจิตใต้สำนึกให้ได้ผล ตามวิธีเหล่านี้ไปใช้อย่างต่อเนื่อง
ใช้คำอธิษฐาน และจินตนาการภาพที่เสมือนจริง
• นึกในสิ่งที่คุณปรารถนา ผ่านคำพูด และภาพที่เป็น ผลลัพธ์สุดท้ายที่คุณต้องการ จิตใต้สำนึกจะนำพาทุกสิ่งที่จำเป็นต่อการไปถึงสิ่งนั้นมาให้คุณ นำพากระบวนการความคิด วิธีไปถึงเป้าหมายมาให้คุณโดยที่คุณไม่คาดคิด
• คุณเชื่อสุดหัวใจว่าคุณจะได้มันมา เพราะถ้าหากคุณมีความสงสัยแม้เพียงนิดเดียว นั่นจะเป็นตัวขัดขวางการทำงานของจิตใต้สำนึก
• ทุกครั้งที่คุณจินตนาการภาพขึ้นมา คุณเชื่อว่าภาพ ๆ นั้นเกิดขึ้นจริง ๆ ในตอนนี้ พร้อมใส่ความรู้สึกลงไปในภาพ ๆ นั้น ทำให้ภาพ ๆ นั้น เหมือนเหตุการณ์บนโลกแห่งความจริงมากที่สุด ไม่ใช่เพียงแค่จินตนาการ
• วางใจให้สบาย ๆ อย่าได้กังวล ทำจิตใจให้เหมือนเด็กน้อยที่ใสซื่อ ที่เหมือนกับไม่ว่าผู้ใหญ่จะบอกอะไรก็เชื่อง่าย ๆ โดยไม่มีข้อสังสัย
• หาเวลาผ่อนคลายและเงียบสงบ เพื่อที่จะนึกถึงภาพ ๆ นั้นได้สมบูรณ์ ทำเป็นประจำสม่ำเสมอทุก ๆ วัน เพื่อให้จิตใต้สำนึกยอมรับว่าภาพนั้นเป็นความจริง
• คุณจะสื่อสารกับจิตใต้สำนึก ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ในตอนที่คุณอยู่ในช่วงกึ่งหลับกึ่งตื่น เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่จิตสำนึกของคุณหยุดพัก คือเป็นช่วงที่ความไม่เชื่อ ความขัดแย้งในจิตของคุณเหลือน้อยกว่าในทุก ๆ ช่วง ซึ่งจะเป็นช่วง “ก่อนนอน ตอนตื่น และระหว่างวันที่คุณพัก” ในที่สงบและผ่อนคลาย
ตัวอย่าง
คุณปรารถนาที่จะมีรถยนต์ขับ ภายในปีนี้! ให้คุณพูดกับตัวเองว่า “ด้วยพลังของจิตใต้สำนึกของฉันที่ไม่มีที่สิ้นสุด ฉันเป็นผู้มีปัญญา และมีความสามารถ ที่จะมีรถยนต์เป็นของตัวเองภายในปีนี้ ฉันขอส่งคำขอนี้ไปยังจิตใต้สำนึก ที่รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไร ให้คำขอนี้กลายเป็นจริง ขอขอบคุณสำหรับคำตอบที่สมบูรณ์แบบ” พร้อมนึกถึงภาพที่คุณเปิดประตูรถ ขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัย และรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มา คุณต้องใส่ความรู้สึกลงไปถึงความภาคภูมิใจนั้นจริง ๆ ความรู้สึกที่เหมือนว่า เหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้นจริงแล้ว และอย่ามีความสงสัยแม้แต่น้อย ! เมื่อคุณทำแบบนี้ และเชื่ออย่างสุดหัวใจ จิตใต้สำนึกจะเชื่อว่าภาพนั้นเป็นความจริง และจะส่งทุกอย่างที่จำเป็นให้คุณ เพื่อให้คุณได้ภาพนั้นมาอยู่ในชีวิตจริงของคุณ
จิตใต้สำนึกจะรู้ทุกคำตอบ
ไม่ว่าคุณจะขออะไร หรือต้องการคำตอบอะไร จิตใต้สำนึกจะส่งคำตอบมาให้คุณ รู้ทุกวิธีที่คุณต้องการ แม้คุณจะไม่เคยรู้มาก่อน โดยจะส่งผ่านมาเป็นแรงกระตุ้น ภาพที่แวบเข้ามาในหัว หรือแม้กระทั่งในความฝัน ผ่านสัญญาณการรับรู้บางอย่างให้กับคุณ แล้วคุณจะทึ่ง ถึงความมหัศจรรย์นั้น ถ้าหากคุณเชื่อว่าจิตใต้สำนึกของคุณจะส่งมอบความมหัศจรรย์ให้กับคุณ เชื่อเท่านั้น!
“ศัตรูขั้วตรงข้ามของการใช้พลังจิตใต้สำนึก” นี่เป็นสิ่งสำคัญที่คุณจำเป็นต้องรู้!
เพราะมีผลอย่างมากต่อชีวิตแห่งความสำเร็จของคุณ
พลังจิตใต้สำนึกนั้นดีกับคุณ รักษาคุณ และมอบความมหัศจรรย์ให้กับคุณ หากคุณรู้วิธีที่จะใช้อย่างลึกซึ้ง แต่ถ้าหากคุณไม่รู้ และปล่อยจิตให้ล่องลอยไปตามความคิด โดยที่คุณไม่ทันระวัง สิ่งนั้นย่อมเกิดผลกับคุณเช่นกัน ทุกคนบนโลก “ใช้กฏของจักรวาลเดียวกัน” ไม่ว่าเขาผู้นั้น จะรู้จักพลังจิตใต้สำนึกนี้หรือไม่ ระลึกไว้ว่า สถานการณ์รอบตัวของชีวิตของคุณ มาจากจิตใต้สำนึกของคุณ และถ้าหากคุณอยากมีชีวิตที่ดี ขอให้คุณมีสติกับความคิดของตัวเองอยู่เสมอ
ศัตรูขั้วตรงข้ามของพลังจิตใต้สำนึก
1. การคิดลบ และคำพูดเชิงลบ
คุณรู้มั้ย? จิตใต้สำนึกพร้อมที่จะตอบสนองคุณ ไม่ว่าคุณจะคิดบวก หรือคิดลบ จิตใต้สำนึกคือเมมโมรี่การ์ดที่จะบันทึกทุกสิ่งที่คุณคิด ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดีหรือไม่ หากคุณคิดเชิงบวกอยู่เสมอ ชีวิตของคุณจะเป็นไปตามที่คุณปรารถนาตามความคิด และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณพูดคำพูดเชิงลบออกมา หรือแม้แต่เสียงในใจเชิงลบของคุณ เสียงนั้นจะส่งไปถึงจิตใต้สำนึกให้ทำงานตามคำพูดของคุณ เช่นเดียวกับที่คุณส่งคำอธิษฐานเข้าไป
2. ความกลัว
พลังจิตใต้สำนึกต้องใช้ความเชื่อ ความศรัทธา และแรงปรารถนา ถ้าค้นพบว่า ใจเรามีความกลัวบางอย่างอยู่อย่างต่อเนื่อง ความกลัวจะส่งผลต่อโลกภายนอกของคุณให้เกิดขึ้นจริงได้เช่นเดียวกัน
3. จินตนาการเชิงลบ
จินตนาการมาคู่กับความกลัว เมื่อใดที่เรากลัว เรามักจินตนาการภาพสิ่งที่เรากลัวว่าจะเกิดขึ้น และถ้าหากคุณกำลังจินตนาการภาพสิ่งที่คุณกลัวอยู่บ่อย ๆ ขอให้หยุด! พึงระวังภาพในหัวของตัวเอง และจำไว้เสมอว่า ภาพในหัวของคุณ (ที่อยู่บนพื้นฐานความจริงของโลก) จะสามารถเกิดขึ้นในชีวิตจริงของคุณได้
4. ความสงสัย
สำคัญที่สุดในการใช้พลังจิตใต้สำนึก คือคุณต้อง “เชื่อสุดหัวใจ” ว่าสิ่งที่คุณขอ จะเป็นความจริง หากคุณมีความสงสัยแม้เพียงนิดเดียว แม้คุณจะพยายามส่งคำอธิษฐาน และจินตนาการภาพขนาดไหน แต่ความสงสัย คือสิ่งที่จะขัดขวาง พลังของคำอธิษฐานของคุณ
คุณรู้แล้วว่า อะไรที่เป็นตัวขัดขวางความสำเร็จในชีวิต หลังจากนี้เราเชื่อว่า คุณจะเริ่มมีสติกับความคิดมากขึ้น
อยากประสบความสำเร็จในชีวิต คุณต้องรู้วิธีกำจัดต้นตอของความล้มเหลว
ด้วยพลังจิตใต้สำนึกของคุณ!
ความลับที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ ว่าจริง ๆ แล้ว "ความล้มเหลวเกิดจากอะไร?" ชีวิตของคุณ ถูกดำเนินไปตามความรู้สึกนึกคิดของคุณ และภาพในจินตนาการ ที่มาพร้อมความรู้สึกของคุณ อำนาจของพลังจิตใต้สำนึก จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จอย่างที่หวัง แต่ความกลัวที่ครอบงำจิตใจของคุณ จะเป็นตัวขัดขวางความสำเร็จของคุณโดยที่คุณไม่รู้ตัว
ความกลัว คือต้นตอของ ความล้มเหลว ความพ่ายแพ้ ความผิดหวัง ที่คุณไม่อยากจะเจอ แต่คุณกลับต้องเจอ ทุกครั้งที่คุณรู้สึกกลัวอะไรก็ตามในชีวิต สถานการณ์รอบตัวของคุณ จะเป็นไปตามนั้น เพราะพลังจิตใต้สำนึก พร้อมจะตอบสนองความรู้สึกของคุณอยู่เสมอ
- ความกลัว ส่งผลต่อ จินตนาการภาพ
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณกลัว หากคุณไม่ทันระวัง คุณจะจินตนาการภาพ ถึงเหตุการณ์ที่คุณไม่อยากจะเจอ
- ความกลัว ส่งผลต่อ ความรู้สึก
ความรู้สึกที่ว่า..."หากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นกับเรา เราจะต้องรู้สึก.....แน่ ๆ" รู้สึกอาย รู้สึกเจ็บปวด รู้สึกแพ้ หรือความรู้สึกใด ๆ ที่คุณไม่อยากให้เกิด แต่คุณจะเผลอรู้สึกไว้ล่วงหน้าแล้ว ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง จำไว้เสมอว่า จินตนาการภาพ ที่มาพร้อมความรู้สึกของคุณ คือสิ่งที่จิตใต้สำนึกจะตอบสนองคุณ และทำให้ภาพนั้นเป็นจริง อย่าปล่อยให้ความกลัว ถูกส่งไปยังจิตใต้สำนึกของคุณ พึงระวัง และมีสติ ต่อความคิดของคุณ ทุกขณะจิต...
หากคุณอยากประสบความสำเร็จ จงมองไปที่ "สิ่งตรงกันข้าม ของความกลัว"
เพ่งเล็งไปที่ความปราถนา
คุณลองสังเกตุตัวเองดี ๆ หากคุณมีความคาดหวังสิ่งไหน คุณมองภาพ ไปที่ "ความกลัว" หรือ "ความปราถนา"
"หากคุณอยากรวย หยุดจินตนาการถึงความจน" หยุดนึกภาพความจน หยุดความรู้สึกในตอนที่คุณกำลังจน หยุดความรู้สึกกลัวนั้นไว้ เดี๋ยวนี้เลย!! นึกภาพความสำเร็จ นึกภาพความสุขของคุณที่คุณได้จับเงินของคุณ ที่มาจากความมุ่งมั่นของคุณ และเชื่อสุดหัวใจว่า คุณทำได้แล้ว!
ขับไล่ความกลัว
คุณต้องขับไล่ความรู้สึกกลัวนั้น ออกไปจากตัวของคุณ ด้วยความแน่วแน่ คุณอาจตะโกนออกไปดัง ๆ ว่าคุณปราถนาสิ่งไหน และนับต่อจากนี้ ความกลัวไม่มีสิทธิ์มาครอบงำคุณอีกแล้ว พลังของจิตใต้สำนึกที่แท้จริงเท่านั้น ที่จะดูแลรักษาคุณ ไม่มีที่ว่างให้ความกลัว มาอยู่ภายในจิตอีกต่อไปแล้ว!
พูดชี้นำความสำเร็จ
คุณปราถนาสิ่งไหน จงพูดถึงสิ่งนั้น ด้วยพลังศรัทธา "ใช้วิธีที่สรุปไว้ให้ใน Part 2"
จงเชื่อสุดหัวใจ ว่า ณ ตอนนี้ คุณมีเพียงความสำเร็จ ที่รอคุณอยู่ตรงหน้าเท่านั้น จำไว้ว่า คุณคือผู้กำหนด ว่าคุณจะส่งสิ่งไหนไปยังจิตใต้สำนึก หากคุณส่งแรงปราถนาที่ไร้ความรู้สึกสงสัย และไร้ความกลัวเข้าไป พลังจิตใต้สำนึกที่เป็นหนึ่งเดียวของจักรวาลจะถูกดึงออกมาใช้อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้ชีวิตเป็นไปตามในสิ่งที่คุณปราถนา
หลังจากนี้ เชื่อว่าคุณจะมีสติ กับทุกภาพในจิต เสียงในจิต ความรู้สึกในจิตของคุณ ปล่อยให้พลังจิตใต้สำนึก ดึงดูดความสำเร็จเข้ามา และผลักดันความล้มเหลวออกไป ให้ไกลห่างชีวิตคุณ
หนังสือเล่มนี้ไม่มีขายตามร้านหนังสือ
ใครที่
อยากได้หนังสือเล่มนี้มาอ่าน ไปหา
ซื้อตามได้ใน Shopee นะคะ
พิมพ์ว่า "หนังสือพลังจิตใต้สำนึก" หารูปที่เป็นเล่มสีเหลือง ย้ำนะคะ ว่า
เล่มสีเหลือง ^^
เพราะเล่มสีเหลือง
คนแปลใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย เราลองอ่านเล่มอื่นมาหมดแล้ว เล่มสีเหลืองทำให้เราเกิดผลลัพธ์ได้จริง
หนังสือเล่มนี้มีเกือบ 600 หน้า หากคุณได้อ่านด้วยตัวเอง คุณจะซึมซับมันอย่างลึกซึ้งถ่องแท้
เราเชื่อว่าคุณจะพบความมหัศจรรย์เหมือนที่เราพบ และได้มาแชร์ให้คุณได้อ่าน แบบย่อ ๆ เนี่ยแหล่ะค่ะ ^^
[SR] รีวิว และสรุปหนังสือ "พลังจิตใต้สำนึก" The power of your subconscious mind ที่เปลี่ยนความคิดในการใช้ชีวิตของเรา
สรุป How to หลัก ๆ มาให้ ที่จะพาคุณไปพบกับ...ความสุข ความสงบ ความรัก ความกลมเกลียว ความมั่งคั่ง ผ่านการฝึกใช้พลังจากจิตใต้สำนึกของคุณเพราะทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต ล้วนเกิดมาจากเมล็ดพันธุ์แห่งความคิด ที่คุณหว่านลงไปในจิตใต้สำนึกของคุณ หากคุณรู้ว่า ความคิด คือต้นกำเนิดเรื่องราวในชีวิตคุณ แต่มันไม่ใช่แค่เพียงเท่านั้น.... คุณต้องรู้วิธีทั้งหมดในการใช้ความคิด เพื่อดึงพลังจิตใต้สำนึกให้เกิดผล ตอนนี้ความลับทั้งหมดมาอยู่ในเล่มนี้แล้ว และคุณได้มีโอกาสมารับรู้ความลับนี้
2. จิตใต้สำนึก คือสิ่งที่จะตอบสนองต่อจิตสำนึกของคุณ เป็นพลังแหล่งขุมทรัพย์ของคุณที่ไม่มีที่สิ้นสุด เป็นพลังอันหนึ่งเดียวกับจักรวาล ที่สร้างปรากฏการณ์ทุกอย่างให้เกิดขึ้น จิตใต้สำนึกสร้างร่างกาย ดูแลระบบการทำงานของร่างกาย และสามารถรักษาร่างกายของคุณ ความสามารถที่ลึกลงไปของจิตใต้สำนึก คือสามารถรับรู้ทุกอย่างได้โดยไม่ต้องผ่านประสาทสัมผัส เป็นความหยั่งรู้หรือปัญญาญาณ หากคุณเปิดรับ คุณจะได้รับคำตอบของทุกคำตอบ
หลักการทำงานร่วมกันของจิต
ภาพ ความเชื่อ ความปราถนา ความกลัว ที่คุณคิดอยู่สม่ำเสมอในจิตสำนึก ไม่ว่าจะด้านลบ หรือด้านบวก จะถูกส่งไปยังจิตใต้สำนึก จิตใต้สำนึกจะบันทึกภาพเหล่านั้น บันทึกความรู้สึกเหล่านั้นที่มากพอ และยอมรับว่าสิ่งนั้นเป็นความจริงแม้จะยังไม่เกิดขึ้นจริงในโลกภายนอก จากนั้นจะสะท้อนภาพนั้นออกมาในโลกความจริง
“หากคุณเชื่อว่าคุณจะจน คุณก็จะจน”
“หากคุณเชื่อว่าคุณจะรวย คุณก็จะรวย”
ใช้คำอธิษฐาน และจินตนาการภาพที่เสมือนจริง
• นึกในสิ่งที่คุณปรารถนา ผ่านคำพูด และภาพที่เป็น ผลลัพธ์สุดท้ายที่คุณต้องการ จิตใต้สำนึกจะนำพาทุกสิ่งที่จำเป็นต่อการไปถึงสิ่งนั้นมาให้คุณ นำพากระบวนการความคิด วิธีไปถึงเป้าหมายมาให้คุณโดยที่คุณไม่คาดคิด
• คุณเชื่อสุดหัวใจว่าคุณจะได้มันมา เพราะถ้าหากคุณมีความสงสัยแม้เพียงนิดเดียว นั่นจะเป็นตัวขัดขวางการทำงานของจิตใต้สำนึก
• ทุกครั้งที่คุณจินตนาการภาพขึ้นมา คุณเชื่อว่าภาพ ๆ นั้นเกิดขึ้นจริง ๆ ในตอนนี้ พร้อมใส่ความรู้สึกลงไปในภาพ ๆ นั้น ทำให้ภาพ ๆ นั้น เหมือนเหตุการณ์บนโลกแห่งความจริงมากที่สุด ไม่ใช่เพียงแค่จินตนาการ
• วางใจให้สบาย ๆ อย่าได้กังวล ทำจิตใจให้เหมือนเด็กน้อยที่ใสซื่อ ที่เหมือนกับไม่ว่าผู้ใหญ่จะบอกอะไรก็เชื่อง่าย ๆ โดยไม่มีข้อสังสัย
• หาเวลาผ่อนคลายและเงียบสงบ เพื่อที่จะนึกถึงภาพ ๆ นั้นได้สมบูรณ์ ทำเป็นประจำสม่ำเสมอทุก ๆ วัน เพื่อให้จิตใต้สำนึกยอมรับว่าภาพนั้นเป็นความจริง
• คุณจะสื่อสารกับจิตใต้สำนึก ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ในตอนที่คุณอยู่ในช่วงกึ่งหลับกึ่งตื่น เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่จิตสำนึกของคุณหยุดพัก คือเป็นช่วงที่ความไม่เชื่อ ความขัดแย้งในจิตของคุณเหลือน้อยกว่าในทุก ๆ ช่วง ซึ่งจะเป็นช่วง “ก่อนนอน ตอนตื่น และระหว่างวันที่คุณพัก” ในที่สงบและผ่อนคลาย
ตัวอย่าง
คุณปรารถนาที่จะมีรถยนต์ขับ ภายในปีนี้! ให้คุณพูดกับตัวเองว่า “ด้วยพลังของจิตใต้สำนึกของฉันที่ไม่มีที่สิ้นสุด ฉันเป็นผู้มีปัญญา และมีความสามารถ ที่จะมีรถยนต์เป็นของตัวเองภายในปีนี้ ฉันขอส่งคำขอนี้ไปยังจิตใต้สำนึก ที่รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไร ให้คำขอนี้กลายเป็นจริง ขอขอบคุณสำหรับคำตอบที่สมบูรณ์แบบ” พร้อมนึกถึงภาพที่คุณเปิดประตูรถ ขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัย และรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มา คุณต้องใส่ความรู้สึกลงไปถึงความภาคภูมิใจนั้นจริง ๆ ความรู้สึกที่เหมือนว่า เหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้นจริงแล้ว และอย่ามีความสงสัยแม้แต่น้อย ! เมื่อคุณทำแบบนี้ และเชื่ออย่างสุดหัวใจ จิตใต้สำนึกจะเชื่อว่าภาพนั้นเป็นความจริง และจะส่งทุกอย่างที่จำเป็นให้คุณ เพื่อให้คุณได้ภาพนั้นมาอยู่ในชีวิตจริงของคุณ
จิตใต้สำนึกจะรู้ทุกคำตอบ
ไม่ว่าคุณจะขออะไร หรือต้องการคำตอบอะไร จิตใต้สำนึกจะส่งคำตอบมาให้คุณ รู้ทุกวิธีที่คุณต้องการ แม้คุณจะไม่เคยรู้มาก่อน โดยจะส่งผ่านมาเป็นแรงกระตุ้น ภาพที่แวบเข้ามาในหัว หรือแม้กระทั่งในความฝัน ผ่านสัญญาณการรับรู้บางอย่างให้กับคุณ แล้วคุณจะทึ่ง ถึงความมหัศจรรย์นั้น ถ้าหากคุณเชื่อว่าจิตใต้สำนึกของคุณจะส่งมอบความมหัศจรรย์ให้กับคุณ เชื่อเท่านั้น!
ศัตรูขั้วตรงข้ามของพลังจิตใต้สำนึก
1. การคิดลบ และคำพูดเชิงลบ
คุณรู้มั้ย? จิตใต้สำนึกพร้อมที่จะตอบสนองคุณ ไม่ว่าคุณจะคิดบวก หรือคิดลบ จิตใต้สำนึกคือเมมโมรี่การ์ดที่จะบันทึกทุกสิ่งที่คุณคิด ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดีหรือไม่ หากคุณคิดเชิงบวกอยู่เสมอ ชีวิตของคุณจะเป็นไปตามที่คุณปรารถนาตามความคิด และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณพูดคำพูดเชิงลบออกมา หรือแม้แต่เสียงในใจเชิงลบของคุณ เสียงนั้นจะส่งไปถึงจิตใต้สำนึกให้ทำงานตามคำพูดของคุณ เช่นเดียวกับที่คุณส่งคำอธิษฐานเข้าไป
2. ความกลัว
พลังจิตใต้สำนึกต้องใช้ความเชื่อ ความศรัทธา และแรงปรารถนา ถ้าค้นพบว่า ใจเรามีความกลัวบางอย่างอยู่อย่างต่อเนื่อง ความกลัวจะส่งผลต่อโลกภายนอกของคุณให้เกิดขึ้นจริงได้เช่นเดียวกัน
3. จินตนาการเชิงลบ
จินตนาการมาคู่กับความกลัว เมื่อใดที่เรากลัว เรามักจินตนาการภาพสิ่งที่เรากลัวว่าจะเกิดขึ้น และถ้าหากคุณกำลังจินตนาการภาพสิ่งที่คุณกลัวอยู่บ่อย ๆ ขอให้หยุด! พึงระวังภาพในหัวของตัวเอง และจำไว้เสมอว่า ภาพในหัวของคุณ (ที่อยู่บนพื้นฐานความจริงของโลก) จะสามารถเกิดขึ้นในชีวิตจริงของคุณได้
4. ความสงสัย
สำคัญที่สุดในการใช้พลังจิตใต้สำนึก คือคุณต้อง “เชื่อสุดหัวใจ” ว่าสิ่งที่คุณขอ จะเป็นความจริง หากคุณมีความสงสัยแม้เพียงนิดเดียว แม้คุณจะพยายามส่งคำอธิษฐาน และจินตนาการภาพขนาดไหน แต่ความสงสัย คือสิ่งที่จะขัดขวาง พลังของคำอธิษฐานของคุณ
คุณรู้แล้วว่า อะไรที่เป็นตัวขัดขวางความสำเร็จในชีวิต หลังจากนี้เราเชื่อว่า คุณจะเริ่มมีสติกับความคิดมากขึ้น
ความกลัว คือต้นตอของ ความล้มเหลว ความพ่ายแพ้ ความผิดหวัง ที่คุณไม่อยากจะเจอ แต่คุณกลับต้องเจอ ทุกครั้งที่คุณรู้สึกกลัวอะไรก็ตามในชีวิต สถานการณ์รอบตัวของคุณ จะเป็นไปตามนั้น เพราะพลังจิตใต้สำนึก พร้อมจะตอบสนองความรู้สึกของคุณอยู่เสมอ
- ความกลัว ส่งผลต่อ จินตนาการภาพ
- ความกลัว ส่งผลต่อ ความรู้สึก
ความรู้สึกที่ว่า..."หากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นกับเรา เราจะต้องรู้สึก.....แน่ ๆ" รู้สึกอาย รู้สึกเจ็บปวด รู้สึกแพ้ หรือความรู้สึกใด ๆ ที่คุณไม่อยากให้เกิด แต่คุณจะเผลอรู้สึกไว้ล่วงหน้าแล้ว ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง จำไว้เสมอว่า จินตนาการภาพ ที่มาพร้อมความรู้สึกของคุณ คือสิ่งที่จิตใต้สำนึกจะตอบสนองคุณ และทำให้ภาพนั้นเป็นจริง อย่าปล่อยให้ความกลัว ถูกส่งไปยังจิตใต้สำนึกของคุณ พึงระวัง และมีสติ ต่อความคิดของคุณ ทุกขณะจิต...
หากคุณอยากประสบความสำเร็จ จงมองไปที่ "สิ่งตรงกันข้าม ของความกลัว"
เพ่งเล็งไปที่ความปราถนา
ขับไล่ความกลัว
คุณต้องขับไล่ความรู้สึกกลัวนั้น ออกไปจากตัวของคุณ ด้วยความแน่วแน่ คุณอาจตะโกนออกไปดัง ๆ ว่าคุณปราถนาสิ่งไหน และนับต่อจากนี้ ความกลัวไม่มีสิทธิ์มาครอบงำคุณอีกแล้ว พลังของจิตใต้สำนึกที่แท้จริงเท่านั้น ที่จะดูแลรักษาคุณ ไม่มีที่ว่างให้ความกลัว มาอยู่ภายในจิตอีกต่อไปแล้ว!
คุณปราถนาสิ่งไหน จงพูดถึงสิ่งนั้น ด้วยพลังศรัทธา "ใช้วิธีที่สรุปไว้ให้ใน Part 2"
จงเชื่อสุดหัวใจ ว่า ณ ตอนนี้ คุณมีเพียงความสำเร็จ ที่รอคุณอยู่ตรงหน้าเท่านั้น จำไว้ว่า คุณคือผู้กำหนด ว่าคุณจะส่งสิ่งไหนไปยังจิตใต้สำนึก หากคุณส่งแรงปราถนาที่ไร้ความรู้สึกสงสัย และไร้ความกลัวเข้าไป พลังจิตใต้สำนึกที่เป็นหนึ่งเดียวของจักรวาลจะถูกดึงออกมาใช้อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้ชีวิตเป็นไปตามในสิ่งที่คุณปราถนา
หลังจากนี้ เชื่อว่าคุณจะมีสติ กับทุกภาพในจิต เสียงในจิต ความรู้สึกในจิตของคุณ ปล่อยให้พลังจิตใต้สำนึก ดึงดูดความสำเร็จเข้ามา และผลักดันความล้มเหลวออกไป ให้ไกลห่างชีวิตคุณ
หนังสือเล่มนี้ไม่มีขายตามร้านหนังสือ
ใครที่อยากได้หนังสือเล่มนี้มาอ่าน ไปหาซื้อตามได้ใน Shopee นะคะ
พิมพ์ว่า "หนังสือพลังจิตใต้สำนึก" หารูปที่เป็นเล่มสีเหลือง ย้ำนะคะ ว่าเล่มสีเหลือง ^^
เพราะเล่มสีเหลือง คนแปลใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย เราลองอ่านเล่มอื่นมาหมดแล้ว เล่มสีเหลืองทำให้เราเกิดผลลัพธ์ได้จริง
หนังสือเล่มนี้มีเกือบ 600 หน้า หากคุณได้อ่านด้วยตัวเอง คุณจะซึมซับมันอย่างลึกซึ้งถ่องแท้
เราเชื่อว่าคุณจะพบความมหัศจรรย์เหมือนที่เราพบ และได้มาแชร์ให้คุณได้อ่าน แบบย่อ ๆ เนี่ยแหล่ะค่ะ ^^
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม