คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 86
มีข้อความหลังไมค์มาด่า อย่างงั้นอย่างงี้ ขอตอบไว้ตรงนี้นะคะ เราไม่ได้เห็นแก่เงินค่ะ มีเงินใช้ ไม่ขาดมือ
ดำเนินธุรกิจก็ต้องใช้เงินนะคะ covid ผ่านมา1ปีแล้ว มีเด็กมาสมัครเรียนตลอด ธุรกิจไม่ได้ซบเซาค่ะ
ไม่ได้รับผลกระทบ ถ้าไม่ติด covid ออกทริปเที่ยวต่างประเทศได้หลายทริปค่ะ
อีกอย่าง เราไม่ใช่ครูนะคะ เป็นติวเตอร์ ไม่คิดจะสอบราชการ
คือเรา เปิดคอร์ส 3 ระดับ
ประถม ป.5-6 กวดเข้าม.1
ม.ต้น. เนื้อหา และกวดเข้าม.4
ม.ปลาย เนื้อหา แล้วติวเข้ม pat1 วิชาสามัญคณิต
ก็ไม่ได้มีเวลาเยอะ เราตัดสินใจสอนต่อค่ะ
ดำเนินธุรกิจก็ต้องใช้เงินนะคะ covid ผ่านมา1ปีแล้ว มีเด็กมาสมัครเรียนตลอด ธุรกิจไม่ได้ซบเซาค่ะ
ไม่ได้รับผลกระทบ ถ้าไม่ติด covid ออกทริปเที่ยวต่างประเทศได้หลายทริปค่ะ
อีกอย่าง เราไม่ใช่ครูนะคะ เป็นติวเตอร์ ไม่คิดจะสอบราชการ
คือเรา เปิดคอร์ส 3 ระดับ
ประถม ป.5-6 กวดเข้าม.1
ม.ต้น. เนื้อหา และกวดเข้าม.4
ม.ปลาย เนื้อหา แล้วติวเข้ม pat1 วิชาสามัญคณิต
ก็ไม่ได้มีเวลาเยอะ เราตัดสินใจสอนต่อค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
เห้ยอย่าคิดอย่างนี้สิครับ น้องเขายังไม่ยอมแพ้เลย คุณเป็นครูต้องช่วยกันสู้ ผลจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน คอร์สคุณมันไม่ได้รับประกันการติดนิครับ
แล้วบางทีน้องเขาก็อาจคิดเผื่อไว้แล้วก็ได้ครับ ว่าไม่ติดไม่เป็นไร ปีโน้นเอาใหม่ก็ได้ ถ้าลูกศิษย์ยังใจสู้ ครูจะหนีก่อนได้ไง ถึงสุดท้ายน้องล้มเลิกความตั้งใจไป เขาก็ได้ความรู้จากเรา เพราะตอนนี้น้องเขายังอยากรู้อยู่ เมื่อยังอยากรู้ก็สอนไป อย่าตัดสินใจแทนเด็กเด็ดขาด แล้วอีกอย่างน้องอาจจะเก่งวิชาอื่นก็ได้นะครับ เขาอาจอ่อนคณิตมากสุดก็ได้
แล้วบางทีน้องเขาก็อาจคิดเผื่อไว้แล้วก็ได้ครับ ว่าไม่ติดไม่เป็นไร ปีโน้นเอาใหม่ก็ได้ ถ้าลูกศิษย์ยังใจสู้ ครูจะหนีก่อนได้ไง ถึงสุดท้ายน้องล้มเลิกความตั้งใจไป เขาก็ได้ความรู้จากเรา เพราะตอนนี้น้องเขายังอยากรู้อยู่ เมื่อยังอยากรู้ก็สอนไป อย่าตัดสินใจแทนเด็กเด็ดขาด แล้วอีกอย่างน้องอาจจะเก่งวิชาอื่นก็ได้นะครับ เขาอาจอ่อนคณิตมากสุดก็ได้
ความคิดเห็นที่ 6
อยู่ จขกท. ล้วนๆ
การที่จะเป็นครู คิดล้วงหน้าว่าจะเป็นแบบนี้ แบบนั้น แบบโน้น ไม่ได้น่ะ
เมื่อประเมินศักยภาพน้อยเค้าแล้ว คิดว่าไม่ได้ชัวร์ ก็ควรแนะแนว บอกแนวทางเลือกว่าสาขาอื่นๆก็มี น่าสนใจ....
บางทีเด็กเค้าแค่อยากเรียนเพื่อให้พ่อ-แม่ อุ่นใจ
ยิ่งชิ่งกลางทาง ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกน้อง
ลองเปลี่ยน Mindset ใหม่
ตั้งเป้าว่า ให้น้องเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด พื้นฐานใช้ได้ทุกสาขา
ส่วนสอบติด ไม่ติด ขึ้นกับน้องเค้าล้วนๆ
ปล. ถ้าจะไม่อยากสอนจริงๆ ไม่ควรคืนครบจำนวน เวลาที่เราเสียไปก็คือเงินที่เราควรได้
การที่จะเป็นครู คิดล้วงหน้าว่าจะเป็นแบบนี้ แบบนั้น แบบโน้น ไม่ได้น่ะ
เมื่อประเมินศักยภาพน้อยเค้าแล้ว คิดว่าไม่ได้ชัวร์ ก็ควรแนะแนว บอกแนวทางเลือกว่าสาขาอื่นๆก็มี น่าสนใจ....
บางทีเด็กเค้าแค่อยากเรียนเพื่อให้พ่อ-แม่ อุ่นใจ
ยิ่งชิ่งกลางทาง ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกน้อง
ลองเปลี่ยน Mindset ใหม่
ตั้งเป้าว่า ให้น้องเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด พื้นฐานใช้ได้ทุกสาขา
ส่วนสอบติด ไม่ติด ขึ้นกับน้องเค้าล้วนๆ
ปล. ถ้าจะไม่อยากสอนจริงๆ ไม่ควรคืนครบจำนวน เวลาที่เราเสียไปก็คือเงินที่เราควรได้
ความคิดเห็นที่ 5
ถามน้องเขาก่อน บอกระดับทักษะของน้อง และ ทักษะที่จำเป็นต้องเข้าสอบ ว่ามันต่างกันมากน้อยแค่ไหน
ให้น้องเขาตัดสินใจอนาคต น้องเขาเอง
เราเป็นคนสอน นะครับ ไม่ใช่คนที่จะบอก หรือการันตี ว่ามาเรียนกับเราแล้วสอบเข้าได้แน่ๆ
มันขึ้นกับความพยายามของน้องเขาด้วย
ต่อให้เราสอนห่วย น้องเขาขยันหาความรู้ น้องเขาก็อาจจะสอบได้
หรือต่อให้เราสอนดีน้องไม่ไหว ก็เช่นกัน
ดังนั้นการบอกจุดที่น้องอยู่กับเป้าหมายที่ชัดเจน แล้วถามความสมัครใจว่าจะไปต่อ หรือ เลี่ยงไปทางอื่น น่าจะเหมาะที่สุดครับ
ส่วนเรื่องเงินถ้าเราสมัครใจจะคืนเราก็คืน ถ้าไม่สมัครใจจะคืน เราก็แค่ถามน้องว่า มันมีค่าเสียเวลา นะ กี่เปอร์เซน ก็ตกลงกัน ครับ
ให้น้องเขาตัดสินใจอนาคต น้องเขาเอง
เราเป็นคนสอน นะครับ ไม่ใช่คนที่จะบอก หรือการันตี ว่ามาเรียนกับเราแล้วสอบเข้าได้แน่ๆ
มันขึ้นกับความพยายามของน้องเขาด้วย
ต่อให้เราสอนห่วย น้องเขาขยันหาความรู้ น้องเขาก็อาจจะสอบได้
หรือต่อให้เราสอนดีน้องไม่ไหว ก็เช่นกัน
ดังนั้นการบอกจุดที่น้องอยู่กับเป้าหมายที่ชัดเจน แล้วถามความสมัครใจว่าจะไปต่อ หรือ เลี่ยงไปทางอื่น น่าจะเหมาะที่สุดครับ
ส่วนเรื่องเงินถ้าเราสมัครใจจะคืนเราก็คืน ถ้าไม่สมัครใจจะคืน เราก็แค่ถามน้องว่า มันมีค่าเสียเวลา นะ กี่เปอร์เซน ก็ตกลงกัน ครับ
ความคิดเห็นที่ 7
ถ้าไม่ไหว ก็ คืนเงินไปครับ
ผมเคยเจอทำนองนี้ แต่เป็นกรณีอื่น
พยายามปล้ำอยู่ 2 เดือน
ไม่มีอะไรก้าวหน้า คนเรียนไม่มีสมาธิ
คนสอน ก็ปรับมาแล้ว ร้อยกระบวนท่า
แต่ไม่ work สุดท้าย
แจ้งผู้ปกครอง ว่า ขอเปลี่ยนครูนะ
ทางเขา ก็เข้าใจดีครับ
--------------------------------------
ข้อจำกัด ของแต่ละคน ไม่เหมือนกัน
ทั้งของเรา และของเด็กครับ
จูนไม่ได้ ก็ต้องถอยครับ ไม่มีใครผิดทั้งนั้นครับ
ผมเคยเจอทำนองนี้ แต่เป็นกรณีอื่น
พยายามปล้ำอยู่ 2 เดือน
ไม่มีอะไรก้าวหน้า คนเรียนไม่มีสมาธิ
คนสอน ก็ปรับมาแล้ว ร้อยกระบวนท่า
แต่ไม่ work สุดท้าย
แจ้งผู้ปกครอง ว่า ขอเปลี่ยนครูนะ
ทางเขา ก็เข้าใจดีครับ
--------------------------------------
ข้อจำกัด ของแต่ละคน ไม่เหมือนกัน
ทั้งของเรา และของเด็กครับ
จูนไม่ได้ ก็ต้องถอยครับ ไม่มีใครผิดทั้งนั้นครับ
ความคิดเห็นที่ 18
ขอโทษน้องอย่างจริงใจครับ
แล้วพูดออกมาในแนวทางที่ว่า
เราเองที่ผิด เราความสามารถน้อยไป
เรารู้ตัวแล้วว่าไม่สามารถพาน้องไปถึงเป้าหมายที่น้องอยากไปถึงได้
เพื่อให้น้องได้มีโอกาสไปเจอครูคนอื่น เราจึงขอหยุดสอนน้อง
อันที่จริง ก่อนจะรับงานก็ควรพิจารณาเรื่องนี้ด้วยนะ คณะแพทย์คือคณะท็อปสายวิทย์
แล้วคนเรียนปวช.นี่คือความรู้ทางวิชาการอาจจะน้อยกว่า สายศิลป์สามัญด้วยนะครับ
อย่างน้อยควรขอดูเกรดตอนม.3 ก่อนครับ
ถ้าไม่ใช่ว่า ตอน ม.สาม เคยได้เกรดขั้นเทพ 3.5 อัพ โดยที่วิชาคณิตได้ 4 ตลอด
แต่ตัดสินใจด้วยความแน่วแน่ว่าอยากเรียนปวช. แล้วตอนนี้เปลี่ยนใจอยากเรียนแพทย์
เราก็น่าจะบอกเขาไปตรงๆตั้งแต่ตอนที่เขามาสมัครแล้วว่า เราไม่สามารถสอนได้
อันที่จริงคุณเองก็มีส่วนผิด (อาจจะด้วยความอายุน้อย ประสบการณ์น้อย) ที่มองไม่ขาดตั้งแต่แรก
แล้วไปตกลงรับงานนี้
แล้วพูดออกมาในแนวทางที่ว่า
เราเองที่ผิด เราความสามารถน้อยไป
เรารู้ตัวแล้วว่าไม่สามารถพาน้องไปถึงเป้าหมายที่น้องอยากไปถึงได้
เพื่อให้น้องได้มีโอกาสไปเจอครูคนอื่น เราจึงขอหยุดสอนน้อง
อันที่จริง ก่อนจะรับงานก็ควรพิจารณาเรื่องนี้ด้วยนะ คณะแพทย์คือคณะท็อปสายวิทย์
แล้วคนเรียนปวช.นี่คือความรู้ทางวิชาการอาจจะน้อยกว่า สายศิลป์สามัญด้วยนะครับ
อย่างน้อยควรขอดูเกรดตอนม.3 ก่อนครับ
ถ้าไม่ใช่ว่า ตอน ม.สาม เคยได้เกรดขั้นเทพ 3.5 อัพ โดยที่วิชาคณิตได้ 4 ตลอด
แต่ตัดสินใจด้วยความแน่วแน่ว่าอยากเรียนปวช. แล้วตอนนี้เปลี่ยนใจอยากเรียนแพทย์
เราก็น่าจะบอกเขาไปตรงๆตั้งแต่ตอนที่เขามาสมัครแล้วว่า เราไม่สามารถสอนได้
อันที่จริงคุณเองก็มีส่วนผิด (อาจจะด้วยความอายุน้อย ประสบการณ์น้อย) ที่มองไม่ขาดตั้งแต่แรก
แล้วไปตกลงรับงานนี้
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
มหาวิทยาลัย
ติวเตอร์
เป็นติวเตอร์สอนคณิตให้น้องปวช. สอบเข้าแพทย์ปีหน้า แต่ดูๆแล้ว น้องไม่ได้จริงๆ จะคืนเงิน ควรบอกน้องยังไงดี?
แต่มีน้อง ปวช. มาสมัคร เรียนแบบตัวต่อ เพื่อสอบเข้าหมอปี 65 คือน้องมาเรียนได้ 1 week แล้วค่ะ
เราสอนปรับพื้นฐาน คณิต ม.ต้น ให้ก่อนเข้าเนื้อหา ม.ปลาย
คือประเมิณแล้ว น้องดูงงๆ เนื้อหาเลขม.ต้น คือ ทำไม่ค่อยได้เลยอ่ะค่ะ คือพอจะเค้าใจบ้าง
แต่นี่กลางปี 64 แล้ว เราว่า ไม่ทันแน่ๆ วิชาอื่นอีก คือเราคิดว่า น้องสอบไม่ติดแน่ๆ
แค่แยกตัวประกอบพหุนาม ยังงงๆเลย กำลังสอง กำลังสาม สอนพื้นฐานพีทาโกรัส ก่อนเข้าตรีโกณ
เลขยกกำลัง กราฟ พาราโบรา รากที่สอง รากที่สาม บวกลบคูณหาร ยังไม่ได้เลยค่ะ
ถ้าเข้าเนื้อหา ม.ปลาย พวก ตรรกศาสตร์ ภาคตัดกรวย ฟังก์ชันexpo log ฟังก์ชันตรีโกณ จำนวนเชิงซ้อน
เวกเตอร์ ลำดับอนุกรม แคลคูลัส คิดว่าน้องไม่รอดแน่ๆ
คือเราเหนื่อยมาก อธิบายแบบสุดๆแล้ว น้องเค้าอ่อนมาก เหนื่อยจริงๆค่ะ
ถ้าเอาโจทย์ประยุกต์แบบแข่งขัน ระดับ PAT1 หรือวิชาสามัญ กสพท. คือตายแน่นอน
เตรียมตัวแค่ครึ่งปี เราว่าไม่พอ ไหนจะวิชา ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ภาษาอังกฤษแบบ Academic เราประเมินว่า สอบไม่ติดแน่ๆ
อยากปิดคอร์สคืนเงินเต็มจำนวนค่ะ คิดว่าเสียเวลาทั้งตัวเรา และตัวน้องเอง
จะพูดยังไงดีคะ ไม่ทำให้เสียความตั้งใจของน้อง