ดูฟิล์ม อย่าดูแค่ตัวเลขสเป็คจากโบรชัวร์เพียงอย่างเดียว

กระทู้สนทนา
ดูฟิล์ม อย่าดูแค่ตัวเลขสเป็คจากโบรชัวร์เพียงอย่างเดียว

หลายครั้งปัญหาของผู้ใช้รถคือการเลือกหาฟิล์มกรองแสงที่คุณภาพใช้งานได้ตามสมควรกับสภาพอากาศบ้านเรา และราคาไม่สูงจนเกินไป ซึ่งผมเองเปิดตัวมาตลอด ชัดเจนไม่เคยปิดบังครับ ว่า “ผมเองก็เป็นพ่อค้าคนนึง” และติดตามบอร์ดนี้มาเป็นระยะเวลานานมากแล้ว ( เกือบ 20ปี ) เข้ามาอ่านบ้าง แต่ก็ไม่ได้ติดตามต่อเนื่อง ช่วยตอบได้เท่าที่เวลาพออำนวย โดยที่ “ไม่ได้เน้นอวยยี่ห้อตนเองเป็นหลัก แต่ก็พยายามเข้ามาตอบข้อสงสัยทั่วๆไป หรือปัญหาการใช้งานที่มาจากแบรนด์ของตัวผมเอง”

เนื่องจากสังคมพันทิปมีคนที่หลากหลาย ผมหวังว่าข้อมูลที่รวบรวมมาจะเป็นประโยชน์สำหรับบางคนได้บ้างก็ยังดี  (และแอบหวังในใจว่าทีมงานพันทิพย์จะพิจารณาปักหมุดกระทู้ผมไว้ เพื่อเป็นประโยชน์กับสมาชิกจากสังคมแห่งนี้ครับ 

สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ นอกจากลูกค้าที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของแต่ละแบรนด์  ในบอร์ดก็มักจะมีหน้าม้า แฝงตัวมาในรูปแบบต่างๆ และบิดเบือนข้อมูล หรือพยายามโปรโมทยี่ห้อตัวเองในรูปแบบของการถามว่า “รู้จักยี่ห้อนี้มั๊ย” ซ้ำๆต่อเนื่องโดยเปลี่ยนลักษณะคำถาม แต่ความหมายเดียวกัน ( ซึ่งแต่ละ Post ก็เป็น IP เดียวกัน และเคยโดนจับได้หลายครั้ง) และอีกสารพัดรูปแบบ แต่วันนี้ ผมจะมาเขียนในประเด็นที่ สมาชิกหลายท่านเอาสเป็คเพียงอย่างเดียวมาเป็นตัวตัดสิน เช่น
ยี่ห้อA สเป็คเท่า ยี่ห้อ B เลย จะจ่ายแพงกว่า 2-3 เท่าทำไม  แต่คุณผู้อ่านมั่นใจเหรอครับ ว่าสเป็คที่เอามาลงกัน เป็นข้อมูลที่เป็นความจริงเสมอไป !?

ต้องบอกว่า วงการนี้ ผมจะพบเห็นอยู่ตลอด กับการเคลมสเป็คเกินจริง  ตัวเลขมีค่าต่างๆสูงมาก แต่ใช้งานจริง กันอะไรแทบไม่ได้เลย ฟิล์มตัวท็อปของยี่ห้อระดับโลก มีค่าป้องกันความร้อนรวม 74% ราคาปาไป 3-4 หมื่น  ในขณะที่ฟิล์มนำเข้า มาตียี่ห้อตัวเอง ติดรอบคัน ราคาไม่ถึงหมื่น หรือหมื่นกว่าบ้าง แต่มีค่าป้องกันความร้อนรวมสูงถึง 90% ++  มันเป็นไปได้จริงๆเหรอครับ 

นอกจากเรื่องของสเป็คแล้ว “อายุการใช้งาน” เป็นอีกสิ่งที่ผมอยากให้หาข้อมูล บอกตามตรงว่า ฟิล์มที่ตัวเลขสเป็คดูดี ราคาที่ดึงดูดใจ สุดท้าย มันอาจจะทำให้คุณต้องเสียเงินหลายรอบ เพราะอายุการใช้งานมันสั้นมาก แป๊บๆ ฟิล์มขุ่น ลอก ร้อนแสบผิวจนลูกค้าทนไม่ไหว  ผมเห็นมาเยอะแล้วครับ ลอกทิ้งมานับไม่ถ้วน และผมเองก็ถ่ายรูปตอนลอกเอาไว้ รวมถึง เก็บข้อความที่ลูกค้าระบายเอาไว้เยอะพอสมควร แต่ลงในนี้ไม่ได้  ท่านใดอยากได้ ทัก Inbox มาครับ ผมยินดีส่งให้ดู  (เอาตรงๆก็มีเกือบทุกยี่ห้อที่ท่านๆเชียร์กันนี่แหละครับ)

อีกประเด็น ตัวเลขสเป็คเท่ากัน ยังไม่ต้องดูเรื่องกันร้อนนะครับ แต่เอาความ ใส เคลียร์ ก่อน  ทุกยี่ห้อบอกของตัวเองดีหมด เข้มนอก สว่างใน ใส เคลียร์หมด ใช้งานจริงๆ ถึงกับพูดกันไม่ออก ลอกทิ้งกันแทบไม่ทัน ฟิล์ม60% บานหน้า มืดไป ขับไม่ได้ ผมว่าแบบนี้มัยไม่ใช่แล้วละครับ ฟิล์มคุณภาพดีจริง เข้ม 80% ขับ ต่างจังหวัด ถนนไม่มีไฟ อาศัยไฟหน้ารถของตัวเอง วิ่ง 120-140 km/h ได้สบายๆ ทั้งหมดทั้งมวลไม่ใช่ว่าฟิล์มราคาถูกมันใช้ได้เลย  คุณภาพก็ตามราคาละครับ
ยกตัวอย่าง ฟิล์ม80% ที่มีเฉดใกล้ๆกัน  ป้องกันความร้อนได้พอๆกัน 

รุ่น A รอบคัน 40,000 บาท     แต่รุ่น B รอบคันแค่ 22,000
แต่ลองติดตั้งบานหน้าดูครับ ความชัด ความเคลียร์ คนละเรื่อง ซึ่งประเด็นนี้ ส่งผลต่อความปลอดภัยชัดเจน!!!
สมาชิกท่านใดที่เล่นกล้องถ่ายรูปจะรู้ดีครับ เลนส์ช่วงเดียวกัน ทำไม เลนส์ kit ราคา 3,500  แต่ทำไมเลนส์ L  ช่วงเดียวกัน ปาไป 29,000   
เพราะฉะนั้น วันนี้สรุปสั้นๆ ตัวเลขสเป็ค ไม่ได้บ่งบอกทุกอย่างนะครับ อายุการใช้งาน, ความเคลียร์ใสของเนื้อฟิล์ม ที่ทุกยี่ห้อต่างยกมาเป็นข้อดีของตัวเอง แต่ใช้งานจริงเป็นอย่างไร ??  มันอาจจะดูยาก และวุ่นวายสำหรับท่านที่ไม่ได้อยู่ในวงการ เพราะฟิล์มกรองแสงเป็นสินค้าดูไกลตัว และคิดว่าแผ่นพลาสติกแผ่นนึงก็คงเหมือนๆกัน โพสต์นี้ ผมไม่ได้มาบอกว่าฟิล์มยี่ห้อไหนดีที่สุด แต่อยากให้สมาชิกที่ต้องการมาหาข้อมูลจริงๆ มีพื้นฐานความเข้าใจเอาไว้บ้าง เพราะการเสียเงินหลายพันหลายหมื่นในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นไม่ว่ากับใครครับ 
ท่านใดที่มีข้อมูลอย่างแชร์ หรือมีคำถาม สามารถฝากไว้ใต้กระทู้นี้ได้ครับ ผมจะแวะมาตอบเป็นระยะๆเท่าที่เวลาอำนวยครับ

ขอบคุณทุกท่านที่อ่าน stay safe ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่