คิดงี้ตลอดเลยทุกครั้งที่เห็นคอมเม้นท์เรื่องไม่ฉีดเพราะนู่น นี่ นั่น ซึ่งเจออยู่ 3-4 เหตุผลหลักๆ

1) กลัวผลข้างเคียง >> ผลข้างเคียงไม่รุนแรงน้อยกว่า 3% อาการก็แนวๆ คนฉีดวัคซีนเคยๆ เจอแหละนะ ส่วนอัตราของเคสที่ผลข้างเคียงรุนแรงนี่คือ 6 ใน 1,000,000 (0.000006%) ที่เอาจริงๆ คิดว่าการขับรถเร็วเกิน 120km/h ยังจะดูต้องรับความเสี่ยงมากกว่าซะอีก...

2) ประสิทธิภาพของตัวที่มีมาให้ฉีดมันไม่ดี >> ก็ใช่ อัตราป้องกันการติดโควิดมันไม่ดีเท่าแบรนด์อื่น แต่อัตราการเจ็บป่วยรุนแรงของคนที่ฉีดแทบเป็น 0% คือ near zero เลยนะ ดังนั้นคือ ไม่ตายที่ 2-3%!!! ไง คือถ้าเคยฉีดแล้วไปติด ก็หายแน่ๆ นี่คือประโยชน์เฟ้ย!!!

3) ฉีดยี่ห้อที่ได้มาแล้วถ้าจะบินไป ตปท ยังต้องกักตัว เพราะยังไม่ได้รับการยอมรับ >> ก็ใช่ แต่จริงๆ คิดว่าจะฉีดเพื่ออะไร "ถ้าเพื่อจะบินไป ตปท. เท่านั้น" โอเค คือรอไปเลยจ้า แต่ถ้ากลัวเจ็บป่วยรุนแรง ลองหาอ่านดีๆ ก็จะรู้ว่าฉีดแล้วไปฉีดซ้ำยี่ห้ออื่นได้ ตอนมันมีมาให้เลือกก็ไปฉีดยี่ห้ออื่นเพื่อได้เซอร์ไว้บินก็ได้หนิ

4) ไม่ชอบรัฐบาล >>> คือ ผมก็ไม่ชอบรัฐบาลนะ แต่ส่วนตัวคิดว่าการสร้าง Herd Immunity เหมือนเป็นภารกิจร่วมของคนในประเทศเหมือนไปเลือกตั้ง เพื่อ Move on จาก Covid-19 อันแสนน่ากลัว และถ้าคิดว่าไม่น่ากลัว อย่างไรมันก็แสนจะน่าเบื่อ เรื่องแผนหรือแนวทางที่ผ่านมาห่วยยังไง วัคซีนมาช้า ตัวเลือกน้อยยังไง ก็จะบ่นและเชียร์ให้สังคมบ่นและกดดันรัฐบาลต่ออยู่ดี เพราะจริงๆ คนทำงานในรัฐหรือราชการก็ต้องการแรงกระตุ้นเพื่อริเริ่มหรือเปลี่ยนวิธีคิดบริหารหรือวิธีการทำงานอะไรซักอย่างโดยใช้แรงกดดันจากภายนอกแบบนี้แหละ ไม่ต่างกับในงานที่ยิ่งสูงยิ่งหนาวของภาคเอกชนในตำแหน่งที่ความคาดหวังสูงๆ ที่โดนกดดันทุกๆ วัน จากผู้บริหารระดับสูงกว่าส่งต่อกันมาเป็นทอดๆ หรอก

อยากฝากให้ลองดูสถิติและข้อมูลประกอบอื่นๆ ที่ไม่ใช่ข่าวร้ายที่โดนเลือกๆ มาให้ดู และถูกทำให้เสียงดังเท่านั้นนะครับ
ว่าแล้วก็เปิดไลน์ไปเข้าหมอพร้อมให้คนรอบตัวที่เข้าข่ายนัดฉีดรอบนี้ได้กันเถอะ