สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ถึงวันนี้ คงไม่สามารถบอกได้เเน่นอนหรอกครับ ว่าจะจบเมื่อไหร่
จะจบในสามสี่เดือนหน้า หรืออาจลากยาวไปปลายปี หรือ ข้ามปี
ขึ้นกับมาตรการคุมโรค เเละความร่วมมือของคนในประเทศ
รอบนี้เเย่ตรงที่มาระบาด ตรงกับช่วงเทศกาลสงกรานต์พอดี
เเละที่เเย่กว่านั้น คือ รัฐเลือกที่จะปล่อยฟรี ไม่มีการปิดกั้นพื้นที่ใดๆเลยในช่วงเวลานั้น
ปล่อยทุกอย่างให้ดำเนินไปก่อน เเล้วมาเริ่มขีดวงจำกัดพื้นที่ตอนหลัง
ซึ่งก็อย่างที่เห็นในตอนนี้วว่า สภาพที่ออกมา เป็นเช่นรัย
ถ้าตั้งความหวังไว้ว่า เมื่อมีการฉีดวัคซีนได้ครบ ทุกอย่างจะดีขึ้น เเละต้องจบในปีนี้ตามที่เคยประกาศ
ก็ต้องถามกลับว่า วัคซีนที่จะฉีดในปีนี้ มีเเล้วยังครับ (ซึ่งปีนี้เหลืออีก 7 เดือนนะ)
เอาจำนวนคนที่ต้องฉีดทั้งประเทศตั้ง ลบด้วยจำนวนคนที่ฉีดไปแล้ว ได้เทาไหร่ หารด้วยเจ็ดเดือน
ได้ผลลัพธ์ยอดเฉลี่ยต่อเดือน ว่าต้องใช้กี่เเสนหรือกี่ล้านโดส
คำถามคือ วัคซีนมีหรือยัง จองไว้เเล้วหรือเปล่า เเน่ใจมั้ยว่าสั่งซื้อได้ทันในเจ็ดเดือนที่เหลือ
จุดนี้น่าจะเป็นคำตอบได้ ว่าสงครามนี้จะจบช้าหรือเร็ว
ที่เหลือนอกจากเรื่องวัคซีน ก็มีสองเรื่อง
1 การระวังป้องกันตัวเอง 2 มาตรการคุมเข้มของรัฐ
อย่างเเรก เเล้วเเต่ว่าใครจะดูเเลตัวเองได้ดีเเค่ไหน
เเต่อีกเรื่องรัฐก็ต้องเเน่ใจ ว่าที่ประกาศออกมาเเต่ละอย่าง เอาอยู่จริงๆ
อย่างที่ประกาศล่าสุดหันมาเล่นกับสีอีกเเล้ว
ตรงนั้นเเดงเข้ม ตรงนี้เเดงอ่อน ตรงโน้นเหลือง ส่วนที่เหลือเขียว
บอกตรงๆ ด้วยความเคารพ ตราบที่ยังไม่ปิดพื้นที่
อย่าคิดเลยว่าจะคุมได้ เชื้อโรคนะครับ ไม่ใช่ สงครามกองโจรคอมมิวนิสท์
ย้อนไปครั้งเเรกที่เกิดโรคปีก่อน เราเข้มงวดเด็ดขาดมาก
รถเมล์ รถตู้ระหว่างจังหวัด รถไฟ เครื่องบิน ห้ามเดินทาง จอดสนิทศิษย์ส่ายหน้า
ถึงขนาดทหารเกณฑ์จะไปเยี่ยมเเม่ที่ป่วยยังโดนจับห้ามข้ามเขต
หมอสัตวเเพทย์ออกไปรักษาสัตว์ก็โดนจับ ปรับ เข้ม จริงจัง ขึงขัง น่าเกรงขามน่ายกย่อง
เเละไม่เสียหลาย คราวนั้นทั้งโลกต้องก้มหัวคาราวะให้กับความสำเร็จของเรา
ทั้งๆที่ตอนนั้น สายพันธ์เชื้อโรคไม่ได้ติดง่าย เร็ว เเละเเรงเหมือนตอนนี้ เเต่เราคุมเข้มจนโควิดต้องยอมสยบให้
หันมามองการคุมโรคในตอนนี้สิครับ ต่างกันฟ้ากับเหว
ทั้งๆที่เชื้อสายพันธ์นี้ ติดง่ายกว่า ติดเร็วกว่า ครั้งก่อนถึง 1.7 เท่า เเละสามารถลงปอดได้ง่ายกว่าครั้งก่อน
เเต่การออกมาตรการคุมเข้ม ของเราเเต่ละอย่าง เข้าทำนอง
" รอให้วัวหายก่อน เเล้วค่อยเรียกประชุมคณะกรรมการ เพื่อลงมติว่าจะสร้างคอกมาล้อม ..ดีหรือไม่ "
ครั้งเเรกที่เกิดโรคคราวก่อน รอบตัวนายกคือหมอผู้เชี่ยวชาญกับคนป่วย
ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร กับการออกมาตรการอะไรที่จะกระทบทางเศรษฐกิจ
เเต่รอบนี้ไมรู้ว่าคิดไปเอง หรือเป็นอย่างที่เขานินทากันว่า
นักการเมืองรอบๆตัว ที่ออกหน้ามาเสนอเเนะ รัฐอย่าล็อกดาวน์
เเละส่งเสริมให้คนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์เยอะๆ
เป็นเพราะว่า ตัวเองมีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจส่วนตัว ทั้งโรงเเรม รีสอร์ท เเละปั๊มน้ำมัน
ส่วนจะเป็นอย่างนั้นจริงรึเปล่า ข่าวไม่ได้เเจ้ง
จะจบในสามสี่เดือนหน้า หรืออาจลากยาวไปปลายปี หรือ ข้ามปี
ขึ้นกับมาตรการคุมโรค เเละความร่วมมือของคนในประเทศ
รอบนี้เเย่ตรงที่มาระบาด ตรงกับช่วงเทศกาลสงกรานต์พอดี
เเละที่เเย่กว่านั้น คือ รัฐเลือกที่จะปล่อยฟรี ไม่มีการปิดกั้นพื้นที่ใดๆเลยในช่วงเวลานั้น
ปล่อยทุกอย่างให้ดำเนินไปก่อน เเล้วมาเริ่มขีดวงจำกัดพื้นที่ตอนหลัง
ซึ่งก็อย่างที่เห็นในตอนนี้วว่า สภาพที่ออกมา เป็นเช่นรัย
ถ้าตั้งความหวังไว้ว่า เมื่อมีการฉีดวัคซีนได้ครบ ทุกอย่างจะดีขึ้น เเละต้องจบในปีนี้ตามที่เคยประกาศ
ก็ต้องถามกลับว่า วัคซีนที่จะฉีดในปีนี้ มีเเล้วยังครับ (ซึ่งปีนี้เหลืออีก 7 เดือนนะ)
เอาจำนวนคนที่ต้องฉีดทั้งประเทศตั้ง ลบด้วยจำนวนคนที่ฉีดไปแล้ว ได้เทาไหร่ หารด้วยเจ็ดเดือน
ได้ผลลัพธ์ยอดเฉลี่ยต่อเดือน ว่าต้องใช้กี่เเสนหรือกี่ล้านโดส
คำถามคือ วัคซีนมีหรือยัง จองไว้เเล้วหรือเปล่า เเน่ใจมั้ยว่าสั่งซื้อได้ทันในเจ็ดเดือนที่เหลือ
จุดนี้น่าจะเป็นคำตอบได้ ว่าสงครามนี้จะจบช้าหรือเร็ว
ที่เหลือนอกจากเรื่องวัคซีน ก็มีสองเรื่อง
1 การระวังป้องกันตัวเอง 2 มาตรการคุมเข้มของรัฐ
อย่างเเรก เเล้วเเต่ว่าใครจะดูเเลตัวเองได้ดีเเค่ไหน
เเต่อีกเรื่องรัฐก็ต้องเเน่ใจ ว่าที่ประกาศออกมาเเต่ละอย่าง เอาอยู่จริงๆ
อย่างที่ประกาศล่าสุดหันมาเล่นกับสีอีกเเล้ว
ตรงนั้นเเดงเข้ม ตรงนี้เเดงอ่อน ตรงโน้นเหลือง ส่วนที่เหลือเขียว
บอกตรงๆ ด้วยความเคารพ ตราบที่ยังไม่ปิดพื้นที่
อย่าคิดเลยว่าจะคุมได้ เชื้อโรคนะครับ ไม่ใช่ สงครามกองโจรคอมมิวนิสท์
ย้อนไปครั้งเเรกที่เกิดโรคปีก่อน เราเข้มงวดเด็ดขาดมาก
รถเมล์ รถตู้ระหว่างจังหวัด รถไฟ เครื่องบิน ห้ามเดินทาง จอดสนิทศิษย์ส่ายหน้า
ถึงขนาดทหารเกณฑ์จะไปเยี่ยมเเม่ที่ป่วยยังโดนจับห้ามข้ามเขต
หมอสัตวเเพทย์ออกไปรักษาสัตว์ก็โดนจับ ปรับ เข้ม จริงจัง ขึงขัง น่าเกรงขามน่ายกย่อง
เเละไม่เสียหลาย คราวนั้นทั้งโลกต้องก้มหัวคาราวะให้กับความสำเร็จของเรา
ทั้งๆที่ตอนนั้น สายพันธ์เชื้อโรคไม่ได้ติดง่าย เร็ว เเละเเรงเหมือนตอนนี้ เเต่เราคุมเข้มจนโควิดต้องยอมสยบให้
หันมามองการคุมโรคในตอนนี้สิครับ ต่างกันฟ้ากับเหว
ทั้งๆที่เชื้อสายพันธ์นี้ ติดง่ายกว่า ติดเร็วกว่า ครั้งก่อนถึง 1.7 เท่า เเละสามารถลงปอดได้ง่ายกว่าครั้งก่อน
เเต่การออกมาตรการคุมเข้ม ของเราเเต่ละอย่าง เข้าทำนอง
" รอให้วัวหายก่อน เเล้วค่อยเรียกประชุมคณะกรรมการ เพื่อลงมติว่าจะสร้างคอกมาล้อม ..ดีหรือไม่ "
ครั้งเเรกที่เกิดโรคคราวก่อน รอบตัวนายกคือหมอผู้เชี่ยวชาญกับคนป่วย
ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร กับการออกมาตรการอะไรที่จะกระทบทางเศรษฐกิจ
เเต่รอบนี้ไมรู้ว่าคิดไปเอง หรือเป็นอย่างที่เขานินทากันว่า
นักการเมืองรอบๆตัว ที่ออกหน้ามาเสนอเเนะ รัฐอย่าล็อกดาวน์
เเละส่งเสริมให้คนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์เยอะๆ
เป็นเพราะว่า ตัวเองมีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจส่วนตัว ทั้งโรงเเรม รีสอร์ท เเละปั๊มน้ำมัน
ส่วนจะเป็นอย่างนั้นจริงรึเปล่า ข่าวไม่ได้เเจ้ง
.
แสดงความคิดเห็น
นับจากนี้ไป คิดว่าโรคโควิดนี่จะแรงขึ้นในเดือนมิถุนายน กรกฎาคม และสิงหาคมมั้ยครับ มันจะแย่ลงไปเรื่อยๆมั้ย ?