เวลาลุงท้อแท้ รู้สึกหมดหวังหลาย ๆ อย่าง ลุงจะนึกถึงเรื่องนี้เมื่อตอนลุงหนุ่ม ๆ เป็นกำลังใจให้ลุงไม่ท้อในการสู้ชีวิตต่อไป.....
เมื่อประมาณ 40 ปี ที่แล้ว ลุงเป็นพนักงานเก็บเงินของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ตอนนั้นเป็นพนักงานวางบิลเก็บเงิน เงินเดือน 4 พัน หน้าที่หลักคือไปวางบิล เก็บเงิน บริษัทอื่นที่เป็นลูกค้าบริษัทลุง ด้วยมอไซด์ของเราเอง
วันนั้นจำได้แม่น ลุงไปวางบิลบริษัทแถวพระประแดง เป็นไซโลใหญ่ ส่งข้าวโพดขาย โดยทางเรือ จะมีเรือมาจอดเทียบท่า แล้วมีคนงานคอยแบกกระสอบข้าวโพดขึ้นไปบนเรือ ที่มาซื้อ (คล้ายรูปในตัวอย่าง แต่ไม้กระดานจะสูงและชันกว่าในรูป)
ตอนนั้นติดเที่ยงพอดี ลุงก็เลยไปนั่งรอที่โรงอาหารของบริษัท เพื่อรอให้บริษัทเปิดรับการวางบิลตอนบ่ายโมง ว่าจะกินข้าวรอด้วย ขณะนั้นเองเหลือบไปเห็น คนงานแบกกระสอบขึ้นไปบนเรือแบบในรูป
คนงานจะเข้าแถว (เข้าใจว่าเป็นคนแถวนั้นมารับจ้างแบก) ซึ่งส่วนมากจะเป็นผู้ชายล่ำ ๆ ทั้งนั้น แต่ลุงสังเกตุเห็นมีผู้หญิงคนคนนึงน่าจะท้องด้วย และมีลูกเล็ก ๆ มาด้วย 1 คน ประมาณ 3-4 ขวบได้มั๊ง มาเข้าแถวรับกระสอบข้าวโพดเพื่อขนขึ้นไปบนเรือ
ลุงนั่งอยู่ไม่ไกล ได้ยินลูกของผู้หญิงคนนั้นร้องไห้ แล้วบอกว่า "แม่หนูหิวข้าว" แม่เขาก็ตอบว่า "รอก่อนให้แม่ได้ทำงาน แล้วเดี่ยวค่อยไปกินให้ได้ตังค์ก่อน" (จากลักษณะนางเองก็น่าจะท้องด้วย)
พอกระสอบเริ่มไหลลงมา คนงานต้องรีบเข้าไปรับ แล้วแบกขึ้นเรือ จะหยุดไม่ได้ เพราะเครื่องที่ส่งกระสอบลงมาถ้าหยุดหรือะงัก จะทำให้เสียจังหวะ ต้องหยุดเครื่องเพื่อเริ่มใหม่ เพราะฉะนั้นเมื่อรับกระสอบแล้ว ต้องรีบเดินขึ้นบนเรือทันที จะชะงักไม่ได้เลย ซึ่งเป็นธรรมเนียมของเขาอยู่แล้ว
ผู้ชายส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญหา พอรับกระสอบก็เดินขึ้นบนเรือทันที จนกระทั่งมาถึงคิวของผู้หญิงคนนี้ ด้วยความที่นางคงยังไม่ได้กินข้าว ประกอบกับท้องอ่อน ๆ ด้วย พอกระสอบลงมาจากเครื่องนางเข้าไปเอาหลังรับ ก็เซและจะล้ม คนที่คุมเครื่องอยู่ก็จะผลักนางออกไปทันที แล้วรีบให้คนต่อไปเข้ามารับกระสอบนางแทน (กระสอบหนักประมาณ 50 ก.ก.) ส่วนนางก็ล้มลง และลุกขึ้นไปต่อแถวใหม่
ลุงนั่งดูจนถึงอีกรอบของนาง นางเข้าไปรับก็เป็นเช่นเดิม เซจะล้มอีก เขาก็ผลักนางออกไปอีก ให้คนใหม่เข้ามารับแทนทันที
ลุงทนมองต่อไปไม่ไหว เดินเข้าไปหานางทันที แล้วถามว่าน้องเขาให้กระสอบละเท่าไหร่ต่อ 1 ครั้ง น้องบอกว่าเขาให้กระสอบละ 1 สลึง พอเอาขึ้นไปบนเรือได้ ก็จะได้รับติ้ว 1 อัน เมื่อเลิกแบกแล้วก็เอาติ้วไปขึ้นเงิน แต่วันนี้หนูยังไม่ได้กินข้าวเลย ลูกด้วยก็เลยไม่มีแรง
ได้ยินแบบนั้น พูดไรไม่ออกมันจุกอยู่ในอก ควักกระเป๋าตังค์ออกมา (ช่วงนั้นปลายเดือนด้วย) มีตังค์อยู่ 80 บาท น้ำมันรถก็ยังไม่เติม ตัดสินใจ ควักให้น้องไป 60 บาท เหลือไว้ 20 ไว้เติมน้ำมันกลับบริษัท ข้งข้าว ไม่กินมันแล้ว (กินไม่ลงอะ) นางยกมือไหว้ แทบลงไปกราบ ลุงต้องจับไหล่ไว้บอก "ไม่ต้องขอบคุณหรอก ไปรีบไปพาลูกและตัวเธอเองไปกินข้าวก่อน"
จากเรื่องนี้ เวลาลุงท้อ หรือ หมดกำลังใจ ลุงจะนึกถึงเรื่องนี้ตลอด ทำให้ฮึดสู้ขึ้นมาทันที เพราะ ไอ้ที่เราว่าลำบาก ๆ ๆ นะ อาจจะไม่ได้เศษเสี้ยวของคนบางคนเลยก็ได้
อยากให้เพื่อน ๆ อ่านเวลาท้อ หรือหมดกำลังใจที่จะสู้ต่อ
เมื่อประมาณ 40 ปี ที่แล้ว ลุงเป็นพนักงานเก็บเงินของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ตอนนั้นเป็นพนักงานวางบิลเก็บเงิน เงินเดือน 4 พัน หน้าที่หลักคือไปวางบิล เก็บเงิน บริษัทอื่นที่เป็นลูกค้าบริษัทลุง ด้วยมอไซด์ของเราเอง
วันนั้นจำได้แม่น ลุงไปวางบิลบริษัทแถวพระประแดง เป็นไซโลใหญ่ ส่งข้าวโพดขาย โดยทางเรือ จะมีเรือมาจอดเทียบท่า แล้วมีคนงานคอยแบกกระสอบข้าวโพดขึ้นไปบนเรือ ที่มาซื้อ (คล้ายรูปในตัวอย่าง แต่ไม้กระดานจะสูงและชันกว่าในรูป)
ตอนนั้นติดเที่ยงพอดี ลุงก็เลยไปนั่งรอที่โรงอาหารของบริษัท เพื่อรอให้บริษัทเปิดรับการวางบิลตอนบ่ายโมง ว่าจะกินข้าวรอด้วย ขณะนั้นเองเหลือบไปเห็น คนงานแบกกระสอบขึ้นไปบนเรือแบบในรูป
คนงานจะเข้าแถว (เข้าใจว่าเป็นคนแถวนั้นมารับจ้างแบก) ซึ่งส่วนมากจะเป็นผู้ชายล่ำ ๆ ทั้งนั้น แต่ลุงสังเกตุเห็นมีผู้หญิงคนคนนึงน่าจะท้องด้วย และมีลูกเล็ก ๆ มาด้วย 1 คน ประมาณ 3-4 ขวบได้มั๊ง มาเข้าแถวรับกระสอบข้าวโพดเพื่อขนขึ้นไปบนเรือ
ลุงนั่งอยู่ไม่ไกล ได้ยินลูกของผู้หญิงคนนั้นร้องไห้ แล้วบอกว่า "แม่หนูหิวข้าว" แม่เขาก็ตอบว่า "รอก่อนให้แม่ได้ทำงาน แล้วเดี่ยวค่อยไปกินให้ได้ตังค์ก่อน" (จากลักษณะนางเองก็น่าจะท้องด้วย)
พอกระสอบเริ่มไหลลงมา คนงานต้องรีบเข้าไปรับ แล้วแบกขึ้นเรือ จะหยุดไม่ได้ เพราะเครื่องที่ส่งกระสอบลงมาถ้าหยุดหรือะงัก จะทำให้เสียจังหวะ ต้องหยุดเครื่องเพื่อเริ่มใหม่ เพราะฉะนั้นเมื่อรับกระสอบแล้ว ต้องรีบเดินขึ้นบนเรือทันที จะชะงักไม่ได้เลย ซึ่งเป็นธรรมเนียมของเขาอยู่แล้ว
ผู้ชายส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญหา พอรับกระสอบก็เดินขึ้นบนเรือทันที จนกระทั่งมาถึงคิวของผู้หญิงคนนี้ ด้วยความที่นางคงยังไม่ได้กินข้าว ประกอบกับท้องอ่อน ๆ ด้วย พอกระสอบลงมาจากเครื่องนางเข้าไปเอาหลังรับ ก็เซและจะล้ม คนที่คุมเครื่องอยู่ก็จะผลักนางออกไปทันที แล้วรีบให้คนต่อไปเข้ามารับกระสอบนางแทน (กระสอบหนักประมาณ 50 ก.ก.) ส่วนนางก็ล้มลง และลุกขึ้นไปต่อแถวใหม่
ลุงนั่งดูจนถึงอีกรอบของนาง นางเข้าไปรับก็เป็นเช่นเดิม เซจะล้มอีก เขาก็ผลักนางออกไปอีก ให้คนใหม่เข้ามารับแทนทันที
ลุงทนมองต่อไปไม่ไหว เดินเข้าไปหานางทันที แล้วถามว่าน้องเขาให้กระสอบละเท่าไหร่ต่อ 1 ครั้ง น้องบอกว่าเขาให้กระสอบละ 1 สลึง พอเอาขึ้นไปบนเรือได้ ก็จะได้รับติ้ว 1 อัน เมื่อเลิกแบกแล้วก็เอาติ้วไปขึ้นเงิน แต่วันนี้หนูยังไม่ได้กินข้าวเลย ลูกด้วยก็เลยไม่มีแรง
ได้ยินแบบนั้น พูดไรไม่ออกมันจุกอยู่ในอก ควักกระเป๋าตังค์ออกมา (ช่วงนั้นปลายเดือนด้วย) มีตังค์อยู่ 80 บาท น้ำมันรถก็ยังไม่เติม ตัดสินใจ ควักให้น้องไป 60 บาท เหลือไว้ 20 ไว้เติมน้ำมันกลับบริษัท ข้งข้าว ไม่กินมันแล้ว (กินไม่ลงอะ) นางยกมือไหว้ แทบลงไปกราบ ลุงต้องจับไหล่ไว้บอก "ไม่ต้องขอบคุณหรอก ไปรีบไปพาลูกและตัวเธอเองไปกินข้าวก่อน"
จากเรื่องนี้ เวลาลุงท้อ หรือ หมดกำลังใจ ลุงจะนึกถึงเรื่องนี้ตลอด ทำให้ฮึดสู้ขึ้นมาทันที เพราะ ไอ้ที่เราว่าลำบาก ๆ ๆ นะ อาจจะไม่ได้เศษเสี้ยวของคนบางคนเลยก็ได้