สวัสดีครับ เพื่อนๆ จากที่เราทราบกันดีว่า กทม. ได้ออกบังคับใช้ เรื่องการสวม Mask ออกเคหสถาน ไม่เว้นแม้แต่รถยนต์โดยสาร
ซึ่งก็มีเคส ขับคนเดียวโดนจับปรับ 500 บาท ก็เจอมาแล้ว
โดย ผู้ว่าราชการกทม. ให้เหตุผลว่า
“เจตนาในการประกาศคือ การป้องกันการติดต่อของโรคจากบุคคลไปสู่บุคคล ดังนั้น เมื่อมีบุคคลอื่นอยู่ในรถด้วย จึงต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ไม่ยกเว้นแม้เป็นครอบครัวเดียวกัน เพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรค และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ในกรณีที่นั่งคนเดียว จึงอนุโลมได้ว่า ไม่ต้องสวมหน้ากาก ทั้งนี้ ข้อปฏิบัติดังกล่าว รวมถึงการอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในอาคาร หรือสถานที่ต่างๆ ด้วยจะต้องสวมหน้ากากด้วย สำหรับในที่สาธารณะต้องสวมตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่คนเดียวหรือไม่ ก็ตาม เพราะบุคคลอื่นอาจมาใช้สถานที่นั้นต่อ ซึ่งอาจจะมีความเสี่ยงติดเชื้อได้”
โดยปกติแล้ว ช่วงนี้ถ้าไม่จำเป็นผมจะไม่ออกไปไหนเลย จนล่าสุด ต้องขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป ข้างนอก ซึ่งก็ไม่ได้ไกลมากเพื่อไปทำธุระ
- เจอทั้ง คนขับรถกระบะ เปิดกระจกสูบบุหรี่ พ่นควันออกมาจากรถ ไม่มีการสวม Mask
- เจอมอเตอร์ไซค์ ขี่ย้อนศร สวม Mask แต่ปลดลง และสูบบุหรี่ขณะกำลังขี่มอเตอร์ไซค์
- เจอคนเดินบนฟุตบาท ปลด Mask ลง และสูบบุหรี่ ขณะเดินสวนกับคนเดินทั่วๆไป
ซึ่งทั้ง เหตุการณ์นี้ ที่ผมทั้งขี่รถผ่าน และเดินผ่านบนฟุตบาท นั้นพ่นควันออกมาในที่สาธารณะ ซึ่งผมเองก็มีโอกาสที่จะสูดควันเหล่านั้นเข้าไปด้วย
ทำให้ผมเกิดความสงสัยขึ้น กับประโยค ที่ผู้ว่าฯ ได้บอกไว้ว่า
"
สำหรับในที่สาธารณะต้องสวมตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่คนเดียวหรือไม่ ก็ตาม เพราะบุคคลอื่นอาจมาใช้สถานที่นั้นต่อ ซึ่งอาจจะมีความเสี่ยงติดเชื้อได้”
ไม่เพียงเท่านั้น เว็บของรัฐบาลอย่าง
https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/30605 ก็ได้ระบุไว้ดังนี้
ซึ่งจะเห็นได้ว่า มีความเสี่ยงในการแพร่กระจายจากน้ำลาย มากกว่าการที่ไม่สวม Mask อีกด้วยซ้ำ ถ้าคนนั้นไม่ได้ไอ/จาม หรือ พ่นน้ำลายออกมาในที่สาธารณะ
แบบนี้ผมจึงสงสัยว่า ทางภาครัฐ หรือ ตำรวจจะมีมาตรการอย่างไรหรือไม่ หรือ ต้องให้ จนท.ตำรวจพบเจอแล้วจึงจับปรับเท่านั้น
คนใช้รถ หรือ เดินถนนทั่วไป ก็มีความเสี่ยงต้องสวม Mask ตลอดเวลาเพื่อดูแลตัวเอง ตามมาตรการกันไป
ขับรถไม่สวม Mask โดนปรับ แล้ว เดินไป/ขับไป/ขี่ไป สูบบุหรี่ไปด้วย? มีบทลงโทษ หรือไม่ เพราะเสี่ยงกว่าเต็มๆ
ซึ่งก็มีเคส ขับคนเดียวโดนจับปรับ 500 บาท ก็เจอมาแล้ว
โดย ผู้ว่าราชการกทม. ให้เหตุผลว่า “เจตนาในการประกาศคือ การป้องกันการติดต่อของโรคจากบุคคลไปสู่บุคคล ดังนั้น เมื่อมีบุคคลอื่นอยู่ในรถด้วย จึงต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ไม่ยกเว้นแม้เป็นครอบครัวเดียวกัน เพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรค และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ในกรณีที่นั่งคนเดียว จึงอนุโลมได้ว่า ไม่ต้องสวมหน้ากาก ทั้งนี้ ข้อปฏิบัติดังกล่าว รวมถึงการอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในอาคาร หรือสถานที่ต่างๆ ด้วยจะต้องสวมหน้ากากด้วย สำหรับในที่สาธารณะต้องสวมตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่คนเดียวหรือไม่ ก็ตาม เพราะบุคคลอื่นอาจมาใช้สถานที่นั้นต่อ ซึ่งอาจจะมีความเสี่ยงติดเชื้อได้”
โดยปกติแล้ว ช่วงนี้ถ้าไม่จำเป็นผมจะไม่ออกไปไหนเลย จนล่าสุด ต้องขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป ข้างนอก ซึ่งก็ไม่ได้ไกลมากเพื่อไปทำธุระ
- เจอทั้ง คนขับรถกระบะ เปิดกระจกสูบบุหรี่ พ่นควันออกมาจากรถ ไม่มีการสวม Mask
- เจอมอเตอร์ไซค์ ขี่ย้อนศร สวม Mask แต่ปลดลง และสูบบุหรี่ขณะกำลังขี่มอเตอร์ไซค์
- เจอคนเดินบนฟุตบาท ปลด Mask ลง และสูบบุหรี่ ขณะเดินสวนกับคนเดินทั่วๆไป
ซึ่งทั้ง เหตุการณ์นี้ ที่ผมทั้งขี่รถผ่าน และเดินผ่านบนฟุตบาท นั้นพ่นควันออกมาในที่สาธารณะ ซึ่งผมเองก็มีโอกาสที่จะสูดควันเหล่านั้นเข้าไปด้วย
ทำให้ผมเกิดความสงสัยขึ้น กับประโยค ที่ผู้ว่าฯ ได้บอกไว้ว่า
"สำหรับในที่สาธารณะต้องสวมตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่คนเดียวหรือไม่ ก็ตาม เพราะบุคคลอื่นอาจมาใช้สถานที่นั้นต่อ ซึ่งอาจจะมีความเสี่ยงติดเชื้อได้”
ไม่เพียงเท่านั้น เว็บของรัฐบาลอย่าง https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/30605 ก็ได้ระบุไว้ดังนี้
ซึ่งจะเห็นได้ว่า มีความเสี่ยงในการแพร่กระจายจากน้ำลาย มากกว่าการที่ไม่สวม Mask อีกด้วยซ้ำ ถ้าคนนั้นไม่ได้ไอ/จาม หรือ พ่นน้ำลายออกมาในที่สาธารณะ
แบบนี้ผมจึงสงสัยว่า ทางภาครัฐ หรือ ตำรวจจะมีมาตรการอย่างไรหรือไม่ หรือ ต้องให้ จนท.ตำรวจพบเจอแล้วจึงจับปรับเท่านั้น
คนใช้รถ หรือ เดินถนนทั่วไป ก็มีความเสี่ยงต้องสวม Mask ตลอดเวลาเพื่อดูแลตัวเอง ตามมาตรการกันไป