ข้อมูลจากhttps://xn--42cah7d0cxcvbbb9x.com/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B5-55-56-57-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0-58/
 
ในปี  ๒๕๖๐ ช่วงต้นปีนั้น ยังพอเห็นเตะที่ สองหมื่นนิด ๆ แต่ก็ไม่ไปไหนไกล ลงมาที่ หมื่นเก้าเป็นบางเดือน
แต่ในปี ๒๕๖๑ ทองขยับลงไปเล็กน้อย เฉลี่ยหมื่นเก้านิด ๆ ก่อนจะย่อไปอีกที่ หมื่นแปด 
เรียกได้ว่า นิ่ง เลยก็ว่าได้ ผมเองยังคงออม เดือนล่ะ หนึ่งพันบาทไปเรื่อย ๆ ไม่สนใจราคาใด ๆ 
จบปี ๒๕๖๑ ก็ลองมาดูแนวโน้มราคาทองกับเงินที่ออมไป จากปี ๕๕ ถึง ๖๑ เงินออมมา ครบ หนึ่งแสนแล้ว
ก็ต้องคิดต่อว่าจะยังไง เงินแสนหนึ่งในเศรษฐกิจที่เขาว่ากำลังจะเผาจริง ถ้ายังเก็บแบบนี้เงินจมแน่ ๆ เมื่อดูปริมาณทองที่สะสมได้ 5 บาท พอดี จะขาย ณ ตอนนั้น ก็เสียหายไม่คุ้มทุน ตัดสินใจว่า จะหยุดออม เดือนเว้นเดือน และตั้งเป้าว่า ราคาทองสองหมื่นจะเริ่มทยอยขาย ผมก็ติดตามข่าวทองเรื่อยๆ 

จนกลางปี 2562 อย่างที่ทราบ เกิดสงครามการค้า สหรัฐ จีน ดูเหมือนนักลงทุนจะกลัวทรัมป์ หันมาเก็งทองคำ ราคาดีดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน เดือนมิถุนายน ราคาขยับขึ้นจนเตะ สองหมื่น  และราคาสูงสุด อยู่ที่ 22300 สองหมื่นสองพัน สามร้อย บาท 
ผมนั้นดีใจมากเลย  เมื่อตั้งใจไว้ว่า สองหมื่นจะขายทอง ก็ขายไปก่อน สามบาท ที่ 20100 สองหมื่นหนึ่งร้อย จะมีใครบอกว่าขายหมูหรือเปล่า แต่นาทีนั้น ขอเอาเงินสดก่อนดีกว่า เมื่อคำนวนแล้วว่าจะขายส่วนที่เหลือ เอาได้ทุนคืนไว้ก่อน ผมก็รอจนผ่านจุดสูงสุด ก็ยังไม่ได้ขาย 555 ความโลภมันปรานีใคร ผมก็รอว่าจะไป 23000 แต่มันไปไม่ถึง ลงซะก่อน ข่าวศก. ทุกวันนี้เป็นการเล่นข่าวเพื่อเก็งกำไรทั้งนั้น ไม่ได้มาจากภาวะที่เกิดขึ้นจริง ๆ มีข่าวเจรจา ก็เล่นแล้ว พอข้อตกลงไม่เกิด ก็เล่นไปอีก  ข่าวประท้วงฮ่องกง หรือระเบิดโรงกลั่นน้ำมัน ดูจะมีผลกระทบน้อยกว่า การเล่นข่าวลวงทั้งหลาย ที่สร้างความปั่นป่วนให้ทั้งตลาดหุ้น ทั่วโลก จนผมกลัวเลยล่ะ
ตอนนั้น มีความคิดปิดพอร์ตทั้งหมด อย่างดี ก็ซื้อกองทุน  กลับมาต่อที่ทอง ราคาหลังจากจุดสูงสุด แล้วก็เป็นช่วงที่มีการแกว่งตัวมากที่เดียว แต่แกว่งลงซะส่วนใหญ่ ตอนขึ้นวันล่ะ 100 ลงวันละ 200

สิ้นปี 2562 ผมก็ยังคงออมทองต่อ หวังว่าบริษัทจะยังไม่ไปไหน เพราะผ่านมาประสบการณ์หลายปีมานี้
วัฎจักรโลกเปลี่ยนไปน่ากลัวจริง ๆ บริษัทใหญ่ๆ หลายแห่ง กำไรลดลง และมีแนวโน้มก็ต้องเปลี่ยนแปลงแนวทางขนานใหญ่ ในโลกตลาดทุน ไม่มีอะไรแน่นอน VI อะไรนั้น ผมไม่เชื่อว่าใครก็เป็นได้ เหมือนอายุน้อยร้อยล้านนั้นล่ะ ทุกวันนี้คุณคาดสายตาไปเพียงนิด  กำไรที่เคยมี อาจติดลบแบบไม่มีวันกลับมาเขียวได้อีก 
ส่วนทองนั้น ยังมีคนมองว่าเป็นสินทรัพย์ ซึ่งผมเองก็เช่นกัน และหวังว่าจะยังเป็นเช่นนั้นต่อไปในอนาคต
ถ้าคำนวนเป็นต้นทุน กำไร ขาดทุน ก็คงรู้สึกว่า ไม่คุ้ม แต่ถ้ามองว่า ซื้อทองมา แต่ซื้อแพงไปหน่อย อาจให้ความรู้สึกดีกว่า ได้จับต้อง ได้มองรูปพรรณสันฐาน 

ผมเริ่มกลับมาเขียนเดือนกุมภาพันธ์ 2563 หลังจากขายทอง lot สุดท้าย ที่ราคาสูงสุด 23200 บาท อย่าถามเรื่องกำไร แค่เอาทุนคืน ราคาทองกลับมาดีด อีกครั้งตอนรับปีใหม่จีน ด้วยโรคโคโรน่า (โควิทด 19) ที่ระบาดอย่างรวดเร็ว ทำให้ราคาทองขึ้นทันที ประกอบกับค่าเงินบาทอ่อน เป็นจังหวะที่ดีมากๆ สำหรับคนที่ต้องการขายทองคำในช่วงนั้น เพราะจริง ๆ ช่วงตรุษจีนน่าจะเป็นช่วงที่มีกำลังซื้อเข้ามา  การระบาดที่ว่านี้ ไม่มีใครคาดการณ์และดูจะมีผลกระทบยาวไปจนสิ้นปี คาดว่าจีนน่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา แต่ตอนนี้คงต้องรอก่อน (เพิ่มเติม ยาวข้ามปีมาแล้วก็ยังคาดการณ์อะไรไม่ได้มาก)

หลังจากที่ขายทองหมดแล้ว  ผมก็ยังติดตามราคาต่อไป  ไม่ได้เสียใจที่มันขึ้นไปทำนิวไฮ รอบใหม่แต่อย่างใด  เพราะในเวลานั้น  ผมต้องการเงินสดในมือ สถานการณ์การระบาดที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มองเห็นอนาคตพอสมควร  ขอเลือกเงินสดดีกว่า ราคาทองเองก็ขึ้นลงทุกวัน วันละหลายรอบ  เราไม่รู้ว่าราคาจะขึ้นวันไหน ลงวันไหน จะลงกี่วัน จะขึ้นชนแนวต้านไหม  แกว่งไปแกว่งมา  แค่โรคระบาดก็นอนไม่ค่อยหลับแล้ว อย่าต้องกังวลอะไรเพิ่มเลย  ขาย ๆจบ ๆ สบายใจมีตังค์ในกระเป๋า


ข้อมูลจาก http://www.ausiris.co.th บริษัทที่ ผมออมทอง
 
สุดท้าย ฝากเตือนเพื่อนสมาชิกที่สนใจออมทอง ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ออมทองมีหลากหลายบริษัท มีหลายรูปแบบมาก อย่างไรเสียนักลงทุนที่อยากออมทอง ต้องศึกษาให้ดี ๆ ย้ำว่า ดูให้ดี ๆ บริษัทที่เราจะออมด้วย  ราคาซื้อขาย  บริการรับแลกทอง เพราะหลอกลวงมีเยอะมาก หลอกกันง่าย ๆ บางแห่งมาจากต่างประเทศ ถึงจะมีตัวตนแต่อย่าลืม ออมทองกว่าจะมีครบที่แลกเป็นทองได้จริง ๆ ส่วนมากใช้เวลาหลายปี  ต้องพิจารณาหลักความเป็นจริง ระหว่างนั้น บริษัทปิดหรือย้ายไปไหน เดือนร้อนเราอีก  มีวิธีรับทองต้องมี ที่เก็บทองต้องมี อยู่ในเมืองไทยก็ยิ่งดี

ขอขอบคุณทุกท่าน ที่เข้ามาอ่านจนจบ  ครับ

สวัสดีครับ