หลังจากเราดูรีวิวของคนอื่นๆ มาบ้างแล้ว....
ที่สุดเราก็เลยตัดสินใจยอมทุบกระปุกซื้อหน้ากาก
LG PuriCare Wearable AirPurifier
ราคา 5,490 บาท ซื้อไปได้ไงฟระเนี่ยะ กรี๊ดดดดดดดดดด
ของที่เราได้มาในกล่อง มี
- หน้ากาก 1 ชิ้น
- ซิลิโคนกันกระแทกซีลหน้า 1 ชิ้น
- ไส้กรองตรงพัดลม 2 ชิ้น (พนง.บอกว่าต้องเปลี่ยนไส้เดือนละครั้ง ขายแยกแพ็กละ 300 มี 2 ชิ้น)
- ไส้กรองแบบหน้ากากอนามัยใส่ด้านในอีกถุงนึง ยังไม่ได้นับว่ามีกี่ชิ้นแต่ต้องเปลี่ยนวันละครั้ง
- สายชาร์จ 1 เส้น ไม่มี Adaptor มานะคะ
- ถุงผ้า 1 ถุง ไว้สำหรับพกพา
- คู่มือ
- ใบรับประกันสินค้า
วิธีใช้
- ชาร์จแบตให้เต็ม ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. หรือจนไฟขึ้นสีเขียว
- ประกอบหน้ากากโดยการเอาไส้กรองติดใบพัดใส่เข้าไปตรงช่องใบพัดก่อน โดยใส่ตามลูกศร
- ประกอบซิลิโคนแปะด้านในหน้ากาก โดยเอาด้านที่มีแม่เหล็กแปะข้างบน เอาตัวเกี่ยวด้านล่าง 2 อันติดเข้าไปในช่องด้านล่าง
- ใส่แผ่นกรองแบบหน้ากากอนามัยลงไปข้างในตรงซิลิโคน ให้แผ่นกรองแนบไปกับหน้ากาก
- เปิดการใช้งานโดยกดปุ่ม ปรับใบพัดได้ 3 ระดับ เวลาปิดต้องกดถึงใบพัดระดับ 3 ก่อน แล้วกดอีกทีถึงจะปิดเครื่องได้
วิธีการดูแลรักษา
- ถอดเครื่องกับซิลิโคนแยกออกจากกันแล้วเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่หรือสำลีชุบแอลกอฮอล์ได้ จากนั้นเช็ดให้แห้ง
- เปลี่ยนไส้กรองตามคำแนะนำ คือ ไส้ในเปลี่ยนทุกวัน ไส้กรองตรงใบพัดเปลี่ยนเดือนละครั้ง
(พนง. แจ้งว่าซื้อได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่าย ของเราซื้อที่ร้าน Modern Air ค่ะ)
ความรู้สึกหลังใช้ไป 3 วัน
รู้สึกโอเคนะ หายใจได้ มีลมพัดเข้ามาจริง แต่ว่าอาจจะมีข้อเสียตรงที่ต้องชาร์จแบต
ถ้าแบตหมดก็จะไม่มีใบพัดคอยดูดลมเข้ามาแล้วพัดเอาลมเสียออกไป ใส่แล้วจะหายใจไม่สะดวก
ถ้าใส่ตอนอากาศร้อน จะหายใจลำบากกว่าในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น
เหงื่อจะออกชุ่มตรงซิลิโคนเลย อันนี้คือ ถ้าเดินในที่ร้อนๆ ก็แฉะไปนิดนึง
เรื่องกันกลิ่นมั้ย อันนี้ช่วยได้นิดนึง ไม่ได้ใส่แล้วไม่ได้กลิ่นอะไรเลย คือยังได้กลิ่นอาหาร กลิ่นควันรถอยู่บ้าง
หายใจแล้วอากาศดันขึ้นมาตรงจมูกกับตาจนแว่นเป็นฝ้ามั้ย ไม่เลย อันนี้คือข้อดี
เพราะเขาออกแบบมาให้ดันอากาศที่เราหายใจออกลงไปที่รูด้านล่าง ด้านบนจะไม่มีอากาศดันขึ้นมา
การเปลี่ยนระดับพัดลมเราว่าก็มีความแตกต่างนะ ระดับสูงสุดหายใจง่ายสุด แต่เปลืองแบตสุด
ดังนั้นคงใช้เท่าที่จำเป็น คือ เราว่าเหมาะกับการใช้งานติดต่อกันไม่เกิน 4 ชม.
และน่าจะเลือกใช้เวลาเดินทางไปในสถานที่ที่อากาศไม่ถ่ายเท เช่น บนรถสาธารณะ เครื่องบิน อะไรแบบนี้
ถามว่าคุ้มมั้ย เราว่าอยู่ที่แต่ละคน เพราะแต่ละคนมีไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกัน
ถ้าคนที่จำเป็นต้องอยู่ในที่อากาศไม่ถ่ายเท และไม่สามารถใส่ N95 ได้ตลอดเวลา เราว่าตัวนี้คือโอ
แต่ถ้าเราไม่ได้ต้องออกไปเสี่ยงมาก เราว่าหน้ากากอนามัยปกติก็น่าจะป้องกันได้ดี อาจจะไม่จำเป็นต้องซื้อตัวนี้ก็ได้
ส่วนสายแฟ คิดว่ามันเกร๋ มันล้ำ มันฮา เหมือนอยู่ในสตาร์วอร์ส อันนี้แนะนำให้รีบซื้อก่อนหาไม่ทันนะจ๊ะ อิอิ
และขอให้ทุกๆ คนสุขภาพดี ปลอดภัย ไร้โรคนะคะ เย้ๆๆๆ
ป.ล. ไม่ได้รีวิวมานานมากแล้ว วันนี้กลับมารีวิวหน่อยเพราะเพื่อนถามเยอะมากกกกก
ใครดูแล้วมีอะไรแนะนำก็เม้นมาได้นะคะ
[CR] แกะกล่องลองใช้หน้ากาก LG PuriCare Wearable AirPurifier
ที่สุดเราก็เลยตัดสินใจยอมทุบกระปุกซื้อหน้ากาก LG PuriCare Wearable AirPurifier
ราคา 5,490 บาท ซื้อไปได้ไงฟระเนี่ยะ กรี๊ดดดดดดดดดด
ของที่เราได้มาในกล่อง มี
- หน้ากาก 1 ชิ้น
- ซิลิโคนกันกระแทกซีลหน้า 1 ชิ้น
- ไส้กรองตรงพัดลม 2 ชิ้น (พนง.บอกว่าต้องเปลี่ยนไส้เดือนละครั้ง ขายแยกแพ็กละ 300 มี 2 ชิ้น)
- ไส้กรองแบบหน้ากากอนามัยใส่ด้านในอีกถุงนึง ยังไม่ได้นับว่ามีกี่ชิ้นแต่ต้องเปลี่ยนวันละครั้ง
- สายชาร์จ 1 เส้น ไม่มี Adaptor มานะคะ
- ถุงผ้า 1 ถุง ไว้สำหรับพกพา
- คู่มือ
- ใบรับประกันสินค้า
วิธีใช้
- ชาร์จแบตให้เต็ม ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. หรือจนไฟขึ้นสีเขียว
- ประกอบหน้ากากโดยการเอาไส้กรองติดใบพัดใส่เข้าไปตรงช่องใบพัดก่อน โดยใส่ตามลูกศร
- ประกอบซิลิโคนแปะด้านในหน้ากาก โดยเอาด้านที่มีแม่เหล็กแปะข้างบน เอาตัวเกี่ยวด้านล่าง 2 อันติดเข้าไปในช่องด้านล่าง
- ใส่แผ่นกรองแบบหน้ากากอนามัยลงไปข้างในตรงซิลิโคน ให้แผ่นกรองแนบไปกับหน้ากาก
- เปิดการใช้งานโดยกดปุ่ม ปรับใบพัดได้ 3 ระดับ เวลาปิดต้องกดถึงใบพัดระดับ 3 ก่อน แล้วกดอีกทีถึงจะปิดเครื่องได้
วิธีการดูแลรักษา
- ถอดเครื่องกับซิลิโคนแยกออกจากกันแล้วเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่หรือสำลีชุบแอลกอฮอล์ได้ จากนั้นเช็ดให้แห้ง
- เปลี่ยนไส้กรองตามคำแนะนำ คือ ไส้ในเปลี่ยนทุกวัน ไส้กรองตรงใบพัดเปลี่ยนเดือนละครั้ง
(พนง. แจ้งว่าซื้อได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่าย ของเราซื้อที่ร้าน Modern Air ค่ะ)
ความรู้สึกหลังใช้ไป 3 วัน
รู้สึกโอเคนะ หายใจได้ มีลมพัดเข้ามาจริง แต่ว่าอาจจะมีข้อเสียตรงที่ต้องชาร์จแบต
ถ้าแบตหมดก็จะไม่มีใบพัดคอยดูดลมเข้ามาแล้วพัดเอาลมเสียออกไป ใส่แล้วจะหายใจไม่สะดวก
ถ้าใส่ตอนอากาศร้อน จะหายใจลำบากกว่าในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น
เหงื่อจะออกชุ่มตรงซิลิโคนเลย อันนี้คือ ถ้าเดินในที่ร้อนๆ ก็แฉะไปนิดนึง
เรื่องกันกลิ่นมั้ย อันนี้ช่วยได้นิดนึง ไม่ได้ใส่แล้วไม่ได้กลิ่นอะไรเลย คือยังได้กลิ่นอาหาร กลิ่นควันรถอยู่บ้าง
หายใจแล้วอากาศดันขึ้นมาตรงจมูกกับตาจนแว่นเป็นฝ้ามั้ย ไม่เลย อันนี้คือข้อดี
เพราะเขาออกแบบมาให้ดันอากาศที่เราหายใจออกลงไปที่รูด้านล่าง ด้านบนจะไม่มีอากาศดันขึ้นมา
การเปลี่ยนระดับพัดลมเราว่าก็มีความแตกต่างนะ ระดับสูงสุดหายใจง่ายสุด แต่เปลืองแบตสุด
ดังนั้นคงใช้เท่าที่จำเป็น คือ เราว่าเหมาะกับการใช้งานติดต่อกันไม่เกิน 4 ชม.
และน่าจะเลือกใช้เวลาเดินทางไปในสถานที่ที่อากาศไม่ถ่ายเท เช่น บนรถสาธารณะ เครื่องบิน อะไรแบบนี้
ถามว่าคุ้มมั้ย เราว่าอยู่ที่แต่ละคน เพราะแต่ละคนมีไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกัน
ถ้าคนที่จำเป็นต้องอยู่ในที่อากาศไม่ถ่ายเท และไม่สามารถใส่ N95 ได้ตลอดเวลา เราว่าตัวนี้คือโอ
แต่ถ้าเราไม่ได้ต้องออกไปเสี่ยงมาก เราว่าหน้ากากอนามัยปกติก็น่าจะป้องกันได้ดี อาจจะไม่จำเป็นต้องซื้อตัวนี้ก็ได้
ส่วนสายแฟ คิดว่ามันเกร๋ มันล้ำ มันฮา เหมือนอยู่ในสตาร์วอร์ส อันนี้แนะนำให้รีบซื้อก่อนหาไม่ทันนะจ๊ะ อิอิ
และขอให้ทุกๆ คนสุขภาพดี ปลอดภัย ไร้โรคนะคะ เย้ๆๆๆ
ป.ล. ไม่ได้รีวิวมานานมากแล้ว วันนี้กลับมารีวิวหน่อยเพราะเพื่อนถามเยอะมากกกกก
ใครดูแล้วมีอะไรแนะนำก็เม้นมาได้นะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้